คุณมาฮินะกับชมรมพฤกษศาสตร์ที่ไม่มีใคร – ตอนที่ 6 ทนโด คุเรนะ

คุณมาฮินะกับชมรมพฤกษศาสตร์ที่ไม่มีใคร

     สวัสดีค่ะ ฉัน เทนโด คุเรนะ ค่ะ

     ขณะนี้กำลังประสบปัญหาใหญ่อยู่ค่ะ

    เด็กสาวผมสีดำมัดแกละต่ำ ใส่แว่นกลมโตและมีดวงตาสีฟ้าส่องประกายใส กำลังนั่งอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยตู้หนังสือ ในตู้เหล็กสีเทานั้นมีแผ่นกระดาษติดป้ายห้องชั้นเรียนแต่ละห้องไว้เรียงราย ภายในไม่ได้มีหนังสือเล่มหนา แต่มีแผ้มเอกสารอยู่แทน 

     ทนโด คุเรนะกำลังตกที่นั่งลำบาก แต่กระนั้นก็ยังพยายามจ้องตาแป๋วไปหาชายตรงหน้าที่มีอายุประมาณนึง ซึ่งกำลังถือแฟ้มเอกสารที่มีชื่อเธอติดไว้อยู่ ส่วนข้างกายของอาจารย์ท่านนั้นคืออาจารย์หนุ่มหน้าตาหล่อเหลาขวัญใจอาจารย์และนักเรียน อาจารย์ประจำวิชาชีววิทยา อาจารย์ทัตสึกินั่นเอง

     แต่ว่าเธอไม่ได้ตกที่นั่งลำบากอยู่เพียงคนเดียวข้างกายเธอเองก็มีมนุษย์ร่วมประสบชะตากรรมอยู่ด้วยเช่นกัน

     เขาคนนั้นคือ ฮิบิยะ คาสึโอะ หรือมนุษย์แอปเปิ้ลของมาฮินะจังนั่นเอง

     เอ้ะ อย่าไปบอกใครนะคะว่าฉันน่ะเรียกเขาว่ามนุษย์แอปเปิ้ล ! นี่เป็นชื่อเล่นที่ฉันตั้งให้เองค่ะ ! ก็แหม ใช้มุกแอปเปิ้ลในการลดระยะห่างระหว่างเพื่อนในชมรม จะบอกว่าสมกับเป็นชมรมพฤกษศาสตร์เหลือเกินก็ได้นะคะเนี่ย

     จะว่าไป หืม เพื่อนในชมรมหรอ… หื้มม ?

     คุเรนะเหลือบมองไปที่อีกฝั่ง ฮิบิยะคุงดูท่าจะไม่พอใจอย่างออกนอกหน้ายิ่งกว่าเธอ จะว่าไงดี สำหรับตัวเธอน่ะ เรื่องในตอนนี้เป็นสิ่งที่เธอไม่มองว่าเป็นปัญหา แต่คนอื่นน่ะมองว่าเป็นปัญหา เพราะงั้นปัญหาใหญ่สุดของเธอตอนนี้คือการทนให้การเทศนานี้จบไปต่างหาก 

     “ทนโด”

     “คะ ?”

     สิ้นเสียงเรียกจากอาจารย์หน้าเฮี้ยบ คุเรนะก็หันกลับไปมองอีกฝั่งทันที เขาคิ้วขมวดกุมขมับ ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่เธอคาดเดาได้อยู่แล้ว

     “คะแนนสอบย่อยเธอนี่มัน .. เธอเอาแบบนี้อีกแล้วนะ”

     “ยังไม่สอบกลางภาคจริงๆ ซักหน่อยนี่คะ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ !” คุเรนะตอบไปเสียงใส 

     “ตอนปี 1 ก็พูดแบบนี้ไม่ใช่เรอะ” คราวเสียงอีกฝั่งดูไม่กดลงเข้มเหมือนแต่ก่อน หรือจะบอกว่าเอือมระอาแล้วดีนะ

     “ก็จริงค่า” คราวนี้เธอตอบกลับไปเสียงใสกว่าเดิม ทำเอาอีกฝั่งกุมขมับยิ่งกว่าเก่า

     อาจารย์เบื้องหน้าเธอคนนี้คืออาจารย์สอนคณิตศาสตร์ที่เธอสนิทด้วย เพราะเขาเป็นประธานชมรมที่เธออยู่ อายุของเขาอยู่ในรุ่นชายกลางคน ศรีษะล้านเล็กน้อยและใส่แว่นไม่มีกรอบทรงเหลี่ยม ‘อาจารย์โอกุริ’ กำลังพลิกแฟ้มเอกสารสีดำที่มีชื่อเธอเขียนไว้อยู่ เพื่อแสดงกระดาษคู่นึงอันเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอต้องมานั่งจ๋องกับมนุษย์แอปเปิ้ลอยู่ตรงนี้

     เขายื่นแฟ้มเอกสารไว้ตรงหน้า ในนั้นมีใบคะแนนสอบย่อยของคุเรนะอยู่ ซึ่งในกระดาษนั้น

     มีคำว่า’ตก’อยู่ทั้งแถบ 

     ชีววิทยา ฟิสิกส์ ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ภาษาญี่ปุ่น ภาษาต่างประเทศ ล้วนแต่มีคำว่าตกทั้งสิ้น

     ยกเว้นก็แต่คณิตศาสตร์ และวิชาที่ไม่นับการสอบเป็นการให้คะแนนหลักๆ อย่างศิลปะ และพละ .. ซึ่งก็ไม่อยู่ในเอกสารหน้านี้ 

     เพราะดังนั้นเอกสารของเธอจึงเต็มไปด้วยคำว่าตก คาบเส้น และคำว่า ‘คะแนนสูงสุด’ เท่านั้น

     “นอกจากเลขที่ได้คะแนนสูงสุดตลอดนี่ เธอช่วยเอาความพยายามไปใส่กับวิชาอื่นหน่อยได้ไหม” อาจารย์วัยกลางคนพูดอย่างเหนื่อยหน่ายใจ 

     “เพราะหนูเป็นลูกศิษย์ที่น่าภูมิใจของอาจารย์ไงคะ” คุเรนะพูดต่อล้อต่อเถียง แบบที่ถ้าเป็นอาจารย์หัวโบราณท่านอื่นคงเลือดขึ้นหน้าไปแล้ว แต่ที่เธอยังสามารถแสดงความเป็นตัวเธอออกมาได้เต็มที่เพราะว่าอาจารย์โอกุริคนนี้นั้นรู้จักเธอมาตั้งแต่เด็ก สาเหตุนึงที่เธอได้รับคำแนะนำในการมาเรียนที่นี่ ก็เพราะอาจารย์ท่านนี้เนี่ยแหละที่แนะนำมา

     ส่วนทางชายวัยกลางคน เขาหน้านิ่วคิ้วขมวดไม่หยุด สำหรับเขาคุเรนะเป็นเหมือนหลานที่เห็นมาแต่เด็ก ความสามารถของเธอคนนั้นได้ด้านที่ตัวเองชอบนั้นเรียกได้ว่าไม่เป็นสองรองใคร 

     แต่วิชาอื่นเนี่ยซิ คะแนนกลับแค่พอผ่านหรือไม่ก็ตกไปเลย

     “หนทางที่เธอกำลังเลือกเดินมันลำบากนะ”

     “เรื่องนั้นก็ทราบดีอยู่ค่ะ” ใช้เวลาซักพักคุเรนะจึงตอบกลับไป ดวงตาของเธอผลุบลงต่ำ ก่อนจะเงยหน้ามาอีกครั้ง

     “แต่ที่อาจารย์พูดมาก็เข้าท่านะคะ ! จะเก็บไปพิจารณาค่ะ !” คุเรนะยิ้มแฉ่ง เรียกเสียงถอนหายใจเพิ่มได้อีกครั้ง 

     “เธอก็ด้วยล่ะฮิบิยะคุง” เสียงอันอ่อนโยนของอาจารย์ประจำวิชาชีววิทยาดังขึ้น อาจารย์หนุ่มหน้าหล่อหันไปทางลูกศิษย์คนโปรดของตัวเอง

     “ถึงอย่างไรก็ควรเก็บคะแนนวิชาอื่นไว้บ้างนะ การที่เธอเต็มที่กับวิชาที่เธอชอบน่ะผมยินดีแล้วก็สนับสนุนมากๆ แต่ยังไงก็เพิ่มเรื่องวิชาอื่นซักนิดก็ดีนะ ฮิบิยะคุงน่ะหัวไว แปปเดียวก็ทำได้แล้วล่ะ” อาจารย์ทัตสึกิพูดโน้มน้าวอีกฝ่าย ฮิบิยะยังคงมีแววตาเลื่อนลอย ดูไม่สนใจฟังอาจารย์ท่านนี้เท่าไหร่นัก เขาขานรับว่าครับเบาๆ จนแทบไม่ได้ยิน

     “พวกเธอสองคนนี่เหมือนเป็นด้านตรงข้ามกันเลยนะ” คราวหน้าชายวัยกลางคนเป็นฝ่ายพูดต่อแทน แหงละ เพราะฮิบิยะคือท้อปวิชาชีววิทยา ส่วนคุเรนะคือท้อปวิชาคณิตศาสตร์นั่นเอง 

     “งั้นหรอครับ ..” ฮิบิยะเอ่ยเสียงออกมาให้ได้ยินชัดๆ เป็นครั้งแรกตั้งแต่เข้ามาในห้องนี้ ชายหนุ่มเจ้าของดวงตาที่ดูไม่เป็นมิตรเท่าไหร่หันมามองคุเรนะ 

     “ผมว่าตรงข้ามกับคุณชิมาซากิมากกว่านะ” ชื่อหนึ่งถูกพูดขึ้นมา เด็กทั้งสองหันขวับไปทางต้นทางซึ่งคืออาจารย์ทัตสึกิทันที

     “มาฮินะจังเป็นประเภทเพอร์เฟคเกิร์ล ทำได้ทุกอย่างนี่น่า” คุเรนะมุ่ยปาก ใจจริงเธอนับถือเพื่อนสนิทคนนี้ที่สามารถทำคะแนนสูงได้เกือบทุกวิชา พอเอาคะแนนมารวมกันก็อยู่ที่ต้นๆ ของระดับชั้นตลอด 

     “เธอก็หัดให้เขาติวให้เธอบ้าง” อาจารย์วัยกลางคนพูดด้วยน้ำเสียงทำนองว่า ‘ ก็รู้ดีไม่ใช่หรือ ?’

     “สมองหนูมันไม่รับเองน่ะค่า ~” แต่คุเรนะก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงทำนองว่า ‘ ก็แล้วทำไมหรอค้า ? ‘ นิดหน่อย 

     “ฮิบิยะคุงก็ให้คุณชิมาซากิติวให้บ้างซิ อยู่ชมรมเดียวกันไม่ใช่หรอ?” คราวนี้อาจารย์ทัตสึกิเป็นฝ่ายพูดออกมาบ้าง ฮิบิยะมองเขาตาเขียวปั้ด มีรังสีอำมหิตที่แผ่ออกมา ปกติก็ดูน่ากลัวอยู่แล้วตอนนี้ยิ่งดูน้ากลัวขึ้นไปอีก

     “อยู่ชมรมเดียวกันด้วยหรือ แบบนี้ก็ดีเลยน่ะซิ สิ่งแวดล้อมที่ดีจะทำให้คนยิ่งพัฒนานะ” อาจารย์วัยกลางคนพูดต่อ 

     “งั้นหรอครับ .. เข้าใจแล้วครับ ผมจะลองไปปรึกษาเพื่อนดู” แต่คราวนี้ฮิบิยะกลับตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลผิดคาด รังสีอำมหิตหายไปแล้ว คุเรนะที่นั่งอยู่ข้างๆ มองตาโตด้วยความงุนงงเล็กน้อย

     ‘เดิมทีชมรมพฤกษศาสตร์นี่ก็ตั้งขึ้นจากความเอาแต่ใจของอาจารย์ที่ปรึกษาเขาอยู่แล้วแหละค่ะ’ เสียงของมาฮินะเพื่อนสนิทลอยขึ้นมา ทำให้คุเรนะพอจะเข้าใจบุคลิกของหนุ่มแว่นเพื่อนร่วมชมรมของมาฮินะขึ้นมาเล็กน้อย

     เป็นคนที่ดูเข้าถึงยาก เหมือนโกรธตลอดเวลา โดยเฉพาะกับอาจารย์ทัตสึกิ แต่พอคุยด้วยก็สุภาพนุ่มนวลเรียบร้อยกว่าที่คิด เป็นพวกแข็งนอกนุ่มในหรอกหรอ ? 

     คุเรนะสรุปเอาเองในใจ 

 

 

     คาบพูดคุยกับเจ้าตัวปัญหาสุดโต่งของระดับชั้นจบลงแล้ว คุเรนะและฮิบิยะลาอาจารย์แล้วต่างแยกย้ายไปห้องเรียนของตัวเอง 

     ส่วนสาเหตุที่อยู่ดีๆสองคนนี้ถูกเรียกขึ้นมาน่ะหรอ ก็เพราะว่าใกล้จะถึงช่วงเวลาสอบปลายภาคแล้วน่ะซิ ! 

     เจ้าพวกนักเรียนตัวป่วนที่คะแนนสอบสูงลิ่วแค่ในวิชาที่ชอบ เป็นพวกที่ดันเอาเวลาทั้งหมดไปทุ่มแค่กับวิชาที่ชอบจนวิชาอื่นคะแนนเหลวเป๋วเลยถูกเรียกมาประการฉะนี้นั่นเอง

     ‘จะว่าไปสุมิเระจังเคยเล่าให้ฟังว่าในต่างประเทศจะมีโรงเรียนที่ให้เลือกวิชาตามความถนัดอยู่สินะ’ คุเรนะใจลอย หวนนึกถึงเพื่อนสนิทอีกคนในกลุ่มที่เก่งภาษาต่างประเทศยิ่งกว่าอะไรดี หรือเธอจะเลือกหนทางที่ไปสู่ต่างแดนดี ? 

     “คุณทนโด” เสียงหนึ่งเรียกเธอจากภวงค์ ฮิบิยะนั่นเอง เขาหันมามองเด็กสาวผมสีดำที่ตัวสูงถึงแค่อกของตนเอง 

     “มีอะไรหรอ ?” คุเรนะหันกลับไปถามอีกฝ่าย แสงแดดจ้ายามกลางวันสอดส่องเข้ามาในทางเดินระหว่างห้องเรียนทำให้เธอที่อยู่ตรงทางเดินโดนแดดเผาเล็กน้อย ในขณะที่อีกฝ่ายอยู่ในเงามืดของมุมตึก ทำให้เธอสังเกตสีหน้าของเขาลำบากเล็กน้อย คุเรนะจึงเดาไม่ค่อยได้ว่าฮิบิยะต้องการจะถามอะไรกัน

     “คุณชิมาซากิจะมาชมรมช่วงสอบปลายภาครึเปล่าครับ” อีกฝ่ายถามขึ้นมา คุเรนะเอียงคออย่างสงสัย ก่อนที่เด็กหนุ่มจะอธิบายต่อ

     “สมาชิกชมรมที่ทำงานอยู่จริงๆ มีแค่ผมกับคุณชิมาซากิ เผื่อถ้าช่วงสอบปลายภาคคุณชิมาซากิจะไม่มาทำกิจกรรมชมรม ผมจะได้วางแผนงานถูก” ปกติชมรมในโรงเรียนนี้จะไม่มีงานใหญ่ๆ หรือซ้อมกันในช่วงใกล้สอบปลายภาค แต่ดูเหมือนว่าชมรมขนาดเล็กมินิของเด็กหนุ่มเจ้าของคะแนนอันดับ1 ในวิชาชีววิทยาจะเป็นข้อยกเว้น 

     “คิดว่าไปเหมือนเดิมนะ” คุเรนะตอบไปตามตรง ถ้ามาฮินะไม่เคยบอกอะไร เธอคิดว่าชีวิตประจำวันของอีกฝั่งก็น่าจะเหมือนเดิม แต่ในพริบตาของคำตอบที่ตอบไปแบบไม่คิดอะไรมากนั้นเธอก็สังเกตเห็น

     ดวงตาอันสดใสเป็นประกายใต้เงามืดของอาคารที่อยู่หลังเลนส์แว่นกรอบหนา 

     และรอยยิ้มจางที่เก็บเอาไว้ไม่อยู่ของเด็กชายผู้ดูไม่เป็นมิตร แต่ทว่าแท้จริงแล้วเป็นคนอ่อนโยนและนุ่มนวลผิดคาด 

 

     จริงๆ ฮิบิยะ คาสึโอะวางแผนกิจกรรมชมรมไว้แล้วในกรณีว่าเขาทำงานคนเดียว

     แน่ล่ะ เขาไม่อยากให้สมาชิกชมรมคนอื่นต้องลำบากเรื่องเรียนกับความสนใจส่วนตัวของเขาแค่คนเดียว 

    คาสึโอะเดินลงบันไดตึกอย่างเชื่องช้า ยังมีเวลาอีกซักพักก่อนจะถึงคาบเรียนตอนบ่าย 

     แต่ว่าแค่ซักนิด เพียงซักนิดเท่านั้น 

     คาสึโอะคิดอย่างเหม่อลอย เขาค่อยๆเดินแทรกฝูงชนเพื่อไปยังห้องเรียนของตนเอง ป้าย 2-B อยู่ห่างออกไปไม่ไกล ดวงตาใต้เลนส์แว่นกรอบหนาทอดมองตรงไปข้างหน้า

     ยาวไปจนถึงป้าย 2-A เด็กสาวเจ้าของผมสีอ่อนหยักลอน เจ้าของหน้าม้าเถิกเล็กน้อยและดวงตาสดใสเป็นประกาย พร้อมหางตาที่ชี้ขึ้น ชิมาซากิ มาฮินะกำลังหัวเราะเบาๆ ข้างเด็กสาวผมสีดำมัดแกละที่เขาเพิ่งเจอไปเมื่อซักครู่ 

     แค่ได้เห็นหน้าเธอเพิ่มขึ้นอีกซักนิด หัวใจของเขาก็พองโตแทบบ้าแล้ว

คุณมาฮินะกับชมรมพฤกษศาสตร์ที่ไม่มีใคร

คุณมาฮินะกับชมรมพฤกษศาสตร์ที่ไม่มีใคร

Status: Ongoing
โรงเรียนมัธยมปลายสึบากิเป็นโรงเรียนเตรียมสอบสำหรับเด็กเรียนระดับแนวหน้าของจังหวัด ซึ่งแน่นอนว่ากิจกรรมชมรมจึงเป็นเรื่องรองไปโดยปริยาย ‘ชิมาซากิ มาฮินะ’ เคยเป็นสมาชิกขมรมพฤกษศาสตร์คนเดียวของโรงเรียน ก่อนจะพบว่าแท้จริงแล้วชมรมนี้มีสมาชิกลับซ่อนอยู่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท