ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 787
ซุนกงกงพยักหน้า “ใชพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง หม่อมฉันมองดูพระองค์และองค์หญิงเติบโตขึ้น หม่อมฉันยังจำได้ว่าเมื่อตอนที่ท่านอ๋องอายุได้ห้าขวบ ในวังของไท่โฮ่ว พระองค์มักจะแข่งว่าใครยิงฉี่ได้ไกลกว่ากันกับหม่อมฉัน”
มู่หรงเจี๋ยปล่อยกระแอมไอและปรับสีหน้าของเขา “มันนานมาแล้ว และข้าคิดว่าท่านคงจำผิดคนแล้วกระมัง ท่านน่าจะหมายถึงพี่สาม เขาดื้อรั้นมาก อย่างไรก็ตาม อย่ามัวแต่พูดถึงเรื่องอื่นเลย ข้าแค่อยากจะถามท่านว่า ท่านยินดีจะทำอะไรเพื่อองค์หญิงหรือไม่?”
ซุนกงกงพยักหน้า “ไม่ว่าเรื่องอะไร หม่อมฉันก็เต็มใจทำพ่ะย่ะค่ะ”
มู่หรงเจี๋ยกล่าว “เช่นนั้นก็ดี” เขาเอนตัวไปใกล้กับซุนกงกงและพูดบางอย่างใส่หูของเขา ซุนกงกงถึงกับตกใจ “ท่านอ๋องตั้งใจจะทำเช่นนี้จริง ๆ หรือพ่ะย่ะค่ะ?”
“ใช่” มู่หรงเจี๋ยตอบ “ท่านอย่าได้อย่ากังวลไป หากเสด็จแม่สืบสวนเรื่องราว ข้าจะออกหน้ารับแทนท่านเอง”
“หม่อมฉันไม่ได้กลัวพ่ะย่ะค่ะ” ซุนกงกงยิ้ม “หม่อมฉันแก่แล้ว หาได้สนใจอะไรทั้งนั้น”
มู่หรงเจี๋ยกล่าว “เช่นนั้นข้าต้องขอบคุณกงกงแทนองค์หญิงแล้ว”
มู่หรงเจี๋ยเดินไปสองก้าว เสียงของซุนกงกงก็ดังขึ้นมา “ท่านอ๋อง หม่อมฉันจำได้ว่าเป็นท่าน หาใช่ท่านอ๋องหลี่นะพ่ะย่ะค่ะ”
มู่หรงเจี๋ยเดินเซและจากไปอย่างรวดเร็ว หลังจากออกจากวัง มู่หรงเจี๋ยก็สั่งหนี่หรงว่า “เจ้าสั่งให้คนคอยตามเหลียงซู่หลินไป ดูว่าเขาไปที่ไหน”
“ขอรับ!” หนี่หรงรับคำสั่งและจากไป
วันนี้จื่ออันนั้นอารมณ์ดี นางจึงออกไปพบหูฮวนสี่ แต่ทว่ามู่หรงเจี๋ยนั้นหารู้ไม่ เขาจึงไปจวนของอ๋องเหลียงและจวนองค์หญิงเพื่อตามหานางแต่ก็ไม่พบ ต่อมาองครักษ์จินเห็นเขาน่าสงสารจึงได้พูดขึ้นว่า “ท่านอ๋อง ท่านกำลังตามหาพระชายาใช่หรือไม่? นางไปที่บ้านตระกูลหูพ่ะย่ะค่ะ”
มู่หรงเจี๋ยพูดด้วยความโกรธ “ทำไมไม่บอกให้มันเร็ว ๆ?”
“ท่านอ๋องไม่ได้ถามนี่ขอรับ” องครักษ์จินพูดอย่างไร้เดียงสา
“นางไปที่บ้านของตระกูลหูทำไมกัน?” มู่หรงเจี๋ยไม่สนใจเขา
“หม่อมฉันไม่ทราบเช่นกันรับ” มู่หรงเจี๋ยคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็ตรงไปที่บ้านของตระกูลหู
ทันทีที่เขาไปถึงประตูบ้านของตระกูลหู เมื่อเขาเห็นจื่ออันเดินออกมา เขาจึงบ่นขึ้นมาทันที “ต่อไปนี้ไม่ว่าเจ้าจะไปที่ใด ช่วยบอกข้าก่อนสักคำได้หรือไม่ ข้ามีเรื่องสำคัญจะถามเจ้า แต่ก็หาเจ้าไม่พบ ทำเอาข้าวิตกกังวลไปหมด”
“เกิดอะไรขึ้น?” จื่ออันถามเมื่อเห็นว่าเขารีบร้อนและเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
“แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องสำคัญ มาคุยกันบนรถม้าดีกว่า” มู่หรงเจี๋ยดึงนางเข้ามาในรถม้าโดยไม่มีคำอธิบายใด ๆ
หลังจากเข้ามาในรถม้าแล้ว เขาก็บอกนางเกี่ยวกับการตัดสินใจของหวงไท่โฮ่ว หลังจากที่ได้ยินเรื่องนี้ จื่ออันก็กล่าวว่า “ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี นี่คือเรื่องด่วนที่ท่านพูดงั้นหรือ?”
“อืม เรื่องนี้มันเร่งด่วนมาก” มู่หรงเจี๋ยตำหนิขึ้นในใจ เขาไม่สามารถพูดได้ว่าเขาคิดถึงนางมากแค่ไหน คำนี้พูดไม่ได้เด็ดขาด เพราะหากพูดไปสุนัขจิ้งจอกตนนี้จะได้ใจเอา
“เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนอะไร ค่อยคุยกันเมื่อกลับไปก็ได้นี่” จื่ออันกล่าว
“เจ้ามาหาหูฮวนสี่ทำไมกัน?” มู่หรงเจี๋ยถาม
จื่ออันมองไปที่เขา “เพื่อถามอะไรบางอย่างเพคะ”
“ถามอะไร?”
“เรื่องนี้ควรจะถามเมื่อนานมาแล้ว แต่มันก็ล่าช้ามาโดยตลอด ตอนนี้สิ่งต่าง ๆ ดำเนินไปในทิศทางที่ดี แต่ทว่าจู่ ๆ ข้าก็จำเรื่องนี้ขึ้นมาได้” จื่ออันยังคงจ้องไปที่เขา
มู่หรงเจี๋ยที่ถูกนางจ้องมอง จู่ ๆ ก็รู้สึกขนลุก “เรื่องอะไร?”
“ท่านจำได้ไหมว่าตอนที่เราแต่งงานกัน ข้าถูกลักพาตัวไป”
ใบหน้าของมู่หรงเจี๋ยเปลี่ยนไปในทันที แต่ก็กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว “เรื่องนี้? จำได้สิ แน่นอนว่าข้าจำได้ ตอนนั้นข้ากระวนกระวายแทบตาย”
“อืม” จื่ออันเย้ยหยันในใจ แต่ใบหน้าของนางยังคงอ่อนโยน “ข้าปล่อยเรื่องนี้ไปไม่ได้เลย จำได้ว่าข้าถูกโยนลงไปในหล่มเหม็นในวันที่แต่งงาน ท่านว่าบังเอิญหรือไม่ วันนั้นเมื่อท่านอ๋องอันหรานกลับมา ข้าได้พบกับคนที่จับข้าไป”
มู่หรงเจี๋ยร้องออกมา “จริงหรือ? เจ้าเห็นเขาหรือ? ใช่แล้ว พูดถึงอ๋องอันหรานแล้วนั้น ไม่รู้ว่าตอนนี้เซียวเซียวเป็นอย่างไรบ้าง?”