หิวแสง Give me the Spotlight – ตอนที่ 26

ตอนที่ 26

เฉียวอิ้งฉิงขยี้ตาเบาๆ น้ำตาเริ่มคลอเบ้า

 

“ฉันเสียใจมากเลย”

 

เหลียงจี้กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น แม้ภายนอกเฉียวอิ้งฉิงจะดูเพียบพร้อม สง่างาม เป็นผู้ใหญ่ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาก็มักจะทำตัวอ่อนแอ น่าสงสาร เขาชอบที่เธอใจเย็นและรู้ประสา ชอบบุคลิกผู้ดีและความมีเมตตา พอเห็นอีกฝ่ายทุกข์ใจก็ยิ่งรู้สึกเกลียดกู้เซียงมากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะกระแสคู่จิ้นแมวรัตติกาลที่ทำเขาหงุดหงิดไม่น้อย

 

หรือเขาจะอินกับบทมากเกินไปอย่างที่กู้เซียงบอก คิดว่าเฉินเมี่ยวเป็นเมียตัวเอง พอมีกระแสคู่จิ้นออกมา จึงรู้สึกเหมือนถูกสวมเขา

 

เห็นอีกฝ่ายเหม่อลอย เฉียวอิ้งฉิงก็สะกิดเบาๆ “เหลียงจี้…”

 

เขารีบดึงสติกลับมา หลังครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็พูดขึ้นว่า “ช่วงท้าย บทของกู้เซียงจะค่อนข้างอันตราย ต้องใช้ตัวแสดงแทน เราค่อยใช้เรื่องนี้โจมตีเธอ”

 

เวลาต้องเล่นฉากบู๊ นักแสดงหญิงส่วนใหญ่จะใช้สแตนด์อินเพื่อความปลอดภัยในการถ่ายทำ

 

หากจะเอาประเด็นนี้มาเล่น ก็จะสามารถทำลายภาพลักษณ์ของเธอด้วยการให้นักข่าวไปเขียนถึงความไม่เป็นมืออาชีพ ซึ่งข่าวเสียๆ หายๆ จะไม่ส่งผลดีต่อดาราหน้าใหม่ที่เพิ่งแจ้งเกิดในวงการ

 

เหลียงจี้รู้สึกผิดต่อกู้เซียงที่คิดจะใช้วิธีนี้กับเธอ แต่ความคิดที่ว่าก็ช่วยให้คราบน้ำตาบนใบหน้าของเฉียวอิ้งฉิงเหือดหายเร็วมาก

 

“จะดีเหรอคะ?”

 

“ก็แค่ทำให้เสียภาพลักษณ์ เธอเพิ่งจะแจ้งเกิดในวงการ ยังมีอนาคตอีกไกล แค่สั่งสอนเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น”

 

พอเหลียงจี้กลับไปแล้ว เฉียวอิ้งฉิงก็เดินไปที่ห้องนอนและกดโทรศัพท์หาใครบางคน

 

“นักข่าวหวัง ฉันมีข้อมูลดีๆ จะบอก เดือนหน้าคุณได้ใช้แน่นอน ข่าวดังขนาดนี้ นัดเจอกันหน่อยดีไหมคะ?”

 

คำแนะนำของเหลียงจี้เย้ายวนแต่ยังไม่โหดพอ การที่เธอสามารถไต่เต้าจากดาราหน้าใหม่ไร้ชื่อสู่ดาราภาพยนตร์เต็มตัว ไม่ได้อาศัยแค่ความใจดีและไร้เดียงสาเท่านั้น แต่ต้องทรยศเพื่อนร่วมอาชีพและเหยียบบ่าใครต่อใครเพื่อพาตัวเองไปให้ถึงฝั่งฝัน เรียกได้ว่าทำร้ายคนมานับไม่ถ้วนแล้ว

 

การมีอยู่ของกู้เซียงคุกคามเฉียวอิ้งฉิงอย่างรุนแรง จึงต้องจัดการแบบถอนรากถอนโคน ถ้าแค่สั่งสอนให้จดจำคงไม่ใช่เฉียวอิ้งฉิง

 

เธอจะทำให้กู้เซียงไม่มีโอกาสได้ผงาดในวงการบันเทิงอีก ทำให้จดจำการสั่งสอนครั้งนี้ไปชั่วชีวิต

 

ในวงการบันเทิงจะทำอะไรต้องเด็ดขาด ครั้งหนึ่งรุ่นพี่ของเธอเคยสอนไว้ สุดท้ายก็ถูกเธอเหยียบบ่าเพื่อดันตัวเองให้สูงกว่า

 

กู้เซียงก็แค่หนึ่งในบรรดาคนเหล่านั้น…

 

 

ถางรุ่ยมองคอมเมนต์มากมายในเวยป๋อ แล้วหันมองจ่านหยางที่กำลังรินน้ำอยู่

 

“เคลาส์ แฟนคลับนายพากันอวยพรใหญ่แล้ว ไม่คิดจะพัฒนาความสัมพันธ์กันจริงๆ เหรอ?”

 

จ่านหยางเหลือบตามองอีกฝ่าย “ถ้านายชอบก็เอาไปสิ”

 

“ช่างเถอะๆ” ถางรุ่ยนั่งลงบนโซฟา “ผู้หญิงคนนี้ดังเร็วมาก ฉันทำสายงานนี้มานาน ยังรู้สึกแปลกๆ เลย”

 

“แปลกยังไง?” จ่านหยางถามพลางส่งแก้วน้ำในมือให้

 

ถางรุ่ยรับน้ำมาดื่ม “ฉันเคยหานักแสดงมาเล่นคู่กับนาย แต่ไม่เคยมีกระแสคู่จิ้นแบบนี้เลย”

 

ซูเปอร์สตาร์จ่านเปรียบเสมือนดอกฟ้า เล่นกับใครก็ไม่คู่ควรพอ

 

“นายกับกู้เซียงไม่ได้เล่นบทรักด้วยซ้ำ แต่กระแสคู่จิ้นกลับดังไปทั่วบ้านทั่วเมือง ไม่มีเหตุผลเลยจริงๆ แสดงว่าฝีมือการแสดงของเธออยู่ระดับเดียวกับนาย” เขาหันมองจ่านหยาง “คิดว่าเธอเล่นหนังครั้งแรกจริงๆ หรือเปล่า?”

 

เล่นหนังครั้งแรกงั้นเหรอ? หลอกใครก็หลอกได้แต่หลอกจ่านหยางไม่ได้เด็ดขาด แม้ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่แค่พรสวรรค์ไม่สามารถทำได้ขนาดนี้แน่

 

“คงแสดงจากอินเนอร์มั้ง” จ่านหยางตอบด้วยรอยยิ้ม

 

 

ไม่ว่าโลกภายนอกจะวิพากษ์วิจารณ์ยังไง ละครเรื่องฉีโฮ่วจ้วนก็ยังคงถ่ายทำตามกำหนดเดิม

 

เวินหลินยู่ไม่ได้เปลี่ยนบทตามที่ทุกคนร้องขอ แต่เสริมบทของคู่จิ้นแมวรัตติกาลให้ดูเหมือนมีอะไรแอบแฝง โดยให้เจียงเยว่แสดงแววตาลึกซึ้งที่เบื้องหลังของเฉินเมี่ยว ทำหญิงสาวทั้งประเทศใจละลายไปตามๆ กัน

 

เฉินเมี่ยวพยายามลอบสังหารจูชิงฮวนด้วยวิธีต่างๆ มาวันนี้กลับถูกทรมานบ้างแล้ว

 

หมิงอ๋องรักจูชิงฮวนแบบหัวปักหัวปำ ทั้งที่มีชายารองและสนมอยู่ในตำหนักมากมาย หากนางถูกรังแก เขาก็ไม่ลังเลที่จะแก้แค้น

 

เฉินเมี่ยวไม่มีทางทำร้ายหมิงอ๋อง ใครจะทำร้ายชายผู้เป็นที่รักได้ลงคอ ความรักยิ่งถลำลึกก็ยิ่งทำให้ตาบอด ร่างกายของนางผ่ายผอมลงเรื่อยๆ ทว่ายิ่งอ่อนล้าอิดโรยก็ยิ่งงดงามเปล่งประกาย สร้างความประหลาดใจให้คนดูไม่น้อย

 

แฟนคลับของกู้เซียงเพิ่มขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว เวลามีการจัดอันดับศิลปินหน้าใหม่ เธอจะอยู่ในอันดับต้นๆ เสมอ

 

ฉากที่เฉียวอิ้งฉิงและกู้เซียงต้องเผชิญหน้ากันมีมากขึ้นเรื่อยๆ ปัญหาที่ปรากฏในฉากก็มีมากขึ้นเช่นกัน

 

เมื่อต้องอยู่ต่อหน้ากู้เซียง เฉียวอิ้งฉิงกลับไร้ซึ่งความน่ายำเกรง แถมยังถูกลดบทบาทหลายครั้ง ล้วนเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นในชาติที่แล้ว

 

สิ่งที่ทำให้กู้เซียงคาดไม่ถึง คือคู่จิ้นแมวรัตติกาลได้รับความนิยมสูงกว่าคู่พระนาง

 

ชาติที่แล้ว กระแสคู่จิ้นระหว่างจูชิงฮวนกับหมิงอ๋องโด่งดังเป็นพลุแตก ไหนจะข่าวเรื่องความรักนอกจอที่ทำให้พวกเขาได้แฟนคลับเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว

 

ภายหลังเฉียวอิ้งฉิงกับเหลียงจี้ต่างแยกย้ายกันไปแต่งงาน แฟนคลับพากันเสียอกเสียใจยกใหญ่ แต่ไม่นานก็กลับมาคืนดี ราวกับเป็นพรหมลิขิต

 

แต่เมื่อกู้เซียงย้อนเวลากลับมาอีกครั้ง กลับไม่มีเรื่องคู่จิ้นระหว่างเหลียงจี้กับเฉียวอิ้งฉิง แต่กลายเป็นคู่ตัวร้ายที่แย่งซีนไป

 

ชาติที่แล้ว เหลียงจี้กับเฉียวอิ้งฉิงแถลงข่าวเรื่องความสัมพันธ์เพราะมีกระแสเรื่องคู่จิ้นมาก่อน แต่ตอนนี้ไม่มีกระแส แล้วพวกเขาจะยังประกาศเรื่องความสัมพันธ์อีกหรือไม่

 

กู้เซียงปาดเหงื่อบนหน้าผาก อากาศเดือนแปดค่อนข้างอบอ้าว ที่กองถ่ายยังไม่มีเครื่องปรับอากาศ เมื่อสวมชุดจีนโบราณที่ค่อนข้างหนาจึงต้องใช้พัดเพื่อคลายความร้อน

 

จ่านหยางนั่งอยู่ด้านข้างในชุดองครักษ์สีดำ บุคลิกลึกลับน่าค้นหา พอเคลวินยื่นขวดน้ำให้ เขาก็ส่งต่อให้กู้เซียงทันที

 

เคลวินถลึงตาใส่เหวินจิ้งด้วยความโมโห ก่อนจะเดินไปหยิบน้ำอีกขวดให้จ่านหยาง

 

“ฉากต่อไปต้องใช้ตัวแสดงแทน เธอไปพักก่อนก็ได้” เหวินจิ้งบอกกู้เซียง

 

“เซียงเซียง” เจี่ยงลี่ลี่เดินเข้ามาหา บนศีรษะยังสวมเครื่องประดับของฮองเฮาที่หนักอึ้งอยู่ “บทของเธอสองตอนสุดท้าย นักเขียนไม่ยอมเปลี่ยนให้ แย่จังเลย” เธอทำหน้าเสียดาย “อย่าแสดงดีมากนักนะ เดี๋ยวฉันร้องไห้แล้วมงกุฎบนหัวจะหล่น”

 

เจี่ยงลี่ลี่คลั่งไคล้คู่จิ้นแมวรัตติกาลเช่นกัน จึงมักจะส่งนิยายฟิคหรือคลิปวิดีโอตัดต่อคู่จิ้นมาให้กู้เซียงดู ยังมีนิยายบางเรื่องที่เน้นฉากเลิฟซีนอีก

 

“ทำไมสแตนด์อินยังไม่มาอีก?” เจี่ยงลี่ลี่ถาม

 

กู้เซียงหันซ้ายหันขวามองหาตัวแสดงแทนที่ว่า บทบาทของเธอในฉีโฮ่วจ้วนกำลังจะสิ้นสุดลง นี่คือสองตอนสุดท้ายที่ต้องเล่น

 

หมิงอ๋องแสดงให้เห็นว่าใครก็ตามที่แตะต้องผู้หญิงของเขาจะต้องชดใช้ด้วยชีวิต เช่นนี้ร่างขององครักษ์เจียงเยว่ สุนัขรับใช้ผู้ซื่อสัตย์จึงถูกโยนทิ้งที่สุสานไร้ญาติอย่างไม่ปรานี

 

หลังรู้ข่าวการตายของเจียงเยว่ คนเดียวในชีวิตที่ไว้ใจได้ สติสัมปชัญญะที่เป็นดั่งฟางเส้นสุดท้ายของเฉินเมี่ยวก็ขาดผึง

 

นางตัดสินใจเดินทางเข้าวังเพื่อไปสังหารจูชิงฮวนด้วยตนเอง ซึ่งเป็นไปได้ยากมาก เพราะจูชิงฮวนได้กลายร่างจากหญิงสาวใสซื่อบริสุทธิ์ไปเป็นปีศาจร้ายแล้ว

 

จูชิงฮวนใช้สติปัญญาของตัวเองทำเฉินเมี่ยวเสียเปรียบอย่างหนัก ภาพตัดไปตอนที่นางค่อยๆ ตื่นขึ้นในห้องคุมขัง รอวันประหารด้วยข้อหาลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้

 

เมื่อแก้ไขอะไรไม่ได้ ตระกูลเฉินจึงล่มสลายด้วยข้อหาก่อกบฏ ลูกหลานทั้งหมดถูกสังหาร

 

หมิงอ๋องแค้นที่เฉินเมี่ยววางแผนสังหารดวงใจของตน แค้นที่ตระกูลเฉินใช้อำนาจจนตัวเขาต้องยอมรับการแต่งงาน เขาไม่เพียงเมินเฉย แต่ยังซ้ำเติมนางด้วยการสังหารทุกคนในตระกูลเฉิน

 

เฉินเมี่ยวอยู่ในคุกด้วยความกระวนกระวาย เนื่องจากที่ผ่านมาเป็นศัตรูกับคนจำนวนมาก ผู้คุมจึงถูกว่าจ้างให้มาทรมานนางโดยเฉพาะ เมื่อสตรีสูงศักดิ์ที่ไม่เคยเผชิญกับความยากลำบากทนความอัปยศไม่ไหว จึงใช้ผ้าคาดเอวของตนผูกคอตายในห้องขัง

 

ฉากต่อไปกู้เซียงต้องถูกผู้คุมเหยียดหยามในคุก ทั้งถูกแส้ฟาด ทั้งกลิ้งไปมาบนพื้น ถูกเหยียบมือและจิกผม ถูกเอาศีรษะกระแทกกับกำแพงจนเลือดท่วม จึงต้องใช้ตัวแสดงแทน

 

แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่เห็นวี่แววของตัวแสดงแทนที่ว่า เหวินจิ้งเริ่มร้อนใจจึงเดินไปถามผู้กำกับ สักพักก็เดินกลับมาด้วยสีหน้าเป็นกังวล

 

“เซียงเซียง สแตนด์อินเกิดอุบัติเหตุ มากองถ่ายไม่ได้”

 

กู้เซียงขมวดคิ้วถาม “จริงเหรอ?”

 

“เลื่อนไปถ่ายพรุ่งนี้ดีไหม?” เจี่ยงลี่ลี่ออกความเห็น

 

เฉียวอิ้งฉิงรีบพูดแทรก “พวกเรากำลังเร่งถ่ายทำกันอยู่ พรุ่งนี้ก็เป็นฉากของฉันแล้ว รีบถ่ายให้เสร็จวันนี้ไปเลยดีกว่า”

 

เจี่ยงลี่ลี่ไม่เห็นด้วย “ถ้าฉากนี้ไม่มีตัวแสดงแทน เซียงเซียงคงถ่ายจนจบไม่ไหวหรอก”

 

“ฉันขอไปคุยกับผู้กำกับก่อน” เหวินจิ้งผุดลุกขึ้น เพราะในสัญญาไม่ได้ระบุถึงวิธีแก้ปัญหา

 

“ก็ถูกของเธอ” เฉียวอิ้งฉิงมองกู้เซียง “แต่สแตนด์อินไม่ได้หาง่ายๆ ต้องใช้เวลาพอสมควร”

 

การจะหาคนที่สวยพอๆ กับกู้เซียงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยความที่ละครเรื่องฉีโฮ่วจ้วนใส่ใจในทุกรายละเอียด จึงพิถีพิถันกับการคัดเลือกตัวแสดงแทนมาก

 

“เซียงเซียง” เฉียวอิ้งฉิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ฉากนี้ไม่ได้อันตรายมากมาย แค่ลำบากนิดหน่อย ตอนนี้ทุกคนกำลังเร่งถ่ายทำอยู่ อย่าคิดมากจนทำให้คนอื่นเสียเวลาเลย”

หิวแสง Give me the Spotlight

หิวแสง Give me the Spotlight

Status: Ongoing

หลอกให้รัก แล้วผลักลงนรก?

ชาติที่แล้ว ซูเปอร์สตาร์อย่างฉัน ‘กู้เซียง’ มีตาแต่ไร้แวว

ฉันถูกเศษสวะอย่าง ‘เหลียงจี้’ ดาราชายสุดหล่อหลอกให้รัก

สร้างเรื่องฉาว ดึงออกจากวงการบันเทิง และกำจัดทิ้ง

ทั้งหมดทั้งสิ้น เขาทำเพื่อเปิดทางให้ผู้หญิงในดวงใจ ‘เฉียวอิ้งฉิง’

ก้าวขึ้นมาคว้าแสงแฟลชทั้งหมดที่เคยเป็นของฉัน

เมื่อถูกโลกใบนี้ทอดทิ้ง ฉันแค้น… แค้นมันทั้งคู่

ฉันกระโดดตึกตายในวันที่สารเลวทั้งสองประกาศแต่งงานกัน!

หากย้อนวันเวลาได้อีกครั้ง กลับไปยังจุดสตาร์ตได้อีกหน

อดีตเจ้าแม่แห่งวงการบันเทิงอย่างฉันจะไม่ยอมให้พวกมันมีที่ยืน

คืน ‘แสง’ ของฉันมา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท