Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2879 พลังของคนผู้เดียว พลิกจักรวาล

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2879 พลังของคนผู้เดียว พลิกจักรวาล

ตอนที่ 2879 พลังของคนผู้เดียว พลิกจักรวาล

แสงเคลื่อนไหวราวกับพิรุณ ห้วงอากาศอึงอลรุนแรงระลอกหนึ่ง

เงาร่างสะดุดตาประหนึ่งเทพกลุ่มหนึ่งปรากฏ เป็นสัตว์ประหลาดเฒ่าของสิบยักษ์ใหญ่อมตะนั่นเอง ทุกคนล้วนมีมรรควิถีขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์

ในด้านพลังปราณ ไม่มีใครที่ด้อยกว่าฟางเต้าผิง!

ยามพวกเขาปรากฏตัว อานุภาพที่พลุ่งพล่านทั่วร่างม้วนพัดมาทางพวกหลินสวินอย่างล้นหลาม

“ฟางเต้าผิง ขอเพียงทิ้งระเบียบระดับเทพไว้ พวกเราสามารถให้โอกาสพวกเจ้ารอดชีวิตได้!”

ผู้นำคือสัตว์ประหลาดเฒ่าตระกูลหวัง นามว่าหวังจ้งหยวน ผมขาวหนวดเรียว รูปร่างผอมตอบ กลิ่นอายทั่วร่างกลับแข็งกร้าวที่สุด

สัตว์ประหลาดเฒ่าคนอื่นๆ ไอสังหารพลุ่งพล่าน พลังขับเคลื่อนล้วนพุ่งเป้าไปที่พวกหลินสวิน

“ภายในสามลมหายใจ พวกเราต้องการคำตอบที่แน่ชัด”

หวังจ้งหยวนเสียงนิ่งสงบทรงพลัง

เห็นชัดว่าเขาไม่คิดจะเสียเวลาใดๆ

“ผู้อาวุโส ท่านสามารถจัดการได้กี่คน”

หลินสวินถามตรงๆ

“สี่คน”

ฟางเต้าผิงตอบโดยไม่คิด

“พอแล้ว”

หลินสวินตัดสินใจ “ผู้อาวุโสหลีเจิน การต่อสู้ครั้งนี้ท่านหลบเลี่ยงหน่อยเถิด”

ขณะพูดก็คว้าแขนของหลีเจินโดยไม่เปิดโอกาสให้เอ่ยปาก เก็บเข้าไปในเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง ตั้งแต่ต้นจนจบหลีเจินไม่ทันได้ปฏิเสธด้วยซ้ำ

นี่ทำให้ฟางเต้าผิงอึ้งไปเช่นกัน ที่เขาคิดไว้คือตนจะรั้งอยู่ ขวางคู่ต่อสู้เหล่านี้ สร้างโอกาสหนีให้หลินสวินและหลีเจิน

แต่ตอนนี้หลินสวินกลับตัดสินใจไปก่อนแล้ว!

เห็นภาพนี้สัตว์ประหลาดเฒ่าทั้งสิบอย่างพวกหวังจ้งหยวนสบตากัน ลงมือโดยไม่ลังเลใดๆ

ตูม!

หวังจ้งหยวนโบกมือเรียกกระบี่มรรคเล่มหนึ่งออกมา นำขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์อีกเจ็ดคนโจมตีใส่ฟางเต้าผิงทันที

จับโจรต้องจับหัวหน้า

ขอเพียงจัดการฟางเต้าผิงได้ ในสายตาพวกเขาหลินสวินที่เพิ่งแจ้งมรรคขั้นหลุดพ้นก็คือแมลงที่สามารถฆ่าได้ตามอำเภอใจ

ก่อนไล่ตามมาโจมตี พวกหวังจ้งหยวนหารือกลยุทธ์ต่อสู้ไว้แล้ว

ไม่ลงมือไม่ว่า เมื่อลงมือขึ้นมาก็จะกำจัดภัยคุกคามอย่างฟางเต้าผิงให้สิ้นซากทันที!

“ฆ่า!”

ขั้นหลุดพ้นคนอื่นๆ อีกเจ็ดคนต่างเรียกสมบัติอื่นๆ อย่างทวนศึก หอกยาว ผนึกโบราณ ภาพมรรค ระฆังสำริด จานหยก เตาหลอม บรรทัดหยกออกมา ล้วนเป็นศาสตรามรรคบริสุทธิ์ที่แข็งแกร่ง สีสันพร่างพราว แสงมรรครุนแรง อานุภาพที่ปลดปล่อยออกมาก็น่ากลัวไร้ขอบเขต

ชั่วขณะเดียวฟ้าดาราแถบนี้ปั่นป่วนเป็นคลื่นราวกับผิวทะเล ห้วงอากาศทรุดทลายเป็นแถบๆ ดวงดาวนับไม่ถ้วนระเบิดแหลกเป็นฝุ่นผงท่ามกลางเสียงปังๆๆ ระลอกหนึ่ง กระแสมหามรรคปานทำลายล้าง ดุจดั่งสมุทรซัดสาด ม้วนตัวออกมาในชั่วขณะนี้

ในฐานะรองหัวหน้าหอลัทธิแรกกำเนิด ฟางเต้าผิงย่อมไม่ใช่ผู้ที่คนระดับเดียวกันทั่วไปจะเทียบได้ ทันทีที่การต่อสู้ปะทุขึ้น ในมือเขาก็มีดาบยาวที่ราวกับปีกจักจั่นเล่มหนึ่งเพิ่มเข้ามา ขาวประกายดุจหิมะ

สวบ!

แม้ถูกล้อมโจมตี ฟางเต้าผิงกลับไม่หลบไม่หนี เข้าไปรับโดยตรง เงาร่างผอมสาดประกายแสงมหามรรคอันน่ากลัวออกมาทันที อานุภาพพุ่งทะลวงเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน

เคร้ง!!

กระบี่ที่หวังจ้งหยวนฟันออกมา ถูกซัดสะเทือนออกไปโดยตรง

เงาร่างของฟางเต้าผิงฉวยโอกาสพุ่งปราดเข้าไป ดาบยาวขาวหิมะส่งเสียงครวญใส ปลดปล่อยปราณดาบแน่นขนัดนับไม่ถ้วน อหังการดุดัน ภายในสั่งสมพลังกฎเกณฑ์ที่เหนือจินตนาการ

ชั่วขณะหนึ่งการล้อมโจมตีของสัตว์ประหลาดเฒ่าขั้นหลุดพ้นทั้งแปดอย่างพวกหวังจ้งหยวน กลับไม่สามารถกำราบฟางเต้าผิงได้!

อีกด้านสัตว์ประหลาดเฒ่าสองคนโจมตีเข้าใส่หลินสวิน คนหนึ่งเป็นสัตว์ประหลาดเฒ่าตระกูลจิง นามว่าจิงทั่วซาน อีกคนเป็นสัตว์ประหลาดเฒ่าตระกูลจงหลี นามว่าจงหลีเฉียว

ทั้งสองล้วนมีพลังปราณขั้นสัมบูรณ์ อยู่มาไม่รู้นานเท่าไร ตอนนี้คนหนึ่งควบคุมเจดีย์สมบัติสีชาด คนหนึ่งถือแส้ยาวสีทอง เข้าโจมตีขนาบหลินสวิน

ตูม!

เจดีย์สมบัติทะยานอากาศ กฎเกณฑ์กึกก้อง ราวกับจะกำราบเวิ้งฟ้า อานุภาพน่าสะพรึงไร้ขอบเขต

ส่วนแส้ยาวสีทองของจงหลีเฉียวยิ่งพิสดารน่ากลัว เหมือนโซ่เทพระเบียบที่มีอยู่ทุกแห่งหน ทุกครั้งที่ฟาดลงมาล้วนซัดห้วงอากาศแหลกละเอียด แข็งกร้าวอหังการ

หากเปลี่ยนเป็นผู้แข็งแกร่งขั้นหลุดพ้นขั้นต้นคนอื่นๆ ย่อมไม่อาจต้านทาน ถูกกำราบสังหารไปอย่างง่ายดายแล้ว

หลินสวินย่อมไม่มีทางนิ่งรอความตาย

ตูม!

เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งทะยานออกมา มรรควิถีทั้งร่างเขาโคจรถึงขีดสุด ยามเตากระบี่และเจดีย์สมบัติของจิงทั่วซานเข้าปะทะกัน หลินสวินกลับไม่ได้ถูกซัดสะเทือนจนถอยออกไป

นี่ทำให้จิงทั่วซานนัยน์ตาหดรัด

เดิมทีเขาคิดว่าการจัดการคนรุ่นหลังที่เพิ่งทะลวงขั้นคนหนึ่ง ย่อมสามารถทำได้อย่างง่ายดายไม่เปลืองแรง แต่ตอนนี้หลินสวินกลับใช้มรรควิถีขั้นต้นสกัดขวางการโจมตีของคนที่อยู่ในขั้นสัมบูรณ์อย่างเขา!

นี่เหลือเชื่อมาก

ฟุ่บ!

แต่ขณะเดียวกันแส้ยาวที่ราวกับโซ่เทพสีทองเส้นหนึ่งปรากฏกลางอากาศ เข้ารัดเบาๆ มัดหลินสวินเอาไว้

ในดวงตาจงหลีเฉียววาบประกายเย็นเยียบ เพียงกระตุกข้อมือ หลินสวินที่ถูกมัดไว้ก็พุ่งมาหาเขาอย่างไม่อาจควบคุม

เขายื่นมือขวาออกไปจะคว้าคอของหลินสวิน หมายจะจับเขาทั้งอย่างนี้

ก็เป็นตอนนี้เอง…

ตูม!

กายมรรคทั้งห้าพุ่งออกมาโดยพลัน ทุกร่างล้วนเปล่งแสง ใช้วิชาสูงสุดโจมตีสังหารจงหลีเฉียว ดูประหนึ่งเทพที่ปรากฏกลางอากาศห้าคน

การเปลี่ยนแปลงนี้รวดเร็วเกินไป แต่การตอบสนองของจงหลีเฉียวไม่อาจเรียกว่าไม่ไว ใช้วิชาลับโดยตรง ยื่นมือขวาออกไปควบรวมเป็นปราการม่านแสงที่แปลงจากพลังกฎเกณฑ์แน่นขนัดนับไม่ถ้วน

ขวางอยู่ตรงหน้า

เพียงแต่น่าเสียดาย เขาไม่รู้ว่ามรรควิถีที่ขั้นต้นของหลินสวินเย้ยฟ้าและน่ากลัวเพียงใด และไม่รู้ว่ากายมรรคทั้งห้าล้วนมีพลังต่อสู้ที่ไม่ด้อยกว่าร่างต้น

ตอนนี้เมื่อจู่โจมพร้อมกัน ทั้งยังเป็นในระยะใกล้ ม่านแสงของเขาที่รีบสำแดงออกมามีหรือจะต้านได้

พลันได้ยินเสียงระเบิดดังปัง!

ม่านแสงนั่นระเบิดตรงๆ ประหนึ่งกระดาษเปื่อย ละอองแสงนับไม่ถ้วนสาดกระเซ็น

สีหน้าของจงหลีเฉียวเปลี่ยนไปทันที หลบหนีไม่ทันแล้ว ทำได้เพียงใช้พลังทั้งหมดเข้าต้าน

ตูม โครม!

เสียงปะทะดังสะเทือนฟ้าดิน ภายใต้การล้อมโจมตีของกายมรรคทั้งห้า ถึงกับซัดพลังป้องกันทั้งหมดของจงหลีเฉียวระเบิด ร่างมรรคที่เรียกได้ว่าอมตะไม่ทลายของเขาถูกโจมตีจนเละ เลือดสดสาดกระเซ็น

ส่วนแส้ยาวสีทองที่สูญเสียการควบคุมก็ยากที่จะมัดร่างต้นของหลินสวินได้อีก ถูกร่างต้นของหลินสวินแหวกออกตรงๆ

ตูม!

ทันทีที่หลุดพ้น ร่างต้นของหลินสวินก็โคจรอภินิหารประตูเนรเทศ แปลงเป็นเงาแสงสายหนึ่งผสานลงไปในเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งก่อนกระแทกลงอย่างรุนแรง

จงหลีเฉียวที่บาดเจ็บสาหัสอยู่ก่อนจะต้านการโจมตีอันเผด็จการนี้ได้อย่างไร ทันทีที่ถูกเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งโจมตี เงาร่างเขาก็หายไปกลางอากาศ ถูกกำราบไปในประตูเนรเทศ

เหตุกาณณ์ทั้งหมดแทบจะจบสิ้นในหนึ่งลมหายใจ!

เร็วจนน่าเหลือเชื่อ

จิงทั่วซานซึ่งอยู่ไกลออกไป เดิมเห็นหลินสวินถูกแส้ยาวสีทองมัด ก็คิดว่าจุดจบถูกกำหนดแล้ว แต่ใครจะคิดว่าภาพเหตุการณ์หลังจากนั้นกลับเป็นหลินสวินพลิกสถานการณ์ สังหารขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์อย่างจงหลีเฉียวในคราเดียว!

ยามเห็นร่างของจงหลีเฉียวหายไปกลางอากาศ จิงทั่วซานก็ตกใจจนเหงื่อท่วมตัว เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร!?

ใครจะกล้าเชื่อว่าเจ้าหนุ่มที่เพิ่งก้าวสู่ขั้นหลุดพ้นขั้นต้นคนหนึ่ง กลับสามารถกำจัดขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์ที่มีชีวิตอยู่มาไม่รู้นานเท่าไรคนหนึ่งได้ในชั่วพริบตา

ภาพนี้เหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าที่กำลังล้อมโจมตีฟางเต้าผิงก็เห็นเช่นกัน แต่ละคนนัยน์ตาหดรัด หน้าเปลี่ยนสีไม่หยุด

ก่อนจะลงมือพวกเขาล้วนคิดว่าภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือฟางเต้าผิง จึงลงแรงทั้งหมดกับการจัดการฟางเต้าผิง

ใครจะคิดว่าเพิ่งจะเริ่มเปิดศึกไม่นาน เหยื่อที่ถูกพวกเขามองว่าสามารถสังหารได้ตามใจอย่างหลินสวิน กลับฆ่าพวกพ้องคนหนึ่งของพวกเขา!

“แบ่งคนไปจัดการหลินสวินสองคน คนอื่นๆ ใช้พลังทั้งหมดกำราบฟางเต้าผิงโดยไว!””ฮณ๊ฯดฯฌซ,

หวังจ้งหยวนตะโกน

ทันใดนั้นพลันมีสัตว์ประหลาดเฒ่าสองคนปลีกตัวออกไป พุ่งไปทางหลินสวิน เสริมทัพให้จิงทั่วซาน

และตั้งแต่ตอนนี้ สัตว์ประหลาดเฒ่าจากสิบยักษ์ใหญ่อมตะเหล่านี้ล้วนไม่มีการปกปิดอีกต่อไป เผยมรรควิถีและวิชาทั้งหมดออกมา

ตูมโครม!

ฟ้าดาราผืนนี้เหมือนจะทรุดทลาย กระแสแสงมรรคนับไม่ถ้วนพุ่ปะทะ ศาสตรามรรคที่สามารถผลาญภูผาต้มสมุทรได้บินล่อง ต่างปลดปล่อยอานุภาพล้นฟ้าปานอมตะออกมา ราวกับเทพกำลังต่อสู้อย่างไรอย่างนั้น

ภาพเช่นนั้นน่ากลัวเกินไป!

ขั้นหลุดพ้นยืนตระหง่านอยู่บนปลายยอดของมรรคาอมตะ ไม่ถูกจำกัดโดยกฎระเบียบฟ้าดินอีกต่อไป พลังที่ครอบครองสามารถวางอำนาจในน่านฟ้าที่เก้าได้!

ในโลกยอดนิรันดร์ ระดับขั้นนี้ก็คือผู้ที่สรรพชีวิตมากมายทำได้เพียงชื่นชมกราบไหว้

แต่ตอนนี้เหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าที่มาจากสิบยักษ์ใหญ่อมตะ กำลังเปิดฉากเข่นฆ่าดุเดือดกับฟางเต้าผิงและหลินสวินในฟ้าดาราแถบนี้ แค่คิดก็รู้ว่าพลังทำลายล้างระดับนี้ยิ่งใหญ่เพียงใด

เปลี่ยนเป็นโลกอื่นเกรงว่าคงมีซากศพเต็มเกลื่อน เลือดเต็มจักรวาลนานแล้ว!

แต่ในการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ตะลึงโลกนี้ เหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่ากลับเริ่มรู้สึกถึงภัยคุกคามจากหลินสวิน!

เพียงครู่เดียว

ภาพที่เหมือนยามจงหลีเฉียวถูกกำราบก่อนหน้านี้เกิดขึ้นอีกครั้ง

สองร่างแยกของหลินสวินสกัดขวางคู่ต่อสู้คนหนึ่งเอาไว้ ส่วนร่างต้นของเขากับร่างแยกอีกสามร่างเข้าล้อมโจมตีจิงทั่วซานด้วยกัน ชั่วพริบตาเท่านั้นจิงทั่วซานก็แผลเต็มตัว ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ทันตั้งตัว ก็ถูกประตูเนรเทศที่แปลงเป็นกลุ่มแสงวนเวียนอยู่บนเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งเข้ากำราบและอันตรธานหายไป

นี่เป็นขั้นหลุดพ้นขั้นสัมบูรณ์คนที่สองที่ล้มในมือหลินสวิน!

และวิธีที่เขาใช้กำราบสัตว์ประหลาดเฒ่าทั้งสองอย่างจงหลีเฉียวและจิงทั่วซาน ก็ทำให้พวกสัตว์ประหลาดเฒ่าในที่นั้นอกสั่นขวัญแขวนขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่

พวกเขาไม่เคยรู้จักอานุภาพของอภินิหารประตูเนรเทศ ถึงขั้นที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินมาก่อน ย่อมไม่รู้ว่าแม้การใช้อภินิหารต้องห้ามนี้จะผลาญพลังเกือบสามส่วนของหลินสวินในชั่วพริบตา แต่ยามบีบอัดพลังอภินิหารนี้ถึงขีดสุด สามารถคงอยู่ได้เป็นเวลาครึ่งชั่วยาม!

“เป็นไปได้อย่างไร!”

“ทุกคนระวัง เจ้าหมอนี่มีอภินิหารต้องห้ามบางอย่าง!”

ในที่นั้นมีเสียงตะโกนด้วยความเดือดดาลดังระลอกหนึ่ง

พลังต่อสู้ที่หลินสวินเผยออกมาเหนือความคาดหมายของพวกเขาโดยสมบูรณ์ เจ้าหนุ่มคนหนึ่งจะไปกำราบขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์ได้อย่างไร

นี่เพียงแค่เหลือเชื่อเสียที่ไหน แปลกประหลาดชัดๆ!

“ไปอีกสี่คน ไปจัดการเจ้าเดรัจฉานนั่น!”

หวังจ้งหยวนตะโกน สีหน้าเขาคล้ำเขียวแล้ว

ฮูม!

ทันใดนั้นมีสัตว์ประหลาดเฒ่าสี่คนพุ่งเข้ามาอีก เล่นงานร่างต้นและกายมรรคทั้งห้าของหลินสวินพร้อมกับสัตว์ประหลาดเฒ่าอีกสองคน

เช่นนี้แรงกดดันฝั่งฟางเต้าผิงจึงลดลงทันที เหลือเพียงหวังจ้งหยวนและสัตว์ประหลาดเฒ่าอีกคนแล้ว…

เมื่อเป็นดังนี้ สถานการณ์การในสนามรบตอนนี้ หลินสวินจึงกลายเป็นจุดสนใจที่ถูกจับตามองที่สุด

เขาคนเดียวไม่เพียงสังหารสัตว์ประหลาดเฒ่าไปสองคนก่อนหน้านี้ ตอนนี้ยิ่งสกัดขวางสัตว์ประหลาดเฒ่าหกคนไว้!

นี่ทำให้ฟางเต้าผิงยังยากจะเชื่อ

ก่อนหน้านี้เขาคิดไม่ถึงสักนิด ว่าสถานการณ์จะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่เหนือความคาดหมายเช่นนี้!

………………….

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads แทงบอลออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน