Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2823 เขาเดินออกมาจากเมือง

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2823 เขาเดินออกมาจากเมือง

ตอนที่ 2823 เขาเดินออกมาจากเมือง

เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น

บนท้องถนนที่ขวักไขว่คับคั่ง หลินสวินเดินไปทางประตูสวรรค์ทิศใต้เพียงลำพัง

ผู้ฝึกปราณมากมายล้วนสังเกตเห็นภาพนี้แล้วแอบสงสัย เจ้าคนแซ่หลินนี่จะทำอะไร

กระทั่งเห็นเงาร่างหลินสวินเข้าใกล้ประตูสวรรค์ทิศใต้ช้าๆ ผู้ฝึกปราณระหว่างทางที่ติดตามการเคลื่อนไหวของหลินสวินล้วนตื่นตระหนก

นี่หลินสวินจะออกจากเมืองหรือ!?

นอกประตูสวรรค์ทิศใต้คือจัตุรัสมหึมาแห่งหนึ่ง โดยทั่วไปผู้เข้าออกเมืองนี้ หลังจากยืนอยู่บนจัตุรัสจะเข้าออกเมืองได้

แต่ตอนนี้บนจัตุรัสกลับเงียบสงัดไร้ผู้คน

ด้วยวันนี้ผู้ฝึกปราณที่มุ่งหน้ามาเมืองเทพศุภโชคล้วนถูกกลิ่นอายน่าหวาดกลัวไร้ขอบเขตปิดทาง ไม่อาจมุ่งหน้ามาได้

แน่นอนว่าไม่มีใครออกจากเมืองได้เช่นกัน

ดังนั้นยามเงาร่างหลินสวินปรากฏตัวบนจัตุรัสมหึมานี้จึงดูสะดุดตานัก ยืนอยู่ตรงนั้นเพียงคนเดียว ทั้งดูโดดเดี่ยวเป็นพิเศษ

ตูม!

ส่วนลึกของฟ้าดารา กลิ่นอายน่ากลัวมากมายที่สะกดกลั้นรอมานานซัดโหม หมื่นดาราส่ายสั่น ห้วงอากาศเกิดเสียงดังครั่นครืน คล้ายว่าทั่วจักรวาลฟ้าดารากำลังสั่นสะเทือนรุนแรง

จากนั้นเจตจำนงน่ากลัวมากมายม้วนพัดมาทางประตูสวรรค์ทิศใต้ แต่เมื่อเกือบจะเข้าใกล้จัตุรัสมหึมาแห่งนั้นก็ถูกพลังกฎระเบียบที่ปกคลุมทั่วเมืองนี้ต้านไว้

ด้วยเหตุนี้หลินสวินจึงไม่ได้รับผลกระทบ สีหน้าราบเรียบนิ่งสงบ

สายตาเขามองไปยังส่วนลึกของฟ้าดารา จากนั้นค่อยยิ้มพลางกล่าว “ให้ทุกท่านรอนานแล้ว”

เพียงประโยคเดียวเบาๆ ดังก้องอยู่ในฟ้าดาราปั่นป่วนเยียบเย็นแถบนี้ ทั้งเข้าหูเฒ่าดึกดำบรรพ์มากมายซึ่งรออยู่ที่นี่มาหกปีกว่านั้นด้วย

“หลินสวิน เจ้ารู้ความผิดดีใช่ไหม!”

เสียงลุ่มลึกหนึ่งดังก้อง ส่วนลึกของฟ้าดารามีชายชุดดำคนหนึ่งปรากฏตัว ผมดำเคราดำ ทั่วร่างอบอวลด้วยรัศมีสายฟ้าสีดำ ราวกับนายแห่งอสนีบาตในความมืด

เหลียงชิวเซียว!

เฒ่าดึกดำบรรพ์ระดับนิรันดร์คนหนึ่งในเผ่าเทพตระกูลเหลียงชิว

เมื่อเขามาถึงก็กล่าวโทษเสียงกร้าว หากเปลี่ยนเป็นคนทั่วไปเกรงว่าคงถูกสะเทือนจิตใจนานแล้ว

แต่หลินสวินกลับยิ้มแล้วกล่าว “ด้วยประโยคนี้ของเจ้า ก็มอบความตายให้กับชีวิตของคนตระกูลเหลียงชิวทั้งหมดในเมืองได้”

วู้ม!

ละอองแสงไหลวน ม่านแสงจอภาพหนึ่งปรากฏออกมา

ในจอภาพเผยภาพเหตุการณ์ต่างๆ ทุกภาพล้วนมีเงาร่างของผู้ฝึกปราณปรากฏ แต่เพียงพริบตาก็ถูกกำจัดโดยไร้สุ้มเสียง

เพียงชั่วขณะภาพเหล่านี้ล้วนหายลับไป

“เห็นชัดหรือยัง” หลินสวินยิ้มถาม

สำหรับเขาที่เป็นเจ้าเมืองเทพศุภโชค ภายในหนึ่งห้วงคิดก็สามารถกำจัดผู้ฝึกปราณคนใดก็ตามในเมืองได้

ห่างออกไปสีหน้าของเหลียงชิวเซียวอึมครึมลง นัยน์ตาส่องประกายวาววาบ ทำให้ฟ้าดาราแถบนี้ม้วนซัดปั่นป่วน

เขาเดือดดาลแล้ว

ด้วยผู้ถูกฆ่าที่ปรากฏในจอภาพนั้นล้วนมาจากตระกูลเหลียงชิว!

“เจ้าเดรัจฉาน!”

เหลียงชิวเซียวแผ่ไอสังหารเยียบเย็น อสนีบาตสีดำทั่วร่างกู่ก้อง ซัดหมัดออกไปทันที

ตูม!

บนท้องฟ้าเหนือเมืองเทพศุภโชคมีพลังกฎระเบียบลึกลับราวกับสิ่งต้องห้ามมาเยือนกะทันหัน เหมือนแส้เทพจากสวรรค์ ฟาดใส่พลังหมัดนี้เต็มแรงจนละเอียด ฟุ้งกระจายดังสนั่น

นัยน์ตาเหลียงชิวเซียวหดรัด ถอยหนีห่างไป ถึงได้ไม่ถูกโจมตีจากพลังกฎระเบียบนั้น

หลินสวินก็มองเห็นภาพนี้ ย่อมรู้ว่านี่คือพลังต้องห้ามที่วิวัฒน์จาก ‘กฎระเบียบลายธาร’ ซึ่งปกคลุมอยู่บนท้องฟ้าทั่วเมือง

“หลินสวิน ปล่อยบุตรเทพแต่ละเผ่าของพวกเราไป พวกเราจะไว้ชีวิตเจ้า มิฉะนั้นชาตินี้ทั้งชาติเกรงว่าเจ้าจะออกจากเมืองนี้ไม่ได้อีก”

เสียงแหบชราขุ่นมัวหนึ่งดังขึ้น

ก็เห็นฟ้าดาราที่ห่างไกลมีร่างเด็กหนุ่มชุดทองคนหนึ่งปรากฏ นัยน์ตาดุจโคมทองสาดแสงเจิดจ้า ยืนมือไพล่หลัง ด้านหลังมีเพลิงเทพหมื่นจั้งพุ่งออกมา ราวกับจะผลาญฟ้าดารา กลิ่นอายน่ากลัวถึงขีดสุด

เขาดูเหมือนเด็กหนุ่ม แต่เสียงกลับแหบชราขุ่นมัวเป็นอย่างยิ่ง

คนผู้นี้ก็คือเฒ่าดึกดำบรรพ์คนหนึ่งในตระกูลเกาหยาง เกาหยางจิ้ง

“นี่คือความเห็นของพวกเจ้าทุกคนหรือ” หลินสวินถาม

“ไม่ผิด” เกาหยางจิ้งพยักหน้า

หลินสวินถอนใจยาวแล้วกล่าว “น่าเสียดาย”

เกาหยางจิ้งขมวดคิ้วพลางกล่าว “น่าเสียดายอะไร”

หลินสวินกล่าว “เมื่อคืนข้าสังหารบุตรเทพและธิดาเทพสามสิบเจ็ดคนที่จับตัวมาแล้ว หากพวกเจ้าพูดเร็วกว่านี้ พวกเขาก็ไม่ต้องตายแล้ว…”

เขาเผยสีหน้าผิดหวัง

แต่คำพูดพวกนี้กลับกระตุ้นจนเฒ่าดึกดำบรรพ์อย่างพวกเกาหยางจิ้งทั้งตระหนกและขุ่นเคือง แทบไม่กล้าเชื่อหูตัวเอง

“บังอาจ! เจ้าถึงกับฆ่าพวกเขาแล้วหรือ”

“เจ้าสวะบัดซบ เจ้าสมควรโดนพันมีดหมื่นแล่จริงๆ!!”

“บ้าเอ๊ย น่าชังนัก…”

ฟ้าดาราปั่นป่วน หมื่นดาราสั่นไหว เสียงคำรามเดือดดาลดังก้องส่วนลึกของฟ้าดารา ราวกับเหล่าเทพบันดาลโทสะ

เฒ่าดึกดำบรรพ์พวกนี้ต่างคาดไม่ถึงว่าหลินสวินจะกล้าฆ่าตัวประกัน!

การเคลื่อนไหวชวนประหวั่นนั้นทำให้ผู้ฝึกปราณทุกคนในเมืองเทพศุภโชคตื่นตระหนก แต่ละคนหน้าเปลี่ยนสีไม่หยุด ในใจสงสัยยิ่งกว่าเดิมว่าหลินสวิน…

คิดจะทำอะไรกันแน่!?

“เจ้าทำเช่นนี้ คิดเอาตัวรอดด้วยการอยู่ในเมืองนี้ไปชั่วชีวิตหรือ”

เนิ่นนานกว่าเกาหยางจิ้งจะเอ่ยปาก ชุดคลุมทองสะบัดโบก กลิ่นอายน่าหวาดกลัว

“ไม่ ข้าคนแซ่หลินจะจากไปวันนี้”

หลินสวินส่ายหัว

จากไป!?

เฒ่าดึกดำบรรพ์ในส่วนลึกของฟ้าดาราเหล่านั้นล้วนอึ้งไปครู่หนึ่ง ไม่มีตัวประกันแล้ว เขายังจะมีชีวิตรอดจากไปอีกหรือ

“ดูเจ้ามั่นใจมาก คงไม่ใช่มีแผนอื่นกระมัง”

เกาหยางจิ้งถาม

หลินสวินพยักหน้า “นั่นแน่นอนอยู่แล้ว”

เฒ่าดึกดำบรรพ์อย่างพวกเกาหยางจิ้ง เหลียงชิวเซียวไม่วายขมวดคิ้วทันที พวกเขาไม่เข้าใจยิ่ง ในแหล่งสถานศุภโชคนี้ใครจะช่วยหลินสวินได้อีก ทั้งมีใครกล้าเป็นศัตรูกับเผ่าเทพอย่างพวกเขาบ้าง

นี่ไม่ใช่การรนหาที่ตายหรือ!?

หลินสวินไม่พูดมากความอีก ในมือพลันมีกาหลอมจิตปรากฏออกมา สมบัตินี้มีลายพร้อยทั่วตัวเรือน แผ่แสงมรรคลึกลับขุ่นมัว

“กาหลอมจิตของเจ้าเฒ่าเลือดทมิฬ!”

เพียงพริบตาก็มีเฒ่าดึกดำบรรพ์จำได้

“ที่แท้ก็เป็นเฒ่าชรานี่”

คนอื่นๆ ต่างนึกขึ้นมาได้เช่นกัน นานมาแล้วเคยมีคนท่องอยู่ในยุคมหานรก มือถือกาหลอมจิต สำแดงอานุภาพสะท้านโลกถึงขีดสุด

เคยมีผู้ยิ่งใหญ่ของเผ่าเทพต้องการชิงสมบัตินี้ แต่กลับถูกสมบัตินี้หลอมตายทั้งเป็น!

“เดิมทียุคมหานรกเป็นอาณาเขตของเผ่าเทพตระกูลอู่ แต่ถูก ‘คนต่างถิ่น’ กลุ่มหนึ่งยึดครองเมื่อนานมาแล้ว จักรพรรดินรกเลือดทมิฬก็เป็นหนึ่งในนั้น”

มีคนเอ่ยเสียงเบา

“ถ้าเช่นนั้นดูท่าว่าเจ้าหมอนี่คงได้รับการช่วยเหลือจากคนต่างถิ่นพวกนั้น”

คนส่วนใหญ่ต่างตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง นัยน์ตาฉายแววเยียบเย็น

“น่าขัน หลายปีมานี้เหล่าคนต่างถิ่นนี่แค่มีชีวิตอยู่ในยุคมหานรก ไม่กล้าก่อคลื่นลมโดยสิ้นเชิง มิฉะนั้นเกรงว่าคงถูกพวกเราเผ่าเทพกำจัดไปนานแล้ว ตอนนี้ด้วยพลังของพวกเขา ยังกล้าคิดเพ้อเจ้อจนเข้ามายุ่งเรื่องนี้อีกหรือ รนหาที่ตายชัดๆ!”

“บางทีพวกเขาอาจมาเพื่อโลงนิรันดร์ คิดทุ่มสุดตัวโดยไม่คำนึงถึงอะไร”

“ฮึ เช่นนั้นวันนี้พวกเราก็ฉวยโอกาสนี้ ทำให้คนต่างถิ่นพวกนี้รู้ว่าใครคือนายเหนือหัวที่แท้จริงของแหล่งสถานศุภโชคนี่!”

กาหลอมจิตใบเดียวกลับทำให้เฒ่าดึกดำบรรพ์พวกนั้นคาดเดาข้อมูลมากมายได้ในพริบตา สามารถเห็นได้ว่าเฒ่าชราที่มีชีวิตอยู่มาไม่รู้กี่กาลเวลาพวกนี้สายตาเฉียบคมระดับใด

หลินสวินไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้

การต่อสู้ที่ใกล้จะเกิดขึ้นนี้ แม้ว่าเขาเป็นผู้เข้าร่วม แต่ย่อมไม่มีทางมีความสามารถไปท้าประลองกับระดับนิรันดร์คนใดก็ตาม

ต่อให้อีกฝ่ายเป็นแค่รูปจำลองเจตจำนง

แต่ถ้าอยากสังหารระดับอมตะขั้นอายุขัยเทียมฟ้าขั้นสมบูรณ์อย่างเขา ก็ยังง่ายดายเหมือนบี้มดตัวหนึ่งให้ตาย

กล่าวกันถึงที่สุดแล้ว นี่จะเป็นการประลองระหว่างระดับนิรันดร์

ส่วนเขาจะออกจากแหล่งสถานศุภโชคได้หรือไม่ อยู่ที่เหล่าผู้มากความสามารถแห่งดินแดนรกร้างโบราณอย่างพวกเฉินหลินคง ว่าจะสามารถคลี่คลายสถานการณ์คับขันตรงหน้าได้หรือไม่

หลินสวินไม่กังวลในจุดนี้

ดังนั้นหลังจากเรียกกาหลอมจิตออกมา เงาร่างเขาก็พุ่งวาบไปยังฟ้าดาราที่ห่างไกล

ตูม!

ขณะที่เงาร่างหลินสวินเพิ่งออกจากเขตเมืองเทพศุภโชค มือใหญ่สีทองราวกับบดบังฟ้าปรากฏขึ้นกลางอากาศ ยื่นคว้ามาเต็มแรง

นิ้วทั้งห้าของมือใหญ่สีทองนั้นดุจเสาค้ำสวรรค์ ฝ่ามือดั่งร่องรอยมหามรรค อบอวลด้วยพลังน่ากลัวของระดับนิรันดร์ ราวกับว่าซัดภูผาธาราทั่วหล้าจนละเอียดได้

“ข้าเอง!”

ในกาหลอมจิตมีเสียงเยียบเย็นหนึ่งดังขึ้น

สิ่งที่ไวกว่าเสียงคือกิ่งไม้ที่สาดประกายดาราสีเงินแทงออกมาด้วยความเร็วน่าเหลือเชื่อ ขวางอยู่หน้ามือใหญ่สีทองนั่น

ดวงดาวมากมายที่ควบรวมอยู่บนกิ่งไม้นี้ระเบิดออกทันที!

ฟ้าดาราแถบนี้สั่นสะเทือนรุนแรง กระแสน้ำหลากชวนประหวั่นหาใดเปรียบม้วนพัด แสงศักดิ์สิทธิ์เจิดจ้าส่องสะท้อนฟ้าดารามืดมิดจนงามแปลกตาไปทั้งแถบ

มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าว่ามือใหญ่สีทองนั้นถูกแทงทะลุจนระเบิดออกทันที

ในฟ้าดาราที่ห่างไกลมีเสียงฮึเย็นชาหนึ่งดังขึ้น

จากนั้นเงาร่างชายวัยกลางคนที่สวมชุดคลุมยาวแดงเพลิงพลันปรากฏ มือถือบรรทัดหยกเล่มหนึ่ง ทั่วร่างอบอวลด้วยภาพมรรคลึกลับคลุมเครือ อานุภาพชวนตะลึง

อิ๋งจั่น!

เฒ่าดึกดำบรรพ์แห่งเผ่าเทพตระกูลอิ๋ง ก่อนหน้านี้เป็นเขาที่ซัดมือใหญ่สีทองออกไป คิดจับตัวหลินสวินตั้งแต่พริบตาแรก

แต่ล้มเหลวแล้ว

หลินสวินไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

ตรงหน้าเขาต้นไม้เทพสูงหมื่นจั้งต้นหนึ่งตั้งตระหง่าน บนกิ่งก้านเต็มไปด้วยดวงดาว กลิ่นอายแข็งแกร่งราวกับฟ้าดาราแรกกำเนิดแห่งหนึ่ง

“สมเป็นต้นไม้เทพหมื่นดารา วันนี้ข้าจะหลอมเจ้าเป็นศาสตรามรรค!”

ท่ามกลางเสียงเยียบเย็นเหี้ยมเกรียม อิ๋งจั่นลงมืออีกครั้ง บรรทัดหยกในมือวาดมากลางอากาศ

“มดเขย่าไม้ใหญ่ ไม่ประมาณตนเอง”

กิ่งก้านมากมายบนต้นไม้เทพหมื่นดาราทอดยาวถึงฟ้าดารา ราวแส้เทพสวรรค์หลากสายระบำคลั่ง เพียงพริบตาก็ห้ำหั่นดุเดือดกับอิ๋งจั่น

หว่างคิ้วหลินสวินเผยลายมรรคสีทองอยู่รางๆ นี่คือพลังที่มาจากเฉินหลินคง ทำให้เขาไม่ได้รับผลกระทบจากพลังต่อสู้เช่นนี้

ไม่อย่างนั้นอย่าว่าแต่พุ่งออกจากฟ้าดาราแถบนี้เลย เพียงพริบตาก็คงถูกคลื่นการต่อสู้น่ากลัวนั้นซัดตายทั้งเป็น!

“ตาม!”

เสียงตวาดหนึ่งดังขึ้น

กลางอากาศพลันปรากฏเจดีย์สมบัติสาดแสงสว่างไสว กดอัดฟ้าดาราดังสนั่น พุ่งมาครอบตัวหลินสวิน

เฒ่าดึกดำบรรพ์อีกคนลงมือแล้ว เขาเรียกเจดีย์สมบัติออกมา ต้องการจับตัวหลินสวิน

ในช่วงเวลาวิกฤตนี้ทวนศึกเล่มหนึ่งพลันทลายอากาศออกมาจากกาหลอมจิต

ตึง!!!

เจดีย์สมบัติที่สาดแสงสว่างไสวนั่นถูกซัดกระเด็นออกไปอย่างแข็งกร้าว

เมื่อมองผู้กุมทวน เขาสวมชุดศึกสีดำ เงาร่างสูงตระหง่านดั่งภูเขา ราวกับจักรพรรดิผู้อาจหาญเหนือโลกองค์หนึ่ง เป็นจักรพรรดินรกเลือดทมิฬนั่นเอง

“เจ้าหนู มุ่งหน้าต่อไปก็พอ”

มือเขากุมทวน นัยน์ตาเยียบเย็นดุจอสนี เบิกทางอยู่ข้างหน้า

“หึ อาศัยเจ้าเนี่ยนะ”

เจ้าของเจดีย์สมบัติปรากฏตัวแล้ว เป็นชายชราร่างบางตัวเตี้ยคนหนึ่ง ถือเจดีย์สมบัติพุ่งโจมตีมา กลิ่นอายชวนประหวั่นสะเทือนฟ้าดาราจนทรุดทลาย

ตูม!

ฟ้าดินพลิกตลบ ฟ้าดาราปั่นป่วน

ดวงดาวนับไม่ถ้วนแตกระเบิดในการต่อสู้ที่เรียกได้ว่ายิ่งใหญ่ครานี้ กระแสมหามรรคปานดับสลายม้วนพัดออกมา ทำให้ห้วงอากาศว่างเปล่าเผยภาพพังทลาย

นอกจากเมืองเทพศุภโชคแล้ว สถานที่อื่นล้วนโกลาหล!

หลินสวินสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ไม่ได้ชมการต่อสู้ มือถือกาหลอมจิตมุ่งหน้าต่อไป

……………….

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads แทงบอลออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน