สลับชะตา ชายามือสังหาร – ตอนที่ 292 ปลอกนิ้วสายโลหิตลึกลับ

สลับชะตา ชายามือสังหาร

“นี่​คือ​สิ่งใด​หรือ​ ถึงได้​มีผลต่อ​วิญญาณ​อย่าง​มหาศาล​เช่นนี้​!” อู​ห​ลิ​งอ​วี่​ถาม

“น้ำทิพย์​วิญญาณ​ มีผลต่อ​วิญญาณ​และ​พลังจิต​อย่าง​ที่สุด​เลย​ละ​” ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​พูด​ “ตอนนั้น​ห​มัว​ซาอาการหนัก​ถึงเพียงนั้น​ ข้า​ก็​ใช้สิ่งนี้แหละ​ทำให้​เขา​ฟื้นฟู​ขึ้น​มาทีละเล็กละน้อย​”

“ได้​ผลดี​ขนาด​นี้​เชียว​!” อู​ห​ลิ​งอ​วี่​สนใจ​น้ำทิพย์​วิญญาณ​เป็น​อย่างยิ่ง​ เมื่อ​ครู่​ตอนที่​เขา​พบ​หน้า​ห​มัว​ซาก็​รู้สึก​ได้​ว่า​วิญญาณ​ของ​เขา​แกร่งกล้า​เพียงใด​ คิดไม่ถึง​ว่า​เป็น​เพราะ​ใช้สิ่งนี้​ใน​การฟื้นฟู​

“ก็​ใช่แหละ​ ผ่าน​ประสบการณ์​มาหลาย​หมื่น​ปี​ ต่อให้​วิญญาณ​ของ​เขา​แข็งแกร่ง​ แต่​ก็​ไม่มีทาง​แกร่งกล้า​ได้​เท่า​ตอนนี้​แน่​” มาร​เฒ่าพูด​ จากนั้น​จึงมอง​ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​พลาง​ยิ้ม​กว้าง​ “ศิษย์​รัก​ เจ้ามีของ​สิ่งนี้​อยู่​มาก​ไหม​ แบ่ง​ให้​ข้า​สักหน่อย​ด้วย​ได้​หรือไม่​!”

“เมื่อ​ครู่​ท่าน​ยัง​คิด​จะสังหาร​ข้า​ปิดปาก​อยู่เลย​มิใช่หรือ​!” ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​พูด​

มาร​เฒ่าพูด​อย่าง​หน้าหนา​ว่า​ “เรื่อง​ที่​ศิษย์​พี่​เจ้าวิญญาณ​ไม่สมบูรณ์​นี้​เป็นความลับ​มาโดยตลอด​ เจ้าพูด​ออกมา​อย่าง​ปุบปับ​ ข้า​ก็​เลย​คิด​ว่า​เจ้าเป็น​คน​ของ​หุบเขา​หมื่น​บุปผา​ที่​เข้ามา​ใกล้ชิด​พวกเรา​ด้วย​เจตนา​ไม่ดี​น่ะ​สิ ตอนนี้​พอ​รู้​ว่า​เจ้าไม่ใช่แล้ว​ เจ้าก็​ต้อง​เป็น​ศิษย์​รัก​ของ​ข้า​ต่อไป​สิ”

“เฮอะ​!” ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​แค่น​เสียง​เฮอะ​ ยัง​จะมาปั้นหน้า​อีก​

“ไอ้​ห​ยา​… ศิษย์​รัก​เอ๋ย​ เจ้าก็​อย่า​ถือสา​อาจารย์​เลย​น่า​” มาร​เฒ่าดึง​ชาย​เสื้อ​ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​ด้วย​ท่าที​ออดอ้อน​ ทำเอา​ศิษย์​ทั้งสอง​ขนลุกขนพอง​ไป​ทั้งตัว​

“เฮอะ​ ท่าน​อาจารย์​ ท่าน​ต้อง​ชดเชย​ให้​กับ​สุขภาพจิต​ที่​เสีย​ไป​ของ​ข้า​ด้วย​นะ​” ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​พูด​

“ได้​สิ รอ​จน​เจ้าไป​ที่​หุบเขา​มาร​เทพ​แล้ว​ต้องการ​สิ่งใด​ก็​หยิบ​สิ่งนั้น​ไป​ได้​เลย​” มาร​เฒ่ารับปาก​อย่าง​เต็มใจ​

“วันนั้น​ท่าน​ก็​บอก​ไป​แล้ว​ นั่น​คือ​ของ​รับขวัญ​ศิษย์​ ไม่นับ​เป็นการ​ชดเชย​” ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​พูด​

“เช่นนั้น​เจ้าต้องการ​สิ่งใด​เป็นการ​ชดเชย​เล่า​” มาร​เฒ่าทึ้ง​ผม​ตัวเอง​พลาง​เอ่ย​ว่า​ “เจ้าลอง​เสนอ​มามิดี​หรือ​”

“ข้า​จะไป​รู้​หรือว่า​ท่าน​มีอะไร​บ้าง​!” ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​หน้าไม่อาย​มากยิ่งขึ้น​

“ตา​เฒ่า ท่าน​ยก​ปลอกนิ้ว​ของ​ท่าน​ให้​นาง​มิดี​หรือ​” อู​ห​ลิ​งอ​วี่​พูด​อยู่​ข้างๆ​

“ได้​เลย​! ถึงอย่างไร​ช้าเร็ว​ก็​ต้อง​ตกเป็นของ​นาง​อยู่ดี​” มาร​เฒ่าพยักหน้า​พลาง​พูด​ขึ้น​

“ปลอกนิ้ว​นี่​มีประโยชน์​อัน​ใด​หรือ​” ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​ถาม

“ใช้เคลื่อนย้าย​พลัง​ส่วนหนึ่ง​ของ​หุบเขา​มาร​เทพ​ได้​” มาร​เฒ่าพูด​ “แสดงถึง​อำนาจ​น่ะ​! นอกจากนี้​ยัง​เคลื่อนย้าย​พลัง​ของ​เมือง​จำนวน​หนึ่ง​ได้​อีกด้วย​”

“ร้ายกาจ​ถึงเพียงนี้​เชียว​หรือ​!” ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​มอง​มาร​เฒ่าแล้ว​เอ่ย​ว่า​ “นี่​คง​มิใช่สัญลักษณ์​แสดงตัว​เจ้าหุบเขา​มาร​เทพ​ของ​ท่าน​หรอก​กระมัง​”

“ย่อม​มิใช่อยู่แล้ว​ละ​ ต่อให้​ข้า​อยาก​มอบให้​เจ้า เจ้าก็​ใส่ไม่ได้​อยู่ดี​” มาร​เฒ่าพูด​

“เพราะเหตุใด​หรือ​” ปลอกนิ้ว​อัน​เดียว​ก็​ต้อง​มีเงื่อนไข​ด้วย​อย่างนั้น​หรือ​

“จะเกิด​อันตราย​น่ะ​สิ” อู​ห​ลิ​งอ​วี่​พูด​

“เช่นนั้น​ปลอกนิ้ว​ที่​พวก​ท่าน​พูดถึง​คือ​สิ่งใด​หรือ​” เธอ​ถาม

“สิ่งนี้​”

มาร​เฒ่าหยิบ​ปลอกนิ้ว​อัน​หนึ่ง​ออกมา​ส่งให้​ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ “สิ่งนี้​… เจ้าลอง​สวม​ดู​สิว่า​สวม​ได้​หรือไม่​”

ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​รับ​แหวน​ไปดู​ บน​หิน​โมราสี​โลหิต​มีหัวกะโหลก​สลัก​อยู่​ และ​ระหว่าง​เบ้าตา​ทั้งสอง​ของ​หัวกะโหลก​นี้​ก็​มีสิ่งที่​ดูเหมือน​หยด​เลือด​อยู่​สอง​หยด​ด้วย​

“เหตุใด​สิ่งนี้​จึงดู​ชั่วร้าย​ถึงเพียงนี้​เล่า​ คงจะ​มิได้​เป็น​ของ​เผ่า​มาร​หรอก​กระมัง​” เธอ​มองดู​มัน​แล้ว​เงยหน้า​ขึ้น​ถาม

“เจ้าลอง​พลิก​ด้าน​ดู​สิ” อู​ห​ลิ​งอ​วี่​พูด​

ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​ทำตาม​ด้วย​ความสงสัย​ หลังจากนั้น​จึงเบิก​ตาโต​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ “คราวนี้​เปลี่ยน​กลายเป็น​นางฟ้า​แล้ว​! น่าประหลาด​ยิ่งนัก​ ทำได้​อย่างไร​กัน​นี่​”

“เรื่อง​นี้​เจ้าอย่า​ได้​ประหลาดใจ​ไป​เลย​” มาร​เฒ่าพูด​ “แหวน​วง​นี้​มัน​เลือก​นาย​ คน​ทั่วไป​มิอาจ​สวมใส่​ได้​ เจ้าลองดู​สิ”

“อ้อ​” ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​สวม​ปลอกนิ้ว​ลง​บน​นิ้วหัวแม่มือ​ ทันใดนั้น​ก็​รู้สึก​ได้​ว่า​ไอ​เย็น​กลุ่ม​หนึ่ง​ส่งผ่าน​จาก​นิ้วหัวแม่มือ​ไป​ยัง​ห้วง​สมอง​ แต่​เธอ​ยัง​มิทัน​ได้​พูดว่า​สบาย​เหลือเกิน​ ไอ​อัน​ร้อนรุ่ม​ราวกับ​ไฟก็​จู่โจมเข้ามา​

ไอ​ร้อน​และ​ไอ​เย็น​ผสาน​กัน​บน​ร่างกาย​ของ​เธอ​ คล้าย​กับ​จะช่วงชิง​ร่างกาย​ของ​เธอ​อย่างไร​อย่างนั้น​

ทันใดนั้น​เธอ​ก็​รู้สึก​คล้าย​กับ​ว่า​วิญญาณ​ของ​ตน​ลอย​ขึ้น​มา จากนั้น​ก็​ร่วงหล่น​ลง​ ทัศนียภาพ​โดยรอบ​ร่น​ถอย​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​ เมื่อ​เธอ​ปรับ​สภาพ​กับ​เหตุการณ์​ตรงหน้า​ได้​แล้วก็​พบ​ว่า​เธอ​มิได้​อยู่​บน​ภูเขา​อีกต่อไป​

“ที่นี่​มัน​ที่ไหน​กัน​ เอ๊ะ​ มีความเคลื่อนไหว​ด้วย​”

เธอ​สัมผัส​ได้​ว่า​ไกล​ออก​ไป​มีระลอก​พลัง​วิญญาณ​กระเพื่อม​ไหว​อยู่​ คิด​จะเข้า​ไปดู​สถานการณ์​สักหน่อย​ ระหว่างทาง​ก็​ดู​ไป​ด้วยว่า​จะหา​ใคร​สัก​คน​มาถามว่า​ที่นี่​คือ​ที่ไหนได้​บ้าง​หรือไม่​

ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​เดิน​ตรง​ไป​ข้างหน้า​ เมื่อ​เธอ​รู้สึก​ว่า​ขา​ทั้งสอง​ข้าง​ของ​ตน​อ่อนแรง​แล้ว​นั้น​เอง​ จึงข้าม​ผ่าน​ภูเขาใหญ่​ตรงหน้า​มาได้​

“ไม่มีใคร​เลย​!” เธอ​พึมพำ​ “แล้ว​ระลอกคลื่น​พวก​นั้น​มาจาก​ที่ไหน​กัน​ล่ะ​”

เธอ​เดิน​ตรง​ไป​ข้างหน้า​ต่อ​ด้วย​ความรู้สึก​ว่า​สติ​รับรู้​ของ​ตน​ค่อยๆ​ ราง​เลือน​ลง​ไป​เรื่อยๆ​

“นี่​มัน​เรื่อง​อะไร​กัน​น่ะ​ ฉัน​จะหลับ​ไม่ได้​เด็ดขาด​” สัญชาตญาณ​บอก​เธอ​ว่า​เธอ​จะหมดสติ​ลง​ไป​ไม่ได้​ ดังนั้น​เธอ​จึงออกแรง​กัด​ริมฝีปาก​ตัวเอง​เอาไว้​ ใช้ความเจ็บปวด​กระตุ้น​สติ​ตัวเอง​

“เหตุใด​จึงสว่าง​ เหตุใด​จึงมืด​” เสียงแหลม​สูงของ​บุรุษ​ผู้​หนึ่ง​ดัง​ขึ้น​ท่ามกลาง​ความ​เลือนราง​ คล้าย​กับ​การ​ดีด​สาย​เครื่องดนตรี​

ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​รู้สึก​ว่า​หัวสมอง​อัน​วิงเวียน​ของ​ตน​ถูก​กระตุ้น​ให้​แจ่มใสขึ้น​มาไม่น้อย​

“เหตุใด​จึงถูก​ เหตุใด​จึงผิด​” น้ำเสียง​รื่นหู​ลอย​แหวก​อากาศ​มา แฝงความ​ทอดถอนใจ​เอาไว้​ด้วย​

ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​แจ่มใสขึ้น​มา ทัศนียภาพ​รอบตัว​แปรเปลี่ยน​ เธอ​มาถึงพื้นที่​ที่​เต็มไปด้วย​หิมะ​ เห็น​หัวกะโหลก​อัน​หนึ่ง​และ​หญิงสาว​ผู้​งดงาม​เผชิญหน้า​กัน​อยู่​ใน​พื้น​หิมะ​

“ข้า​รู้สึก​ว่า​เรื่อง​ที่​ถูกต้อง​ย่อม​ถูกต้อง​” หัวกะโหลก​พูด​ คล้าย​กับ​กำลัง​ตอบคำถาม​เมื่อ​ครู่​ของ​หญิงสาว​

“บน​โลก​ควร​เหลือ​เพียงแค่​แสงสว่าง​เท่านั้น​ ขจัด​ความ​มืดมิด​” หญิงสาว​พูด​ต่อ​

ทันใดนั้น​ทั้งสอง​คน​ต่าง​หันมา​มอง​ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​แล้ว​ถามว่า​ “เจ้าว่า​สิ่งใด​ถูก​ สิ่งใด​ผิด​ สิ่งใด​คือ​ความสว่าง​ สิ่งใด​คือ​ความมืด​หรือ​”

ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​มอง​คน​ทั้งคู่​ ดูเหมือนว่า​จะเป็น​สอง​คน​ที่อยู่​บน​ปลอกนิ้ว​นั่นเอง​ ตอนที่​ทั้งสอง​มอง​เธอ​ ทำให้​เธอ​รู้สึก​ว่า​วิญญาณ​ของ​ตน​สั่นสะท้าน​

“ตอบ​มาเร็ว​เข้า​!” หัวกะโหลก​ตะคอก​เสียงดัง​

”สหาย​ตัว​น้อย​ เจ้าค่อยๆ​ คิด​นะ​“ หญิงสาว​ยิ้ม​อย่าง​อ่อนโยน​

ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​สูด​หายใจ​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ “บน​โลก​นี้​ไม่มีสิ่งใด​ที่​ถูก​โดยสิ้นเชิง​ และ​ไม่มีสิ่งใด​ที่​ผิด​โดยสิ้นเชิง​เช่นกัน​ หาก​มอง​เรื่อง​เดียวกัน​จาก​มุมที่​แตกต่าง​ย่อม​ถูก​ผิด​แตกต่าง​กันไป​ หาก​พูด​อย่าง​ง่ายๆ​ มีคน​สังหาร​ญาติสนิท​ของ​ท่าน​ ท่าน​ไป​แก้แค้น​ด้วย​การสังหาร​คน​ผู้​นั้น​ สำหรับ​ท่าน​แล้ว​นี่​ย่อม​เป็น​สิ่งที่​ถูกต้อง​ แต่​สำหรับ​คน​ข้างหลัง​ของ​คน​ผู้​นั้น​ ท่าน​ย่อม​กระ​ทำผิด​อยู่แล้ว​”

“ความสว่าง​และ​ความมืด​ สิ่งใด​ควร​ดำรงอยู่​” ทั้งสอง​คน​ถามขึ้น​พร้อมกัน​ ด้วย​ท่าที​เหมือนว่า​เจ้าต้อง​เลือก​มาสัก​อย่างหนึ่ง​

“ความสว่าง​และ​ความมืด​นั้น​แท้ที่จริง​แล้ว​ต้อง​พึ่งพา​และ​สอด​ประสานกัน​ ไม่มีใคร​อาจ​แยกจาก​ใคร​ได้​เลย​” ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​พูด​ “ที่ใด​มีความสว่าง​ก็​มีความมืด​ได้​ ที่ใด​มีความสิ้นหวัง​ก็​มีความหวัง​ได้​เช่นกัน​”

“พูดจา​เหลวไหล​ ความสว่าง​และ​ความมืด​จะดำรงอยู่​พร้อมกัน​ได้​อย่างไรเล่า​!” คราวนี้​แม้กระทั่ง​หญิงสาว​ก็​โมโห​ขึ้น​มาเสียแล้ว​

ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​ไม่รีบร้อน​ เธอ​ชี้ไป​ยัง​พื้น​หิมะ​ไกล​สุดลูกหูลูกตา​แล้ว​ถามว่า​ “ที่นี่​ขาวโพลน​ไป​หมด​ ดู​แล้ว​สะอาด​ตา​อย่างยิ่ง​เลย​ใช่หรือไม่​ แต่​ข้างล่าง​เล่า​”

เธอ​คุกเข่า​ลง​ไป​แล้ว​ขุด​หิมะ​ออกมา​ ด้านล่าง​ล้วน​เต็มไปด้วย​โคลนตม​

“ยังมี​อีก​” เธอ​จุด​เปลวเพลิง​ขึ้น​กอง​หนึ่ง​แล้ว​หยิบ​แผ่น​ไม้ออกมา​พลาง​เอ่ย​ว่า​ “ด้านหน้า​ของ​แผ่น​ไม้นั้น​สว่าง​เจิดจ้า​ แต่​ด้านหลัง​ของ​แผ่น​ไม้เล่า​ เต็มไปด้วย​เงามืด​เลย​ละ​”

หัวกะโหลก​และ​หญิงสาว​ต่าง​ก็​ไม่เอ่ย​วาจา​ พวกเขา​แสดงท่าที​ครุ่นคิด​

ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​เก็บ​เปลวเพลิง​ลง​ไป​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ “พูดถึง​สิ่งที่​พบเห็น​ได้​บ่อย​ที่สุด​ กลางวัน​และ​กลางคืน​ พวก​ท่าน​บอก​ได้​หรือไม่​ว่า​บน​โลก​จะมีเพียงแค่​กลางวัน​อัน​สว่างไสว​หรือ​แค่​กลางคืน​อัน​มืดมน​ดี​เล่า​”

เดิมที​เธอ​คิด​ว่า​สอง​คน​นั้น​จะโต้แย้ง​เธอ​ แต่​คิดไม่ถึง​ว่า​หญิงสาว​ผู้​นั้น​กลับ​ยิ้ม​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ “ดีมาก​ ความคิด​ของ​เจ้าถูกต้อง​เหมาะสม​ยิ่งนัก​ เรื่อง​ใด​ใน​โลก​หล้า​ล้วน​มิอาจ​สรุป​อย่าง​เฉพาะเจาะจง​ได้​ ไม่ว่า​จะถูก​หรือ​ผิด​ ความสว่าง​หรือ​ความมืด​ ล้วน​ไม่มีสิ่งใด​เด็ดขาด​ เจ้าผ่านการทดสอบ​แล้ว​ ไป​เถิด​”

ซือ​หม่า​โย​วเย่ว์​ยัง​ไม่ทัน​ได้สติ​กลับคืน​มา รู้สึก​เพียงแค่​ความ​วิงเวียน​เท่านั้น​ เมื่อ​ลืมตา​ขึ้น​มาก็​เห็น​มาร​เฒ่าและ​อู​ห​ลิ​งอ​วี่​กำลัง​มอง​ตน​อยู่​อย่าง​ตกตะลึง​

สลับชะตา ชายามือสังหาร

สลับชะตา ชายามือสังหาร

Status: Ongoing
เมื่อ ซือหม่าโยวเย่ว์ นักฆ่าสาวจากยุคปัจจุบันตายลง วิญญาณกลับมาเข้าร่างคุณชายห้าแห่งจวนแม่ทัพใหญ่ที่ถูกตราหน้าว่าเป็น ‘คนไร้ค่า’ ผู้ชมชอบไม้ป่าเดียวกัน! เพื่อบรรลุเป้าหมายที่เจ้าของร่างเดิมไหว้วานไว้นางจึงต้องกลายเป็นผู้แข็งแกร่งของโลกใบนี้ โลกที่ตัดสินกันด้วยพลังบำเพ็ญ! ถอนพิษในร่าง ฝึกวิชา แก้แค้นและตามหาบิดามารดาของร่างนี้ ในขณะที่นางมาถึงโลกนี้บางสิ่งที่หลับใหลในร่างของนางกลับ ‘ตื่นขึ้น’ พร้อมความฝันประหลาดที่เอ่ยถึงชื่อ ซีเหมินโยวเย่ว์ ความรู้สึกนั้นช่างสมจริงจนยากจะเชื่อว่าเป็นเพียงความฝันจนนางเริ่มไม่แน่ใจเสียแล้วว่า สิ่งที่ตนเห็นนั้นเป็นเพียงอดีตหรือความทรงจำที่ถูกปิดผนึกเอาไว้กันแน่…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท