นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น

“แน่นอนว่าไม่ใช่!” ซูฉิงผลักฮ่อหยุนเฉิงออกไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ฮ่อหยุนเฉิง ครั้งที่แล้วตอนอยู่ที่บ้านหลังเก่า ฉันว่าเราคุยกันชัดเจนแล้วนะ ว่าฉันไม่ใช่ถังถัง และไม่ใช่ตัวแทนของถังถังด้วย! ”
ดวงตาที่ลึกซึ้งของฮ่อหยุนเฉิงฉายแววความหงุดหงิด เขาพยักหน้าอย่างไม่แสดงออกมากนัก “กลับไป ”
ชาร์มบาร์
บรูซได้นัดเพื่อนสองสามคนมาดื่มกันที่ห้องวีไอพีของชาร์มบาร์
แอนนี่ตามบรูซไปจนถึงชาร์มบาร์
“บรูซ” แอนนี่ผลักเปิดใหญ่ของห้องวีไอพีแล้วเดินเข้าไป
บรูซขมวดคิ้วเล็กน้อย “คุณมาทำอะไรที่นี่?”
“บรูซ ทำไมช่วงนี้เธอถึงหลบหน้าฉัน” แอนนี่นั่งข้างบรูซด้วยแววตาไม่พอใจ “ฉันโทรไปเธอก็ไม่รับโทรศัพท์ ฉันจะไปหาเธอที่โรงแรมแต่เธอก็ไม่อยู่”
“เราเลิกกันแล้ว” บรูซพูดอย่างเย็นชา
“ไม่ บรูซ คุณใจร้ายมากจนอยากเลิกกับฉันเลยเหรอ” แอนนี่พิงบรูซแล้วพูดอย่างไม่พอใจว่า “คุณลืมความสุขที่เราเคยอยู่ด้วยกันแล้วเหรอ? บรูซ คุณบอกว่าคุณจะรักฉันไปตลอดชีวิตที่เหลือ คุณจะมาไร้หัวใจอย่างนี้ไม่ได้นะ”
บรูซผลักแอนนี่อย่างไม่แยแส “แอนนี่ ผมจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย เราเลิกกันแล้ว!”
“ทำไม! บรูซ ทำไมเธอใจร้ายกับฉันอย่างนี้!” แอนนี่เงยหน้ามองชายร่างสูงหล่อตรงหน้าเธอด้วยดวงตาสีแดงก่ำ
เธอไม่ยอม ก่อนหน้านี้ทั้งสองคนยังรักกันดี แต่ไม่กี่วันมานี้ บรูซกลับบอกเลิกกับเธอและไร้ความรู้สึกต่อเธอแล้ว
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะซูฉิง！
ถ้าไม่ใช่เพราะซูฉิง บรูซจะเลิกกับเธอได้อย่างไร!
“แอนนี่ ผมไม่อยากเจอคุณอีก” บรูซลุกขึ้นพูดอย่างเย็นชา และเดินออกจากห้องวีไอพีโดยไม่หันกลับมามอง
แอนนี่ไล่ตามเขาและคว้าแขนของบรูซ “บรูซ อย่าทำแบบนี้เลย ให้โอกาสฉันอีกสักครั้งเถอะนะ… เราจะต้องรักกันเหมือนเดิมแน่นอน…”
“พอเถอะ! หยุดตามฉันมา!” บรูซดึงแขนของเขาอย่างไม่สนใจไยดีและเดินจากไป
แอนนี่ไม่ทันได้ตั้งหลัก จึงล้มลงกับพื้นอย่างแรง อทำให้เธอายอย่างมาก
ในอีกฝั่งหนึ่งสวีหว่านเอ๋อร์และไป๋หลานก็เดินเข้าไปในบาร์
“นั่นใช่แอนนี่ไหม?” ดวงตาของสวีหว่านเอ๋อร์จ้องไปที่แอนนี่
ไป๋หลานพยักหน้า “ใช่ ทำไมเธอมาอยู่ในสภาพแบบนี้”
ความคิดก็แวบมาในความคิดของสวีหว่านเอ๋อร์ “ยิ่งน่าอายยิ่งดีสิ”
ไป๋หลานคิดครุ่นคิด “สวีหว่านเอ๋อร์ เธอหมายความว่า…”
สวีหว่านเอ๋อร์ยกมุมริมฝีปากของเธอ “เราไปดูกันเถอะ”
แอนนี่พยายามจะลุกขึ้นด้วยความอับอาย ทันใดนั้นก็มีเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นต่อหน้าเธอ “คุณแอนนี่ เธอเป็นอะไรไหม?”
แอนนี่เงยหน้าขึ้นและเห็นสวีหว่านเอ๋อร์ยืนอยู่ข้างหน้าเธอพร้อมกับยื่นมือให้
“ขอบคุณ ฉันไม่เป็นอะไร” แอนนี่จับมือสวีหว่านเอ๋อร์แล้วลุกขึ้นยืน
ไป๋หลานก้าวไปข้างหน้าและถามโดยแกล้งทำเป็นกังวล “คุณแอน คุณเป็นอะไรไหม? ทำไมคุณมาตกอยู่ในสภาพที่น่าอายแบบนี้ได้?”
เมื่อคิดถึงความเฉยเมยของบรูซที่มีต่อเธอ จมูกของแอนนี่ก็แดงและมีหมอกสีขาวเต็มดวงตาของเขา “บรูซต้องการเลิกกับฉัน … ”
“ทำไมล่ะ” สวีหว่านเอ๋อร์ถามอย่างรู้งาน
“ซูฉิง ทั้งหมดเป็นเพราะยัยซูฉิง!” แอนนี่กัดฟันและพูดว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะมัน บรูซจะเลิกกับฉันได้อย่างไร”
“ที่แท้ก็เป็นเพราะชูฉิง” ไป๋หลานก็นึกขึ้นได้ทันที “เธอเป็นสาวซ่าที่เชี่ยวชาญเรื่องการเกลี้ยกล่อมผู้ชาย คุณแอน ที่จริงมันง่ายมากที่จะรับมือ เพียงแค่ทำให้บรูซรู้จักตัวตนที่แท้จริงของซูฉิง เขาจะกลับมาหาคุณ”
“จริงสิ!” ดวงตาของแอนนี่เปล่งประกายด้วยความหึงหวงและเกลียดชัง “ซูฉิงฉันไม่ปล่อยเธอไปแน่!!”
สวีหว่านเอ๋อร์ยกมุมริมฝีปากขึ้นด้วยความรู้สึกที่ประสบความสำเร็จ และเธอพูดอย่างเป็นกันเองว่า “อีก 2 วันจะเป็นงานแถลงข่าวการเปิดตัวชุดเครื่องประดับคอลเลคชั่นน้ำแข็งและไฟของฮ่อกรุ๊ปว่ากันว่าจัดงาน โดยซูฉิง…”
สองวันต่อมา!
แอนนี่กำหมัดแน่นและกัดฟัน “ซูฉิง รอฉันก่อนเถอะ! ฉันจะทำให้บรูซเห็นตัวตนที่แท้จริงของเธอ!”
สองวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว และอีกไม่นานก็ถึงเวลางานแถลงข่าว
ในวันนี้ ซูฉิงตื่นแต่เช้า และเมื่อเธอลงไปที่ห้องนั่งเล่นหลังจากอาบน้ำเสร็จ เธอเห็นฮ่อหยุนเฉิงนั่งอยู่บนโซฟา
เขาสวมชุดสูทและรองเท้าหนัง และทรงผมของเขาถูกหวีอย่างพิถีพิถัน
เมื่อเห็นซูฉิงลงมาที่ชั้นล่างฮ่อหยุนเฉิงก็ลืมตาขึ้นและเหลือบมองเธอ “อรุณสวัสดิ์”
หลังอาหารเช้า ซูฉิงที่นั่งในรถของฮั่วหยุนเฉิง ก็พบว่าทิศทางที่เขาขับนั้นไม่ใช่ทางไปฮ่อกรุ๊ป
ซูฉิงมองออกไปนอกหน้าต่างรถ “คุณไม่ไปบริษัทเหรอ?”
ฮ่อหยุนเฉิงฮัมเพลงเบาๆ
“เราจะไปไหนกัน?” ซูฉิงสงสัยเล็กน้อย บ่ายจะมีงานแถลงข่าว ฮ่อหยุนเฉิงจะพาเธอไปไหน?
ฮ่อหยุนเฉิงเหลือบมองไปทางด้านข้างของเธอ “ไปถึงที่นั่นแล้วคุณก็จะรู้เอง”
สิบนาทีต่อมา ฮ่อหยุนเฉิงก็จอดรถไว้หน้าโมเดลลิ่ง “ถึงแล้ว”
ซูฉิงลงจากรถและมองไปที่ป้ายที่มีตัวหนังสือสีทอง: ANA
หากจำไม่ผิด ANA ควรเป็นร้านขายเสื้อผ้าที่มีสไตล์ระดับไฮเอนด์ และดาราและสุภาพสตรีชนชั้นสูงจำนวนมากชอบมาที่โมเดลลิ่งนี้
เมื่อฮ่อหยุนเฉิงลงจากรถ ผู้จัดการร้านก็ทักทายเขาทันทีและกล่าวด้วยความเคารพว่า “คุณฮ่อ เชิญด้านในค่ะ”
“เข้าไป” ฮ่อหยุนเฉิงพูดเบา ๆ แล้วพาซูฉิงเดินเข้าไปที่ประตูบานใหญ่
“คุณซู เชิญด้านนี้ค่ะ พวกเราเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว” ผู้จัดการร้านเดินไปหาชูชิงด้วยรอยยิ้ม
ซูฉิงเข้าใจว่าฮ่อหยุนเฉิงกำลังจะพาเธอไปแปลงโฉม
ดูเหมือนว่าเขาจะจริงจังกับการแถลงข่าวในวันนี้มาก
ซูฉิงพยักหน้าและตามผู้จัดการเข้าไปในห้องแต่งตัว
เมื่อซูฉิงกลับออกมาอีกครั้ง ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็ตกตะลึง
ฮ่อหยุนเฉิงจ้องที่เธออย่างใกล้ชิดไม่สามารถละสายตาได้
ซูฉิงสวมเสื้อแจ็คเก็ตแขนสั้นสีแดงและกระโปรงสั้น กำลังปรากฏรูปร่างบนหน้าอกของเธอเล็กน้อย ผิวที่สวยและอ่อนโยนของเธอดูน่าดึงดูดใจมาก ผมยาวของเธอเป็นเหมือนผ้าคลุมไหล่ และดวงตาที่เปล่งประกายของเธอเต็มไปด้วยออร่าซึ่งดูสง่างามและเป็นประกาย
“ทำไมเหรอ ไม่สวยเหรอ” ซูฉิงยิ้มเมื่อเห็นฮ่อหยุนเฉิงจ้องมองตรงมาที่เธอ
ฮ่อหยุนเฉิงเริ่มรู้สึกตัว ริมฝีปากบางของเขายกขึ้นเล็กน้อย “สวยมาก”
ตอนบ่ายสองโมงตรง มีการแถลงข่าวเรื่อง “น้ำแข็งและไฟ”
งานแถลงข่าววันนี้จัดขึ้นในห้องประชุมสุดหรูบนชั้น 18 ของอาคารฮ่อกรุ๊ป
ในงานแถลงข่าว ซูฉิงฉิงตรวจงานเป็นครั้งสุดท้ายและทุกอย่างก็พร้อม
เธอก้มมองลงไปที่นาฬิกา อีกสิบนาทีบ่ายสองโมง
อีก 10 นาที งานแถลงข่าวจะเริ่มตรงเวลา
คนที่มาในงานวันนี้ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่มีชื่อเสียง ไม่เพียงแต่นักแสดงดาวรุ่งหน้าใหม่อย่างหลิวเสี่ยวหนิง เจ้าชายแห่งวงการภาพยนตร์เฉินจุนเหยียน นอกจากนี้ยังมีบริษัทชั้นนำมากมายในอุตสาหกรรมเครื่องประดับ และแม้แต่ฮ่อหยุนเฉิงประธานของฮ่อกรุ๊ป ก็เข้ามามีส่วนร่วมด้วยตนเอง
จะเห็นได้ว่าฮ่ฮกรุ๊ปให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับงานในครั้งนี้
นักข่าวต่างแย่งชิงตำแหน่งที่ดีที่สุดในพื้นที่นักข่าว ทุกคนตื่นเต้นรอการเริ่มงานแถลงข่าวเพราะกลัวว่าจะพลาดข่าวเด่นไป
เวลาบ่ายสองโมงงานแถลงข่าวเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ และในสายตาของผู้คนมากมาย ซูฉิงก้าวขึ้นสู่เวทีด้านหน้าของหอประชุม