รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 728 มีคุณชายช่วยเหลือ เจ้าไม่ต้องกังวลสิ่งใดอีกแล้ว!

บทที่ 728 มีคุณชายช่วยเหลือ เจ้าไม่ต้องกังวลสิ่งใดอีกแล้ว!

บท​ที่​ 728 มีคุณชาย​ช่วยเหลือ​ เจ้าไม่ต้อง​กังวล​สิ่งใด​อีกแล้ว​!

“น่าสนใจ​มาก​ใช่หรือไม่​ เจ้าดู​เสีย​ ข้า​ยัง​สามารถ​เพิ่ม​ได้​อีกด้วย​!”

ชางเหยา​พยายาม​แสดง​ฝีมือ​อย่าง​เต็มที่​เพื่อ​ดึงดูด​ให้​จิ้งจอก​ขาว​หันมา​สนใจ​ เพียงแค่​นาง​คิด​ บน​ฝ่ามือ​ก็​มีพลัง​ควบแน่น​กลายร่าง​เป็น​สุนัขจิ้งจอก​ตัว​น้อย​หนึ่ง​ตัว​ลอย​ออกมา​ จิ้งจอก​ตัว​นั้น​เหมือนกับ​จิ้งจอก​สีแดง​เพลิง​ทุก​ประการ​

ภายในใจ​ของ​นาง​มีความมั่นใจ​อยู่​พอสมควร​ นาง​เป็น​ถึงองค์​หญิง​แห่ง​จักรวรรดิ​ชางเย​ว่​ ฝึกฝน​จน​เข้าสู่​ขอบเขต​นักบุญ​ ทว่า​ตอนนี้​กลับมา​พยายาม​ดึงดูด​ความสนใจ​ของ​จิ้งจอก​ขาว​ธรรมดา​ ๆ ด้วย​ความยากลำบาก​ หาก​สิ่งมีชีวิต​จาก​อาณา​จัก​รอ​วี้ซ​วี​ได้​รู้เรื่อง​นี้​เข้า​ คงจะ​ต้อง​อ้าปากค้าง​ด้วย​ความตกใจ​อย่าง​แน่นอน​

แต่​ไม่มีทางเลือก​อื่น​ นาง​ชื่นชอบ​จิ้งจอก​ขาว​ตน​นี้​มาก​จริง ๆ​ จึงเต็มใจ​จะทำ​สิ่งเหล่านี้​

น่าเสียดาย​ที่​จิ้งจอก​ขาว​ก็​ยังคง​ไม่สนใจ​นาง​

“ข้า​ยัง​สร้าง​ได้​มากกว่า​นี้​อีก​!”

ชางเหยา​เอ่ย​ออกมา​ บน​ฝ่ามือ​ของ​นาง​มีแสงเปล่งประกาย​ ควบแน่น​เป็น​ร่าง​ของ​จิ้งจอก​น้อย​ทีละ​ตัว​ทีละ​ตัว​

จิ้งจอก​น้อย​เริ่ม​จะรำคาญ​ขึ้น​มาแล้ว​ จึงหันไป​มอง​ชางเหยา​ จากนั้น​ก็​เป่า​จิ้งจอก​ตัว​น้อย​ที่​ชางเหยา​ควบแน่น​ขึ้น​มาทั้งหมด​จน​สลาย​หาย​ไป​สิ้น​ใน​คราว​เดียว​

“เอ๋​!?”

ชางเหยา​ตกตะลึง​ไป​ใน​ทันใด​ บน​หัว​เล็ก​ ๆ คล้าย​เต็มไปด้วย​เครื่องหมายคำถาม​

เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​กัน​แน่​!?

ไม่ใช่ว่า​นี่​เป็น​เพียงแค่​จิ้งจอก​สีขาว​ธรรมดา​ตัว​หนึ่ง​อย่างนั้น​หรือ​?

จิ้งจอก​น้อย​ที่​นาง​ใช้พลัง​นักบุญ​ควบแน่น​ขึ้น​มา ไย​จึงสามารถ​ถูก​เป่า​เบา​ ๆ จน​สลาย​หาย​ไป​สิ้น​!

“เจ้าก้าวเดิน​บน​เส้น​ทางการ​ฝึก​ตน​มานาน​แล้ว​อย่างนั้น​หรือ​?”

นาง​มอง​จิ้งจอก​ขาว​ด้วย​แววตา​แปลกประหลาด​ ก่อน​เอ่ย​ถามออกมา​

ไม่มีทาง​ที่​จิ้งจอก​สีขา​วจะ​ยัง​ไม่ก้าวเดิน​บน​เส้น​ทางการ​ฝึก​ตน​ ไม่เช่นนั้น​ จิ้งจอก​น้อย​ที่​นาง​ใช้พลัง​ควบแน่น​ออกมา​คงจะ​ไม่ถูก​เป่า​จน​สลาย​ไป​เช่นนี้​

“อย่า​มายุ่ง​กับ​ข้า​!”

จิ้งจอก​สีขาว​เอ่ย​ออกมา​ น้ำเสียง​เย็นชา​เป็น​อย่างยิ่ง​ สิ่งนี้​ทำให้​ชางเหยา​ตื่นตกใจ​มาก​ อัน​ใด​กัน​ เห็นได้ชัด​ว่า​เดิน​บน​เส้น​ทางการ​ฝึก​ตน​เป็นที่​เรียบร้อย​แล้ว​ แต่​เหตุใด​นาง​กลับ​ไม่สามารถ​สัมผัส​ถึงสิ่งใด​ได้​?

ขอบเขต​ของ​จิ้งจอก​สีขาว​อยู่​ขอบเขต​ใด​กัน​แน่​!

นาง​ถอยห่าง​จาก​จิ้งจอก​ขาว​ในทันที​ ท่าทาง​จริงจัง​ระมัดระวัง​ขึ้น​มา

ทว่า​นาง​พลัน​นึก​บางสิ่ง​ขึ้น​มาได้​ จึงมอง​ไป​ยัง​จิ้งจอก​น้อย​สีแดง​เพลิง​ใน​อ้อมแขน​ของ​นาง​ “เจ้า…เจ้าเอง​ก็​ไม่ใช่ว่า​ก้าวเดิน​บน​เส้น​ทางการ​ฝึก​ตน​แล้ว​ใช่หรือไม่​!?”

“อื้อ​ ดูเหมือนว่า​ข้า​จะแข็งแกร่ง​กว่า​พี่สาว​อยู่​บ้าง​”

จิ้งจอก​น้อย​เอ่ย​ตอบ​ด้วย​น้ำเสียง​นุ่มนิ่ม​เหมือน​เด็ก​

“อัน​ใด​กัน​!”

ชางเหยา​รู้สึก​เย็นยะเยือก​ขึ้น​มาทันใด​ นาง​ปล่อย​จิ้งจอก​น้อย​สีแดง​เพลิง​ลง​จาก​อ้อมแขน​ทันที​ เกิด​ความคิด​อยาก​จะหนี​ไป​จาก​ที่นี่​

“แม่นาง​อย่า​ได้​หวาดกลัว​ไป​เลย​”

ใน​ตอนนั้น​เอง​ เซี่ยเหยียน​ก็​เอ่ยปาก​หยุด​ชางเหยา​เอาไว้​

ชางเหยา​ยิ่ง​หวาดกลัว​มากกว่า​เดิม​ สั่นสะท้าน​ไป​จนถึง​จิตวิญญาณ​ นาง​สัมผัส​ได้​ถึงพลัง​ที่​มองไม่เห็น​จับ​ตัวนาง​เอาไว้​ ทำให้​นาง​ไม่สามารถ​หลบหนี​ออก​ไป​จาก​ที่นี่​ได้​

‘ข้า​ถูก​หลอก​แล้ว​! ทั้ง​ยัง​ถูก​หลอก​อย่าง​โง่เขลา​!’

น้ำตา​ของ​ชางเหยา​ไหล​ออกมา​ เห็นได้ชัด​ว่า​นาง​ถูก​หลอก​ คน​เหล่านี้​ไม่ใช่ปุถุชน​ธรรมดา​แต่อย่างใด​ ขอบเขต​การ​ฝึก​ตน​เหนือชั้นกว่า​นาง​เป็นอย่างมาก​!

“พวก​ท่าน​อย่า​ฆ่าข้า​เลย​ ข้า​ยัง​อยาก​พบ​พี่​ชวน​อยู่​ ยัง​ไม่ได้​สยบ​พี่​ชวน​เอาไว้​เลย​ ยิ่งไปกว่านั้น​ยัง​ไม่ได้​เข้า​เรือนหอ​กับ​พี่​ชวน​เสีย​ด้วยซ้ำ​!”

นางร้องไห้​พร้อม​กล่าว​ออกมา​ “พวก​ท่าน​ค่อย​สังหาร​ข้า​ใน​ภายหลัง​ได้​หรือไม่​ รอ​ข้า​ทำ​สิ่งเหล่านี้​สำเร็จ​ ไร้​อาวรณ์​ใด​ใน​ชีวิต​ ข้า​จะมาหา​พวก​ท่าน​ให้​พวก​ท่าน​สังหาร​ข้า​ได้​!”

นี่​มัน​อัน​ใด​กัน​!

เซี่ยเหยียน​ฟังแล้วก็​หัวเราะ​ไม่ได้​ร้องไห้​ไม่ออก​ ใน​หัว​เล็ก​ ๆ ของ​ชางเหยา​กำลัง​คิด​สิ่งใด​อยู่​กัน​ เหตุใด​จึงคิด​ว่า​ตนเอง​จะต้อง​ถูก​สังหาร​กัน​!

อีก​ทั้ง​ยังมี​เรือนหอ​อีก​!

แม่นาง​น้อย​อายุ​เท่าใด​กัน​เชียว​ เหตุใด​จึงคิด​เรื่อง​เหล่านี้​ออกมา​เสียแล้ว​?

ประเด็นสำคัญ​คือ​คำพูด​ส่วน​ท้าย​ของ​ชางเหยา​ ช่างน่ารัก​เกินไป​แล้ว​!

ทำ​เรื่อง​ทั้งหมด​สำเร็จ​แล้​วจะ​กลับมา​…

นาง​เพิ่ง​เคย​ได้ยิน​คำพูด​เหล่านี้​เป็นครั้งแรก​ใน​ชีวิต​

“เหตุใด​เจ้าจึงคิด​จะตาย​กัน​? อีก​ทั้ง​เพียงแค่​เข้า​เรือนหอ​ก็​ไร้​อาวรณ์​แล้ว​หรือ​? ไม่อยาก​จะให้กำเนิด​เหล่า​ปลา​ตัว​น้อย​ให้​พี่​ชวน​ของ​เจ้าอย่างนั้น​หรือ​?”

นาง​หัวเราะ​ออกมา​อย่าง​แผ่วเบา​

“ให้กำเนิด​ปลา​น้อย​! แน่นอน​ว่า​ข้า​อยาก​ แต่​ข้า​กลัว​ว่า​พวก​ท่าน​จะรอ​นาน​ขนาด​นั้น​ไม่ได้​…”

ชางเหยา​ร้องไห้​เอ่ย​ออกมา​

ทว่า​จู่ ๆ นาง​พลัน​เอะใจ​บางสิ่ง​ขึ้น​มาได้​ จึงเอ่ย​ออกมา​ด้วย​ความ​งุนงง​ “ท่าน​รู้​ได้​อย่างไร​เรื่อง​ให้กำเนิด​ปลา​น้อย​…”

เหตุใด​จึงกล่าวว่า​ให้กำเนิด​ปลา​น้อย​?

คน​ผู้​นี้​รู้​ว่า​พี่​ชวน​เป็น​เผ่า​มัจฉาอย่างนั้น​หรือ​?

“เหตุใด​จะไม่รู้​เล่า​ ก็​เขา​เป็น​น้องชาย​ที่​แสน​ดี​ของ​ข้า​…”

เสียงหัวเราะ​แผ่วเบา​ดัง​ขึ้น​อีกครั้ง​ จากนั้น​ลั่วสุ่ย​ก็​ปรากฏตัว​ออกมา​เบื้องหน้า​ของ​ชางเหยา​

เมื่อ​ชางเหยา​ได้ยิน​คำพูด​นั้น​ก็​ยังคง​ไม่เข้าใจ​สิ่งใด​ ทว่า​เมื่อ​นาง​เห็น​ลั่วสุ่ย​ก็​รีบ​วิ่ง​ร้องไห้​เข้าไป​กอด​ลั่วสุ่ย​

“เป็น​พี่สาว​! พี่สาว​มาเพื่อ​ช่วย​ข้า​อย่างนั้น​หรือ​? ข้า​ถูก​คน​หลอก​เสียแล้ว​!”

นางร้องไห้​อย่าง​ทุกข์​ตรม​

“หลอก​อัน​ใด​! ห้าม​พูด​เช่นนั้น​! นั่น​นับว่า​เป็นการ​ดูหมิ่น​คุณชาย​! การ​ได้​พบ​คุณชาย​ นับ​เป็น​วาสนา​ที่​แม้สั่งสะสมมาหลาย​ชั่วอายุคน​ก็​ไม่อาจ​ทำได้​!”

ลั่วสุ่ย​กล่าว​อย่าง​จริงจัง​

เดิมที​ นาง​กำลัง​ตกปลา​อยู่​ริม​ธาร​น้ำ​ห่าง​ออก​ไป​ไม่ไกล​ ทว่า​สัมผัส​ได้​ถึงลมหายใจ​ของ​ชางเหยา​ ทำให้เกิด​ความสงสัย​ขึ้น​มาทันที​ว่า​ ชางเหยา​มายัง​อาณาจักร​แห่ง​นี้​ด้วย​สาเหตุ​อัน​ใด​?

อีก​ทั้ง​ยัง​เป็น​คุณชาย​ที่​พา​นาง​มาที่นี่​ด้วย​

“หืม?​ คุณชาย​? คุณชาย​อัน​ใด​?”

ชางเหยา​ตะลึงงัน​

“คุณชาย​คือ​ผู้​ที่​พา​เจ้ามาที่นี่​”

ลั่วสุ่ย​พูด​ด้วย​ความจริงจัง​ “คุณชาย​คือ​ผู้ยิ่งใหญ่​อย่าง​ถึงที่สุด​ ทั้ง​ข้า​และ​เสี่ยว​ชีล้วน​ติดตาม​คุณชาย​อยู่​”

“พี่​ชวน​เอง​ก็​อยู่​ใน​อาณาจักร​นี้​ด้วย​หรือ​!?”

ชางเหยา​รู้​ว่า​เสี่ยว​ชีที่​ลั่วสุ่ย​กล่าวถึง​คือ​มัจฉาสัต​มายา​

นาง​ไม่คาดคิด​จริง ๆ​ ว่า​พี่​ชวน​จะอยู่​ใน​อาณาจักร​แห่ง​นี้​!

ยิ่งไปกว่านั้น​ ทั้ง​พี่​ชวน​และ​พี่สาว​ลั่วสุ่ย​ก็​ล้วน​ติดตาม​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ผู้​นั้น​!

“ใช่”

ลั่วสุ่ย​ถามชางเหยา​กลับ​ “เหตุใด​เจ้าถึงได้​มายัง​อาณาจักร​แห่ง​นี้​? แล้ว​เจ้ามาเพียงผู้เดียว​อย่างนั้น​หรือ​?”

“ไม่! ข้า​มากับ​ท่าน​พ่อ​แล้วก็​ยอด​ฝีมือ​ใน​ตระกูล​ พวก​ข้า​ต้องการ​จะเข้าไป​ยัง​แดน​บรรพ​โกลาหล​!” ชางเหยา​กล่าว​

จากนั้น​นาง​ก็​เอ่ย​ต่อ​ด้วย​ความคับแค้นใจ​ “พี่​ลั่วสุ่ย​รู้​หรือไม่​ว่า​พี่​ชวน​นั้น​แย่มาก​! ภายหลัง​ยาม​ที่​เขา​กลับ​ไป​ยัง​อาณา​จัก​รอ​วี้​ซีก็​ยังคง​หลีกเลี่ยง​หลบหน้า​ข้า​เช่น​เดิม​! ข้า​จึงต้องการ​จะเข้าไป​ยัง​แดน​บรรพ​โกลาหล​กับ​ท่าน​พ่อ​ ด้วย​หนทาง​เช่นนี้​ ข้า​จึงจะสามารถ​แข็งแกร่ง​ขึ้น​ได้​! เมื่อ​ถึงตอนนั้น​แล้ว​ ข้า​ก็​จะสามารถ​สยบ​พี่​ชวน​ลง​ ดู​สิว่า​ยัง​จะหลบหน้า​ข้า​อีก​ได้​หรือไม่​!”

“สมกับ​เป็น​เจ้าเสีย​จริง​!”

ลั่วสุ่ย​แย้มยิ้ม​ นาง​รู้​เกี่ยวกับ​เรื่องราว​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​มัจฉาสัต​มายา​และ​ชางเหยา​ ชางเหยา​เป็น​สตรี​ที่​กล้า​จะรัก​และ​กล้า​จะชัง หลังจาก​ผูกใจ​มุ่งมั่น​กับ​มัจฉาสัต​มายา​แล้ว​ นาง​ก็​ไม่เคย​ยอมแพ้​ ทั้ง​ยัง​ตาม​จีบ​อย่าง​กล้าหาญ​อยู่​เสมอ​!

นิสัย​เช่นนี้​นับว่า​ดี​เสีย​จริง​

อย่าง​น้อย​นาง​ก็​ชื่นชอบ​เป็นอย่างมาก​

“พี่​ชวน​ เสี่ยว​ชี?”

เซี่ยเหยียน​รู้สึก​สับสน​เล็กน้อย​เมื่อ​ได้​ฟัง

“เสี่ยว​ชีคือ​มัจฉาสัต​มายา​ นาง​กับ​เสี่ยว​ชีมาจาก​อาณาจักร​เดียวกัน​ อืม​ ส่วน​เรื่อง​ความสัมพันธ์​ อย่าง​น้อย​ข้า​ก็​เห็นด้วย​เรื่อง​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​ทั้งสอง​ สำหรับ​ข้า​ชางเหยา​เป็น​เหมือน​น้อง​สะใภ้ไป​เรียบร้อย​แล้ว​”

ลั่วสุ่ย​อธิบาย​ให้​เซี่ยเหยียน​ฟัง บอกเล่า​เรื่องราว​ความสัมพันธ์​ทั้งหมด​ระหว่าง​มัจฉาสัต​มายา​และ​ชางเหยา​

“ฮ่าฮ่า ที่แท้​ก็​เป็น​เช่นนี้​!”

เซี่ยเหยียน​หัวเราะ​ออก​ทันที​หลังจาก​ฟังจบ​ นาง​เอง​ก็​ชื่นชอบ​นิสัย​กล้า​รัก​กล้า​ชังของ​ชางเหยา​เป็นอย่างมาก​

หญิงสาว​มอง​ไป​ที่​ชางเหยา​พลาง​เอ่ย​ออกมา​ “วางใจ​เถิด​ ข้า​เอง​ก็​จะสนับสนุน​เจ้า!”

“ขอบคุณ​พี่สาว​ทั้งสอง​สำหรับ​การ​สนับสนุน​!”

ชางเหยา​กล่าว​ออกมา​อย่าง​อ่อนหวาน​

“ทว่า​ข้า​เอง​ก็​ไม่รู้​ว่า​พี่​ชวน​รู้สึก​กับ​ข้า​เช่นไร​กัน​แน่​…”

นาง​กลัว​ว่า​พี่​ชวน​จะไม่รู้สึก​อัน​ใด​กับ​นาง​แม้แต่น้อย​ ยาม​นั้น​ถึงแม้นาง​จะสามารถ​สยบ​พี่​ชวน​ได้​ แต่​ก็​ไม่อาจ​นับ​ได้​ว่า​เป็น​ความสำเร็จ​

“วางใจ​เถิด​ เขา​เอง​ก็​มีใจต่อ​เจ้าอย่าง​แน่นอน​ หาก​ไม่มีใจ เขา​คง​เลิก​ยุ่ง​กับ​เจ้าไป​นาน​แล้ว​!” ลั่วสุ่ย​ตอบ​

“ข้า​เอง​ก็​คิด​เช่นนั้น​”

เซี่ยเหยียน​พยักหน้า​ ฟังจาก​เรื่องราว​ที่​เล่า​มาแล้ว​ นาง​เอง​ก็​คิด​ว่า​มัจฉาสัต​มายา​เอง​ก็​มีใจให้​กับ​ชางเหยา​

“อีก​ทั้ง​ การ​กล้า​ไล่ตาม​ กล้า​จะรัก​ แล้​วจะ​ทำไม​? การ​ได้​พยายาม​แสวงหา​ความสุข​ของ​ตนเอง​นั้น​ไม่ผิด​! หลังจากนี้​แม้ล้มเหลว​ ก็​ไม่หลงเหลือ​ความเสียใจ​ทิ้ง​เอาไว้​ให้​กับ​ตนเอง​!” เซี่ยเหยียน​กล่าว​ต่อ​

“อือ​! ข้า​เอง​ก็​คิด​เช่นนั้น​!”

ชางเหยา​พยักหน้า​ “ข้า​จะไม่ยอมแพ้​เรื่อง​ของ​พี่​ชวน​ หัวใจ​ของ​ข้า​ยึดมั่น​ใน​ตัว​พี่​ชวน​ เขา​จะเป็น​สามีของ​ข้า​ไป​ตลอดชีวิต​!”

“ฮ่าฮ่า ข้า​เริ่ม​เข้าใจ​แล้ว​ว่า​เหตุใด​คุณชาย​จึงพา​เจ้ากลับมา​”

ลั่วสุ่ย​เอ่ย​พร้อม​รอยยิ้ม​ “หาก​คุณชาย​ไม่พา​เจ้ากลับมา​ แม้เจ้าจะสามารถ​เข้าไป​ยัง​แดน​บรรพ​โกลาหล​ก็​ไร้ประโยชน์​ ยังคง​ไม่มีความหวัง​ที่จะ​สยบ​เสี่ยว​ชีลง​ได้​”

ภายในใจ​ของ​สิ่งมีชีวิต​อื่น​ ๆ นับไม่ถ้วน​ แดน​บรรพ​โกลาหล​นับว่า​เป็น​สถานที่​สูงสุด​ ทว่า​ลั่วสุ่ย​ตระหนัก​ได้​เป็น​อย่าง​ดี​ แดน​บรรพ​โก​ลหล​นั้น​ยัง​ไม่อาจ​เปรียบเทียบ​กับ​ลาน​เล็ก​ ๆ ของ​คุณชาย​ได้​ ซ้ำยัง​ห่างไกล​จน​ไม่อาจ​เทียบเคียง​ได้​

แม้ว่า​นาง​จะไม่เคย​ไป​ยัง​แดน​บรรพ​โกลาหล​ แต่​นาง​รู้​ว่า​คุณชาย​แข็งแกร่ง​มาก​เพียงใด​ ทุกอย่าง​ที่อยู่​ใน​ลาน​ล้วนแต่​เหนือ​ชั้น​เป็น​อย่างยิ่ง​

ยิ่งไปกว่านั้น​ หิน​โกลาหล​ใน​ลาน​ที่​ตกลง​มาจาก​แดน​บรรพ​โก​ลหล​ยัง​เคย​กล่าว​ออกมา​อย่าง​จริงจัง​ ว่า​ลาน​เล็ก​ ๆ ของ​คุณชาย​นั้น​อยู่​เหนือ​ยิ่งกว่า​แดน​บรรพ​โกลาหล​อย่าง​แน่นอน​ พลัง​ที่​ไหลเวียน​อยู่​ใน​ลาน​เล็ก​ ๆ นั้น​ห่าง​ชั้น​จาก​พลัง​โกลาหล​ของ​แดน​บรรพ​โกลาหล​จน​ไม่อาจ​เทียบ​

ทั้ง​เหนือ​ชั้น​และ​ทรงพลัง​ยิ่งกว่า​

มัจฉาสัต​มายา​ฝึกฝน​อยู่​ใน​ลาน​เล็ก​ ๆ นี่​ไม่ใช่สิ่งที่​ชางเหยา​จะเปรียบเทียบ​ได้​อย่าง​แน่นอน​ แม้ว่า​ชางเหยา​จะเข้าไป​ใน​แดน​บรรพ​โกลาหล​และ​สามารถ​เกี่ยว​เก็บ​ครั้ง​ใหญ่​ได้​ ก็​ยัง​ไม่มีทาง​ที่​ชางเหยา​จะสามารถ​สยบ​มัจฉาสัต​มายา​ลง​

“เอ๋​?”

ขาง​เหยา​ฟังแล้ว​ไม่เข้าใจ​

ลั่วสุ่ย​ยิ้ม​พร้อม​กล่าว​ออกมา​ “คุณชาย​ต้องการ​จะช่วยเหลือ​เจ้า เห็นได้ชัด​ว่า​อยู่​ข้าง​เจ้า”

คุณชาย​เก่งกาจ​เป็น​อย่างยิ่ง​ จะไม่รู้​ถึงเรื่องราว​ระหว่าง​มัจฉาสัต​มายา​และ​ชางเหยา​ได้​อย่างไร​ ไม่จำเป็นต้อง​คิด​ คุณชาย​ก็​คง​สามารถ​ล่วงรู้​ทุกสิ่ง​เกี่ยวกับ​มัจฉาสัต​มายา​และ​ชางเหยา​ได้​อย่าง​แจ่มแจ้ง

ภายใต้​สถานการณ์​เช่นนี้​ คุณชาย​ยัง​เลือก​ที่จะ​พา​ชางเหยา​กลับมา​ด้วย​ ทั้ง​ยัง​ให้​ชางเหยา​อยู่​ทาน​มื้อ​เย็น​ สิ่งนี้​บ่งบอก​ความตั้งใจ​คุณชาย​ได้​ชัดเจน​ยิ่ง​

เป็น​อย่าง​ที่​นาง​เพิ่ง​กล่าว​ออก​ไป​ คุณชาย​ต้องการ​จะช่วยเหลือ​ชางเหยา​

“ใช่”

เซี่ยเหยียน​เสริม​ “ด้วย​การ​สนับสนุน​ของ​คุณชาย​ เจ้าก็​ไม่ต้อง​กังวล​สิ่งใด​อีกต่อไป​ อีก​ทั้ง​เมื่อ​คุณชาย​ต้องการ​จะช่วย​เจ้า ก็​แสดงให้เห็น​ชัด​แล้ว​ว่า​เสี่ยว​ชีเอง​ก็​มีใจให้​กับ​เจ้า”

หาก​เสี่ยว​ชีไม่มีใจต่อ​ชางเหยา​ นาง​คิด​ว่า​คุณชาย​จะต้อง​ไม่ช่วยเหลือ​ชางเหยา​อย่าง​แน่นอน​

คุณชาย​ล่วงรู้​ทุก​สรรพสิ่ง​ ไม่มีสิ่งใด​ไม่รู้​ จะต้อง​รู้​อย่าง​แน่นอน​ว่า​เสี่ยว​ชีเอง​ก็​มีใจให้​มัจฉาสัต​มายา​ เป็นเหตุให้​ลงมือ​ช่วยเหลือ​ชางเหยา​ ทำให้​ชางเหยา​และ​มัจฉาสัต​มายา​ได้​ประสบ​เรื่อง​น่ายินดี​

“หือ​? คุณชาย​เก่งกาจ​เพียงนั้น​เชียว​หรือ​?”

ชางเหยา​ตื่น​ตะลึง​ คุณชาย​ผู้​นั้น​เก่งกาจ​มาก​ถึงเพียงนั้น​? ฟังจาก​คำพูด​ของ​ลั่วสุ่ย​กับ​เซี่ยเหยียน​แล้ว​ คุณชาย​ผู้​นี้​เป็น​ตัวตน​ที่​สามารถ​ทำได้​ทุกสิ่ง​อย่าง​!

“เจ้าจะไม่เชื่อ​ผู้ใด​ก็​ย่อม​ได้​ แต่​ต้อง​เชื่อ​คุณชาย​!“

ลั่วสุ่ย​เอ่ย​ด้วย​ความจริงจัง​ “คุณชาย​เก่งกาจ​เป็น​อย่างยิ่ง​ ทรงพลัง​เกิน​กว่า​เจ้าจะจินตนาการ​ถึง เซี่ยเหยียน​เอ่ย​ไม่ผิด​ ใน​เมื่อ​คุณชาย​ตัดสินใจ​จะช่วย​เจ้าแล้ว​ เช่นนั้น​เจ้าก็​สามารถ​วางใจ​ใน​เรื่อง​นี้​ได้​เลย​!”

หลังจากนั้น​ นาง​ก็​บอกเล่า​เรื่องราว​เกี่ยวกับ​คุณชาย​ให้​ชางเหยา​ฟัง หลังจากที่​ชางเหยา​ได้ยิน​แล้ว​ หัวใจ​ก็​สั่น​ไหว​ขึ้น​มาจริง ๆ​ ไม่เคย​คิด​มาก่อน​เลย​ว่า​ บน​โลก​นี้​จะมีตัวตน​ที่อยู่​เหนือ​สรรพสิ่ง​เช่นนี้​อยู่​!

กระทั่ง​คนตาย​ยัง​สามารถ​ฟื้น​ชีพ​กลับมา​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​!

สวรรค์​! คุณชาย​ผู้​นี้​ช่างเก่งกาจ​จริง ๆ​!

นาง​ไม่ต้อง​กังวล​อีกต่อไป​แล้ว​ ด้วย​การ​สนับสนุน​ของ​คุณชาย​ นาง​เพียงแค่​ทำ​เรื่อง​หาญกล้า​เช่นนี้​ต่อไป​!

“ข้อห้าม​บางอย่าง​ของ​คุณชาย​ เจ้าเอง​ก็​ต้อง​จำให้​ดี​! อย่า​ได้​ละเมิด​ข้อห้าม​เหล่านี้​เด็ดขาด​!”

ลั่วสุ่ย​บอก​ชางเหยา​เกี่ยวกับ​ข้อห้าม​ต่าง ๆ​ ของ​คุณชาย​ให้​จดจำ​เอาไว้​

“ตกลง​!”

ชางเหยา​พยักหน้า​อย่าง​หนักแน่น​ จากนั้น​ก็​จดจำ​ทั้งหมด​อย่าง​เงียบงัน​

“เช่นนั้น​ ข้า​ขอแสดงความยินดี​ล่วง​หน้าที่​เรื่อง​ดี ๆ​ ของ​เจ้าจะกลาย​เป็นจริง​ตาม​ปรารถนา​!” ลั่วสุ่ย​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​

คุณชาย​ลงมือ​แล้ว​ ย่อม​ไม่มีเรื่อง​นอกเหนือ​ความคาดหมาย​เกิดขึ้น​ บทสรุป​ทุกอย่าง​ถูก​กำหนด​เอาไว้​แล้ว​

ชางเหยา​จะกลาย​มาเป็น​น้อง​สะใภ้ที่​แท้จริง​ของ​นาง​!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน