พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” – ตอนที่ 87

ตอนที่ 87

บทที่6ตอนที่4

ชี้แจงจากคนแต่ง : ต้องขออภัยด้วยครับที่เปลี่ยนแปลงเนื้อหาบางส่วน เนื่องจากเนื้อหาส่วนมากมีความซับซ้อน ดังนั้นจะลดความซับซ้อนและความยาวของแต่ละตอนลง

ชั้นเรียนได้เริ่มต้นขึ้นหลังจากหมดพักกลางวัน สำหรับนักเรียนผู้หิวโหยแล้ว คาบบรรยายนี่มันนรกเดินดิน

เลือดที่กระจุกตัวอยู่ในระบบย่อยอาหารพยายามย่อยสารอาหารเพื่อเอาสารอาหารมาหล่อเลี้ยงร่างกาย ส่งผลให้เลือดไหลเวียนในศีรษะน้อยลงจนเกิดอาการง่วงนอน

นอกจากคาบเรียนปฏิบัติแล้ว หากคาบเรียนเป็นคาบบรรยายแบบเบาๆนักเรียนส่วนใหญ่ก็มักจะหลับมากกว่าจดจำเนื้อหาในชั้นเรียน

แม้แต่พวกห้อง 10 เองก็ไม่มีข้อยกเว้น พวกเขาไม่สามารถอดทนต่ออาการง่วงซึมที่ถาโถมเข้ามาได้ และพยายามจดเลคเชอร์เท่าที่จะทำไหว

「อย่างที่ทราบกันดี บางครั้งเหล่าภูติเองก็จะแสดงพลังอันทรงอิทธิฤทธิ์ จนเกิดปรากฏการณ์เช่น ภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหว ภัยแล้งรุนแรง และฝนตกหนัก ภัยพิบัติเหล่านี้เกิดขึ้นจากเหล่าภูติเช่นกัน」

ปัจจุบันอาจารย์ทอร์เกรนรับหน้าที่บรรยายในห้อง 10 ตัวเขาเองเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเล่นแร่แปรธาตุและเป็นอาจารย์ที่ยอดเยี่ยมซึ่งทำหน้าที่เป็นนักวิจัยในสถาบันวิจัยบางแห่ง

ชายหนุ่มผู้อ่อนโยนกับดวงตาอันอ่อนหวานและสวมแว่นตามีขอบ แต่ว่าตัวตนของเขานั้นค่อนข้างจืดจาง

「แม้ว่าพวกเขาจะเป็นภูติที่มีพลังมหาศาล แต่ก็มีข้อเสียเช่นกัน เพราะติดอยู่ในสถานที่แห่งนั้น เหล่าภูติไม่สามารถออกจากพื้นที่ๆตัวเองอยู่ได้」

ขณะที่พูดนั้น อาจารย์ก็แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างภูติและผืนดินบนกระดานดำ

「เป็นดินแดนที่มีสภาพแวดล้อมเฉพาะที่เหมาะกับเหล่าภูติจำพวกป่าไม้และน้ำตก นี่เป็นเหตุผลที่เหล่าเอลฟ์จำเป็นต้องทำสัญญากับเหล่าภูติหากต้องการใช้เวทย์ภูติ」 (ป.ล.ขอเปลี่ยนจากวิญญาณเป็นภูติ)

อาจารย์ทอร์เกรนยังคงเขียนภาพร่างที่เหมือนกับป่าและมวลเมฆที่รูปร่างคล้ายภูติ

เขาวาดลูกศรเข้าหากันระหว่างภูติและป่า

「ดินแดนแห่งนี้กลายเป็นพื้นที่จำเพาะของเหล่าภูติ และจำนวนภูติที่มากขึ้นก็ทำให้แผ่นดินย้อมไปด้วยสีของเหล่าภูติ ดินแดนที่เหล่าภูติอาศัยอยู่มักจะมีพืชพรรณอุดมสมบูรณ์และสัตว์เติบโตมากมาย」

หลังจากวาดรูปเสร็จแล้ว อาจารย์ทอร์เกรนก็หันหน้ากลับมาและชี้นิ้วออกมาและพูดว่า “แต่ว่า!”ด้วยน้ำเสียงที่เข้มงวดเล็กน้อย

「ไม่ใช่ว่าไม่มีทางให้เหล่าภูติจะออกจากอาณาเขตของตนเองได้ พวกเขาเหล่านั้นสามารถสิงสถิตย์กับบางสิ่งบางอย่างเพื่อดำรงชีพต่อ วิธีเหล่านี้จะทำได้เฉพาะเหล่าภูติที่แข็งแกร่งเท่านั้น……」

เมื่อพูดเช่นนั้นก็เอามือปิดปากกระแอมไอนิดหน่อย

「อืม ระหว่างบรรยายอยู่นี่……」

ดวงตาที่อ่อนหวานเริ่มปล่อยจิตสังหารออกมา เขาหยิบชอล์กที่อยู่ในมือและขว้างมันออกไปทันที

「โอ้ยยยเจ็บ!」

ชอล์กที่อาจารย์ปล่อยออกมากระทบเข้ากับใบหน้าของโนโซมุอย่างแรง ชอล์กนั่นแตกเป็นเสี่ยงๆทำให้ผมของเขาขาวโพลนและผงชอล์กนั่นทำให้เขาเผลอสูดดมเข้าไป

「โนโซมุคุง ตื่นแล้วยังงั้นเหรอ?」

「แค่ก แค่ก……」

ทอร์เกรนพูดด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้นเล็กน้อย โนโซมุรีบตอบกลับพร้อมกับยืนขึ้น

โนโซมุมองต่ำลงด้วยท่าทางเขินอายเล็กน้อย ขณะที่ได้ยินเหล่าเพื่อนร่วมชั้นหัวเราะคิกคัก

การสอบปฏิบัติของโนโซมุนั้นห่วยแตกเพราะโดนพันธนาการเอาไว้ และเขาได้เพิ่มคะแนนให้รอดพ้นด้วยการสอบข้อเขียน ดังนั้นโดยปกติแล้วคาบเรียนบรรยายเขาไม่ควรจะหลับ แต่ว่าเมื่อเช้าเขาค่อนข้างเหนื่อยที่ต้องต่อสู้กับเทียแมตในความฝัน

ดูเหมือนว่าเขาจะเผลอหลับโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะสมองของเขาไม่สามารถพักผ่อนได้แม้ว่าร่างกายจะกำลังหลับอยู่ก็ตาม ความฝันนั่นก็เป็นเหมือนของจริงมันทำให้เกิดความเหนื่อยล้าสะสม

หลังจากยืนยันว่าโนโซมุตื่นแล้ว ทอร์เกรนก็บรรยายต่อ

โนโซมุมองไปยังทอร์เกรนที่กำลังเขียนกระดานพร้อมกับเคาะเศษชอล์กออก

ขณะฟังการบรรยายของเขา โนโซมุนึกได้ถึงความฝันเมื่อไม่นานมานี้

ความฝันที่เขามีเมื่อประมาณหนึ่งสัปดาห์ตอนที่เขาพบกับมังกรแห่งความตาย

◇◆◇

โนโซมุ เบลาตี้ เป็นนักเรียนผู้ต่ำต้อยที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งสถาบันโซลมินาติ

มีเหตุผลสองประการที่ทำให้เขาคนนั้นโดนกดขี่ข่มเห่ง

หนึ่งคือพันธนาการความสามารถที่ผนึกการเจริญเติบโตของเขา ทำให้ความสามารถของเขาลดลงครึ่งหนึ่งจากปกติ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่อันตรายอย่างมากเพราะมันเกิดการแข่งขันที่สูง และการที่เขาดโดนผนึกความสามารถเอาไว้ก็ทำให้สถานการณ์ค่อนข้างแย่พอ

สมควร

อีกข้อหนึ่งเป็นข่าวลือที่ว่าโนโซมุทรยศเพื่อนสมัยเด็กที่เป็นคนรักของเขาเอง จากมุมมองของเธอที่เป็นที่โด่งดังทำให้ข่าวลือนั่นถูกเชื่อโดยสนิทใจว่าเป็นความจริง ซึ่งทำให้การกดขี่เริ่มต้นนับแต่นั้นมา

ไอริสดิน่าและคนอื่นๆเข้าใจดีว่าข่าวลือและเรื่องราวเหล่านั้นไม่มีมูลและไร้สาระ

อย่างไรก็ตามเธอไม่เคยได้ยินเรื่องราวจากปากเขาโดยตรง

ทำไมโนโซมุถึงได้เป็นแบบนี้

ทุกคนในที่นี้ต่างให้ความสนใจ รวมทั้งไอริสดิน่าด้วย เธอเองรู้สึกหงุดหงิดกับเรื่องนี้และบางครั้งก็อยากจะถามจากปากลิซ่า เฮาวด์โดยตรงตอนสู้กันแบบกลุ่ม

แน่นอนมันก็มีบางครั้งที่โนโซมุไม่สามารถบอกทุกอย่างได้ แต่ก็เป็นความจริงเช่นกันที่พวกเธอไม่สามารถไปก้าวก่ายเรื่องของโนโซมุเองได้ แม้ว่าพวกเขาจะเป็นห่วงมากมายขนาดไหนก็ตาม

แต่ถึงยังงั้นฉันก็ทำมันจนได้ ในป่านั้น พวกเราได้รู้ความจริงของโนโซมุและฉันเองก็ได้พูดออกไปว่า “อยากจะรู้จักเธอให้มากกว่านี้”

พวกเขาเฝ้าโนโซมุอยู่สองสามวันจนกว่าเขาจะตื่น มันเป็นช่วงเวลาที่โนโซมุไม่สามารถลุกขึ้นได้เลย ไอริสได้ยืนอยู่ต่อหน้าโนโซมุด้วยท่าทางจริงจัง

เหล่าเพื่อนๆ อย่าง ทิม่า มาร์ และ ซีน่าก็อยู่รอบๆตัว ทุกคนต่างจ้องมองไปที่โนโซมุด้วยท่าทีตึงเครียด

「โนโซมุ มีเรื่องอยากจะถาม……」

「เอ๊ะ? อะไรงั้นเหรอครับ?」

โนโซมุลุกขึ้นมาบนเตียงเอนหลังลงเล็กน้อย

「คือว่าเรื่องของลิซ่า……」

「อาาาา……」

ในคำพูดของไอริสดิน่า โนโซมุเข้าใจสิ่งที่พวกเขาต้องการโดยทันที เขาหลับตาแล้วหายใจออกช้าๆเพื่อเตรียมพร้อม

อดีตอันแสนเจ็บปวดของโนโซมุ ยิ่งนึกมันยิ่งผูกใจเจ็บ เพราะแต่ก่อนเคยมีความสุข

คำพูดที่โนโซมุพึมพำ ไอริสดิน่าและคนอื่นๆรู้สึกว่าบรรยากาศรอบๆตัวมันตึงเครียดมากขึ้น

สีหน้าของโนโซมุที่เล่าเหตุการณ์เองก็เช่นกัน เป็นเรื่องยากเกินที่เขาจะทนไหวเพราะระหว่างเล่าก็ตัวสั่น

ไอริสดิน่าและคนอื่นๆยังคงรอโนโซมุพูดต่อไป ถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกเจ็บปวดจนอกของเขาจะแหลกสลายก็ตาม ยังไงก็ตามฉันก็อยากจะรู้จักเขาจริงๆ

「……อืมนั่นสินะ คุยถึงไหนแล้ว」

โนโซมุเองก็เหมือนกัน ความทรงจำอันแสนเจ็บปวดที่เข้ามาในหัวของเขา เขาพยายามลืมความทรงจำเหล่านั้นให้มันเป็นเพียงอดีต

「รู้อยู่แล้วสินะครับว่าตอนแรกลิซ่ากำลังคบกับผมอยู่」

「อา……」

「ลิซ่าและเคนเป็นเพื่อนสมัยเด็กและเติบโตในหมู่บ้านเดียวกัน ลิซ่าเป็นคนนอกหมู่บ้าน แต่เมื่อเธอยังเด็กเธอมาที่หมู่บ้านพร้อมกับแม่ของเธอ」

โนโซมุเริ่มเล่าถึงการเผชิญหน้ากันครั้งแรกกับลิซ่า เป็นตอนที่เขาเริ่มพูดคุยกับเธอ

「ครั้งแรกที่เจอกัน ผมกำลังตกปลาอยู่ริมแม่น้ำ และถูกเรียกก็เจอเธอที่นั่น」

โนโซมุจำได้ว่าตอนที่พบกับเธอครั้งแรกเขาใจเต้นรัว

ตอนที่รู้อีกครั้งว่าเธอเป็นเพศตรงข้าม มันก็ยิ่งทำให้เขาใจสั่น แต่เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เขาก็เริ่มกังวลเกี่ยวกับเธอ

「ในเวลานั้นเธอเพิ่งมาถึงที่หมู่บ้าน ผมที่เป็นเพื่อนกับเคนแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไร้เพื่อน」

โนโซมุเลยสงสัยว่านั่นเป็นเหตุผลที่เธอเข้าหาเขารึเปล่า

ผมเป็นคนเดียวที่บังเอิญอยู่ที่นั่น แต่อย่างน้อยเวลาที่ผมอยู่กับเธอและเคนก็สนุกมาก

「หลังจากนั้นผมก็เริ่มเล่นกับเธอและฟังถึงเรื่องราวความฝันของเธอ ผมตัดสินใจลงทะเบียนเรียนที่สถาบันโซลมินาติเพื่อสนับสนุนความฝันของเธอ」

แม้แต่ตอนนี้ก็ยังคิดอยู่เลยว่าตัวเองมาทำอะไรที่สถาบันโซลมินาติอันสูงส่ง

เมื่อพิจารณาจากจำนวนผู้คนที่สมัครมากมายจากทั่วทุกมุมโลกและยังมีการแข่งขันจากเด็กที่จบจากอีคอร์สอีก มันง่ายที่จะคิดว่าการเรียนต่อในเครือเดียวกันมันน่าจะง่ายกว่า

โชคดีที่ลิซ่านั้นมีพรสวรรค์และเติบโตได้อย่างรวดเร็ว แต่โนโซมุนั้นอยู่ฝั่งตรงข้าม ความแตกต่างเริ่มปรากฏให้เห็นได้ชัด

「แน่นอน ผมคิดว่าจะมาที่สถาบันนี้และพยายามทำให้ดีที่สุด แต่ผลการเรียนก็ย่ำแย่ ผมไม่สามารถแข็งแกร่งพอเทียบเคียงลิซ่าได้เลย ตอนนั้นเองก็มีแต่เคนและลิซ่าที่ออกไปซ้อมพร้อมๆกัน ตอนนั้นเองผมก็พอจะหาเพื่อนได้บ้างที่ช่วยฝึกซ้อม……」

แน่นอนว่าชีวิตไม่ได้สวยหรู ทักษะดาบและสภาพจิตใจรวมถึงพลังเวทย์ก็ไม่ได้เติบโตเลยแม้แต่น้อย มีเพียงความแข็งแกร่งทางกายที่เติบโตนิดหน่อยเพราะมาจากความพยายาม แต่ก็ยังไม่สามารถเทียบเท่าสองคนนั้นได้

ถึงกระนั้น พวกเขาก็ไม่ได้ทอดทิ้งโนโซมุ และพยายามไปด้วยกัน

คามิลล่าที่กลายมาเป็นเพื่อนของลิซ่าหลังจากที่มาเรียนที่แห่งนี้ก็ออกไปฝึกกับโนโซมุด้วย เธอเป็นผู้หญิงที่โกรธตัวเองด้วยเหตุผลบางอย่าง แต่เธอก็เป็นคนที่ใจดีและอ่อนโยนกับโนโซมุ

โนโซมุคิดว่าหลังจากนี้ก็คงจะผ่านมันไปได้

แต่ว่า……。

「ในขณะนั้นเองพันธนาการของผมก็ตื่นขึ้น」

พันธนาการที่ผนึกความสามารถของโนโซมุได้ตื่นขึ้นมา

「หลังจากนั้นเองก็เริ่มมีการกดขี่ข่มเหง ร่างกายเคลื่อนไหวไม่ได้ดั่งใจ ทุ่มเทเท่าไรก็แพ้เสมอ ผมไม่สามารถกันการโจมตีได้เลยแม้แต่น้อย เดินทีเวทย์ก็ห่วยอยู่แล้วยิ่งทำให้ใช้ไม่ได้เลย」

ร่างกายของโนโซมุทื่อลง นอกเหนือจากชีวิตปกติแล้ว ยังต้องแบกรับการฝึกหนักมากกว่าเดิมเป็นสองเท่าของคนทั่วไป

ไม่สามารถใช้พลังได้เต็มที่ เวทย์ก็ใช้ไม่ได้

「ถึงกระนั้นผมก็พยายามทำอะไรกับมัน ตอนนั้นเคนกับลิซ่าบอกว่าอาจจะทำอะไรกับมันได้ก็ได้ และพวกนั้นก็ออกไปสองคน」

ในช่วงแรกที่โดนพันธนาการ เพื่อนร่วมชั้นต่างมองโนโซมุด้วยความสงสาร

อย่างไรก็ตามการที่เห็นโนโซมุฝึกซ้ำๆอย่างไร้เหตุผล พวกเขาก็เริ่มพูดออกมาในทางแปลกๆ ว่าพยายามเสียเปล่า

ถึงกระนั้นโนโซมุก็ไม่ยอมแพ้ แต่ว่าทั้งคามิลล่าและเพื่อนสมัยเด็กต่างพากันห่างเหิน

「แต่ก่อนที่จะรู้ตัวข่าวลือก็ไหลไปทั่วแล้ว ทุกอย่างเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงโดยเฉพาะเนื้อหาของข่าวลือ」

วันที่ทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างกระทันหัน ในเวลานั้นแม้แต่ฐานที่มั่นที่คอยเยียวยาจิตใจก็ยังแหลกสลาย

「ทุกคนต่างสาปแช่งผม ลิซ่ามองผมเหมือนเศษเดนมนุษย์ เคนก็ห่างเหิน……」

หัวใจอันเยือกเย็นของโนโซมุ แทบจะหยุดเต้นโดยไม่รู้ตัว และเป็นตอนนั้นเองที่เขาเริ่มหนีความจริง

ถ้าไม่มีอาจารย์อันริอยู่ด้วย โนโซมุคงแตกสลายไปแล้ว

อย่างไรก็ตามเคนก็แค่ทำตัวห่างเหิน เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้นในตอนนี้ มันก็น่าโล่งใจชั่วคราว ที่ยังคงใช้ชีวิตตามปกติแม้จะเพียงระยะเวลาอันสั้น

「และนั่นเป็นเรื่องโกหกที่สร้างขึ้นมาทั้งหมด ด้วยตัวของเพื่อนรักที่ทรยศผมเคนนั่นเอง……」

อย่างไรก็ตาม แม้จะอยู่ในการคาดเดาของเคน เมื่อโนโซมุพยายามจะเค้นหาความจริงก็ได้รับข้อเท็จจริงอันแสนสะเทือนใจ

「ทำไมเขาถึงทำยังงั้นละ……?」

「……บางที เคนอาจจะทำแบบนั้นเพราะผมเป็นเพียงตัวถ่วงที่คอยขัดแข้งขัดขาลิซ่าที่ทะเยอทยานสู่ฝันของเธอเอง เคนพยายามกีดกันผมออกจากลิซ่าเพราะผมทำให้ความฝันเธอเป็นจริงไม่ได้……」

ลิซ่าและเคนเก่งขึ้นทุกวัน โนโซมุถูกทิ้งไว้ด้านหลังในสถานการณ์เช่นนี้ ในที่สุดเขาก็สูญเสียทุกสิ่ง

「ถ้าผมแข็งแกร่งขึ้น ลิซ่าจะหันกลับมาหาผมไหม ด้วยความคิดเช่นนั้น ผมจึงเข้าไปฝึกในป่าที่แสนอันตรายเพียงลำพังและอดทนต่อการฝึกสุดโหดของอาจารย์ ท้ายที่สุดแล้วที่ผมทำมันก็คือการหนีความจริง……」

ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าตัวเองกำลังหนี และพยายามดิ้นรนท่ามกลางความมืดมิด

โนโซมุได้แต่พูดล้อเลียนตัวเอง

เมื่อมองย้อนกลับไปยังอดีตของตัวเองที่ตกต่ำเช่นนี้ ก็ได้แต่รู้สึกเศร้า เป็นเพียงเหมือนคนเมาที่เมาหัวปักหัวปรำยึดติดกับอดีต

「ด้วยความคิดนั้น บางทีนั่นอาจจะเป็นการฝึกของอาจารย์ ผมต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อเอาตัวเองให้รอด ดังนั้นก็เลยไม่ต้องคิดอะไรให้มากนัก」

โนโซมุต้องทิ้งความคิดเหล่านั้นและก้าวเดินต่อไป

อันที่จริงตอนที่พบกับชิโนะครั้งแรก โนโซมุเข้าป่าและเกือบถูกสัตว์อสูรฆ่า

แม้ว่าอาจจะไม่ได้เข้าไปในป่า แต่ผมก็คงได้แต่อาละวาดอยู่แถวๆนั้น

โนโซมุยิ้มนึกถึงวันวานที่อยู่กับชิโนะ มันเป็นวันที่แสนสนุกและเจ็บปวด แต่เสียงหัวเราะแห้งๆที่เล็ดลอดออกมาจากปากน้อยๆ อาจเป็นเพราะเรื่องหลังจากนั้น

「ทำไมถึงไม่โกรธกันล่ะ! ดูยังไงนี่ก็คือการหักหลังกันชัดๆ!」

โนโซมุได้แต่ยิ้มแห้งๆ มาร์เองก็ของขึ้นเพราะได้รับรู้ความจริงที่โนโซมุไม่ได้แสดงความโกรธออกมาเลย คนอื่นๆต่างโกรธแทนเขา

โนโซมุส่ายหัวเงียบๆกับคำพูดของมาร์

「ผมไม่ได้โกรธในตอนแรก ผมแค่ตกใจกับความจริงที่พูดออกมาจากปากเคน แต่หลังจากนั้นผมก็แทบจะเป็นบ้า อันที่จริงแล้ว ผมปลดพันธนาการตัวเองและปล่อยตัวเองไปตามอารมณ์และสังหารเหล่าไซคลอปส์……」

ไอริสดิน่าและเพื่อนๆต่างตกใจที่โนโซมุควบคุมตัวเองไม่ได้

ไม่ต้องพูดถึงพลังของมังกรที่อยู่ในตัวของเขา โนโซมุกำลังพยายามอย่างหนักในการควบคุมมัน แม้ว่าเขาจะโกรธ แต่ก็ไม่เคยเป็นถึงขั้นนั้น

ในเวลานี้เอง การสังหารไซคลอปส์จำนวนมากทำให้โนโซมุเริ่มหวาดกลัวและวิตกกังวลเกี่ยวกับตัวเทียแมท

「ก็คงจะโกรธแหละครับ โกรธ เคน ลิซ่า และตัวเองที่ไม่ได้ความ」

ตรงกันข้ามกับคำพูดเหล่านั้นรอยยิ้มบนใบหน้าเขาแสดงความขมขื่นออกมา แต่อย่างน้อยก็โล่งใจที่พูดออกมาเป็นคำพูดออกมาได้

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น โนโซมุก็มีสีหน้าเศร้าๆ

หายใจไม่ออกเหมือนพยายามเอาสิ่งแปลกปลอมออกจากอก โนโซมุพูดช้าๆและกุมอกแน่น

「แต่ยิ่งกว่านั้น…ผมเสียใจ」

ความเงียบปกคลุมทั่วห้องของอันริ ทุกคนมีสีหน้าเหมือนกับแสดงความขมขื่นออกมา

มาร์ที่โกรธจัดจนกำหมัดแน่น โนโซมุเองก็กัดฟันด้วยสีหน้าแย่ๆ

ไอริสดิน่าและคนอื่นๆ ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเงียบกับความเศร้าใจของโนโซมุ

อย่างไรก็ตามสำหรับโนโซมุแม้ว่าจะรู้สึกโกรธและเสียใจขนาดไหน แต่สำหรับฉันแล้วฉันรู้สึกมีความสุขที่ได้รู้จักตัวเขามากยิ่งขึ้น ฉันเองก็โกรธและเสียใจแทนเขา

「ขอบคุณนะทุกคน」

โนโซมุพยายามทำสีหน้าให้ดีขึ้นและขอบคุณสำหรับความร่าเริงที่ทุกคนมอบให้

โนโซมุพูดต่อพร้อมกับหัวเราะออกมา

「ผมคิดว่าลิซ่าคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเคน สัญญาที่ผมกับเขาทำร่วมกันก็คือการปกป้องลิซ่า」

แน่นอนโนโซมุในตอนนั้นเป็นอะไรไม่ได้มากกว่าตัวถ่วงแข้งถ่วงขา

ผมสาบานกับตัวเองว่าจะช่วยลิซ่าให้ถึงฝัน แต่นี่ก็เป็นจุดจบของการเดินทางของผมแล้ว

「นอกจากนี้เคนยังชอบลิซ่ามาตลอด ผมกับลิซ่าที่ออกเดินไปก่อนก็คงจะทำให้เขาเจ็บใจ และโกรธผมตลอดมาก็ได้……」

คำสัญญาในวัยเด็กและความรู้สึกในวัยเด็กของผมที่มีต่อลิซ่า

โนโซมุซึ่งไม่ใช่ตัวเคนเอง เขาไม่รู้ทำไมเขาถึงได้ตกหลุมรักเธอ

อย่างไรก็ตาม ตัวเคนที่ประกาศกร้าวว่า “ข้าพบเธอก่อน ข้าหลงรักเธอก่อนแกซะอีก”

ด้วยเหตุนี้ไม่ว่ายังไงสักวันก็ต้องเผชิญหน้าในซักวัน

เป็นการยากที่จะปิดซ่อนความรู้สึกของตัวเอง มันเป็นเรื่องยากอย่างมากโดยเฉพาะเหล่าชายหนุ่มกับสาวน้อยที่อยู่ในช่วงเวลาอ่อนไหว

แต่เมื่อถามว่าเขาไม่มีทางเลือกเลยเหรอ แต่อย่างน้อยโนโซมุก็แค่คิดว่าได้เคยเป็นคนที่ยืนเคียงข้างก็ดีแค่ไหนแล้ว

ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร ทั้งโนโซมุและลิซ่า จะไม่พยายามเผชิญหน้ากับบุคคลอื่น และในทางกลับกันตัวเขาก็เป็นฝ่ายที่หนีเองด้วย

โนโซมุไม่สามารถส่งเธอให้ถึงฝั่งฝันได้ ลิซ่าก็หันหลังให้กับเขาด้วยความเกลียดชัง

「สุดท้ายแล้วพวกเราก็อยู่ด้วยกันไม่ได้จริงๆ……」

แม้แต่ตอนนี้ โนโซมุก็ยังรู้สึกยังงั้น

โรงเรียนแห่งความฝัน ความหวัง และความคิดเช่นนั้น แต่นั่นเขาไม่สามารถทำได้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดพวกเราทั้งสองก็หันหลังให้กันไปเสียแล้ว

「แล้ว คิดจะทำยังไงต่อละโนโซมุคุง? จะปล่อยไว้แบบนั้นเหรอ?」

「……ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ลิซ่าไม่รู้ว่าเรื่องราวเหล่านั้นเป็นตัวเคนเองที่ทำมันขึ้นมาทั้งหมด มีบางอย่างที่เธอไม่ควรจะรู้ แต่..อย่างน้อยผมคิดว่าตอนนี้ก็ไม่เป็นไร」

ไม่ว่าเขาจะเศร้าแค่ไหน โนโซมุเองหากเข้าไปขัดลิซ่ากับเคนก็จะไร้ซึ่งความสุข

บางทีลิซ่ากับเคนเองก็อยากจะหนีอดีตของตัวเองเหมือนแต่ก่อน

โนโซมุที่รู้ตัวเองว่าหลบหนีแล้วก็ก้าวเดินออกไปด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนๆของเขา เขารู้สึกได้เช่นนั้น

「รออีกหน่อยจะได้ไหม? ฉันต้องคิดเกี่ยวกับวิธีการจัดการกับสองคนนั้น บางทีฉันอาจจะพูดให้ได้……」

เช่นเดียวกับไอริสดิน่าที่เผชิญหน้ากับลิซ่าอีกครั้ง อย่างไรก็ตามโนโซมุรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก

「……เข้าใจแล้ว ถึงเวลานั้นจะทำให้ดีที่สุดแล้วกันครับ」

「ถ้างั้นฉันเองก็เอาด้วย」

ไอริสและซีน่าจ้องมองไปยังโนโซมุที่มาเยี่ยมเขาด้วยแววตาแปลกๆ เพื่อนๆคนอื่นๆต่างก็พยักหน้าอย่างหนักแน่น

「……ขอบคุณนะครับทุกคน」

เมื่อได้ยินคำตอบของทุกคน โนโซมุก็โค้งตัวอีกครั้ง รู้สึกถึงความอบอุ่นที่ผุดขึ้นมาในจิตใจ

ป.ล.รอบไม่เสร็จ ฉายาไม่เดิน เงินไม่มี คนไม่รับ เกมส์ล็อคโรล เพื่อนไม่คบ โดนทิ้ง เกมส์ดี 2021

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยนำบางส่วนมาจากนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

บทนำ

สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

เรื่องย่อ

สถาบันโซลมินาติ สถานที่ๆคนหนุ่มสาวจากทั่วทุกดินแดนจะมารวมตัวกันเพื่อต่อยอดความฝันและความหวังของตัวเอง ความทะเยอทะยาน สำหรับคนที่ไม่มีอะไรดีสักด้านนั้นจะถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยามถูกปฏิบัติแบบไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมโดยสมบูรณ์

เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่ชั้นอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ข้า โนโซมุ เบลาตี้ ซึ่งอยู่บนดาดฟ้าของโรงเรียนในช่วงพักกลางวัน

ข้ามาที่นี่เมื่อสองปีก่อน ออกมาจากบ้านเกิดกับเพื่อนสมัยเด็กสองคนเพื่อมายังที่แห่งนี้

คนแรกคือ เคน โนทิส เป็นเพื่อนที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

ส่วนอีกคนหนึ่ง คือ ลิซ่า เฮาวน์

สาวสวยผู้มีผมหางม้าสีแดง

เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตและเป็นคนรักของข้า

เธอเป็นคนที่เอาชนะคนอื่นได้เสมอ เธอเป็นเหมือนดั่งตัวร้ายที่คอยต่อต้านกับหัวหน้าหมู่บ้าน

ข้าพบกับเธอก็เมื่อตอนอายุ 8 ขวบ ตอนที่ข้ากำลังตกปลาในแม่น้ำใกล้หมู่บ้าน

「อะ เอ่อ อืม ว่างหรือเปล่า?」

เป็นตอนนั้นเองที่เธอเข้ามาพูดกับข้า

ผมสีแดงตัดสั้น ท่าทางที่ดูมั่นใจ ใบหน้าของข้าค่อยๆร้อนรุ่ม…ข้าตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น

พ่อแม่ของเธออาศัยอยู่ในดินแดนที่ห่างไกลออกไป แต่เมื่อพ่อของเธอเสียชีวิตระหว่างเดินทาง เธอจึงตัดสินใจที่จะตั้งถิ่นฐานที่บ้านเกิดของข้า

ตอนเธอยังเด็กมักจะเป็นเด็กที่ซุกซนและอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ข้าก็ไม่ได้รังเกียจอะไร และเธอไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ

แล้วก็เด็กที่ทำให้เธอผิดหวังมากที่สุดก็คือนายพลกาคิกับผมด้วยเหตุผลบางอย่าง

เมื่อสามปีก่อนข้าสารภาพรักกับเธอเพราะว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป

รักแรกที่ข้าชอบมาตลอด

เธอตกใจมากกับการสารภาพรักที่กระทันหันของข้า แต่เธอก็ยอมรับข้าและร้องไห้ทั้งน้ำตา

ตอนนั้นเองข้าจึงตัดสินใจที่จะไปสถาบันโซลมินาติกับเธอเพื่อสนับสนุนความฝันของเธอให้เป็นจริง

มันเป็นแรงบัลดาลใจให้ข้า ความฝันของเธอที่บอกข้าตอนยังเด็ก

「ฉันน่ะอยากจะเห็นโลกที่หลากหลายเหมือนกับคุณพ่อ」

ข้ารู้ว่าเธออยากออกไปท่องโลกกว้างเพราะเธอได้ยินเรื่องราวเหล่านั้นมาจากมารดาของเธอ

ตอนนั้นเองเป็นตอนที่ข้าตัดสินใจไปที่สถาบันโซลมินาติ

หากคนที่ตัวเองรักอยากทำความฝันให้เป็นจริง ข้าก็ควรจะสนับสนุน

ด้วยคำพูดเช่นนั้นข้าตัดสินใจว่าจะสนับสนุนเธอตลอดมา

เธอกอดข้าทั้งน้ำตาพร้อมกับบอกว่า「ขอบคุณนะ……ฉันดีใจจริงๆ」

ท่ามกลางการหลับกลางวันของข้าก็ได้ยินเสียงระฆังที่ส่งเสียงบอกเวลาว่าหมดเวลาพักกลางวันแล้ว

ข้าลุกขึ้นพร้อมกับบิดตัวด้วยความขี้เกียจพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังห้องเรียน

ถูกบังคับให้ไสหัวไปก็ตั้งหลายครั้ง ตัวข้าที่ไม่สามารถทำคำปฏิญาณนั่นได้

ชั้นเรียนของข้าคือ ชั้นเรียนที่สอง ระดับ 10 เป็นห้องที่ต่ำที่สุดในบรรดาชั้นเรียนที่สอง

ในหมู่พวกนั้นข้าเป็นคนที่อยู่ต่ำสุดเรียกได้ว่าเป็นพวกที่ห่วยของโครตห่วย

เมื่อข้าเข้ามาในชั้นเรียนก็โดนต้อนรับด้วยการหัวเราะเยาะเย้ยเป็นเรื่องปกติ

「ยังจะโผล่หัวมาอีกนะ ไอชั้นต่ำ」

「เมื่อไรมันจะหายๆไปสักทีวะ」

「หวังว่าจะลาออกไปไวๆน้า~」

เสียงที่ดูไร้หัวใจเหล่านั้นเสียดแทงเข้ามาในจิตใจของข้า ข้าทำได้แต่เมินต่อไปและนั่งลงบนเก้าอี้

เมื่อข้านั่งลงก็มีนักเรียนสามคนเข้ามาทางข้า

「แกจะมาทำไม ในเมื่อแกมาที่นี่มันก็ไร้ความหมายอยู่ดีไม่ใช่เหรอไงวะ ไอ้เศษเดนเอ้ย」

มาร์ที่ตัวค่อนข้างใหญ่พูดข่มขู่ข้า

「ยอมแพ้ไปสักทีเหอะวะแกไม่คิดว่ามันเสียเวลาชีวิตบ้างเหรอวะ」

「แกโดนแกล้งขนาดนี้ก็เหมาะกับแกดีนี่ เหมาะสมกับเศษสวะอย่างแก」

พวกนั้นก็ยังคงกรนด่าข้าไม่หยุด

「ช่ายๆ โดนเด็กผู้หญิงหัวแดงที่ท่าทางเหมือนเจ้าหญิงนั่นทิ้งแล้ว ไม่มีอะไรให้แกได้ฝันอีกต่อไปแล้วล่ะ」

พวกนั้นทั้งสามคนยังยืนหัวเราะและพยายามยั่วโมโหข้า ไม่มีใครคิดจะห้ามพวกมัน ในท้ายที่สุดพวกมันก็ไม่ยอมหยุดจนกระทั่งอาจารย์ประจำชั้นเข้ามาในห้อง

ใช่แล้วล่ะ ข้าถูกลิซ่าทิ้ง เธอน่ะเป็นนักเรียนห้อง 1 เลยนะ

ทันทีที่เธอทิ้งข้าไปหลังจากกล่าวลาไม่กี่คำ เธอก็ไม่เคยกลับมาพบข้าอีกเลย

ข้าไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ตั้งแต่นั้นมาเธอก็มองข้าเหมือนเศษสวะ

เป็นเพราะข้าเอาแต่สร้างปัญหายังงั้นเหรอ

ลิซ่าเป็นผู้หญิงที่ถูกขนานนามว่า “เจ้าหญิงผมแดง” เพราะหน้าตาและความสามารถ

ในทางกลับกันตัวข้าที่ไม่มีอะไรดีเด่นหน้าตาบ้านๆ

ตลอดช่วงที่ข้าคบกับเธอ เธอมักจะโดนรังควาญอยู่เสมอ บางทีการที่ข้าโดนทิ้งก็เพราะสร้างความยุ่งยากให้เธออยู่เสมอก็ได้

ข้านั้นไร้ซึ่งเพื่อนและกลายเป็นหมาหัวเน่า

ถึงกระนั้นข้าก็พยายามอยากหนักไม่ละเลยสิ่งต่างๆตามหน้าที่ของตน

สักวันหนึ่งถ้าข้าสามารถรักษาคำสาบานที่ให้ไว้ได้ละก็……….ข้าคิดเช่นนั้น

ในขณะเดียวกันนั้นเองเธอก็ไปคบกับเพื่อนสมัยเด็กที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

เธอดูมีความสุขราวกับเธอรักเขาจริงๆ

ในการฝึกซ้อมเป็นคู่พวกเธอสองคนเข้าขากันได้ดีมาก ข้าไม่มีที่ยืนเคียงข้าเธอเลย

ชั่วโมงที่สอง ในช่วงบ่าย

「เฮ้ออ!」

ด้านข้างของดาบจำลองนั่นถูกขว้างมาจากเครื่องยิงดาบจำลอง

เมื่อดาบจำลองที่ถูกยิงมาถูกปากลับไปและแทงเข้าไปที่คอของตุ๊กตา กลไกนั่นก็จะหยุดทำงานลง

หลังจากคาบบรรยายนี่ก็เป็นภาคฝึกปฏิบัติ

นอกจากสนามฝึกซ้อมแล้วยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น สนามทดลองเวทมนตร์ในสถาบันแห่งนี้และนักเรียนที่สามารถศึกษาเรียนรู้ความสามารถของตนตามสถานที่ต่างๆ

สนามฝึกถูกแบ่งออกเป็นหลายพื้นที่เพื่อให้นักเรียกจากหลายๆชั้นมาเรียนที่เดียวกันได้

วันนี้เป็นการฝึกการต่อสู้ระหว่างบุคคลและแต่ละคนก็จะได้ต่อสู้กับหุ่นยนต์ที่มีดาบจำลองเป็นคู่ซ้อมทำการต่อสู้แบบอิสระ โดยใส่พลังเวทย์เข้าไปเพื่อให้หุ่นยนต์นั้นทำงาน

อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์สำหรับพวกห้อง 10 นั้นมีคุณภาพแย่และเคลื่อนไหวได้แค่บางส่วน

「อืม ต่อไปจะเป็นการต่อสู้เป็นคู่ เลือกคู่หูได้ตามใจชอบ~」

เมื่ออาจารย์อันริ วาร์ อาจารย์ประจำชั้นของพวกห้อง 10 เรียกออกมา หุ่นยนต์ก็หยุดทำงาน ดังนั้นทุกๆคนก็หยุดและรอการจับคู่

อาจารย์อันริมีผมหยักสีน้ำตาล ดวงตาที่ดูสมวัยและใบหน้าที่ออกไปทางดูดีอย่างมาก

อย่างไรก็ตามอาจารย์คนนี้เป็นบุคคลที่ไม่เหมาะกับโรงเรียนแห่งคุณธรรมแห่งนี้เลยเพราะเขาชอบพูดและทำท่าทางแปลกๆราวกับคนบ้า

เรียกได้ว่าคนที่รับผิดชอบนักเรียนห้อง 10 ถูกโยนมาแบบทิ้งขว้างเลยก็ได้

อย่างไรก็ตามการที่เขาสามารถมาเป็นอาจารย์ได้ก็คงมีความสามารถพอตัว

ในที่สุดการจับคู่ก็ถูกตัดสินและแต่ละฝ่ายต่างเริ่มจำลองการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ของตัวเอง แต่ว่าคู่ต่อสู้ของข้าดันเป็น……。

「เอ่อ สำหรับแกแล้ว น่าเสียดายหน่อยนะ」

เป็นมาร์นั่นเองที่กรนด่าข้าเมื่อตอนบ่าย

「มาเริ่มกันเลยดีกว่า เพราะว่าเศษสวะอย่างแกจะทำให้ชั้นเสียเวลา」

มาร์ดึงดาบใหญ่ออกมาจากด้านหลัง

มาร์เป็นผู้ชายที่ตรงไปตรงมา ความสามารถของเขานั่นของจริง ถึงอย่างนั้นก็ยังได้มาอยู่ในห้องห้อง 10 เช่นนี้เพราะชื่อเสียงแย่ๆนั่นละ

ผมเองก็ดึงดาบจำลองออกมาด้วยเช่นกัน

อาวุธของข้าเป็นดาบที่มาจากทางเกาะตะวันออก เรียกกันว่าคาตานะ เป็นดาบที่มีความคมเป็นอย่างมาก กล่าวได้ว่ามันสามารถตัดทุกอย่าไงได้หากใช้ได้อย่างชำนาญ

ยังไงก็ตาม มันใช้เทคนิตชั้นสูงและความหายากของมันเลยไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายนัก

มันเป็นอาวุธที่เหมาะกับข้าที่สุด สำหรับข้าที่ไร้ซึ่งพลัง

「ถ้าอย่างงั้นละก็ เริ่มได้~~~」

การต่อสู้นั่นเต็มไปด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยจากท่าทางของอาจารย์อันริ

「โฮ่ย่าาาาาาาาาาาห์」

มาร์เหวี่ยงดาบใหญ่พร้อมตะโกนก้อง

ผมป้องกันการโจมตีด้วยคาตานะ

ดาบของมาร์ถูกเบี่ยงวิธีและมันก็ฟาดลงทีพื้น

「ฮ่าๆ!」

ก้าวเข้าไปหลังจากมาร์เปิดช่องว่างเล็งไปที่ต้นคอและพยายามจะเอาสันดาบทุบ

「สายไปละโว้ย!」

มาร์เอาถุงมือที่แขนปกป้องดาบของผมไว้ ดาบเลียนแบบที่ไม่มีความคมของดาบดั้งเดิมเหลืออยู่ก็ถูกป้องกันด้วยถุงมือนั่น

มาร์รุดหน้าเข้ามาพร้อมกับยกถุงมือขึ้นป้องกันการโจมตี แต่ข้าก็ก้มลงเพื่อหลบการโจมตี

ข้าพยายามจะโจมตีไปอีกรอบ แต่มาร์นั้นเหวี่ยงดาบใหญ่มาด้วยมือข้างเดียว

ข้าถูกบังคับให้ถอยและกลับไปตั้งหลักใหม่

มาร์ที่ฟาดดาบใหญ่จนพื้นแตกกระจายพยายามมองระหว่างข้าและดาบใหญ่ของมันเอง……。

「อยากโดนหั่นเป็นชิ้นๆเหรอไงวะ」

มาร์พูดเช่นนั้นพร้อมกับรังสีกดดันที่เพิ่มมากขึ้น

“คิ”

เป็นสกิลของทางฝั่งตะวันออกที่จะเพิ่มพลังให้แก่ผู้ใช้งานให้เหนือขีดจำกัดยิ่งขึ้นไป

มาร์พุ่งเข้ามาในคราวเดียว ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นั่นละคือผลลัพธ์จากการใช้ คิ

ราวกับจะจับเหยื่อตรงหน้าฟาดดาบใหญ่นั่นลงมาในทีเดียว

ข้าเองก็ใช้ “คิ”เช่นกันเพื่อหลบการโจมตีของดาบใหญ่นั่น เสียงของเหล็กดังกระทบกันสนั่นหู

「เหอะ!ลังเลอยู่งั้นเหรอ」

มาร์ที่รู้สึกหงุดหงิดนั่นดูมีท่าทีลังเลจึงไม่สามารถจะตัดสินใจจบการโจมตีในทีเดียวได้

เขาดึงดาบใหญ่ที่จมลงไปบนพื้นและเริ่มที่จะฟันมันมาอีกครั้ง

เขาฟาดฟันดาบใหญ่ไปรอบๆด้วยเรี่ยวแรงอันมหาศาลจาก “คิ”

เสียงของเหล็กปะทะกันดังสนั่นไปทั่วบ่งบอกถึงการต่อสู้อันดุเดือด แต่ว่ามีฝ่ายเดียวที่ได้เปรียบ

การเสริมพลังกายของมาร์มีพละกำลังมากกว่าข้า แต่ผลของการเสริมพลังกายของข้าเองก็ได้ผลเพียงครึ่งเดียวด้วยความสามารถของข้า

มาร์มันเป็นคนเก่งแต่เพราะทำแต่เรื่องแย่ๆเลยได้มาอยู่ในห้อง 10

ในทางตรงกันข้ามแม้หมอนั่นจะมีความสามารถสูง แต่มาร์มันกลับพอใจที่จะกดขี่คนที่ต่ำกว่านั่นมันโครตจะแย่

เทคนิคดาบชั้นสูงของมาร์ไม่สามารถใช้จัดการกับโนโซมุตามปกติได้ แต่ว่าพลังกายของโนโซมุที่ได้รับการเสริมแบบครึ่งๆกลางๆมันก็พอเป็นไปได้

พลังที่ได้มานั่นทำให้พอฟัดพอเหวี่ยงกับดาบของโจรสลัดเท่านั้นเอง

「แหลกไปซะเหอะมึง!!」

บางทีอาจจะเป็นเพราะข้าโดนกดดันจนถูกบดขยี้ในพริบตา แต่ว่าข้าก็กันการโจมตีนั่นได้ยิ่งทำให้มาร์มันหงุดหงิดจนพละกำลังมันเพิ่มมากขึ้นไปอีก

「เหอะ คิดว่าจะบดขยี้ข้าได้ง่ายๆงั้นเหรอ!」

ข้ากัดฟันแน่นเพื่อที่จะไม่เดินไปตามเกมส์ของศัตรู

แม้ว่าพลังในการโจมตีจะเพิ่มขึ้น แต่การโจมตีของมันก็ซ้ำซากและจำเจ ทำให้รับมือได้ไม่ยากเย็น

อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถสวนกลับได้ทำได้เพียงแค่ยื้อเท่านั้น

และถ้าโต้กลับไม่ได้ผลมันก็รู้ๆกันอยู่

ในที่สุดก็มาถึงขีดจำกัด

ข้าไม่สามารถรับการโจมตีของมาร์ได้อีกต่อไป การป้องกันของข้าถูกทำลายลงและไม่มีเวลามาตั้งท่าใหม่ ตอนนั้นเองทีข้าถูกดาบใหญ่นั่นฟาดเข้ามากระแทกกับคาตานะของข้าจนกระเด็น

「จะเหนียวได้สักแค่ไหนกันเชียววะ!」

รูปร่างของข้าบิดเบี้ยวเพราะการโจมตีนั่น ข้าตัวกระเด็นจนตัวไปกระแทกกับกำแพงของสนามฝึกซ้อม

ผลกระทบนั่นทำให้ข้าหายใจติดขัดและการมองเห็นของข้าก็มืดดับลง

「เป็นแค่เศษสวะแท้ๆ แต่ยังกล้าขัดขืน โดนดีไปซะเหอะมึง」

ข้าหมดสติไปพรัอมกับคำพูดของมาร์

「โอ้ยยยย เจ็บแหะ!」

ข้าลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับสติที่พร่ามัวลุกขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดไปทั้งตัว

ข้าก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องพยาบาล

「เอ้าๆ รู้สึกตัวแล้วไม่ใช่เหรอไงเนี่ย?」

ผู้หญิงสวมชุดโค้ทสีขาวพร้อมกับใส่แว่นนั่นกำลังทำงานอยู่บนโต๊ะพยาบาล

ชื่อของเธอคือนอร์น อัลทิน่า เป็นหมอประจำโรงเรียนที่สวยเอามากๆ

เธอเดินมาทางนี้และขยับนิ้วมาตรงหน้าผมเพื่อตรวจสอบสภาพร่างกาย

「อืมม ดูจากสภาพแล้วสติยังคงดีอยู่ แล้วรู้สึกปวดตรงไหนบ้างรึเปล่า?」

「ข้าปวดหลังนิดหน่อยและหัวเองก็ยังคงมึนๆ แต่ว่าไม่มีตรงไหนผิดปกติแล้วล่ะ」

「อืมมเข้าใจแล้ว ฉันทายาไปที่หลังของนายแล้วล่ะ แต่ถ้ารู้สึกเจ็บหรือปวดตรงไหนก็มาได้ตลอดเวลานะ มันจะดีกว่านะที่มาหาฉันมากกว่าที่จะทนเจ็บกับบาดแผลนั่น」


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท