นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น

“คุณหมายความว่ายังไง?” สีหน้าที่ดูไม่ดีอยู่แล้วของมาริลินก็ยิ่งน่าเกลียดมากขึ้นไปอีก
คิ้วเรียวสวยของฮ่อหยุนเฉิงค่อยๆ ขมวดเข้าหากัน สายตาเย็นชามากขึ้น “นอกจากการเปลี่ยนสีได้ด้วยแสงแล้ว การออกแบบ ‘ดั่งใจปรารถนา’ ของคุณก็คล้ายกับ ‘น้ำแข็งและไฟ’ นั่นเป็นเพราะคุณเอาแบบภาพของซูฉิงไปแก้ไขพื้นฐานก็กลายเป็น ดั่งใจปรารถนาเลยยังไงล่ะ’”
เมื่อมาริลีนได้ยินอย่างนั้น ภายใต้รัศมีอันทรงพลังของฮ่อหยุนเฉิง ร่างกายของเธอก็สั่นสะท้าน
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วบังคับตัวเองให้สงบลง “คุณมีหลักฐานอะไร?”
ดวงตาที่เฉียบคมของฮ่อหยุนเฉิงกวาดสายตามองมาริลินก่อนจะเปล่งเสียงที่เย็นชาของเขา “เหอจื่อฉงได้ยอมรับแล้วว่าเขาเป็นคนขโมยแบบภาพของซูฉิงไปขายให้กับคุณ”
เหอจื่อฉง?
ซูฉิงที่ได้ยินคำพูดของฮ่อหยุนเฉิงก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
หากเธอจำไม่ผิด เหอจื่อฉงเป็นเพียงผู้ช่วยออกแบบในแผนกออกแบบที่เพิ่งเข้าร่วมบริษัทมาไม่ถึงปี
และเหอจื่อฉงก็ไม่ได้เข้าร่วมในโครงการ น้ำแข็งและไฟ ในครั้งนี้ด้วย เขาจะขโมยแบบภาพไปขายให้กับมาริลินได้ยังไงกัน?
มาริลินที่ได้ยินก็มีสีหน้าซีดเผือด
เหอจื่อฉงขายแบบภาพ ดั่งใจปรารถนา ให้กับเธอจริง ตอนนั้นเธอคิดว่าเป็นการออกแบบที่สร้างสรรค์มาก และยังได้ยินว่าเป็นเลขาที่ไม่ได้มีชื่ออะไรเป็นคนออกแบบ มาริลินจึงคิดคดโกง
ร่วมกับประธานของLove&loveเพื่อโจมตีตระกูลฮ่อกรุ๊ป รักษาตำแหน่งของLove&loveในอุตสาหกรรมเครื่องประดับ พวกเขาจึงเปิดตัวดั่งใจปรารถนาก่อนล่วงหน้า และแม้กระทั่งใส่ร้ายว่าตระกูลฮ่อกรุ๊ปลอกเลียนแบบในงานแถลงข่าววันนี้
ทว่าไม่นึกเลยว่าวันนี้เธอจะพ่ายแพ้…
ไม่เพียงแค่ซูฉิงที่ตามตัวยวี๋น่ามาและยังบอกว่าแนวคิดริ่เริ่มดั่งใจปรารถนานั้นเป็นของลีโอ ตอนนี้แม้แต่ฮ่อหยุนเฉิงก็ตรวจเจอเรื่องที่มีคนแอบเอาแบบภาพของตระกูลฮ่อกรุ๊ปไปขายอีก
“และนิตยสารเฟิงหยุนนั่น ฉันก็ได้ให้คนไปตรวจสอบแล้ว ได้รับการยืนยันมาว่าเป็นของปลอม” ฮ่อหยุนเฉิงยกริมฝีปากบางของเขาขึ้นเล็กน้อยและพูดอย่างไม่รักษาน้ำใจ “คุณได้แบบภาพของซูฉิงเมื่อหนึ่งเดือนก่อน แล้วจะไปเผยแพร่เมื่อสองเดือนก่อนได้ยังไงกันล่ะ?”
“ฉัน…” มาริลินกัดริมฝีปากและกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นหน้าจอขนาดใหญ่ตรงกลางห้องประชุมก็สว่างขึ้น
บนนั้นมีหลักฐานหลายชุด ผลงานของมาริลินหลายชิ้นเป็นการลอกเลียนแบบ และแม้แต่โครงการสำเร็จการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยของเธอก็เป็นการลอกเลียนแบบเพื่อนร่วมชั้นในหอพักเดียวกันนั่นเอง
แต่เพียงเพราะว่าพ่อของมาริลินนั้นมีอำนาจและทรงพลัง มาริลีนจึงจัดการทุกอย่างได้อย่างง่ายดายและใช้เงินเพื่อสร้างภาพลักษณ์ของเธอในฐานะนักออกแบบเครื่องประดับระดับนานาชาติ
หลักฐานแน่นหนาอยู่ตรงหน้าแล้ว สีหน้าของมาริลินก็ซีดขาวก่อนจะตะโกนออกมาสุดเสียง “ปิดนะ! รีบปิดมันซะ!”
แต่ไม่มีใครสนใจเธอเลย
“ไม่คิดเลยนะว่าปรมาจารย์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่างมาริลินจะเป็นคนแบบนี้ ไม่แค่การลอกเลียนแบบแต่ยังให้ร้ายว่าคนอื่นเป็นฝ่ายลอกเลียนแบบอีก ไร้ยางอายเกินไปแล้ว!”
“เฮ้ย! เสียแรงที่ฉันชื่นชมหล่อนและถือว่าเธอเป็นปรมาจารย์ระดับนานาชาติ แถมยังศึกษาผลงานหล่อนอีกนะ ที่แท้ทั้งหมดก็ ไปลอกเลียนแบบคนอื่น”
ต่างคนต่างวิพากษ์วิจารณ์ จนภาพลักษณ์ของนักออกแบบเครื่องประดับที่มาริลีนสร้างขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาล้มระเนระนาด
เมื่อมองไปที่มาริลินที่เหมือนหนูติดจั่น มุมปากของซูฉิงก็ยกขึ้นอย่างอดไม่ได้
ไม่คิดเลยว่าระยะเวลาสั้นๆ เพียงสองวัน ฮ่อหยุนเฉิงจะเจอประวัติอันมืดมนของมาริลีนมากมายขนาดนี้
คราวนี้มาริลินจะหนียังไงก็คงไม่พ้น
เมื่อเผชิญกับการทารุณกรรมและการกล่าวหาอย่างท่วมท้น ใบหน้ามาริลีนบิดเบี้ยว และเมื่อเห็นว่าไม่สามารถแก้สถานการณ์ได้แล้วจึงแสร้งเป็นลมล้มพับไปกับพื้น
รปภ.เข้ามาพาตัวมาริลินออกไป
“เอาล่ะ เรื่องการลอกเลียนแบบนั้นเราจะหยุดไว้ตรงนี้ ฉันขอประกาศอย่างจริงจังว่าตระกูลฮ่อกรุ๊ปของเรานั้นยึดมั่นในหลักการต่อลูกค้าเป็นอันดับแรกเสมอ และมุ่งมั่นที่จะบรรลุให้ถึงจุดสูงสุดในทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ก็ตาม เราก็ไม่มีทางทำให้ชื่อเสียงบริษัทเสียหายอย่างการลอกเลียนแบบแน่นอนค่ะ!”
คำพูดของซูฉิงได้รับเสียงปรบมือดังสนั่นจากทุกคนที่อยู่ในงาน
หลังจากผ่านพายุการลอกเลียนแบบนี้ไป การแถลงข่าวเรื่อง น้ำแข็งและไฟ ก็ประสบความสำเร็จอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน
หลังจากการแถลงข่าว หลายบริษัทก็ได้แสดงความสนใจ น้ำแข็งและไป กันอย่างมากและหวังว่าจะได้รับสิทธิ์เป็นตัวแทน
บรูซพอใจกับการแถลงข่าวในครั้งนี้มาก
“คืนนี้เรามีจัดงานกาล่าดินเนอร์ หวังว่าทุกท่านจะไม่ลังเลที่จะเข้าร่วมนะคะ” ซูฉิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ฮ่อหยุนเฉิงพยักหน้าเล็กน้อยและกระซิบข้างหูซูฉิง “คืนนี้ฉันไปรับนะ”
ซูฉิงหันไปมองก่อนจะยกยิ้ม จนริมฝีปากของเธอเกือบจะชนกับริมฝีปากของฮ่อหยุนเฉิง
ปฏิสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างคนทั้งสองตกไปอยู่ในสายตาของสวีหว่านเอ๋อร์ และมันช่างเป็นภาพที่ทิ่มแทงสายตา
มาริลินช่างไร้ประโยชน์เสียจริง เดิมทีคิดว่ายังไงวันนี้ซูฉิงก็ต้องถูกกล่าวหาว่าเลียนแบบผลงาน แต่ไม่นึกเลยว่าเธอจะพลิกสถานการณ์ได้อย่างอย่างสวยงาม!
สายตาของสวีหว่านเอ๋อร์ประกายอย่างดุเดือด
ไม่เป็นไร ยังไงกาล่าดินเนอร์คืนนี้เธอก็เตรียมของขวัญชิ้นโตให้กับซูฉิงแล้ว
ซูฉิง เธอคอยดูเถอะ!
กาล่าดินเนอร์จัดขึ้นที่โรงแรมโรงแรมรอยัลคอร์ทแสนหรูหราในเมือง A
และบรูซก็บังเอิญพักอยู่ที่โรงแรมรอยัลคอร์ท
หลังจากงานแถลงข่าว เขากลับห้องมาเพื่อพักผ่อน ในขณะที่กำลังจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเข้าร่วมงานกาล่าก็ได้ยินเสียงกริ่งประตูดังขึ้น
บรูซคิดว่าเป็นพนักงานทำความสะอาดเลนเปิดประตูห้อง ทว่ากลับเห็นเป็แอนนี่ที่อยู่ข้างนอก
“แอนนี่ เธอมาทำอะไรที่นี่?” ดวงตาสีฟ้าของบรูซฉายแววอย่างไม่สบอารมณ์ “ฉันบอกเธอชัดเจนแล้วนะว่าเราเลิกกันแล้ว”
“ฉันรู้แล้วล่ะ” แอนนี่หลุบตาด้วยท่าทางสุภาพ “บรูซ ฉันมาที่นี่วันนี้ไม่ได้มาเพื่อก่อกวนคุณหรอก”
บรูซทำหน้างง “งั้นเธอมาทำอะไร?”
แอนนี่เม้มปากแล้วพูดเบาๆ “ฉันรู้ว่าเรื่องที่เกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้ ฉันทำเกินไปเอง โดยเฉพาะกับคุณซูฉิง ฉันไม่ควรเกลียดหล่อน หล่อนดุฉันก็เพราะฉันทำผิด ฉันมาก็เพื่อขอโทษสำหรับเรื่องที่ฉันเคยทำ”
หลังจากหยุดไปสักพัก เธอจึงพูดต่อ “เพราะอย่างนั้น ฉันจึงมาขอร้องให้คุณพาฉันไปงานกาล่าดินเนอร์วันนี้ ฉันอยากขอโทษซูฉิงอย่างเป็นทางการ”
“อย่างนั้นหรอกเหรอ…” บรูซพึมพำอย่างครุ่นคิด
เมื่อเห็นว่าบรูซอ่อนไหว แอนนี่ก็รีบฉวยโอกาสพูด “บรูซคะ ฉันรู้ว่าฉันทำผิดจริงๆ โปรดให้โอกาสฉันได้ขอโทษซูฉิงเถอะนะคะ”
“โอเค!” เมื่อเห็นแอนนี่สำนึกผิด ในที่สุดบรูซก็ตอบตกลง
เวลาของงานกาล่าดินเนอร์นั้นตั้งไว้ที่สองทุ่ม
เมื่อเวลาหนึ่งทุ่มกว่า คนดังหลายคนที่เข้าร่วมงานกาล่าดินเนอร์ก็มาถึงห้องจัดเลี้ยงแล้ว และยังมีนักข่าวจากทุกสาขาอาชีพที่แบกกล้องตัวยาวมาด้วย
งานแถลงข่าวในช่วงบ่ายก็น่าตื่นเต้นแล้ว ไม่แน่งานกาล่าดินเนอร์อาจจะยังมีเรื่องที่น่าตื่นเต้นอะไรเกิดขึ้นได้อีก?
ใครก็ไม่อยากพลาดข่าวไป
“ประธานฮ่อมาแล้ว!” ไม่รู้ว่าใครเป็นคนส่งเสียง ห้องจัดเลี้ยงที่เมื่อกี้ยังเต็มไปด้วยเสียงก็พลันเงียบลงทันที