กำเนิดใหม่ : ปรมาจารย์เทพโอสถ – ตอนที่ 33 ความหวาดกลัวของผู้เฒ่ากัว

กำเนิดใหม่ : ปรมาจารย์เทพโอสถ

        แพทย์โอสถที่มีฝีมือแท้จริงอยู่กับตัวสามารถผลิตโอสถได้ทุกเมื่อ หากโรงประมูลคว้าโอกาสไว้ก็สามารถสร้างกำไรก้อนโต ผู้เฒ่ากัวพลาดโอกาสนี้ไป สำหรับอู่ซานเหอแล้วนับเป็นเรื่องโง่เขลา 

        อู่ซานเหอมองผู้เฒ่ากัว เห็นแววตาเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่ายก็คาดเดาความคิดได้ จึงเตือนด้วยความหวังดี “ข้าขอเตือนเจ้าให้ล้มเลิกความคิดนั้นเสีย อย่าได้แส่หาความตาย”

        ผู้เฒ่ากัวหัวใจกระตุก ถามว่า “เจ้ามีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดากับเขา?”

        ชายชราเข้าใจผิดแล้ว นึกว่าอู่ซานเหอให้ความสำคัญกับอวิ๋นโม่ และอวิ๋นโม่พึ่งพาอู่ซานเหออยู่ ถึงได้กล้า “โอหัง” ขนาดนี้

        “ผู้เฒ่ากัว ข้าจะเตือนเจ้าเพียงครั้ง​เดียว ท่านผู้นั้นไม่ใช่คนที่เจ้าจะหาเรื่องได้ ทางที่ดีเจ้าอย่าคิดทำอะไร” อู่ซานเหอส่ายศีรษะ รู้สึกว่าผู้เฒ่ากัวกำลังหาเรื่องตาย คนที่สามารถมองระดับของเขาออกในแวบเดียว พลังจะต่ำต้อยได้หรือ ยิ่งกว่านั้น เท่าที่เขารู้ คนที่อยู่ในระดับเสริมกำลังไม่มีทางหลอมโอสถได้ คาดว่าพลังของอวิ๋นโม่จะต้องน่าตื่นตระหนกมากแน่

        “ก็แค่ระดับเสริมกำลังคนหนึ่งเท่านั้น หากเจ้าไม่ปกป้องเขา เขาคงยากจะเดินอยู่ในเมืองกวนซานเจิ้นได้” ผู้เฒ่ากัวไม่เห็นด้วย

        “ระดับเสริมกำลัง? ปกป้อง? ฮ่าๆ!” อู่ซานเหอหัวเราะลั่น “ท่านผู้นั้นไม่จำเป็นต้องให้ข้าคุ้มครอง” 

        “หมายความว่าอะไร” ผู้เฒ่ากัวหน้าเปลี่ยนสี เขาเข้าใจว่าระดับพลังของชายผู้นั้นต่ำมาตลอด ต้องพึ่งพาอู่ซานเหอจึงจะวางอำนาจบาตรใหญ่ได้ แต่ดูจากคำพูดของอู่ซานเหอเหมือนจะไม่ใช่เช่นนั้น

        “หึๆ!” อู่ซานเหอไม่พูดอะไร เขาคิดว่าหากพูดมากไปอาจล่วงเกินอวิ๋นโม่เข้า หากทำให้อวิ๋นโม่โกรธจนไม่ถอนพิษให้เขาขึ้นมาคงแย่ เขามองผู้เฒ่ากัว แววตาฉายประกายเย็นเยือกวูบหนึ่ง หากผู้เฒ่ากัวกล้ามีความคิดไม่สมควร เกรงว่าคงต้องพบจุดจบน่าอนาถ

        ผู้เฒ่ากัวถูกอู่ซานเหอมองจนรู้สึกไม่สบายตัว หนังศีรษะชาอยู่บ้าง แววตานั่นคืออะไร ราวกับกำลังมองคนตายเสียอย่างนั้น! หัวใจของเขาสั่นสะท้าน อู่ซานเหอเคยเป็นยอดยุทธ์ระดับท่องพันลี้ ตอนนี้แม้จะได้รับพิษแต่ก็ฟื้นฟูสู่ระดับก่อจิตขั้นสูงสุดแล้ว หากเปรียบเทียบกัน เขาอาจมองปัญหาได้ลึกซึ้งกว่าตน

        “น้องอู่ โปรดให้คำชี้แนะด้วย!” ผู้เฒ่ากัวกุมหมัดคำนับอู่ซานเหอ เก็บท่าทีสบายอกสบายใจ เขากลัวว่าตนจะเดินผิดก้าวเดียวพลัดตกหลุมลึก เห็นอู่ซานเหอไม่พูด ผู้เฒ่ากัวก็ร้อนใจเอ่ยต่อ “วันหน้าหากต้องการความช่วยเหลือ ข้าผู้เฒ่าจะต้องทำอย่างเต็มที่!”

        อู่ซานเหอปรายมอง “เอาเถอะ พวกเราก็ถือว่าเป็นคนคุ้นเคย เช่นนั้นจะเตือนเจ้าดีๆ สักครั้ง เจ้าเห็นว่าเขาเป็นระดับเสริมกำลังแล้วเขาก็ต้องเป็นระดับเสริมกำลังอย่างนั้นหรือ”

        “เจ้าหมายความว่า” ผู้เฒ่ากัวตกตะลึง ขณะที่อู่ซานเหออยู่ในจุดสูงสุด หากไม่ได้ปลดปล่อยพลังปราณออกมาให้รับรู้ระดับการฝึกฝน เขาก็เข้าใจว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับเสริมกำลัง

        “บอกกับเจ้าตามตรงแล้วกัน ที่ข้าสามารถฟื้นฟูกลับสู่ระดับก่อจิตขั้นสูงก็เป็นเพราะท่านผู้นั้นช่วยเหลือ อีกเขายังจะช่วยข้าถอนพิษด้วย!” อู่ซานเหอยากจะอำพรางความยินดีในดวงตา ก่อนหน้านี้รอมาตั้งหลายวันก็ยังไม่เห็นอวิ๋นโม่มา จึงนึกว่าอวิ๋นโม่จะไม่กลับมาอีกแล้ว แต่พอเขาสั่งให้คนนำวัตถุดิบพร้อมอุปกรณ์ส่งมาที่ร้าน ตนก็เข้าใจได้ทันที แพทย์โอสถลึกลับผู้นั้นจะถอนพิษให้เขาแน่นอน

        “นี่…” ผู้เฒ่ากัวใจสั่น เขารู้เรื่องราวของอู่ซานเหอ หลังถูกพิษ แม้แต่แพทย์โอสถที่ดีที่สุดของสำนักศึกษาราชวงศ์จั่วสุยก็ยังทำอะไรไม่ได้ คนลึกลับที่ดูเหมือนระดับเสริมกำลังผู้นั้นกลับสามารถรักษาได้ นี่เกินความคาดหมายของเขาไปแล้ว!

        ผู้เฒ่ากัวรู้สึกว่าบนหน้าผากของตนมีเหงื่อเย็นผุดออกมา เขาเกิดกลัวขึ้นมาจริงๆ บุคคลเช่นนี้น่ากลัวนัก หากเขาลงมือตามความคิดในตอนแรกคงต้องตายอย่างไร้ที่ฝัง!

        ครู่หนึ่งชายชราก็เผยสีหน้าสำนึกเสียใจสุดซึ้ง รู้สึกปวดใจปวดตับไปหมด! นั่นคือแพทย์โอสถที่สามารถถอนพิษมดพ่นอัคคีได้เชียวนะ! เรื่องความแข็งแกร่งของอวิ๋นโม่ยังไม่เกี่ยวอะไรกับเขา อย่างมากแค่หลบหน้าบ้างก็ใช้ได้แล้ว แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือฐานะแพทย์โอสถต่างหาก! หากเขาสามารถผูกมิตรกับอวิ๋นโม่ ภายหน้านำโอสถไปประมูลขายจะต้องทำให้โรงประมูลไปถึงจุดสูงสุดแน่นอน!

        เขาเข้าใจคำพูดที่อู่ซานเหอบอกว่าเขาพลาดไปแล้ว นั้นหมายความว่าอะไร ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้จริงๆ! 

        “ไอ้หย่า!” ผู้เฒ่ากัวปวดท้องไปหมดแล้ว นี่เขาขับไล่เทพสมบัติไปกับมือ! 

        “น้องอู่ เจ้าพอจะ…” ผู้เฒ่ากัวคิดอะไรขึ้นมาได้จึงหันมาขอร้องอู่ซานเหอ 

        อู่ซานเหอ ย่อมรู้ความหมายของอีกฝ่าย เขาโบกมือติดๆ กัน “ไม่ได้ ข้ากับท่านผู้นั้นแค่ทำการค้าแลกเปลี่ยนกันเท่านั้น หากช่วยเหลือเจ้าเกรงว่าอาจล่วงเกินท่านผู้นั้น ดังนั้นเรื่องของเจ้า เจ้าก็จัดการเองเถอะ”

        ผู้เฒ่ากัวไม่ยินยอม ยกข้อเสนอดีๆ ออกมามากมาย ขอให้อู่ซานเหอช่วยเหลือ แต่อู่ซานเหอยังคงปฏิเสธอย่างเด็ดขาด แพทย์โอสถที่สามารถถอนพิษมดพ่นอัคคีท่านหนึ่ง เขาไม่กล้าผิดใจด้วย อย่าว่าแต่ตอนนี้เขายังรอให้อีกฝ่ายมาช่วยถอนพิษ

        “ใช่แล้ว ข้ายังต้องเตือนเจ้าเรื่องหนึ่ง เรื่องที่เจ้ากับข้าพูดกันเมื่อครู่ เจ้าไม่อาจแพร่งพรายออกไป ท่านผู้นั้นเก็บงำฐานะ เห็นชัดว่าไม่ต้องการให้ใครรู้” อู่ซานเหอรีบเตือน กลัวผู้เฒ่าจะปากมากจนเดือดร้อนมาถึงตนเอง ว่าแล้วเขาก็รีบเสริมอีกประโยคหนึ่ง “ยังมี หากพบกับท่านผู้นั้น ไม่อาจให้เขารู้ว่าข้าเป็นคนแย้มพรายเรื่องนี้!”

        “แน่นอนๆ” ผู้เฒ่ากัวรับคำ อู่ซานเหอกำลังจะฟื้นฟูพลังกลับมา เขาย่อมไม่กล้าผิดใจด้วยอยู่แล้ว

        ในตอนนั้นเองเงาร่างสองสายก็เดินเข้ามา อู่ซานเหอตาเป็นประกายรีบลุกขึ้นคำนับคนสวมหน้ากากที่สวมเสื้อคลุมยาว นัยน์ตายากจะปกปิดความยินดี เดิมทีคิดว่าชาตินี้ต้องกลายเป็นคนพิการไปแล้ว ใครจะนึกว่าหลังบุปผาร่วงโรยยังมีใบไม้ผลิอีกครั้ง เขาย่อมตื่นเต้นถึงที่สุด

        ผู้เฒ่ากัวพบอวิ๋นโม่ก็รีบส่งยิ้มประจบประแจง ก้าวเท้าเข้าไปหาอย่างรวดเร็วพร้อมค้อมเอวคำนับ “คำนับ…” เขาใจกระตุกขึ้นมา ไม่รู้จริงๆ ว่าสมควรเรียกอวิ๋นโม่อย่างไร เรียกว่าแพทย์โอสถ เขาก็ไม่กล้า เมื่อครู่อู่ซานเหอเพิ่งเตือนเขาเอง

        “คำนับใต้เท้า!” ผู้เฒ่ากัวหวาดหวั่น ตัดสินใจเรียกอีกฝ่ายว่าใต้เท้า ผู้เยาว์ระดับเสริมกำลังท่านนี้ที่จริงแล้วอาจเป็นผู้แข็งแกร่งที่น่ากลัว

        อวิ๋นโม่พยักหน้าให้อู่ซานเหอ จากนั้นหันไปขมวดคิ้วมองผู้เฒ่ากัว ความรู้สึกที่เขามีต่อตาเฒ่าผู้นี้ไม่ค่อยดีนัก เจ้านั่นอยู่ที่นี่จะต้องมีแผนการบางอย่างแน่ ตอนนี้ทำท่าเคารพนบนอบ เห็นได้ชัดว่าเสแสร้ง หรือเขาจะคิดไม่ซื่อกับตน พอคิดถึงตรงนี้แววตาของอวิ๋นโม่ก็เข้มขึ้นมา

        ผู้เฒ่ากัวเห็นอีกฝ่ายเงียบงัน ในใจก็เป็นทุกข์ แต่ไม่กล้าพูด เขาอยากจะบอกว่า ใต้เท้าเทพโอสถ เป็นข้าที่มีตาแต่ไร้แวว ข้าผู้เฒ่าแค่อยากผูกมิตรกับท่าน ไม่มีจุดประสงค์อื่นใดจริงๆ! แต่เขาไม่กล้าพูด เพราะกลัวว่าหากพูดออกไปจะล่วงเกินอู่ซานเหอ หางตาของเขาหันไปทางอู่ซานเหอ หวังว่าอีกฝ่ายจะช่วยเขาพูดอะไรสักคำ แต่อู่ซานเหอกลับไม่สนใจราวกับว่าไม่เห็นสายตาของเขาเสียอย่างนั้น

        เมื่อถูกจ้องมองด้วยสายตาคมกริบของอวิ๋นโม่ ผู้เฒ่ากัวก็รู้สึกเหมือนมีหอกจ่ออยู่ด้านหลัง เขาหันกลับไปก็ต้องเบิกตาโต! สวรรค์ นี่เขาเจอใครเข้าแล้ว ช่างตีเหล็กฟาง! คนผู้นี้กล่าวได้ว่าเป็นสุดยอดฝีมือในเมืองกวนซานเจิ้น ความแข็งแกร่งยังมากกว่าเขาเสียอีก แถมช่างทำอุปกรณ์วิญญาณผู้นี้ยังตามยืนอยู่ด้านหลังอวิ๋นโม่อย่างนอบน้อม นี่มันน่าตกใจเกินไปแล้ว!” 

        ‘ทำไมดูเหมือนทุกคนล้วนรู้จักผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้ มีแต่ข้าผู้เฒ่าที่สายตาฝ้าฟาง ไม่รู้จักภูเขาไท่ซาน!’ ผู้เฒ่ากัวได้แต่คร่ำครวญในใจ

        อวิ๋นโม่ไม่รู้ว่าผู้เฒ่ากัวคิดอะไรอยู่ เห็นชายชราเบิกตาโตก็ยังเข้าใจว่าตาเฒ่าผู้นี้ไม่พอใจตนเอง เขาหนักใจขึ้นมา ตัวเขาในตอนนี้ความสามารถยังไม่เพียงพอจะปะทะกับระดับก่อจิตตรงๆ หากอีกฝ่ายมีแผนอะไร แม้เขาจะไม่ถึงกับย่ำแย่แต่ก็คงต้องลำบากไม่น้อย

        ตึง!

        อวิ๋นโม่ไม่สนใจอะไรให้มากความ ปลดปล่อยญาณหยั่งรู้ทั้งหมดลงบนร่างของผู้เฒ่ากัว คิดจะสร้างความตกใจให้เขาสักครั้ง

        แต่ที่อวิ๋นโม่คิดไม่ถึงก็คือ เขาทำให้ผู้เฒ่ากัวตกใจเข้าแล้วจริงๆ ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ

        ผู้เฒ่ากัวหวาดผวา สิ่งที่รู้สึกได้คืออะไรหรือ เหมือนภูเขาทั้งลูกกดทับลงมา ต่อให้เป็นอู่ซานเหอในยามที่อาจหาญที่สุดก็ยังไม่มีญาณหยั่งรู้ที่น่ากลัวถึงเพียงนี้ ตอนที่ยานหยั่งรู้ของอวิ๋นโม่กดทับลงมา ผู้เฒ่ากัวก็คิดว่าเขาจะลงมือกำจัดตนเสียแล้ว จึงตกใจจนสองขาอ่อนยวบ อ้าปากเอ่ยด้วยความหวาดกลัว “ใต้เท้าโปรดไว้ชีวิต!”

        ว่าแล้วก็ค้อมเอวลงต่ำ ศีรษะแทบโขกกับพื้น ความจริงแล้วหากไม่ได้อยากรักษาหน้าเอาไว้บ้าง เขาคงจะโขกศีรษะให้อวิ๋นโม่ไปแล้ว

        “หืม” อวิ๋นโม่ทำสีหน้าประหลาดด้วยความไม่เข้าใจ ต่อให้รู้สึกถึงความแข็งแกร่งของญาณหยั่งรู้ของเขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวขนาดนี้กระมัง เพราะตอนนี้เขายังไม่มีทักษะวิญญาณ ยังไม่สามารถใช้พลังวิญญาณทำร้ายผู้อื่น อย่างมากก็แค่ใช้พลังวิญญาณกดดัน ทำให้อีกฝ่ายสูญเสียความมั่นใจอย่างรุนแรงเท่านั้น

        “ใต้เท้าแพทย์โอสถ ขอท่านละเว้นเขาเถอะ ผู้เฒ่ากัวรู้ผิดแล้ว” สุดท้ายอู่ซานเหอก็ยังใจอ่อนขอร้องแทนผู้เฒ่ากัว ก่อนหน้านี้เขาคาดเดาได้ว่าอวิ๋นโม่แข็งแกร่งมาก ตอนนี้พอรู้สึกถึงญาณหยั่งรู้ที่แข็งแกร่งของอวิ๋นโม่ ในใจก็รู้ว่าตนเดาถูกแล้ว

        ถึงอวิ๋นโม่จะไม่รู้เหตุผลทั้งหมด แต่ก็คาดเดาความนัยได้บางส่วน จึงเอ่ยเสียงเรียบ “ลุกขึ้นเถอะ”

        “ขอบพระคุณใต้เท้า!” ผู้เฒ่ากัวลนลานทำตาม พอลุกขึ้นมาถึงได้รู้ว่าด้านหลังเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็น ‘อันตรายมาก เมื่อครู่เท่ากับเดินผ่านประตูผีไปรอบหนึ่ง!’ เขายังคงหวาดกลัว จึงหันไปส่งสายตาซาบซึ้งบุญคุณให้อู่ซานเหอ

        ชายชรามั่นใจว่าอวิ๋นโม่เก่งกาจจนน่ากลัวจริง สำหรับวิธีถอนตัวที่ใช้ในสถานจัดการประมูลก่อนหน้านี้ เขาคิดว่าอาจเป็นแค่การเลือกใช้วิธีแย่ๆของอวิ๋นโม่ก็เท่านั้น หรือบางทีอวิ๋นโม่อาจไม่ต้องการเปิดเผยความสามารถของตนเอง

        …………………………………………

กำเนิดใหม่ : ปรมาจารย์เทพโอสถ

กำเนิดใหม่ : ปรมาจารย์เทพโอสถ

Status: Ongoing
ถูกศิษย์รักทรยศ! แพทย์โอสถอันดับหนึ่งในใต้หล้าไม่คาดคิดเลยว่าจะถูกหักหลัง! ทั้งเคี่ยวเข็ญ ผลักดัน คอยหลอมสมุนไพรเพิ่มพูนกำลังตลอดหลายร้อยปี บัดนี้.. เด็กไร้ค่านั่นได้ใช้นาม “จักรพรรดิลั่วเทียน” ผู้ยิ่งใหญ่ แต่เขากลับกลายเป็นเพียงเสี้ยนหนามที่ต้องถูกกำจัด! ฉับพลัน การจุติครั้งใหม่จึงอุบัติขึ้น.. ในร่าง “อวิ๋นโม่” จุดด่างพร้อยของตระกูลที่ถูกทารุณอย่างโหดร้ายจนตายอย่างไร้ทางสู้ แม้เป็นร่างใหม่ ภพชาติเปลี่ยนไป แต่ไฟบรรลัยกัลป์แห่งความเจ็บแค้นนั้นยังคุกรุ่น ครานี้หรือ.. จักยอมให้เหยียบย่ำ ทั้งโอสถตำรา.. คาถา.. สมุนไพร.. หม้อหลอมยา.. และพละกำลัง จากคนธรรมดาจึงทะยานขึ้นเหนือใต้หล้า.. ในฐานะปรมาจารย์เทพโอสถ! “ข้าทุ่มเทชีวิตจิตใจ ดูแลดั่งลูกในไส้ เจ้ากลับสังหารอาจารย์ จักทุ่มเทฝึกฝนสุดกำลัง ให้ไอ้ศิษย์ทรยศนั่นต้องจ่ายค่าตอบแทน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท