ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 276 ประสบความสำเร็จอย่างมาก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 276 ประสบความสำเร็จอย่างมาก

ตอนที่ 276 ประสบความสำเร็จอย่างมาก

ฉินมู่หลานก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าปัจจุบันนี้มีอุปกรณ์ครบครันแล้วหรือยัง จึงหันมองเหลียงถงแล้วเอ่ยถาม “ฉันขอไปดูห้องผ่าตัดก่อนได้ไหมคะ?”

“ได้อยู่แล้วครับ”

เหลียงถงพยักหน้าทันทีหลังจากได้ยินเช่นนี้ เขาหวังว่าฉินมู่หลานจะเตรียมพร้อมก่อนการผ่าตัดได้ “ไม่ทราบว่าคุณสะดวกไปดูได้ช่วงไหนครับ ผมว่าก็ดีเหมือนกันถ้าได้ไปดูก่อน”

“ตอนนี้เลยได้ไหมคะ ยิ่งไปดูเร็วเท่าไหร่ยิ่งดีค่ะ จะได้ตัดสินใจได้เร็วว่าจะเข้ารับการผ่าตัดได้ตอนไหน”

เมื่อเห็นฉินมู่หลานให้ความใส่ใจมาก สีหน้าของเหลียงถงก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ได้ครับ ผมจะไปติดต่อให้ แล้วเดี๋ยวพวกเราไปที่นั่นกันเลย”

หลังจากพูดจบ เหลียงถงก็รีบออกไปทันที

แต่โจวเหยียนยังคงอยู่ที่นี่ หล่อนมองฉินมู่หลานด้วยรอยยิ้มแล้วพูดขึ้น “มู่หลาน ต่อไปก็ขอรบกวนเธอหน่อยนะ”

“คุณป้าคะ ไม่รบกวนเลยสักนิดค่ะ”

โจวเหยียนทราบว่าฉินมู่หลานไม่ชอบให้พูดขอบคุณบ่อยนัก จึงไม่พูดอะไรอีก แต่เมื่อเห็นว่าฉินเคอวั่งไม่ได้อยู่ที่นี่ ก็เอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง “จริงสิ แล้วเคอวั่งล่ะ ทำไมไม่เห็นเขาเลย”

“เขาออกไปทำงานเล็กๆ กับพ่อสามีของฉันค่ะ”

“งานเล็กๆ?”

โจวเหยียนได้ยินเช่นนี้ สีหน้าก็เต็มไปด้วยความสงสัย

ฉินมู่หลานจึงยิ้มแล้วเล่าเรื่องการตกแต่งบ้านให้ฟัง หลังจากนั้นก็กล่าวว่า “เคอวั่งสนใจเรื่องพวกนี้มาตั้งนานแล้วค่ะ ตอนนี้พอมีโอกาสเขาก็เลยขอไปด้วย นอกจากนี้เขาก็เก่งมากด้วยค่ะ ช่วยอะไรได้เยอะเลย”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ โจวเหยียนก็มองด้วยยกยิ้ม “เคอวั่งเป็นเด็กที่ขยันจังเลยนะ”

วันนี้เจี่ยงสือเหิงก็ไม่อยู่เหมือนกัน เขาออกไปทำงานที่สถาบันแต่เช้าตรู่ ส่วนเหยาจิ้งจือกับโจวเหยียนก็ไม่ได้คุ้นเคยกันมากนัก หลังจากพูดคุยกันไม่กี่คำก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ในตอนนี้จึงมีแค่ฉินมู่หลานกับโจวเหยียนเท่านั้นที่กำลังพูดคุยกัน แต่เหลียงถงจัดการทุกอย่างเร็วมาก ไม่นานนักเขาก็กลับมาพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า

“หมอฉิน ตอนนี้คุณไปโรงพยาบาลปักกิ่งได้แล้วนะครับ”

ฉินมู่หลานได้ยินเช่นนี้ก็รีบลุกขึ้นยืน แล้วหันไปบอกเหยาจิ้งจือ “แม่คะ ถ้าอย่างนั้นฉันขอไปดูหน้างานก่อนนะคะ รบกวนแม่ดูแลเฉินเฉินกับชิงชิงให้ด้วย”

เหยาจิ้งจือยิ้มแล้วโบกมือ ก่อนจะเอ่ย “ไม่ต้องห่วง ที่บ้านมีฉันเฝ้าอยู่ เธอรีบไปจัดการธุระเถอะ”

หล่อนทราบดีว่าทักษะทางการแพทย์ของลูกสะใภ้คนเล็กยอดเยี่ยมมากแค่ไหน ขณะที่ในตอนนี้ทางโรงพยาบาลปักกิ่งยังไม่กล้าที่จะผ่าตัด ลูกสะใภ้คนเล็กกลับกล้าทำ เห็นได้ชัดว่าทักษะทางการแพทย์ของเธอเหนือชั้นกว่าที่จินตนาการเอาไว้เสียอีก เมื่อเธอจะพาคนไปโรงพยาบาล หล่อนจึงให้ความสนับสนุนทันที

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ ก็โบกมือให้เด็กน้อยทั้งสอง จากนั้นก็ตามเหลียงถงกับโจวเหยียนไปด้วยกัน

เมื่อทั้งสามมาถึงโรงพยาบาลปักกิ่งแล้ว ก็พบชายวัยกลางคนคนหนึ่งกำลังยืนรออยู่ตรงนั้น เขายกยิ้มทักทายเหลียงถง จากนั้นก็หันมองฉินมู่หลานอีกครั้ง ก่อนจะก้าวเดินมาข้างหน้าแล้วเอ่ยขึ้นว่า “สวัสดีครับหมอฉิน การผ่าตัดครั้งนี้ผมขอเข้าร่วมด้วยได้ไหมครับ?”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินมู่หลานก็หันไปมองด้วยความแปลกใจ

แม้แต่เหลียงถงที่อยู่ด้านข้างก็ยังแปลกใจเล็กน้อย “เหล่าหลี่ นายอยากจะเข้าร่วมการผ่าตัดครั้งนี้ด้วยเหรอ ทำไมนายไม่เคยบอกมาก่อนเลยล่ะ”

หลี่ปิ่งฉวนได้ยินสิ่งนี้ ก็ยกยิ้มแล้วบอกกล่าว “เป็นเพราะหมอฉินจะเข้าทำการผ่าตัด เพราะฉะนั้นผมจึงจะเข้าไปคอยช่วยสังเกตการณ์ด้วยครับ”

“แต่ว่า…”

ก่อนหน้านี้สหายคนนี้ไม่เคยมีท่าทางเช่นนี้มาก่อน เมื่อทราบว่าเขาจะให้หมอเด็กสาวมาผ่าตัดให้ภรรยา สหายของเขาก็ซักไซ้ไล่เลียงเยอะมาก แต่ตอนนี้กลับมีท่าทางต่างออกไปจากเดิม

“ถ้ารู้แต่แรกว่าหมอคนที่จะเข้าผ่าตัดให้คือหมอฉิน ก็คงไปหาหล่อนตั้งนานแล้ว”

“คุณหมอหลี่รู้จักฉันเหรอคะ?”

ได้ยินว่าเหลียงถงเรียกเขาว่าเหล่าหลี่ ดังนั้นหมอที่อยู่ตรงหน้าก็คงมีแซ่หลี่

หลี่ปิ่งฉวนพยักหน้าแล้วบอกกล่าวทันที “ใช่ครับ ผมรู้จักคุณ โรงพยาบาลของเราใช้ยาแก้อักเสบชนิดพิเศษและยาลดไข้ ตลอดไปจนถึงยากระตุ้นหัวใจและยาห้ามเลือด ยาทั้งหมดนี้หมอฉินเป็นผู้พัฒนาทั้งหมด คุณช่างน่าทึ่งเหลือเกินครับ”

ตอนแรกเหล่าเหลียงไม่ได้บอกเขาเลยว่าหมอสาวคนนั้นคือฉินมู่หลาน แต่หลังจากที่เหลียงถงพูดชื่อฉินมู่หลานขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาจึงได้ทราบว่าหมอคนนั้นคือฉินมู่หลาน และด้วยความที่อีกฝ่ายพัฒนายาที่มีประสิทธิภาพได้มากมาย และครั้งนี้จะทำการผ่าตัด เช่นนั้นก็คงจะทำการผ่าตัดได้สำเร็จแน่นอน เพราะฉะนั้นเขาจึงอยากจับตาดูอย่างละเอียด

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินมู่หลานก็อดพูดไม่ได้ “เป็นอย่างนี้นี่เอง ไม่แปลกใจแล้วค่ะว่าทำไมถึงรู้จักฉัน”

เหลียงถงกับโจวเหยียนต่างมองหลี่ปิ่งฉวนด้วยความแปลกใจก่อนจะเอ่ยถาม “หมอฉิน/มู่หลาน เก่งขนาดนั้นเลยสินะ ยาหลายอย่างในโรงพยาบาลของพวกนาย หล่อนเป็นคนพัฒนาหมดเลยเหรอ”

หลี่ปิ่งฉวนเอ่ยอธิบายพร้อมรอยยิ้ม “ไม่ใช่แค่ในโรงพยาบาลของพวกเรานะ แต่โรงพยาบาลอีกหลายที่ก็ใช้ยาที่หมอฉินเป็นผู้พัฒนา และได้ผลดีมากด้วย”

ตอนนี้เหลียงถงกับโจวเหยียนจึงมั่นใจในตัวฉินมู่หลานมากขึ้น

แต่เหลียงถงก็ยังรู้สึกละอายใจที่เขาไม่ยอมเชื่อเธอในตอนแรก “หมอฉิน ที่แท้คุณก็เก่งขนาดนี้เลย ต้องบอกว่าสายตาผมนี่มันเส้นผมบังภูเขาจริง ๆ”

บางครั้งก็ไม่อาจตัดสินคนจากอายุได้ เมื่อมองดูรูปลักษณ์งดงามและอ่อนเยาว์ของฉินมู่หลาน ก็ดูไม่เหมือนว่าเธอจะมีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมได้เลย

“ลุงเหลียงคะ คุณอย่าพูดอย่างนั้นเลย พวกเราเข้าไปดูห้องผ่าตัดกันก่อนเถอะ”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เหลียงถงก็ไม่พูดอะไรอีก และหันไปมองหลี่ปิ่งฉวนแทน

หลี่ปิ่งฉวนได้ยินเช่นนี้ก็หันมองแล้วยกยิ้มให้ฉินมู่หลานก่อนจะพูดขึ้น “หมอฉิน เชิญด้านในครับ”

หลังจากนั้นหลี่ปิ่งฉวนก็พาพวกฉินมู่หลาน เหลียงถง โจวเหยียน เข้าไปในห้องผ่าตัดทันที เมื่อฉินมู่หลานมาถึงแล้วก็พบว่าข้างในห้องมีอุปกรณ์มากมาย เธอสำรวจดูสักครู่ ก่อนจะพบว่ายังขาดเครื่องมือที่จำเป็น จึงหันไปบอกหลี่ปิ่งฉวนทันที

หลี่ปิ่งฉวนได้ยินก็จดบันทึกลงไปทีละอย่าง

“หมอหลี่คะ เรื่องนี้ต้องลำบากคุณแล้วล่ะค่ะ หลังจากทุกอย่างพร้อมแล้ว พวกเราจะมาทำการผ่าตัดให้คุณป้ากัน ถึงตอนนั้นต้องรบกวนคุณจัดหาอุปกรณ์และคนอื่นมาช่วยด้วยนะคะ” เพราะสุดท้ายแล้วก็ทำการผ่าตัดแค่คนเดียวไม่ได้ ทางที่ดีควรจะมีอุปกรณ์และพยาบาลเตรียมพร้อมเอาไว้

หลี่ปิ่งฉวนเอ่ยให้ความมั่นใจ “หมอฉินวางใจครับ ผมจะเตรียมทุกอย่างให้พร้อม”

“ค่ะ ถ้าอย่างนั้นรบกวนหมอหลี่ด้วยนะคะ”

หลังจากดูเรียบร้อยแล้ว ฉินมู่หลานก็บอกลาเหลียงถงกับโจวเหยียน แล้วกลับบ้านทันที

ตอนแรกฉินมู่หลานคิดว่าจะต้องรออีกหลายวัน ไม่คิดว่าหลี่ปิ่งฉวนจะทำงานรวดเร็วมาก เมื่อทุกอย่างพร้อมก็ติดต่อเหลียงถงทันที เธอจึงไปที่โรงพยาบาลปักกิ่งอีกครั้ง และพบกับบุคลากรทางการแพทย์ที่จะมาเข้าร่วมผ่าตัดกับเธอ ก่อนจะเริ่มลงมือผ่า เธอฝึกซ้อมกับคนอื่นอยู่หลายครั้ง หลังจากแน่ใจว่าไม่เกิดปัญหาอะไรแล้ว จึงเริ่มลงมือผ่าตัดได้

เหลียงถงส่งภรรยาเข้าห้องผ่าตัดด้วยตัวเอง หลังจากนั้นก็เฝ้ามองประตูห้องผ่าตัดด้วยสีหน้ากังวล

เจี่ยงสือเหิงกับฉินเคอวั่งก็มาด้วย พวกเขาเห็นท่าทางเหลียงถงเป็นแบบนี้ ก็รีบเอ่ยปลอบให้เขาสบายใจ “เหล่าเหลียง/อาจารย์ครับ ไม่ต้องกังวลไป มู่หลาน/พี่ เก่งมาก ไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน”

เหลียงถงได้ยินสิ่งนี้ก็พยักหน้าแล้วพูดขึ้น “อื้ม ฉันเข้าใจแล้ว”

ถึงแม้จะทราบว่าฉินมู่หลานเก่งมากแค่ไหน แต่ก็ยังอดกังวลนิดหน่อยไม่ได้

หลายคนกำลังนั่งรออยู่หน้าห้องผ่าตัดอย่างใจจดใจจ่อ เหลียงถงรู้สึกว่าเวลาผ่านไปค่อนข้างนานแล้ว แต่ประตูห้องผ่าตัดก็ยังไม่เปิดออกสักที เขาจึงอดที่จะลุกขึ้นยืนเสียไม่ได้ พลางเดินไปมาด้วยความกังวลใจ

เจี่ยงสือเหิงเห็นเช่นนี้ ก็อดพูดไม่ได้ “เหล่าเหลียง เพิ่งจะผ่านไปแค่สองชั่วโมงเอง นายไม่ต้องกังวล มันไม่เร็วขนาดนั้นหรอก นั่งรอก่อนเถอะ”

“ฉัน…”

ยังไม่ทันจะได้พูดจบ ประตูห้องผ่าตัดก็เปิดออกแล้ว

เหลียงถงเห็นเช่นนี้ ก็รีบวิ่งเข้าไปทันที ก่อนจะมองฉินมู่หลานที่ออกมาแล้วเอ่ยถาม “หมอฉิน การผ่าตัดเป็นอย่างไรบ้างครับ?”

“ไม่ต้องห่วงค่ะ การผ่าตัดประสบความสำเร็จอย่างมากเลยค่ะ”

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

โห้ แสดงว่ามู่หลานต้องดังมากๆ และฝีมือดีมากจนเป็นที่ประจักษ์ในหมู่แพทย์ปักกิ่งนะเนี่ย ถึงได้ใช้ห้องผ่าตัดรวดเร็วขนาดนี้

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท