เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 – เล่มที่ 4 ตอนที่ 101 เสื้อกันลมและเสื้อขนเป็ด

เล่มที่ 4 ตอนที่ 101 เสื้อกันลมและเสื้อขนเป็ด

        เถ้าแก่ตะลึงกว่าเซี่ยเสี่ยวหลานเสียอีก

         เธอรู้จักแม้กระทั่งเสื้อกันลม [1] ? 

        ใครในอนาคตไม่รู้จักเสื้อกันลมบ้าง แต่มันเป็นที่นิยมจริงๆ ในปลายยุค 80 ผ้าไนล่อนหนาเป็นชั้นนอกของตัวเสื้อ สามารถป้องกันการผ่านของหยดน้ำและลม กันหนาวก่อนค่อยกักเก็บความอบอุ่น

ประกอบด้วยวัสดุฟิล์มบางกันความร้อนไหลออกและโพลีเอสเตอร์ที่กักเก็บความอบอุ่นไว้…

มันไม่เหมือนกับเสื้อกันหนาวธรรมดาเลย

        พกพาสะดวกแถมอบอุ่น เนื้อผ้าไนล่อนยังย้อมสีสันสดใสต่างๆ นานาได้อีกด้วย

        เซี่ยเสี่ยวหลานลูบไล้เสื้อกันลมที่น้ำหนักเบาและฟูนุ่ม เธอลังเลเล็กน้อย

        หลิวเฟินแอบบีบสักหน่อย รู้สึกว่าสิ่งที่บรรจุด้านในไม่ค่อยเหมือนฝ้าย

วัสดุด้านนอกลื่นมัน และไม่ใช่ผ้าฝ้าย นี่คือเสื้ออ่าวอะไรกันนะ

คนเขาจะหลอกเสี่ยวหลานหรือไม่?

         เสี่ยวหลาน— 

        หลิวเฟินเรียกเสียงดัง เธอเป็นคนใจไม่กล้า

แต่ความกังวลว่าเซี่ยเสี่ยวหลานจะโดนหลอกเอาชนะความขลาดกลัว นี่คือความแข็งแกร่งของมารดาเพื่อลูกรัก

         แม่ ขอฉันดูอีกหน่อย 

        เสื้อกันลมก็มีแล้ว เสื้อนวมจะถือกำเนิดขึ้นแล้วเช่นกันหรือเปล่า?

         เสื้อนวมล่ะ คุณหาได้หรือไม่? 

        เถ้าแก่นึกสักครู่  เธอหมายถึงเสื้อขนเป็ด [2] สินะ ถ้าเธอต้องการก็มี 

        เสื้อขนเป็ดเพิ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย

แต่ไหนแต่ไรก็มีเสื้อชนิดนี้อยู่แล้ว ทว่าใช้สวมใส่สำหรับนักกีฬาปีนเขา

ส่วนใหญ่มันมีชื่อเรียกว่า ‘เสื้อปีนเขา’ คนทั่วไปทั้งสู้ราคาไม่ไหว และไม่รู้ว่าที่ไหนมีขาย

พอสองปีมานี้สภาพคล่องทางการเงินดีขึ้นเล็กน้อย มีคนธรรมดาสามารถรับราคาได้

จึงย่อมมีโรงงานเสื้อผ้าผลิตออกมา—แม้จะถูกเรียกว่าเสื้อขนเป็ด

ทว่าเนื่องจากเทคโนโลยีที่ยังไม่สมบูรณ์ จึงไม่สามารถนำขนอ่อนนุ่มของเป็ด [3] ออกมาใช้เป็นวัสดุเติมเต็มเดี่ยวๆ ได้ ด้านในเสื้อจึงบรรจุด้วยขนส่วนอื่นแทน

        เถ้าแก่คนนี้ไม่กลัวเซี่ยเสี่ยวหลานจะคิดว่าแพงเกินไปด้วยซ้ำ

เสื้อขนเป็ดเป็นของแปลกใหม่ แต่ราคาค้าส่งของมันยังไม่เท่าเสื้อนอกขนสัตว์เลย!

        ขนาดเสื้อนอกขนสัตว์เซี่ยเสี่ยวหลานยังขายได้ หนึ่งครั้งยังกล้านำเข้ามากกว่า 10 ตัว

        เสื้อนอกขนสัตว์ถึงจะมีราคาแพงมาก แต่สินค้าที่เซี่ยเสี่ยวหลานเลือกนั้น

คุณภาพเหมือนในร้านสรรพสินค้า ทว่าขายราคาย่อมเยากว่าร้านค้าเล็กน้อย

นอกจากนั้นเธอเลือกสรรเสื้อผ้าที่แปลกใหม่

แม้แต่ร้านตัดเสื้อซางตูยังลักลอบลอกเลียนแบบ

        เถ้าแก่เฝ้าแผงปลีกตัวออกไปไม่ได้ จึงไหว้วานมิตรสหายให้ช่วยเหลือ

ผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมงก็นำสินค้าตัวอย่างของเสื้อขนเป็ดมาให้เซี่ยเสี่ยวหลานได้ยล

        สิ่งนี้ให้สัมผัสแตกต่างจากเสื้อกันลม

เซี่ยเสี่ยวหลานลูบเจอเส้นขนแต่ละเส้น เมื่อแตะใต้จมูกจะได้กลิ่นขนเป็ดอ่อนๆ

เป็นเสื้อนวมขนเป็ดของปี 83 อย่างไม่ต้องสงสัย

        พอถามราคาค้าส่ง ราคาส่งของเสื้อกันลมผู้ชายคือ 22 หยวน ผู้หญิง 20 หยวน

สีสันและรูปแบบไม่จำกัด

        เสื้อขนเป็ดราคาแพงกว่า 6 หยวน ผู้ชาย 28 หยวน ผู้หญิง 26 หยวน

        ราคาส่งของเสื้อขนเป็ดหนึ่งตัวเป็นเพียงครึ่งเดียวของเสื้อนอกขนสัตว์เท่านั้น…

เซี่ยเสี่ยวหลานมีความต้องการที่พลุ่งพล่านที่จะนำเงินทั้งหมดลงทุนกับเสื้อกันลมและเสื้อขนเป็ด

ไม่ได้สิ เสื้อผ้าพวกนี้มีแต่แบบตัวสั้น ยังราคาย่อมเยาไม่สู้เสื้อกันหนาวฝ้ายหรือเสื้อนอกทหาร [4]

        นำกลับซางตูจะมีคนซื้อจริงหรือ?

        เปรียบเทียบกับเสื้อขนเป็ดที่มีคุณสมบัติกักเก็บความอบอุ่นยอดเยี่ยมแล้ว

บางทีเหล่าสตรีซางตูอาจพอใจจะสวมเสื้อนอกขนสัตว์มากกว่า แพงทว่าสง่างาม

แพงเสียจนใครๆ ล้วนรู้ดี ทว่าสวมใส่บนร่างกายก็ไม่อ้วนท้วนเทอะทะเท่าเสื้อกันลมและเสื้อขนเป็ดด้วย

        หญิงสาววัยรุ่นสวมเสื้อตัวบางทับในหนึ่งชั้น

ด้านนอกสวมเสื้อนวมความยาวคลุมเข่าไปจนถึงข้อเท้า การแต่งกายเช่นนี้ยังไม่เป็นที่นิยม

        เซี่ยเสี่ยวหลานเงยหน้าขึ้นทันที  โรงงานเสื้อผ้าที่คุณไปรับสินค้าเคยผลิตเสื้อขนเป็ดและเสื้อกันหนาวแบบเลยเข่าไหม? 

        เถ้าแก่มองเธออย่างระแวง

นี่จะข้ามผ่านตัวเขาไปรับสินค้าจากโรงงานโดยตรงหรือ?

        ครุ่นคิดดูอีกทีความระแวงนั้นก็สลายไป หากไร้ซึ่งคำสั่งซื้อจำนวนหลายร้อยตัว

เครื่องจักรของโรงงานก็ไม่มีทางเดินให้!

         เธอซื้อปลีก จะรับสินค้าได้เท่าไรเชียว เลือกได้เพียงแบบพวกนี้แหละ 

        ขอซื้อสินค้าเพียงไม่กี่สิบชิ้น เป็นไปไม่ได้เลยที่จะกำหนดแบบเอง โรงงานเสื้อผ้าต้องร่างแบบ

ต้องสร้างแบบ ต้องนำเข้าผ้า… ใช้เวลามากมายกับกระบวนการเหล่านี้

อย่าว่าแต่หลายสิบตัว เสื้อผ้าหนึ่งแบบที่จำนวนผลิตต่ำกว่า 1000 ตัว ในโรงงานไม่แม้แต่จะชายตาแลคำสั่งซื้อประเภทนี้ด้วยซ้ำ

        ช่างเถอะ เงินทุนส่วนนี้ของเธออย่างไรก็สู้ไม่ไหว

        แม้เซี่ยเสี่ยวหลานมีความมั่นใจในวิธีจ่ายมัดจำก่อนค่อยชำระเงินส่วนเกินทีหลัง

แต่ต่อให้ก้าวข้ามผู้ค้าส่งคนกลางและรับสินค้าด้วยราคาโรงงานโดยตรง 500 ชิ้นราคาถึงหลักหนึ่งหมื่นหยวน หากต้องการ 1000 ชิ้นก็ต้องจ่ายสองหมื่นหยวนอยู่ดี

        ขูดรีดทรัพย์สินของเธอและครอบครัวหลิวหย่งจนสะอาดเอี่ยมอ่อง คาดว่ายังรวมกันได้ไม่ถึงหนึ่งหมื่นหยวน

        การลงทุนธุรกิจครั้งนี้ของลุงเธอเกือบขาดทุน… อย่ารีบร้อนไป

เซี่ยเสี่ยวหลานเตือนสติตนเองให้ใจเย็นลง การรีบร้อนย่อมผิดพลาดได้ง่ายดาย

โอกาสหาเงินมีอยู่มากมาย วางทรัพย์สินของตนไปโดยไม่ดูตาม้าตาเรือนั้นไม่ควรค่าโดยสิ้นเชิง

        เธอต้องการพัฒนาในระยะยาว ไม่ใช่การเล่นซัวฮา [5] เสียหน่อย!

         เสื้อกันลมกับเสื้อขนเป็ดยังรับหรือไม่? 

         เอาค่ะ เสื้อกันลม 20 ตัว เสื้อขนเป็ด 20 ตัว… 

        คราวนี้เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ซื้อแค่เสื้อสตรี แต่ยังซื้อของบุรุษด้วย

เจ้าของแผงลอยขายสินค้าได้เป็นพันหยวนในชั่วพริบตาอีกแล้ว เขาอารมณ์ชื่นมื่น

จึงหยิบสินค้าลับออกมาจากถุงใส่เสื้อขนเป็ด  ยังมีเสื้อกั๊กขนแกะด้วย

เธอเอาสักหน่อยไหม? 

        เถ้าแก่คนนี้ค้าส่งราวกับเล่นเซี่ยงเซิง [6] มุกตลกเด็ดยังต้องเล่นค่อยๆ ปล่อยทีละหมัด

        เซี่ยเสี่ยวหลานคร้านจะถามราคาส่งด้วยซ้ำ  เอา 5 ตัว! 

        ขายไม่ได้ก็เก็บไว้ใส่เอง ในบ้านมิใช่มีผู้ใหญ่ห้าคนพอดีหรือ… เอ๋

เหมือนมีตรงไหนไม่ถูกต้อง

        ห้าคนนั้นต้องรวมโจวเฉิงด้วย

        เซี่ยเสี่ยวหลานซื้อสินค้าจากแผงเดิมสามหนแล้ว

เธอได้สอบถามที่อยู่บ้านเถ้าแก่และหมายเลขโทรศัพท์ เถ้าแก่ชื่อว่าเฉินซีเหลียง

คับคล้ายคับคลาว่าเคยได้ยินชื่อนี้จากที่ไหน

        เซี่ยเสี่ยวหลานไม่คิดมากนัก เฉินซีเหลียงค้าส่งเสื้อผ้าคงทำเงินได้ดีทีเดียว

บ้านจึงมีโทรศัพท์ตั้งโต๊ะ

เซี่ยเสี่ยวหลานไตร่ตรองว่าบางครั้งแค่ต้องการเติมสินค้า เธอไม่จำเป็นต้องเดินทางมาถึงหยางเฉิงโดยเฉพาะ

ปี 83 ยังไม่มีบริการส่งพัสดุด่วน แต่สามารถฝากส่งด้วยรถไฟได้

        ครั้งนี้เซี่ยเสี่ยวหลานซื้อสินค้าเกือบ 4000 หยวน ต้นทุนหลงเหลือประมาณหนึ่งพันหยวน

เงินส่วนนี้ไม่รู้ว่าจะซื้อหน้าร้านและตกแต่งอย่างราบรื่นได้หรือไม่ หวังว่าหลังจากนำเสื้อผ้ารอบนี้กลับไปแล้วจะสามารถขายได้รวดเร็วสักหน่อย

ถอนทุนคืนให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้

        เธอและหลิวเฟินกลับซางตูด้วยความเหนื่อยยาก

หลิวหย่งจัดการธุระโดยไม่ทำให้เซี่ยเสี่ยวหลานผิดหวัง

        หลิวหย่งเตร็ดเตร่ในซางตูอยู่สองวัน เบื้องต้นเลือกหน้าร้านไว้สองแห่ง

        หลิวเฟินกับหลี่เฟิ่งเหมยจัดระเบียบรีดเรียบสินค้าครั้งนี้แข่งกับเวลา

หลี่เฟิ่งเหมยก็ไม่เคยเห็น ‘เสื้อกันหนาว’ แบบใหม่เช่นนี้ ทว่าเธอเชื่อมั่นในเซี่ยเสี่ยวหลานไม่น้อย  เสี่ยวหลานบอกขายได้ เธอน่ะกังวลมากไป ใช่แล้ว

เนื้อหมูและซี่โครงที่ฉันเอามาจากหมู่บ้านใช้เกลือหมักไว้ ยังมีเท้าหมูอีกสองชิ้น

ของแบบนั้นไม่รู้ว่ามีอะไรอร่อย ทว่าเสี่ยวหลานเขาชอบ เก็บให้เธอทั้งหมดเลยนะ! 

        การทำเท้าหมูค่อนข้างยุ่งยาก ต้องใช้ไฟเผาหนังชั้นนอกและขนจนสะอาด

แช่ในน้ำ จากนั้นใช้มีดเล่มเล็กฝานหนังไหม้ดำออกทีละนิดจนเกลี้ยง

หั่นเป็นชิ้นโตตุ๋นกับถั่วที่แช่แล้วด้วยไฟอ่อนสักพัก…

ได้รับประทานหนึ่งชามในฤดูหนาวก็เบิกบานไปทั้งกายและใจ

        ฝีมือการทำอาหารของเซี่ยเสี่ยวหลานธรรมดา

แต่อาหารชนิดนี้เธอกลับเชี่ยวชาญพอสมควร ชาติก่อนหลังจากทำงานสถานะทางการเงินดีขึ้นบ้างจึงอาศัยอยู่ห้องพักเดี่ยว

มีเตาเล็กใช้ต้มน้ำร้อนได้

เซี่ยเสี่ยวหลานซื้อหม้อดินหนึ่งใบเพื่อทำอาหารรับประทาน

เธอตุ๋นเท้าหมูถั่วเหลืองบ่อยที่สุด ย่อมฝึกฝนจนกลายเป็นยอดฝีมือ

        หลิวเฟินคือทาสลูกสาว เซี่ยเสี่ยวหลานว่าอย่างไรก็อย่างนั้น

แม้เธอจะคิดว่าเท้าหมูอร่อยไม่เท่าขาหมูก็ตาม

        หลี่เฟิ่งเหมยกับหลิวเฟินทำงานพลางสนทนาเรื่อยเปื่อย ส่วนเซี่ยเสี่ยวหลานกับหลิวหย่งออกไปดูหน้าร้าน

        แห่งหนึ่งตั้งอยู่ที่ ‘จัตุรัสเอ้อร์ชี’ ห่างจากเจดีย์เอ้อร์ชีซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมเด่นของซางตูเพียงไม่กี่สิบเมตร

        ร้านอีกแห่งอยู่ถนนซีอี

ถนนซีอีและซีเอ้อร์คือถนนเสื้อผ้าที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองซางตู

ตอนนี้มีร้านเสื้อผ้าเปิดกิจการแล้ว แต่เสื้อผ้าที่นี่ขายราคาถูกมาก

ไปสายเส้นทางราคาต่ำ

        หน้าร้านในปัจจุบันล้วนเป็นสินทรัพย์ของรัฐ

ไม่ว่าเซี่ยเสี่ยวหลานอยากเปิดร้านตรงไหน

เธอต้องหาหน่วยงานที่รับผิดชอบร้านทั้งหมด ถึงจะสามารถเช่าร้านได้—ในมือคนทั่วไปไม่อาจถือห้างร้านไว้

นอกเสียจากบ้านเรือนสำหรับอาศัยของประชาชนที่หันหน้าสู่ถนนและบูรณะอย่างผิดกฎหมาย

        ร้านที่หลิวหย่งเลือกไว้ไม่ใช่บ้านบูรณะผิดกฎหมาย

แต่อยู่ในความครอบครองของโรงงานใหญ่ที่บริหารโดยรัฐ

  

 

เชิงอรรถ

[1]防寒服 เสื้อกันลม คือ เสื้อกันหนาวประเภทหนึ่ง มีน้ำหนักเบา

มักทำด้วยวัสดุสังเคราะห์ ด้านในบรรจุด้วยใยโพลีเอสเตอร์ คุณสมบัติกันน้ำกันลม

จึงกันความหนาวเย็นและเก็บความอบอุ่นได้

[2]鸭绒服 เสื้อขนเป็ด คือ เสื้อนวมที่ด้านในยัดด้วยขนเป็ดหรือขนห่าน

ซึ่งเป็นวัสดุเก็บความอบอุ่นจากธรรมชาติที่มีคุณภาพดี เก็บความอบอุ่นได้มาก

น้ำหนักเบาพ

[3]ขนเป็ดที่คุณภาพดีจะเรียกว่า ขนอ่อนเป็ด (鸭绒) ขนชนิดนี้จะอยู่บริเวณอกเป็ด มีความอ่อนนุ่มมาก

แต่เนื่องจากมีน้อย จึงทำให้ราคาสูง

เสื้อขนเป็ดที่ราคาไม่แพงมากจึงใช้ขนส่วนอื่นซึ่งมีลักษณะเป็นเส้นแบบขนนก (鸭毛) แทน หรือผสมขนไก่รวมไปถึงใยสังเคราะห์อื่นๆ

[4]军大衣 เสื้อนอกทหาร คือ เสื้อนอกตัวใหญ่สำหรับทหาร มีสีเขียวทหาร

ต่อมากลายเป็นความนิยมทั่วไปอย่างหนึ่ง

คนธรรมดาก็สวมใส่เพื่อกันหนาวกักเก็บความอบอุ่นเช่นกัน

[5]梭哈 ซัวฮา คือ การเล่นสตั๊ดห้าใบของไพ่โป๊กเกอร์ มีอีกความหายหนึ่งคือ

นำสินทรัพย์ทั้งหมดลงเดิมพัน

[6]相声 เซี่ยงเซิง คือ การแสดงพื้นบ้านของจีน โดยแสดงเล่าเรื่องตลกขบขัน

มีตั้งแต่แสดงคนเดียว เป็นคู่ และแสดงเป็นละคร 

 

 

เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80

เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80

เธอคือประธานเซี่ย หญิงผู้แข็งแกร่ง และยังเกิดใหม่เป็น เซี่ยเสี่ยวหลาน หญิงสาวชื่อแซ่เดียวกับเธอที่ฆ่าตัวตายท่ามกลางคำนินทาในยุค 80 เธอมีโอกาสได้เกิดใหม่อีกครั้ง ทำไมต้องมาอยู่อย่างอดสูแบบนี้ด้วยเล่า?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads แทงบอลออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน