ตอนที่ 416 ทุกอย่างปลอดภัย เธอวางใจได้
ยวี๋น่าก้มหน้าลงพลางหลบสายตาจากผู้ใหญ่ทั้งสองท่านตรงหน้า หญิงสาวเอ่ยพูดกับคนทั้งสองด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยล้า “คุณลุงคุณป้าคะ หนูเป็นห่วงหลินหนาน ดังนั้นหนูขอ… ”
คุณแม่ของหลินหนานไม่รอฟังคำขอของเธอด้วยซ้ำ หญิงชราเดินเข้าไปประกบขอบเตียงที่มีร่างของหลินหนานนอนอยู่ มือหยาบกร้านลูบหน้าผากของลูกชายอย่างเบามือ
ภายในใจของหญิงชรานั้นมีความกรุ่นโกรธเป็นอย่างมาก เหตุเพราะหญิงสาวสวยตรงหน้านั้นเป็นต้นเหตุให้ลูกชายของเธอต้องมีสภาพเป็นแบบนี้
“หลินหนานมีสภาพเป็นแบบนี้ เธอคงดีใจไม่น้อยเลยสินะ?”
“คุณป้าคะ หนูไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นเลยนะคะ พอรู้หลินหนานประสบอุบัติเหตุ หนูก็…” ภายในใจของยวี๋น่าเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจ
เธอไม่ได้อยากให้หลินหนานมีสภาพเป็นแบบนี้ เมื่อรู้ว่าหลินหนานประสบอุบัติเหตุเธอก็เสียใจกับเรื่องนี้ไม่แพ้คนอื่นเช่นกัน
“ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ ลูกฉันจะเกิดอุบติเหตุแบบนี้ไหม? หรือว่าเธอจะตลบตะแลงว่ามันไม่ใช่แบบที่ฉันพูด? เธอออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้เลยนะ! ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอ”
เมื่อได้ฟังหญิงชราเอ่ยปากขับไล่ ยวี๋น่าก็พลันน้ำตาไหลพรากทันที “คุณป้าคะ หนูอยากจะอยู่ที่นี่เพื่อดูแลหลินหนาน หนูอยากให้เขาสบายใจเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วเจอหนู”
เพราะเรื่องทั้งหมดมันเกิดจากที่หลินหนานรีบร้อนไปขัดขวางเธอไม่ให้เธอไปทำแท้ง จนเจ้าตัวเกิดอุบัติเหตุในที่สุด ดังนั้นเธออยากให้หลินหนานสบายใจเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วพบเธอกับลูก ให้เขาได้รับรู้ว่าลูกยังปลอดภัยดี
แต่เมื่อแม่ของหลินหนานได้ฟังกลับรู้สึกไม่พอใจขึ้นอีกเป็นเท่าตัว “เธอบ้าหรือยังไง! เธออยากให้เขาตื่นขึ้นมาเห็นเธอแล้วโกรธจนหมดสติไปอีกหรือยังไง? รีบออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้เลยนะ!”
“ฉันบอกให้เธอออกไป เธอฟังไม่เข้าใจเหรอ?”
หญิงชราด่ากราดและขับไล่ยวี๋น่าออกมาราวกับหมูกับหมา
ซูฉิงประคองแขนของยวี๋น่า เธอรับรู้ได้ทันทีว่าในตอนนี้เพื่อนรักกำลังเปราะบางอย่างถึงที่สุด แขนเรียวขาวสั่นไหวอย่างรุนแรง ไม่รู้ว่าที่เพื่อนรักมีอาการสั่นไหวแบบนี้เพราะถูกแม่ของหลินหนานตะคอกและด่ากราดหรือเป็นเพราะคิดว่าหลินหนานมีสภาพแบบนี้เพราะตัวเธอเป็นต้นเหตุ
“ยวี๋น่า เธอไม่เข้าใจที่ฉันพูดเหรอ? ฉันบอกให้เธอออกไปไง! อย่าเข้าใกล้ลูกชายฉันอีก”
หญิงชรายังไม่หยุดก่นด่าและขับไล่ คำพูดแต่ละคำที่หญิงชราพ่นกราดออกมานั้นทำให้ร่างบางสั่นไหวขึ้นเรื่อยๆ ซูฉิงทนเห็นสภาพเพื่อนรักไม่ไหวเธออยากที่จะลุกขึ้นและเอ่ยปากพูดกับหญิงชราแทนยวี๋น่า แต่เธอกลับถูกมือของยวี๋น่าดึงรั้งไว้เสียก่อน
เพราะยังไงแม่ของหลินหนานก็ถือว่าเป็นผู้อาวุโสกว่า เธอไม่ควรที่จะโต้เถียงให้เกินงาม
ชายชราที่ได้ศักดิ์เป็นพ่อของหลินหนานยืนมองเหตุการณ์นี้อยู่นาน ในที่สุดก็ได้เวลาเปิดปากพูดออกมา
“ยวี๋น่า เธอกำลังตั้งครรภ์อยู่ เธอเฝ้าและคอยดูแลหลินหนานอยู่หลายวันคงจะเหนื่อยมากแล้ว กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ แล้วพรุ่งนี้เช้าเธอค่อยกลับมาใหม่”
เมื่อหญิงชราได้ฟังคำพูดของชายชราก็เกิดอาการไม่พอใจ “คุณจะให้มันมาที่นี่อีกทำไม?”
“พอได้แล้ว ยังไงยวี๋น่าก็กำลังตั้งครรภ์ เด็กในท้องของเธอก็คือเลือดหน้าเชื้อไขของพวกเรา”ชายชราพูดพลางถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
เมื่อยวี๋น่าได้ยินคำอนุญาตให้เธอสามารถมาหาหลินหนานได้ในเช้าวันพรุ่งนี้ หญิงสาวพยักหน้าตกลงรัวๆด้วยความดีใจ
“คุณลุงคุณป้าคะ งั้นวันนี้ขอรบกวนช่วยดูแลหลินหนานหน่อยนะคะ”
เมื่อพูดจบซูฉิงและยวี๋น่าก็ได้เดินออกไปจากห้องพักผู้ป่วย
“ซูฉิง เธอได้พกแผ่นแปะท้องมาไหม?”
“ไม่มีนะ เธอเป็นอะไรหรือเปล่า?”
“ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย ฉันปวดท้อง”ยวี๋น่าพูดเผยสีหน้าเจ็บปวดออกมา
เมื่อได้ยินประโยคนี้ซูฉิงจึงเพ่งสายตาไปมองยวี๋น่า ในขณะนี้มือของยวี๋น่ากำลังประคองท้องด้วยสีหน้าเจ็บปวด
ซูฉิงจึงรีบพยุงร่างที่อ่อนแรงลงของยวี๋น่าไว้ “ฉันไม่ได้พกมา แต่ด้านนอกโรงพยาบาลมีห้างสรรพสินค้า ที่นั่นน่าจะมีขาย เดี๋ยวฉันไปซิ้อมาให้เธอห่อนึง เธอไม่รู้หรือไงว่าตอนนี้เธอไม่ได้ตัวคนเดียวแล้วนะ เธอยังมีลูก ทำไมเธอถึงไม่ระวังตัวเลย?”
ซูฉิงรีบออกไปซื้อแผ่นแปะท้องมาให้ยวี๋น่าและยังซื้อชาร้อนมาให้เธออีกแก้วเพื่อบรรเทาอาการปวด
โชคดีที่โรงแรมที่ยวี๋น่าพักอยู่ไม่ได้ห่างจากโรงพยาบาลมากนัก เพียงแค่พริบตาเดียวก็ถึงที่หมายแล้ว
ในช่วงระยะเวลาสั้นๆนั้นเองยวี๋น่าที่นั่งเบาะข้างคนขับกลับมีอาการไม่สู้ดีนัก ใบหน้าของหญิงสาวซีดเผือดตลอดทาง
ยวี๋น่าหันหน้ามาถามซูฉิงเมื่อถึงจุดหมายปลายทาง “ถึงแล้วเหรอ? วันนี้ฉันรู้สึกเมารถมากๆ”
ซูฉิงมองดูหญิงสาวข้างกายด้วยความเป็นห่วง และเธอจึงยื่นมือไปอังหน้าผากของอีกฝ่ายทันที “เธอเป็นไข้หรือเปล่า? ทำไมดูเหนื่อยอ่อนแปลกๆ”
ยวี๋น่าก้าวขาลงจากรถและพูดกับซูฉิงเพื่อคลายความกังวลของอีกฝ่าย “ฉันไม่ได้ป่วยหรอก อาจจะเป็นเพราะเมื่อฉันไม่ได้กินข้าว ตอนนี้เลยเมารถหนัก”
เมื่อทั้งสองคนกลับมาถึงห้องพัก ซูฉิงก็สังเกตเห็นถึงความผิดปกติบางอย่างที่เกิดขึ้นกับยวี๋น่า ใบหน้าขาวของเพื่อนรักเต็มไปด้วยเหงื่อ
“ยวี๋น่า เธอเป็นอะไรกันแน่? ”
ซูฉิงจับข้อมือของยวี๋น่าเพื่อจะตรวจดูชีพจรของอีกฝ่ายว่าปกติหรือไม่
ยวี๋น่ารีบผลักร่างของซูฉิงออกอย่างแรง และพุ่งตัววิ่งเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว
“ปัง!”
ยวี๋น่าปิดประตูห้องน้ำอย่างรวดเร็ว และทิ้งร่างของซูฉิงที่กำลังเป็นกังวลไว้ด้านนอก
“นาน่าเธอเป็นอะไร?”
“นาน่า?” ซูฉิงตะโกนถามเพื่อนรักที่ขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำด้วยความร้อนใจ
ยวี๋น่าจึงตะโกนกลับออกมาจากด้านในห้องน้ำ “ฉันไม่เป็นอะไร ฉันแค่อยากเข้าห้องน้ำเฉยๆ”
อยากเข้าห้องน้ำ?
ซูฉิงเกิดความสงสัยในคำพูดของยวี๋น่าเป็นอย่างมาก
แต่เพียงไม่นานซูฉิงก็ได้ยินเสียงร้องไห้ระงมของยวี๋น่าดังออกมาจากภายในห้องน้ำ
“ซูฉิง ฉันเห็นสีแดง มันเป็นสีแดง…”
อะไรนะ?
เมื่อได้ยินคำพูดของยวี๋น่า ซูฉิงจึงรีบผลักประตูห้องน้ำเข้าไปทันที ภาพเบื้องหน้าที่เห็นคือภาพกางเกงของยวี๋น่าที่เต็มไปด้วยเลือดสีแดงสด ซูฉิงจึงรีบดึงข้อมือของยวี๋น่าขึ้นมาและรีบจับชีพจรของอีกฝ่ายทันที
ในตอนนี้ยวี๋น่ามีอาการขวัญเสียเป็นอย่างมาก ร่างบางสั่นไหวพลางร้องไห้ไม่หยุด “ซูฉิง ฉันปวดท้อง”
ตอนอยู่ในห้องพักผู้ป่วยยวี๋น่าคงใข้พลังงานเยอะไปมากพอสมควรในการอดทนและอดกลั้นให้แม่ของหลินหนานก่นด่า
ซูฉิงขมวดคิ้วด้วยความเป็นกังวลและเป็นห่วงเพื่อนรัก
“ลูกเธอยังปลอดภัยดี เธอไม่ต้องกังวลนะ ในช่วงที่ตั้งครรภ์แล้วพบว่ามีเลือดออกไม่ได้หมายถึงว่าแท้ง ถ้าปริมาณเลือดที่ออกมามันไม่เยอะมากเกินไปก็แสดงว่าไม่เป็นไร”
“อาจเป็นเพราะสองวันมานี้เธอคิดและกังวลใจมากเป็นพิเศษจึงอาจจะส่งผลต่อเด็กในท้อง เธออดทนไว้ก่อนนะ ฉันจะรีบโทรเรียกรถพยาบาล เธอต้องคิดถึงตัวเธอเองให้มากๆหน่อย ตอนนี้เธอไม่ได้ตัวคนเดียวแล้วนะ ทำไมตอนอยู่ที่โรงพยาบาลเธอถึงไม่บอกฉันว่าปวดท้อง?”
ยวี๋น่าหน้าซีดขาวทันทีเมื่อได้ฟังคำตำหนิ “เมื่อกี้ตอนอยู่ที่โรงพยาบาลฉันยังไม่ได้รู้สึกปวดมากขนาดนี้ ซูฉิง ลูกฉันจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม…”
“เธอหยุดพูดและหยุดคิดเรื่องพวกนี้ก่อน ลูกเธอจะต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน แต่เธอจะต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้น”
ซูฉิงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา และเตรียมจะกดโทร120เพื่อเรียกรถพยาบาล
ยวี๋น่าเอื้อมคว้ามือเธอไว้และสั่นศีรษะรัว “ไม่ได้”
“เธอไม่อยากเอาลูกไว้แล้วเหรอ?!” ซูฉิงเอ่ยถามอีกฝ่ายอย่างรีบร้อน
“ไม่ใช่นะ ฉันแค่อยากให้เธอพาฉันไปโรงพยาบาลอื่นที่ไม่ใช่โรงพยาบาลที่หลินหนานพักฟื้นอยู่ ถ้าเธอโทรเรียก 120 โรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุดก็จะมารับตัวฉันไป ฉันกลัวว่าถ้าเป็นโรงพยาบาลเดียวกับหลินหนานแล้วคุณลุงคุณป้ามาเห็นฉันเข้า พวกท่านจะเข้าใจผิดคิดว่าฉันมาเอาเด็กออก”
“ไม่เป็นไรหรอก แผนกที่เธอไปมันคือแผนกสูติ นรีเวช มันคนละแผนกกับที่หลินหนานอยู่ และพวกคุณลุงคุณป้าก็อยู่แต่ในห้องผู้ป่วยคงไม่มาเจอกับเธอง่ายๆหรอก”
“ซูฉิง ฉันขอร้องล่ะนะ เธอช่วยทำตามที่ฉันขอเถอะนะ”
“โอเคได้ ฉันจะไปส่งเธอที่โรงพยาบาลเอง!”
ซูฉิงตอบรับอีกฝ่ายอย่างเสียไม่ได้ เธอรีบประคองร่างของยวี๋น่าขึ้นและออกจากห้องไปทันที
ซูฉิงใช้เท้าปิดประตูด้วยเสียงอันดังสนั่น
“ปัง!”
ในตอนนี้เธอรู้สึกร้อนอกร้อนใจเป็นอย่างมาก เพราะร่างกายของยวี๋น่าในตอนนี้ไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่ คำพูดที่เธอกล่าวไปก่อนหน้านี้ก็เพื่อทำให้หญิงสาวข้างกายสบายใจและไม่เป็นกังวลเพียงเท่านั้น
และตอนนี้ซูฉิงจึงเป็นผู้ที่เป็นกังวลมากที่สุด เพราะคำพูดของแม่หลินหนานที่ก่นด่าอย่างรุนแรงคงกระตุ้นให้ยวี๋น่ายิ่งเพิ่มความกังวลเข้าไปอีก และถ้าคิดในแง่ร้ายเด็กในครรภ์อาจจะไม่รอด
ถ้าสถานการณ์มันไม่รุนแรง ซูฉิงคงไม่รีบร้อนที่จะโทรเรียก 120 หรอก
ซูฉิงประคองร่างยวี๋น่าลงมาและพาขึ้นรถอย่างรวดเร็ว เมื่อออกจากโรงแรมซูฉิงจึงปรายตาไปมองยวี๋น่าเพียงวูบหนึ่งเพื่อสังเกตหญิงสาวที่นั่งอยู่เบาะหลัง
ยวี๋น่านั่งอยู่เบาะด้านหลังนิ่งและไม่ปรายตามองถนนด้านหน้าเลยแม้แต่น้อย
ถ้าเธอใช้เส้นทางที่เพิ่งขับกลับมาและมุ่งตรงไปยังโรงพยาบาลที่หลินหนานพักรักษาตัวอยู่มันจะใกล้จากที่นี่เป็นอย่างมาก
ยวี๋น่าเองก็ไม่ได้มองถนน เธอคงไม่รู้ว่าซูฉิงขับรถพาเธอไปยังโรงพยาบาลไหน
“อ๊ะ”
“ซูฉิง ฉันรู้สึกว่าเลือดมันไหลออกมาอีกแล้ว ลูกของฉัน…”
“เธออย่าเพิ่งคิดมาก เลือดที่เพิ่งออกมาเมื่อกี้มันเป็นเรื่องปกติ ลูกของเธอจะต้องไม่เป็นอะไร”
“ใกล้จะถึงโรงพยาบาลแล้ว อดทนอีกหน่อยนะ”
ปากของซูฉิงเอาแต่พูดคำว่าไม่เป็นอะไร ทุกอย่างจะต้องปลอดภัย แต่เธอกลับจับพวงมาลัยแน่นและรีบบึ่งรถเพื่อมุ่งตรงไปยังโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว เพราะเธอเองรู้อยู่แก่ใจว่าในตอนนี้สถานะร่างกายของยวี๋น่าเป็นเช่นไร
ตอนที่ 415 ความรู้สึกเป็นอะไรที่ซับซ้อน
ตอนที่ 417 ศัตรูที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง