โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร” – ตอนที่ 142

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

บทที่ 7 ตอนที่ 26

 

ไอริสและคนอื่นๆสามารถหยุดยั้งโนโซมุที่พยายามจะหนีได้ แต่ก็ถูกต้อนจนมุมจนต้องถอยทัพออกมา

 

ก่อนอื่นเทคนิคของมาร์เริ่มไม่เสถียร

 

เมื่อรูนถูกสลักไว้บนเกราะแขนหมดสภาพลง การควบคุมเวทย์ก็เลยยากขึ้นหลายเท่าตัว

 

จากนั้นการเคลื่อนไหวของไอริสก็เริ่มช้าลง เป็นผลเสียจากการใช้เสริมพลังกายอย่างต่อเนื่อง

 

การใช้เวทย์อย่างต่อเนื่องก่อให้เกิดภาระโอเวอร์ฮีต ซึ่งจะทำให้ร่างกายมีความเหนื่อยล้าสะสมมากขึ้นเพราะเป็นการฝืนขีดจำกัดของร่างกายเป็นเวลานาน นอกจากนี้เธอยังใช้ดาบ “สุริยะคราส” ที่กินพลังเวทย์ของผู้ใช้จำนวนมาก

 

 

 

「「ย๊ากกกกกกกกกกกกกกห์!」」

 

 

 

「อึก!」

 

 

 

ไอริสสามารถปัดป้องดาบของโนโซมุ ขณะที่ฟันสวนกลับไป ในขณะนี้เธอยังได้ยินเสียงการแตกสลายของกล้ามเนื้อหลายส่วน เส้นประสาทหลายส่วนล้วนฉีกขาด

 

มีเส้นเลือดสีแดงเข้มโผล่ทั่วบริเวณผิวหนัง ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นผิวที่ขาวนวลบริสุทธิ์ไม่เผยเส้นเลือดให้เห็น

 

การเคลื่อนไหวไร้ซึ่งความแม่นยำ และก็ยุ่งอยู่กับการป้องกัน

 

 

 

「รีบๆกลับเป็นเหมือนเดิมได้แล้วน่าโนโซมุ!」

 

 

 

ลิซ่พยายามจะเผาโนโซมุและแยกเขาออกจากไอริสด้วยการยิงกระสุนเพลิงและมาร์ที่สบทบจากด้านหลัง

 

แม้ว่าสถานการณ์ที่การควบคุมพลังเวทย์จะอ่อนแอลง แต่มาร์ยังคงปล่อยพลังเวทย์ทั้งหมดใส่ดาบใหญ่ของเขา ด้วยความตั้งใจที่จะทำลายทุกอย่างเบื้องหน้ามาร์ใช้ “สัตว์ร้ายผู้หิวโหยท่ามกลางพายุ”อีกครั้ง

 

 

 

「อั่ก!?」

 

 

 

แขนของมาร์เกิดรอยฉีกเป็นชิ้นๆเนื่องจากบังคับใช้เทคนิคผสานที่ควบคุมได้ยาก

 

 

 

「ไม่เป็นไรนะ!?」

 

 

 

「อึก อั่กกกกกกกกกก………..」

 

 

 

การได้เห็นมาร์ทำสีหน้าบูดบึ้งในขณะที่อดทนต่อความเจ็บปวดทำให้ไอริสและลิซ่ากังวล

 

หากไม่รีบปิดเกมในตอนนี้ ก็ไม่มีแรงพอที่จะทำตามแผนขั้นสุดท้าย

 

หลังจากถูกซัดกระเด็นไป โนโซมุก็ล้มลงโดยแทบไม่ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นเขาก็พุ่งเข้ามาเพื่อโจมตีพวกเธออีกครั้ง

 

ในขณะนั้นเสียงของทอมดังจากด้านหลัง

 

 

 

「ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม เริ่มปฏิบัติการ!」

 

 

 

สัญญาณที่รอมาเนิ่นนาน ทันทีที่ไอริสได้ยินเช่นนั้นเธอก็ขยับตัว

 

ด้วยการใช้พลังเวทย์ที่เหลืออยู่ สร้างวงเวทย์และเปิดใช้งานเวทย์ที่เรียกว่า “หมอกแห่งคืนจันทร์ดับ(新月の濃霧)

 

หมอกดำเจิดจ้าถูกปล่อยออกมารอบๆไอริสบดบังการมองเห็นของโนโซมุ

 

 

 

「「!?หืมมมมมมมมมมมมมมม!」」

 

 

 

โนโซมุตกตะลึ่งอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็เปิดใช้งานก้าวพริบตาโดยไม่กังวลและรีบพุ่งเข้าหาเธอ

 

หมอกที่ได้จากการปล่อยออกมาทำให้ไอริสไม่สามารถปิดกั้นการมองเห็นของโนโซมุได้อย่างสมบูรณ์ อาจเนื่องจากความเหนื่อยล้า และถ้าถูกเห็นเงาแม้แต่นิดเดียวเธอก็คงไม่รอด

 

โนโซมุสามารถแยกแยะการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ได้จากหมอกที่ครอบคลุมรอบตัวเขา

 

จากเงาทั้งสามนั้นมีสองเงาที่กระจัดกระจายไปทางซ้ายและขวา และอีกเงาอยู่ตรงกลาง เมื่อพิจารณาจากขนาดและการเคลื่อนไหวของเงา เงาที่กระจัดกระจายไปทางซ้ายและขวานั้นยาวเกินไป

 

โนโซมุละเลยเงาทั้งสองด้านและรีบพุ่งไปยังเงาตรงกลาง

 

เป้าหมายคือลิซ่าซึ่งคอยทำหน้าที่ซัพพอร์ต

 

เธอไม่มีการป้องกันเหมือนคนอื่นๆ ถ้าเขาเข้ามาใกล้เธอ ก็ไม่มีทางที่เธอจะหลบเลี่ยงได้ โนโซมุรู้สิ่งนี้จากพฤติกรรมของเธอ

 

โนโซมุวิ่งฝ่าทะลุหมอกและเห็นตาของลิซ่าเบิกกว้างด้วยความตกใจ มือของเธอไม่ได้มีอะไรเลยแม้แต่น้อย

 

โนโซมุยกดาบขึ้นและพยายามฟันฝ่ายตรงข้าม

 

 

 

「อึก!」

 

 

 

「「!?」」

 

 

 

แต่ว่าช่วงต่อมาลิซ่าก็ทำสิ่งที่ประหลาดใจกว่านั่นคือพุ่งเข้าหาดาบของเขา

 

ในเวลาเดียวกันเวทย์เสริมแกร่งร่างกายเพื่อเสริมกล้ามเนื้อให้เต็มที่ เมื่อจ้องมองใบมีดที่กำลังจะลงมา เธอเอื้อมมือไปด้านหลังเอวและชักมันออกมา

 

 

 

「ฮ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกห์!」

 

 

 

สิ่งที่ดึงออกมาคือกริชของมิมูรุ เธอมอบให้ฉันในการประชุมแผนครั้งก่อน

 

ใช่ เธอไม่มีอะไรเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามยังมีส่วนเสริมของคำพูดนั้น “มันเป็นงานอดิเรกที่ฉันถนัด” เหตุผลที่มิมูรุสู้โนโซมุไม่ได้เพราะมิมูรุเองก็ไม่มีทักษะพิเศษใดๆ

 

แต่ว่ากริชจะสามารถต่อกรกับดาบคาตานะได้อย่างงั้นเหรอ ลิซ่าเข้าใจถึงเรื่องนั้นในการต่อสู้ครั้งนี้

 

นั่นเป็นเหตุผลที่ลิซ่าก้าวไปข้างหน้า

 

ด้วยเสียงกระแทกวัตถุทั้งสองเข้าปะทะกัน

 

ชั่วตามาดวงตาอันเกรี๊ยวโกรธของโนโซมุเบิกกว้างด้วยความตกใจ

 

ด้วยเหตุผลบางอย่างดาบที่ควรจะฟันลงมากับไม่สามารถตัดกริชของมิมูรุได้และกลับติดค้างอยู่ครึ่งทางราวกับถูกดูดกลืน

 

 

 

「อึก!」

 

 

 

ลิซ่าคุกเข่าลงต่อหน้าโนโซมุและมองขึ้นไปที่เขาพร้อมกับยกกริชขึ้นมา

 

แม้ว่าเธอจะเหงื่อออกมากเมื่อรู้ว่าตัวเองรอด แต่เธอก็ยังส่งพลังเวทย์ไปยังกริชที่ถูกฟันหักครึ่ง

 

แน่นอนมีหลายปัจจัยที่ทำให้ลิซ่าสามารถป้องกันการโจมตีได้

 

ก่อนอื่นเธอรับดาบของโนโซมุตรงฐานของดาบ

 

เนื่องจากลักษณะของดาบคาตานะ ฐานของดาบมันทื่อที่สุดและดาบจะสูญเสียแรงเหวี่ยง ด้วยเหตุนี้เธอจึงแกล้งเข้าไปหาโนโซมุด้วยตัวเอง

 

อีกประการก็คือพลังของเธอ “แม่มดเนวี่”

 

ด้วยความสามารถนี้เธอเปลี่ยนเวทย์เสริมความแข็งแกร่งที่ใช้กับกริชของมิมูรุ ชั่วคราวให้เป็นดาบเวทย์ที่เทียบเท่ากับ “สุริยะคราส”ของไอริส

 

อย่างไรก็ตามตัวดาบถูกพังไปแล้วครึ่งหนึ่ง จึงไม่สามารถใช้งานกริชนี้ได้อีกต่อไป

 

เพียงแค่โนโซมุชักดาบออกมาก็จะฟันลิซ่าได้

 

แต่ว่ามันเป็นเรื่องปกติสำหรับลิซ่า คงจะดีไม่น้อยถ้าเธอหยุดเขาได้แม้เพียงวินาทีเดียว

 

 

 

「ย๊ากกกกกกกกกกกห์!」

 

 

 

「ฮ๊ากกกกกกกกกกกกห์!」

 

 

 

ไอริสและมาร์พุ่งเข้าจากด้านข้างโดยเข้าประกบแบบนั้น

 

โนโซมุที่พยายามจะฟันลิซ่า แต่เมื่อสูญเสียความสนใจไปชั่วขณะ ลิซ่าก็รีบปล่อยกริชทิ้งลงไป

 

ดาบของโนโซมุตัดผมหางม้าของลิซ่าแต่ดาบนั้นไม่โดนตัวของลิซ่า

 

 

 

「「อั่ก! ย๊ากกกกกกกกกกกกห์!」」

 

 

 

ขณะที่ตัดผมลิซ่าปลิวว่อน โนโซมุก็ยอมแพ้ที่จะไล่ตามเธอและดึงฝักดาบที่ผูกไว้กับเอวด้วยมือซ้าย ในขณะที่ลิซ่าถอยหลังและถอนตัวไป

 

โนโซมุกั้นดาบทั้งสองจากซ้ายและขวาด้วยคาตานะและฝักดาบ

 

เกิดแรงสั่นสะเทือนจากทั้งสองฝั่ง แต่ไอริสและคนอื่นๆต่างถึงขีดจำกัดแล้วมันจึงเบากว่าเดิม

 

พวกเราสวนกลับอีกครั้ง

 

ขณะที่คิดแบบนั้นก็เสริมพลังแขนจนถึงขีดสุดและทันใดนั้นก็เปิดประกายแสงออกมาปกคลุมทั่วบริเวณ

 

สิ่งที่ตามมาคือฝูงกระแสไฟฟ้าสีม่วงที่มีลักษณะคล้ายงูจำนวนนับไมาถ้วนโจมตีโนโซมุจากทุกทิศทาง

 

 

 

「「อั่ก!? อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก!」」

 

 

 

「ตอนนี้แหละ!ตามที่วางแผนไว้!」

 

 

 

เวทย์ระยะกลาง “ฝูงอสรพิษชิเดน(紫電の蛇群)”

 

โนโซมุเจ็บปวดอย่างรุนแรงราวกับร่างกายถูกทิ่มแทงด้วยหอก

 

ในขอบเขตการมองเห็นที่ถูกย้อมเป็นสีขาวสนิทโนโซมุเห็นฟีโอที่กำลังกำหมัด

 

อย่างไรก็ตามรูปร่างหน้าตาแตกต่างจากปกติ

 

ขนตามร่างกายชูชันปกคลุมไปทั่วร่าง และจมูกที่ยิ่นออกมาเหมือนสุนัขจิ้งจอก หางนั้นใหญ่ขึ้นจนเด่นชัดและปกคลุมไปด้วยไฟฟ้าสีม่วง

 

 

 

「「กะกลายเป็นสัตว์อสูร….?」」

 

 

 

นั่นคือร่างสัตว์อสูรของฟีโออย่างแน่นอน

 

รายละเอียดแตกต่างไปตามแต่ละเผ่า แต่โดยพื้นฐานแล้วพลังเหนือธรรมชาติในการแปลงร่างควรที่จะลดลงและเพิ่มความสามารถทางกายภาพแทน

 

อย่างไรก็ตาม กรณีของเผ่าจิ้งจอกนั้นแตกต่างไปเล็กน้อย ในทางตรงกันข้าม พวกเขาจะลดความสามารถทางกายภาพเพื่อเพิ่มความสามารถทางด้านเวทมนตร์

 

แม้ว่าจะรู้สึกหนักใจกับการควบคุมพลังเวทย์ที่ใช้กับไอริส แต่ฟีโอที่กลายร่างก็สามารถใช้พลังได้ชั่วคราว

 

จากนั้นด้วยความสามารถของเวทย์ที่เพิ่มขึ้น เขาจึงใช้ “ฝูงอสรพิษชิเดน” ซึ่งมีศูนย์กลางคือโนโซมุ

 

 

 

「ไม่ว่าความสามารถของเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน โนโซมุก็ไม่สามารถรับมือกับทุกทิศทางได้ ! มันได้ผลจริงๆใช่ไหม!?」

 

 

 

จุดอ่อนของโนโซมุนั้นไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าจะมีความสามารถทางกายภาพสูงส่ง

 

แต่ว่า “การป้องกันศัตรูจากการโจมตีด้วยเวทย์เป็นวงกว้าง”นั้นอ่อนแอมาก  

 

ถ้าพูดตามตรงแล้ว ยิงเวทย์ใส่ตรงๆคงไม่ได้ผลเพราะความสามารถทางกายภาพและมีการโจมตีระยะไกลด้วยคิ

 

แต่ถึงแบบนั้น หากเท้าและแขนอันรวดเร็วถูกผนึกไว้ก็จะเปิดเผยจุดอ่อนได้ง่ายๆ

 

 

 

「「บ้าเอ้ย!」」

 

 

 

「มิมูรุ ได้เวลาแล้ว」

 

 

 

「อืม ! ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเอง!」

 

 

 

มิมูรุใช้ประโยชน์จากการที่โนโซมุเคลื่อนไหวได้ช้าลง โดยกระโดดออกจากพุ่มไม้แล้วกระโดดขึ้นไปบนแขนขวาของโนโซมุ บิดแขนและคว้าดาบออกไป

 

โนโซมุพยายามสลัดให้หลุดทันทีด้วยฝักมือทางซ้าย แต่ก่อนที่จะทำแบบนั้นมาร์ก็โยนดาบใหญ่ทิ้งและแย่งฝักดาบมา

 

 

 

「「อ่ะ!?」」

 

 

 

ทำไมถึงต้องทำแบบนี้ ภายในหัวของโนโซมุมีความสับสนวุ่นวายตีกันไปหมด

 

มาร์ที่พยายามยื้อแย่งฝักดาบของเขาไปได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่ตัวเขาโดนผลกระทบของงูไฟฟ้า

 

 

 

「ถ้าเป็นคนธรรมดาคงไม่พลาดหรอก……」

 

 

 

หลังจากพูดอย่างงั้น มาร์ก็ชี้ไปที่หน้าอกของเขา ที่นั่นมีสัญลักษณ์ที่ใช้เวทย์บาเรียที่ฟีโอมอบให้

 

 

 

「ฮะฮ่าฮ่าฮ่า!」

 

 

 

และถ้ามาร์ปลอดภัย ไอริสก็ปลอดภัย

 

เธอร่ายเวทย์ทั้งหมดที่เหลือใช้โซ่แห่งความมืดเข้าผนึกร่างของโนโซมุ

 

 

 

「ซีน่า ตอนนี้แหละ!」

 

 

 

ด้วยเสียงตะโกนของไอริส ซีน่าที่กำลังเล็งอยู่นานก็ปล่อยศรเวทย์ออกมา

 

เสียงคำรามที่เจาะแก้วหูและเสียงแตกสลายของหลายๆสิ่ง ศรเวทย์ของซีน่าถูกยิงออกไปและคันธนูก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆและเหลือรอยแผลเป็นบนหน้าเธอไว้ด้วย

 

ศรวิเศษพุ่งปักเข้ากลางหัวใจของโนโซมุด้วยความเร็วสูง

 

โนโซมุที่ไร้ซึ่งดาบและฝัก ร่างกายที่ถูกพันธนาการ เขาพยายามปลดพันธนาการออก แต่ก็ไม่มีเวลาให้ทำเช่นนั้น

 

 ศรเวทย์วิ่งตรงเป็นเส้นตรงดั่งดาวหาง……。

 

 

 

「โกหกน่า……」

 

 

 

「「ก๊าซซซซซซซซซซซซ……」」

 

 

 

โนโซมุจับมันไว้ได้ด้วยแขนเพียงข้างเดียวและปลดพันธนาการทิ้งได้ส่วนหนึ่ง

 

ในขณะเดียวกันธาตุทั้งห้าก็พยายามจะบดขยี้ศรเวทย์ที่เข้ามาหาเขา

 

 

 

「บ้าเอ้ยยยยยยยย!」

 

 

 

มาร์ก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวและพยายามรั้งโนโซมุเอาไว้แต่ทันทีที่เขาก้าวสมดุลร่างกายก็พังลง

 

เขาถึงขีดจำกัดแล้วไม่มีพลังเวทย์หรือคิเหลือแล้ว

 

ในตอนแรกลูกธนูเวทย์ถูกปกคลุมด้วยธาตุทั้งสี่ แต่ว่าแสงเหล่านั้นค่อยๆจางหายไปหากเป็นแบบนี้ก็จะไม่โดนตัวโนโซมุ

 

 

 

「ย๊ากกกกกกกกกกกกห์!」

 

 

 

อย่างไรก็ตามไอริสได้เคลื่อนไหว

 

ขณะที่บังคับร่างกายอันอ่อนแรงให้เคลื่อนไหว เธอก็คว้าลูกธนูเวทย์ที่กำลังถูกทำลายและดันเข้าไปหาเขา

 

 

 

「ย๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกห์!」

 

 

 

「พี่คะ!?」

 

 

 

「เฮ้ย ไอริส บ้าบิ่นเกินไปแล้ว!」

 

 

 

เธอได้ยินเสียงเพื่อนของเธอ แต่เธอไม่ตอบกลับ

 

พลังของเทียแมตที่โนโซมุสร้างขึ้นมาเป็นกระแสพลังที่ไร้ทิศทาง พลังของดราก้อนสเลเยอร์เข้าฟาดฟันเธอ แผดเผาผิวหนังของไอริสอย่างไร้ความปราณี

 

 

 

「「มิคาเอลลลลลลลลลลลลลลลลล!!」」

 

 

 

「โนโซมุ ! ขอร้องล่ะ ได้สติสักทีเถอะค่ะ!」  

 

 

 

แม้จะอยู่ใกล้และตะโกนเรียกเขามากแค่ไหน แต่คำพูดของไอริสกับไปไม่ถึงเขา

 

เธอกัดริมฝีปากด้วยความหงุดหงิด รู้สึกเหมือนหน้าอกถูกบางอย่างทับด้วยความรู้สึกเหมือนทำอะไรไม่ได้

 

ไม่ว่าจะอยู่ข้างเขามากแค่ไหน ก็รู้สึกไร้พลังเมื่ออยู่ต่อหน้าเทียแมต

 

 

 

「แต่ถึงยังไง แต่ถึงยังไงฉันน่ะ……」

 

 

 

ถึงกระนั้นฉันก็อยากจะอยู่เคียงข้างนาย

 

ไอริสไม่มีความผูกพันพิเศษดั่งซีน่าที่ผูกพันกับเขาทางวิญญาณ หรือ สัญญาของเพื่อนสมัยเด็กอย่างลิซ่า

 

สิ่งเดียวที่เชื่อมโยงฉันกับเขาเข้าด้วยกันก็คือคำสารภาพที่ฉันสารภาพตอนที่อยู่ในป่า

 

นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันจะพยายามจนถึงที่สุด

 

ฉันรวบรวมกำลังทั้งหมดและจะยืนอยู่เคียงข้างเขาให้ได้แม้เพียงเล็กน้อย……。

 

 

 

「ยัง ยังหรอกน่าาาาาาาาาาา……」

 

 

 

ฉันไม่คิดเลยว่าตัวเองจะบาดเจ็บแค่ไหน

 

ใกล้เขาให้ได้มากที่สุด ด้วยความคิดนั้น ฉันรวบรวมพลังเวทย์ที่หมดไปแล้วส่งไปที่ศรเวทย์

 

ไม่นานนั้นก็เกิดความอลหม่านอย่างชัดเจน

 

ก่อนอื่นเลยเนื่องจากฝืนใช้พลังเวทย์จนต้องแลกด้วยพลังชีวิต ทำให้การมองเห็นสีสันต่างๆเริ่มหายไป แม้ในโลกสีเทานี้ เธอก็รับรู้สีไม่ได้

 

ต่อมาความเจ็บปวดทั่วร่างที่ไม่หายไป แต่ต่อมาก็ไร้ซึ่งความรู้สึกทำให้ไม่มีอะไรมารวกวนสมาธิอีกต่อไป

 

ต่อไปคือสีผมของเธอเริ่มร่วงหล่นกลายเป็นสีขาวราวกับขี้เถ้า ฉันกำลังทรมานอยู่ ฉันอยากให้เขาได้รับรู้

 

ในที่สุดการมองเห็นของเธอที่เลือนหายไปก็มืดลงราวกับกำลังจมสู่ฝัน

 

 

 

“ส่งไป……ไม่ถึงงั้นเหรอ”

 

 

 

น่าเสียดาย ทั้งเศร้า แค้น เจ็บใจ ไม่อยากจะแพ้ อย่างไรก็ตามศรเวทย์หลุดผ่านนิ้วของเธอซึ่งตรงกันข้ามกับตัวเธอที่สูญเสียพลังไปแล้ว

 

ในขณะนั้นมีบางอย่างมาประคองมือของเธอที่กำลังจะล้มลงในไม่ช้า

 

ที่ขอบเขตการมองเห็นอันซีดเซียว ฉันเห็นใบหน้าของเด็กสาวที่แสดงความโกรธเกรี๊ยวมีดวงตาสีแดงอันโดดเด่น

 

 

 

「ขอแทรกหน่อยเถอะ ! จะมายอมแพ้เอาป่านนี้ ? ถามจริงเจอแค่นี้เธอจะยอมแพ้แล้วเหรอแล้วที่เธอพร่ำสอนฉันว่าอย่ายอมแพ้ให้กับโชคชะตาที่เล่นตลกนั่นคืออะไร อยากจะปั่นประสาทฉันคนนี้มากรึไงฮะ? เธอเป็นคนฉุดฉันขึ้นมาจากนรก ช่วยฉันจากแผลใจที่ฝังรากลึกลงไปยังหัวใจของฉัน แต่เธอกลับจะมายอมแพ้เพราะเรื่องแค่นี้เนี่ยนะ?」

 

 

 

เธอรู้สึกตื่นเต้นไปพร้อมกับไอริส

 

ทันทีที่เห็นใบหน้านั้นก็มีสิ่งร้อนๆพุดมาในอกของเธอ ซึ่งเหมือนกำลังจะแตกสลายเมื่อครู่นี้

 

 

 

「ฉันไม่ได้ยอมแพ้……….คิดว่าฉันจะยอมแพ้งั้นเหรอคะ!」

 

 

 

นิ้วของฉันซึ่งเกือบจะแหลกสลาย กลับมืความกล้าขึ้นมาอีกครั้ง

 

 

 

“ไม่ยอมหรอก ใครจะไปยอมกัน เหนือสิ่งอื่นใด ฉันจะไม่มีวันแพ้ต่อหน้าเธอคนนี้เด็ดขาด!”

 

 

 

เป็นการจุดไฟครั้งสุดท้าย พลังเวทย์สีดำสนิทพุ่งออกจากร่างของไอริสเหมือนสายน้ำที่ไหลรินและไหลเข้าสู่ศรเวทย์

 

ลูกศรเวทย์ที่กำลังจะหายไปกลับมาเปล่งประกายอีกครั้งและเริ่มเข้าประชันกับพลังของเทียแมต

 

 

 

「อย่ามาขวางทางกันนะ ลิซ่า ฉันน่ะอยากจะอยู่เคียงข้างเขา!」

 

 

 

「คิดว่าพูดแค่นั้นแล้วฉันจะยอมแพ้รึยังไง ฉันเองก็จะทุ่มสุดตัว!」

 

 

 

ไอริสตะโกนเรียกชื่อลิซ่าเป็นครั้งแรก

 

ลิซ่าเปิดใช้งาน “แม่มดเนวี่” โดยได้รับการสนับสนุนจากเสียงของไอริสและทันใดนั้นศรเวทย์ก็เพิ่มขนาดเป็นสองเท่าและเริ่มกลืนกินในคราวเดียว

 

 

 

「「อึก!?」」

 

 

 

「「อิเคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค้(ลุยเลยยยยยยยยยยยยยยย)!!」」

 

 

 

และครู่ต่อมาศรเวทย์ก็แทงโดนอกซ้ายของโนโซมุและระเบิดเสียงคำรามจนแสบแก้วหู

 

ความเจ็บปวดและแรงสั่นสะเทือนไหลผ่านอกโนโซมุอากาศถูกบีบออกจนหัวใจเต้นเร็ว

 

 

 

「「อะ ผม……」」

 

 

 

พลังเวทย์มหาศาลและชีพจรที่ถูกกระตุ้นอย่างรุนแรงทำให้เกิดช่องว่างระหว่างจิตสำนึกที่ประสานกันของโนโซมุและเทียแมต

 

ดวงตาสีแดงสดของโนโซมุหายไปทันทีเมื่อความแข็งแกร่งทางกายเริ่มลดลง

 

ในขณะเดียวกันร่างกายของโนโซมุทรุดลงและค่อยๆล้มลงจากแรงโน้มถ่วง

 

ประสบความสำเร็จในครั้งนี้ ขณะที่คิดได้เช่นนั้นทุกคนก็ร้องไห้ออกมาด้วยความโล่งใจ

 

 

 

「โอ้ววววววววววววววววววววววววววววววววววววว!」

 

 

 

โนโซมุล้มลงให้กับการโจมตีครั้งนี้

 

ดวงตาของเขาลืมอยู่เพียงข้างเดียวพร้อมกลับกลายเป็นสีแดงดั่งเดิม จนในท้ายที่สุดมีเสียงของผู้หญิงกรีดร้องออกมาจากร่างของเขา

 

ต่อหน้าไอริสและคนอื่นๆ ที่ตกตะลึงกับเหตุการณ์ตรงหน้า เขายกแขนข้างหนึ่งและพยายามจะรวบรวมพลังแห่งความโกลาหลเอาไว้

 

ไม่ นั่นไม่ใช่โนโซมุ เมื่อเขาหมดสติไป เทียแมตก็เข้ามายึดร่างของเขาไว้ชั่วคราว

 

 

 

「มิตสึเคต้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา(เจอแล้ว)!!」

 

 

 

แหล่งรวมพลังขนาดใหญ่เป้าหมายของเทียแมตครั้งนี้คือมิคาเอล แต่แน่นอนว่าไอริสและคนอื่นๆก็อยู่ในสายตา ซอนเน่ที่เห็นสถานการณ์เช่นนั้นจึงรีบยกมือขึ้นเพื่อสร้างบาเรียป้องกันพวกเด็กๆไว้

 

 และเมื่อพลังแห่งความโกลาหลบรรจบกันก็ถูกปลดปล่อยออกมา……。

 

 

 

「อั่ก!?」

 

 

 

ทันใดนั้นเทียแมตก็ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

 

ช่วงเวลาต่อมาโซ่แห่งแสงจำนวนนับไม่ถ้วนได้ปรากฏตัวขึ้นในอากาศ มัดร่างของโนโซมุเอาไว้

 

เทียแมตพยายามดิ้นรนและฉีกโซ่แห่งแสงทิ้ง แต่ไม่ว่าจะใส่แรงไปมากแค่ไหน โซ่ก็ไม่ขยับ

 

 

 

「แกอีกแล้วงั้นเหรออออออออออออออออ ! หมอนั่น หมอนั่นน่ะ อยู่ตรงหน้าฉันแล้วแท้ๆ ปล่อยนะ ปล่อยซะ ปล่อยสิ!」

 

 

 

เสียงกรีดร้องอันโกรธเกรี๊ยวของเทียแมตดังก้องกังวาล

 

อย่างไรก็ตามตรงกันข้ามกับความเกลียดชังที่ปล่อยออกมาราวกับสาปแช่งทุกสิ่งในโลกใบนี้ พลังที่ถูกรวบรวมก็สลายไปเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ

 

 

 

「บ้าเอ้ยยยยยยยยยย….! ให้ตายเหอะ…จะ…สำ…อยู่…..แล้ว…」

 

 

 

เมื่อความขุ่นเคืองค่อยๆลดลง การต่อต้านของเทียแมตก็ลดลง และในที่สุดก็หยุดเคลื่อนไหว

 

จากนั้นทันทีที่โซ่แห่งแสงกระจายไป ร่างของโนโซมุก็ทรุดลงราวกับตุ๊กตาที่ไร้สาย

 

ไอริสและลิซ่าเข้าไปอุ้มเขา

 

อย่างไรก็ตามเหล่าสาวๆเองก็ถึงขีดจำกัด ดังนั้นพวกเธอไม่เหลือแรงจึงพยุงเขาทั้งๆที่คุกเข่าอยู่

 

 

 

「โนโซมุ! ไม่เป็นไรนะ?」

 

 

 

แม้ว่าจะถูกโจมตีด้วยความเหนื่อยล้าอันมหาศาล แต่ทั้งสองก็ตรวจร่างของโนโซมุ

 

มีบาดแผลมากมายทั่วร่างกาย และเลือดที่ไหลออกมาไม่หยุดจนร่างกายเป็นสีแดงเข้ม

 

บางทีปอดของเขาคงได้รับความเสียหาย ขณะที่พ่นเลือดออกมาจากปาก

 

แต่ดูเหมือนว่าจะหยุดหายใจแล้ว

 

ผิวของเขาย้อมเป็นสีม่วง ไม่มีเลือดในร่าง และอุณหภูมิร่างกายลดต่ำลงเหมือนกับคนตาย

 

ไม่ต้องสงสัยเลยระบบทางเดินหายใจของเขาได้รับความเสียหาย

 

 

 

「แย่แล้ว เขาไม่หายใจแล้ว!」

 

 

 

「คุณปู่คะ โนโซมุเค้า!」

 

 

 

ลิซ่าเรียกซอนเน่ด้วยความตื่นตระหนก

 

ขณะเดียวกันซอนเน่ก็มองร่างของโนโซมุและมองด้วยความพอใจ

 

 

 

「เข้าใจแล้ว….เป็นแบบนั้นเองเหรอ……」

 

 

 

「คุณปู่รีบหน่อยเถอะ!」

 

 

 

「อ่า เข้าใจแล้วล่ะ!」

 

 

 

ลิซ่าที่หงุดหงิดก็ขึ้นเสียงของเธอ ซอนเน่ก็รีบเข้าไปหาโนโซมุและเริ่มใช้เวทย์รักษา

 

ในที่สุดไอริสและผองเพื่อนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก พวกเขามองดูบาดแผลของโนโซมุอย่างใกล้ชิดและใบหน้าของเขาก็กลับมาเป็นปกติ

 

 

 

สรุปความเสียหายของแต่ละคนใน 5-6 บทที่ผ่านมา

 

1.ไอริส (แทงค์/DPS เลทเกม) ว่าที่นางเอกคนที่หนึ่ง ผมขาว สูญเสียการมองเห็นสีสัน(ชั่วคราว) เส้นเลือดแตกไปหลายส่วน ขาก้าวไม่ออก พลังเวทย์หมดตัวจนต้องใช้พลังชีวิต ทำให้อายุขัยสั้นลง เสียพลังเวทย์จำนวนมากให้กับดาบ “สุริยะคราส”และบังคับใช้พลังชีวิตเสริมการโจมตีให้ศรเวทย์ในตอนท้าย

 

 

2.ลิซ่า ว่าที่นางเอกคนที่สอง (ซัพพอร์ต/DPS เลทเกม) ผมหางม้าขาด เสียพลังเวทย์จำนวนมาก ทำหน้าที่ซัพพอร์ตกับกลายเป็นตัวชนของทีมในไฟต์สุดท้าย โดนไอริสขิงใส่

 

 

3.มาร์ แท้งค์(แตกท้ายเกม) เส้นเลือดแตกขาดหลายส่วน หนักส่วนมากที่แขน แท้งค์จนถึงท้ายที่สุดแม้จะไม่เท่าสาวๆ แต่ก็แท้งค์จนคิหมด มานาหมด

 

 

4.ทิม่า (นักเวทย์/ซัพพอร์ต) เดอะแบก MVP ของตี้นี้สุดๆ เป็นซัพพอร์ตตัวตึงซึ่งสนับสนุนพลังเวทย์มาด้วยกันเกือบ 5 ตอนเต็ม สนับสนุนพลังเวทย์ ด้านการใช้บาเรีย บัพไอริสกับมาร์ เสริมศรเวทย์จนพลังเวทย์หมดถัง ใช้พลังในการควบคุมธาตุทั้งสี่ จนถึงขีดสุด จนสุดท้าย ถังมานาเคลื่อนที่ก็หมดสภาพ

 

 

5.ซีน่า ว่าที่นางเอกคนที่สาม (HIGH DPS ที่รอเลทจัด) กลายเป็นสาวผมสั้นไปโดยปริยาย เนื่องจากสูญเสียผมจำนวนนับไม่ถ้วน เพื่อทำ เชือกขึงคันธนู ทำลูกศรเวทย์ ใช้เป็นสื่อกลาง แถมยังใช้พลังของภูติโดยต่อกรกับอาเซลจนพลังภูติแถวนั้นหมดเกลี้ยง ชีพจรมังกรเองก็ทำงานไม่ได้

 

 

6.ฟีโอ (ซัพพอร์ต ซัพจ๋า และ ทำหน้าที่ CC ในช่วงท้าย) ผู้ที่ใช้ไอเทมฟุ่มเฟือยมากที่สุดและหนึ่งในดูโอ้กับทิม่าที่แข็งแกร่งที่สุด นับตั้งแต่ ใช้ยันต์จำนวนมากไปสร้างบาเรียให้กับเพื่อนร่วมทีม เครื่องรางที่สั่งสมมาหมดกับศึกนี้ จนถังแตกกันเลยทีเดียว ไหนจะต้องคุมพลังเวทย์มหาศาลของทิม่า เพื่อใช้บัพให้เพื่อนร่วมทีมทุกคน เสียยันต์ชนิดพิเศษเพื่อสร้างบาเรียซึ่งราคาแพงหูฉี่ จนพี่แกบอกว่าไม่เหลือตังค์เก็บแล้ว กัดก้อนเกลือกินหลังศึกนี้ยาวๆ ช่วงท้ายเกมได้เผยร่างสัตว์อสูรให้เห็นพร้อมทำ CC ใส่โนโซมุเพื่อให้ซีน่าทำDPSสูงสุด

 

7.ทอม (Mastermind/Supporter)จอมวางแผนในศึกครั้งนี้ ผู้ที่ไขปริศนาทุกอย่างให้กระจ่าง ผู้ที่แถลงไข และผู้นำเสนอแผนการไม้ตายเพื่อแยกวิญญาณของโนโซมุออกจากเทียแมตซึ่งรวมไปแล้วครั้งหนึ่ง ด้วยการหยุดการเต้นของหัวใจ เขาคือผู้วิเคราะห์เรื่องราวและสืบเรื่องราวได้อย่างเก่งกาจในข้อมูลของเทพมังกร และเป็นหนึ่งในผู้ที่ใช้คาถาที่กินแรงเพื่อนมากที่สุด คือ รูน  

 

 

8.มิมูรุ (Vanguard/Support) ผู้เป็นหน่วยม้าไวคอยส่งสารระหว่างทัพหน้าและทัพหลัง คอยเป็นเหยื่อล่อ ยาม ไอริสและมาร์หลุดการป้องกัน และเป็นคนที่เสี่ยงชีวิตที่สุดในการเก็บมิคาเอลกลับมา เกือบโดนโนโซมุฟันขาดเป็นสองท่อน

 

 

9.โซเมีย(Healer/Buffer) ผู้ที่เป็นฮีลเลอร์และซัพพอร์ตพลังเวทย์ พร้อมทั้งควบคุมสถานการณ์โดยรวมร่วมกับฟีโอและทิม่า เป็นซัพครบเครื่องทั้งความน่ารัก และ ฮีลเลอร์ชั้นดี แถมยังบัพพี่สาวด้วยการเรียก “พี่คะ” ระหว่างการรบ

 

 

10.ตาแก่ซอนเน่ที่เป็นทั้งแท้งค์/DPS/ซัพ ในเวลาเดียวกัน ตาแก่ที่หยิบยืมพลังจากต้นกำเนิดมาเพื่อแท้งค์กับโนโซมุในศึกแรกเพื่อยื้อเวลาให้ฝ่าย แท้งค์ของฝั่งโรงเรียนได้เข้ามาทำสกอ แต่ว่าตัวเองก็เกือบเอาตัวไม่รอดเพราะแท้งค์นานจนเกินไปเกือบพลาดท่าให้โนโซมุ หากพวกไอริสมาช้าอีกสัก 3 วิ ตาแก่คงนอนตาย ณ ช่วงต้นเกมไปแล้ว/ช่วงกลางเกมยังพอทำDPSอยู่บ้างแต่ก็ไม่หนักหนาอะไร/ช่วงท้ายเกมหลังจากให้เด็กแท้งค์กันแทบตายสุดท้ายตัวเองพึ่งยื่นมือมาช่วยในการทำDPS และซัพพอร์ตสโลว์กังขัง

 

 

11.อาเซล ผู้ที่รับความเสียหายน้อยที่สุด โดนโนโซมุซัดตั้งแต่ยังไม่เข้าร่างเบอเซอเกอร์และเกือบโดนตบหลับ สุดท้ายโดนเหล่าสาวๆ CCใส่ ทำให้ช่วงสามตอนหลังไร้ซึ่งบท

 

 

12.มิคาเอล(ตำแหน่ง ตัวล่อ) ตัวประกอบที่ถูกเพิ่มเข้ามาเพื่อให้เทียแมตไล่ล่า ทำผิดบาปต่อเทียแมตไว้มากมาย แต่พร้อมจะตกนรกไปพร้อมกัน

 

 

ทุกคนต่างมีโรลของตัวเองและต้องเล่นตามโรล !!!

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

Status: Ongoing
สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท