หิวแสง Give me the Spotlight – ตอนที่ 33

ตอนที่ 33

จู่ๆ ใบหน้าของเฉียวอิ้งฉิงที่หายไปนานก็ปรากฏขึ้น ตั้งแต่ที่ข่าวเสียๆ หายๆ ของเธอถูกเปิดโปง ซ้ำยังเข้าไปเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุรถชนของเหลียงจี้อีก บริษัทต้นสังกัดก็ยกเลิกสัญญากับเธอ เพราะไม่อยากติดร่างแหไปด้วย

วงการบันเทิงมีกฎอยู่ข้อหนึ่ง หากนักแสดงที่ไม่ได้อยู่ในกระแสถูกโจมตีด้วยข่าวเสียๆ หายๆ จะไม่กระทบต่องานเท่าไหร่ เพราะไม่นานคนก็ลืม แต่หากมีข่าวเสียหายในช่วงที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด และข่าวนั้นเป็นเรื่องจริง แปลว่าทั้งชีวิตจะไม่มีโอกาสได้กลับมาโด่งดังอีกเลย

ก่อนหน้านี้เฉียวอิ้งฉิงโด่งดังมาก พอตกจากหลังม้าก็เจ็บแทบกระอักเลือด มาวันนี้กลับมีภาพของเธอกับชายแก่ร่างท้วมปรากฏในคอนเสิร์ตของเติ้งซินอีก เรื่องซุบซิบนินทาจึงกลับมาอีกครั้ง

พอสืบสาวราวเรื่อง ทุกคนก็รู้สึกสลดใจ หลังจากที่หมดอนาคตในวงการบันเทิง เฉียวอิ้งฉิงกลับไปตามตื๊อหลี่ซั่ว คิดว่าฝ่ายนั้นจะเห็นแก่ความสัมพันธ์ที่เคยมีและช่วยเหลือเธอ แต่หลี่ซั่วกลับปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย

เขาคือนักธุรกิจที่คำนึงเรื่องผลประโยชน์เป็นสำคัญ ตอนคบกับเฉียวอิ้งฉิง นอกจากความเสน่หาที่มีต่อเธอเป็นครั้งคราว ที่เหลือคือเรื่องธุรกิจทั้งหมด

คนอย่างเขาสามารถหาเด็กที่สาวและสวยกว่าเฉียวอิ้งฉิงได้อีกมาก แล้วทำไมจะต้องเอาตัวเข้าแลกกับคนที่หมดประโยชน์ด้วย

ในโลกใบนี้ คนอ่อนแอย่อมเป็นเหยื่อของคนแข็งแกร่ง เมื่อก่อนเฉียวอิ้งฉิงเหยียบหัวคนมากมายเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ พอถึงคราวตกต่ำ ก็ถูกเอาคืนอย่างไม่ปรานี อย่าว่าแต่กลับเข้าวงการบันเทิงเลย แค่ใช้ชีวิตให้สงบสุขยังเป็นไปได้ยาก

บนหนทางที่ยิ่งเดินยิ่งลำบาก หากเฉียวอิ้งฉิงตัดสินใจออกจากวงการบันเทิง ก็คงไม่ถึงกับโชคร้ายมาก แต่เธอกลับดึงดันที่จะย้ายไปบริษัทเล็กๆ ซึ่งคนที่มาด้วยในวันนั้นคือผู้กำกับภาพยนตร์ไร้ชื่อ ที่ชอบทำหนังแนววาบหวิวไร้ศีลธรรม

ผู้กำกับไร้ชื่อคนนี้รับปากกับเฉียวอิ้งฉิงว่าจะให้เป็นนางเอกภาพยนตร์เรื่องต่อไป ด้วยความที่พวกเขาดูสนิทสนมกันมาก จึงเดาได้ไม่ยากว่าเธอได้บทนางเอกมายังไง

จากที่เคยเป็นนางเอกอันดับหนึ่ง มีชีวิตที่รุ่งเรืองในวงการบันเทิง เธอตกอับถึงขั้นไปเป็นนักแสดงหนังเกรดต่ำที่เน้นเรื่องวาบหวิวเป็นหลัก ไม่นานข่าวนี้ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนาหู

การแสดงอันหวานชื่นของกู้เซียงและจ่านหยางถูกพูดถึงพักหนึ่งก็จางหายไป แต่คำวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของเฉียวอิ้งฉิงกลับเป็นข่าวนานกว่าเดือน

“เลิกดูข่าวนี้ได้แล้ว ไม่ใช่บทที่เธอต้องท่องสักหน่อย” เหวินจิ้งแซว

กู้เซียงยังคงถือนิตยสารบันเทิงรายวันไว้ในมือ เนื่องจากเป็นช่วงพักกอง เธอจึงได้พักผ่อนอย่างเต็มที่

“อ่านของวันนี้ดีกว่า แซ่บสูดปากเลย ไอ้ผู้กำกับคนนั้นออกมาประกาศว่าไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเฉียวอิ้งฉิง และไม่มีแพลนจะให้เธอเล่นเป็นนางเอกด้วย” เหวินจิ้งทำหน้าสะใจ “ยัยเฉียวอิ้งฉิงเลยวีนแตก ป่านนี้คงทะเลาะกันยกใหญ่”

“ทะเลาะงั้นเหรอ?” กู้เซียงวางนิตยสารในมือด้วยสีหน้างุนงง “แบบนี้นี่เอง ฉันถึงไม่เคยเห็นข่าวเรื่องการแสดงของเธอในเวยป๋อเลย”

เมื่อเห็นกู้เซียงมีท่าทีสนใจ เหวินจิ้งก็กลืนส้มเข้าปาก

“สรุปก็คือยัยนั่นถูกหลอก ส่วนผู้กำกับคนนั้นก็ไม่มีอะไรต้องเสีย น่าสงสารจริงๆ พยายามแทบตายแต่กลับสูญเปล่า แทนที่เปิดตัวแล้วจะดัง กลับเสียทั้งงานเสียทั้งตัว”

ก่อนหน้านี้ เฉียวอิ้งฉิงถูกเปิดโปงอย่างหนัก จากนั้นก็ไม่ปรากฏตัวที่ไหนอีก ซึ่งการปรากฏตัวในคอนเสิร์ตก็ไม่ได้เกิดจากการตัดสินใจของเธอ

พอผู้กำกับคนนั้นเห็นกล้อง ก็จงใจทำตัวสนิทสนมเพื่อให้เกิดกระแส แต่เมื่อข่าวนี้หลุดออกไป เขากลับไม่ใช่ผู้เสียหายแต่เป็นเฉียวอิ้งฉิงที่เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด

หลังสร้างกระแสได้สำเร็จ เขาก็ถีบหัวส่งเธอ ทว่าเฉียวอิ้งฉิงไม่ยอมแพ้และตามราวีอย่างไม่ลดละ

“อยู่วงการบันเทิงมาก็นาน ทำไมถูกหลอกง่ายจัง” เหวินจิ้งพึมพำ

แม้เธอจะเกลียดเฉียวอิ้งฉิง แต่พอได้เห็นชะตากรรมของอีกฝ่าย ก็อดสะเทือนใจไม่ได้

“เขาคงรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ เลยวางแผนหลอกไงล่ะ” กู้เซียงหัวเราะ “จัดการได้ตรงจุดมาก ผู้กำกับคนนี้ฉลาดจริงๆ”

“เพราะเฉียวอิ้งฉิงคิดไม่ซื่อเอง” เหวินจิ้งทอดถอนใจ “จำได้ว่าตอนเจอกันครั้งแรกที่กองถ่ายละครเรื่องฉีโฮ่วจ้วน เฉียวอิ้งฉิงยังเป็นนางเอกอยู่เลย มาวันนี้กลับตาลปัตร ลึกๆ เธอคงรู้สึกแย่มาก สิ่งที่สู้สะสมมานานหลายปีหายไปในพริบตา ชีวิตคนเราไม่แน่นอนจริงๆ” เหวินจิ้งทอดถอนใจ

กู้เซียงคลี่ยิ้มบาง นึกถึงสิ่งที่เฉียวอิ้งฉิงเคยติดค้างกับเธอ ในเมื่อวันนี้ได้ทวงคืนแล้ว ก็ปล่อยให้อีกฝ่ายรับกรรมต่อไป

“พรุ่งนี้จะเป็นงานประกาศรางวัลโล่ทองคำ อย่าลืมท่องสุนทรพจน์ตอนขึ้นรับรางวัลด้วยล่ะ ฉันขอตัวกลับไปจัดตารางงานก่อน” เหวินจิ้งก้มมองนาฬิกา

“ถ้าไม่ได้รางวัลอะไรเลยล่ะ?” กู้เซียงประชด “ไม่เท่ากับเตรียมตัวเก้อเหรอ?”

“ไม่ได้ก็ส่งชื่อเข้าชิงไปเรื่อยๆ!” เหวินจิ้งประชดกลับ

ก่อนนอนกู้เซียงส่งข้อความไปขอกำลังใจจากจ่านหยาง

“ตื่นเต้นจังเลย”

“ไม่มีอะไรหรอกน่า” นี่คือคำตอบที่เธอได้รับจากอีกฝ่าย

ในที่สุดก็ถึงวันประกาศรางวัลที่ทุกคนรอคอย

ขณะรอเข้างาน กู้เซียงที่นั่งข้างจ่านหยางพูดประโยคเดิมซ้ำอีกครั้ง

“ตื่นเต้นจัง”

แม้ภาพยนตร์จะถ่ายทำยาก หรือต้องยืนอยู่บนเวทีที่มีผู้ชมมากแค่ไหน เธอก็รับมือได้ทุกครั้ง แต่กับงานประกาศรางวัลโล่ทองคำ กลับพูดคำว่าตื่นเต้นถึงสองรอบ

จ่านหยางกำลังจะยื่นมือไปลูบศีรษะตามความเคยชิน แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำผมสวยเป็นพิเศษ ก็รีบชักมือกลับแล้วกระแอมเบาๆ

“คุณจะกลัวไปทำไม? ถ้าไม่ได้จริงๆ เอาของผมไปก็ได้”

วันนี้กู้เซียงสวมเดรสสีทองเข้ารูปของแบรนด์จิออร์จิโอ อาร์มานี ที่ช่วยขับผิวขาวนวลราวกับน้ำนม ผมตรงยาวสลวยปราศจากการทำสี ใบหน้างดงามชวนให้หลงใหล

กู้เซียงหันไปค้อนจ่านหยาง เธอไม่ได้ตื่นเต้นกับงานประกาศรางวัล ไม่ได้ตื่นเต้นกับการต้องขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ แต่ตื่นเต้นกับผลของรางวัล เนื่องจากคาดหวังไว้สูงมาก

การได้กลับชาติมาเกิดอีกครั้ง แม้ทุกอย่างจะดูราบรื่นและเป็นไปตามแผน แต่การได้รับรางวัลนักแสดงหญิงดีเด่นแห่งปีจะเป็นเครื่องยืนยันว่าสิ่งที่เธอทำไม่สูญเปล่า

แม้แต่เกียรติยศที่เคยได้ ก็จะทวงคืนกลับมาให้หมด!

“ไม่ต้องตื่นเต้นหรอกน่า” เจี่ยงลี่ลี่พูดปลอบ “เรื่องคมมีดอาชากลายเป็นหนังคลาสสิกในตำนานขนาดนั้น ยังไงก็ได้รางวัลแน่นอน ถึงไม่ได้ก็ไม่ต้องเสียใจไปหรอก เธออายุยังน้อย เข้าวงการได้แค่สามปี มีโอกาสเติบโตอีกเยอะ”

กู้เซียงยิ้มตอบ “ว่าไงว่าตามกัน”

กู้ฉางชุนที่นั่งรออยู่ในห้องรับแขก พูดกับกู้หนานด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“ไปไหนมา ทำไมเพิ่งกลับ? งานประกาศรางวัลกำลังจะเริ่มแล้ว ซื้อพะโล้มาด้วยหรือเปล่า?”

กู้หนานไม่ตอบและยืนทำหน้าเซ็งอยู่ตรงประตู

“ฉันก็แค่อยากมาด้วย ต้องโกรธขนาดนี้เลยเหรอ?” ตู้หยู่ที่แอบอยู่ด้านหลังกระตุกแขนเสื้ออีกฝ่าย

กู้หนานสูดหายใจเข้าลึกแล้วค่อยๆ ปิดประตู

“พ่อครับ แม่ครับ วันนี้ผมมีเพื่อนมาด้วย”

สองสามีภรรยานิ่งมองเด็กสาวตรงหน้า

พอได้สติ หลัวจิ้งก็ถามด้วยรอยยิ้ม “สวยจังเลย เป็นแฟนของหนานหนานเหรอจ๊ะ?”

ตู้หยู่ก้าวขึ้นเบื้องหน้าแล้วกล่าวทักทาย “สวัสดีค่ะคุณลุงคุณป้า”

“สวัสดีจ้ะ” กู้ฉางชุนลุกขึ้นต้อนรับแล้วถลึงตาใส่ลูกชาย—หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ใครเขาพาแฟนมาเปิดตัวกัน เดี๋ยวก็ความแตกหรอก!

กู้หนานยักไหล่อย่างจนปัญญา เขาไม่ได้อยากให้ตู้หยู่ตามมาด้วย แต่เธอเกาะติดไม่ยอมปล่อย

“คุณลุงคุณป้าชอบดูงานประกาศรางวัลเหมือนกันเหรอคะ?” ตู้หยู่ขมวดคิ้วสงสัย

“ใช่จ้ะ นั่งดูไปก่อนนะ เดี๋ยวป้าจะชงน้ำชามาให้” หลัวจิ้งตอบ

เด็กหนุ่มผมหยิกมีสีหน้าเป็นกังวลเช่นกัน

“รุ่นพี่ ผมตื่นเต้นจังเลย” เขาส่งข้อความบอกอีกฝ่าย ก่อนจะยืนเด็ดกลีบกุหลาบคลายเครียด

“ได้ ไม่ได้ ได้ ไม่ได้ ได้…”

ผ่านไปครู่หนึ่ง ฝ่ายนั้นก็พิมพ์ตอบกลับมาว่า “ไอดอลของนายไม่ชอบคนตื่นเต้นง่ายหรอกนะ”

พอได้รับข้อความนี้ เด็กหนุ่มผมหยิกก็รีบนั่งตัวตรง ปั้นหน้าเป็นการเป็นงาน ควบคุมกล้องด้วยใจอันแน่วแน่

ตอนประกาศรางวัล เขาจะต้องถ่ายรูปกู้เซียงให้ได้มากที่สุด รางวัลนักแสดงหญิงดีเด่นแห่งปีจะต้องเป็นของเธอแน่นอน

เด็กหนุ่มผมหยิกหันมองดอกไม้ที่ประดับอยู่บนกำแพง ก่อนจะดึงออกมาเด็ดให้กลีบเป็นเลขคี่ทั้งหมด

ณ บ้านตระกูลจ่าน สองสามีภรรยารอดูการถ่ายทอดสดอย่างใจจดใจจ่อ

ที่อีกฟากหนึ่ง เฝิงเหวินกำโทรศัพท์ในมือแล้วถอนหายใจเบาๆ

เวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน การจะละทิ้งความทรงจำนั้นทำได้ยาก แต่เธอกำลังพยายามอยู่

แอนนาส่งผ้าเช็ดหน้าให้แล้วถามขึ้นว่า “พักก่อนดีไหม?”

เฝิงเหวินเช็ดเหงื่อบนหน้าผากแล้วลุกขึ้นยืน “ไม่เป็นไร ถ่ายฉากต่อไปกันเถอะ”

คืนนี้ดวงดาวพร่างพราวเต็มท้องฟ้า แต่ที่เปล่งประกายกว่าคือผู้คนที่มาร่วมงาน

งานประกาศรางวัลแต่ละปี จะมีดาราหน้าใหม่ขึ้นรับรางวัลเสมอ ยังมีดาราหน้าเก่าที่พยายามทุ่มเททำงานจนได้รางวัลเป็นเครื่องยืนยันความสามารถเช่นกัน แต่ไม่ใช่ว่าดาวทุกดวงบนท้องฟ้าจะเปล่งแสงสะดุดตาได้ทุกดวง

จ่านหยาง เจี่ยงลี่ลี่ หรือแม้แต่ถางรุ่ย เพื่อนสนิทของเธอหลายๆ คนขึ้นไปรับรางวัลสาขาต่างๆ กระทั่งถึงรางวัลสำคัญคือนักแสดงหญิงดีเด่นแห่งปี

หิวแสง Give me the Spotlight

หิวแสง Give me the Spotlight

Status: Ongoing

หลอกให้รัก แล้วผลักลงนรก?

ชาติที่แล้ว ซูเปอร์สตาร์อย่างฉัน ‘กู้เซียง’ มีตาแต่ไร้แวว

ฉันถูกเศษสวะอย่าง ‘เหลียงจี้’ ดาราชายสุดหล่อหลอกให้รัก

สร้างเรื่องฉาว ดึงออกจากวงการบันเทิง และกำจัดทิ้ง

ทั้งหมดทั้งสิ้น เขาทำเพื่อเปิดทางให้ผู้หญิงในดวงใจ ‘เฉียวอิ้งฉิง’

ก้าวขึ้นมาคว้าแสงแฟลชทั้งหมดที่เคยเป็นของฉัน

เมื่อถูกโลกใบนี้ทอดทิ้ง ฉันแค้น… แค้นมันทั้งคู่

ฉันกระโดดตึกตายในวันที่สารเลวทั้งสองประกาศแต่งงานกัน!

หากย้อนวันเวลาได้อีกครั้ง กลับไปยังจุดสตาร์ตได้อีกหน

อดีตเจ้าแม่แห่งวงการบันเทิงอย่างฉันจะไม่ยอมให้พวกมันมีที่ยืน

คืน ‘แสง’ ของฉันมา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท