ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก – ตอนที่ 377 สร้างห้องพัก 180 ห้อง

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ตอนที่ 377 สร้างห้องพัก 180 ห้อง

ตอนที่ 377 สร้างห้องพัก 180 ห้อง

เวลานี้เมิ่งเสี่ยวป๋อชายร่างใหญ่และทรงพลังรีบรุดหน้าไปคลินิกพร้อมกับภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ในอ้อมกอด เขากรีดร้องเพื่อขอความช่วยเหลือด้วยความตื่นตระหนก เมื่อเห็นสิ่งนี้เฉินซีจึงรีบหยุดเขาเพราะกลัวว่าเขาจะเคาะประตูคลินิกจนพังเสียก่อน

“พี่เสี่ยวป๋อ รอก่อน! ใจเย็น ๆ นะ! หนูขอตรวจก่อนว่าพี่สะใภ้อาการเป็นยังไง”

เมื่อซูเถาได้ยินการเคลื่อนไหว เธอจึงรีบไปดูอย่างรวดเร็ว

สองสามีภรรยาคู่นี้เพิ่งแต่งงานได้ครึ่งปี และดูเหมือนว่าการตั้งครรภ์ของภรรยาเสี่ยวป๋อยังไม่พ้นช่วงสามเดือนแรก คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเด็กในท้องหรอกนะ

“เธอมีไข้เกือบ 40 องศา เธอจะช็อกหรือเปล่า” เมิ่งเสี่ยวป๋อเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย

หยางจวี๋ผู้เป็นภรรยาของเสี่ยวป๋อยังมีสติอยู่เล็กน้อย และเมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูดก็ดุเขาอย่างอ่อนแรง “…หุบปาก”

เมื่อซูเถาแตะเข้าที่หน้าผากของหยางจวี๋ ก็พบว่าร่างกายของเธอร้อนผ่าว จึงรีบพูดอย่างเร่งรีบว่า “รีบพาเธอเข้าไปข้างในเร็ว ๆ เราต้องลดอุณหภูมิร่างกายของเธอลงก่อน”

ในคืนนั้น ซูเถาอดหลับอดนอนทั้งคืนอีกครั้ง

ประการแรกที่คลินิกมีเตียงไม่เพียงพอ เธอจำเป็นต้องต่อเติมให้เป็นคลินิก 4 ชั้นในชั่วข้ามคืน และเพิ่มเตียงอีก 100 เตียง ซึ่งแทบจะไม่สามารถแก้ปัญหาการขาดแคลนเตียงในคลินิกได้ในขณะนี้

ทั้งเฉินซีและจงเกาอี้ ต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“ผู้เช่าที่ป่วยและมีไข้สูงก็ไม่กังวลอีกต่อไป แม้ว่าพวกเขาจะไม่ทานยา แต่พวกเขาก็น่าจะรู้สึกสบายใจที่ได้อยู่ใกล้กับหมอจง!”

หลังจากสร้างคลินิกแล้ว ซูเถาวิ่งไปสร้างที่ดินว่างเปล่าขนาด 5,000 ตารางเมตรในเขตซีซานต่อ เธอทำการสร้างอาคารที่พัก เมื่อมีผู้เช่าครบ 1,000 คนจึงจะปลดล็อกร้านขายยาได้ ตอนนี้เรื่องนี้เป็นงานที่เร่งด่วนมากที่สุด เพราะว่าจำเป็นต้องมียาแก้หวัดลดไข้ติดเอาไว้

หากปล่อยให้อาการหวัดเรื้อรังต่อไป อาจจะทำให้ไข้ขึ้นสูงและนำพาไปสู่การอักเสบในที่สุด นอกจากนี้อากาศหนาวเย็นนี้ทำให้ผู้คนล้มป่วยและเป็นไข้จำนวนมาก ซึ่งเมื่อจำนวนพนักงานลดลง ก็จะส่งผลต่อการทำงานของเถาหยางและตงหยาง

ไม่ใช่ว่าเธอผัดวันประกันพรุ่งจนไม่ได้สร้างมันขึ้นมาก่อนหน้านี้ แต่เป็นเพราะเธอไม่สามารถหาเวลาได้จริง ๆ ครึ่งชีวิตของเธอเกือบจะหายไปหลังจากการก่อสร้างเขตซีซาน และเธอต้องการหยุดพักผ่อน แต่แล้วฤดูหนาวอันหนาวเหน็บก็เข้าจู่โจมกะทันหัน และตามมาด้วยการระบาดของไข้หวัด…

มันไม่ทำให้เธอมีโอกาสหายใจเลยจริง ๆ เธอจำเป็นต้องทำการก่อสร้างเพื่อเพิ่มจำนวนประชากร จะได้ปลดล็อกร้านขายยาได้ในเร็ววัน

ซูเถาทุ่มเทเวลาเพื่อรีบทำเรื่องนี้ให้สำเร็จเสร็จสิ้น เธอทำงานจนเวลาข้ามไปอีกวัน เนื่องจากไม่มีแบบวิศวกรรมให้เธอได้ใช้ฟังก์ชั่นการก่อสร้างอัตโนมัติได้ เธอต้องสร้างพื้นที่อยู่อาศัยใหม่ขนาด 5,000 ตารางเมตรในชั่วข้ามคืนเพียงคนเดียว

เธอสร้างห้องพักจำนวน 180 ห้องภายในครั้งเดียว โดยมีห้องเดี่ยวกับห้องคู่อย่างละ 30 ห้อง ห้องชุดแบบหนึ่ง 1 นอน 1 ห้องนั่งเล่น 2 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น 3 ห้องนอน 2 ห้องนั่งเล่น รวมไปถึงห้องรวมแบบสี่คน ห้องรวมแบบหกคน และห้องรวมแบบแปดคนอย่างละ 20 ห้อง

โดยมีค่าใช้จ่ายทั้งหมดอยู่ที่ 3.37 ล้านเหลียนปัง

ด้วยพื้นที่ที่เหลืออยู่มากกว่า 1,000 ตารางเมตร ซูเถาจึงสร้างสวนสาธารณะ ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางและบรรยากาศดีกว่าสวนสาธารณะขนาดเล็กในเถาหยางมาก และเธอก็ได้เว้นพื้นที่ในสวนสาธารณะให้อู๋เจิ้นมาสร้างพื้นที่สีเขียว

โชคดีที่พื้นที่แห่งนี้เชื่อมต่อกับเถาหยาง เพียงแค่มีโรงอาหารและคลินิกคั่นกลางอยู่เท่านั้น หลังจากการก่อสร้างดังกล่าว ทำให้พื้นที่เมื่อรวมกับเถาหยางแล้วอยู่ที่ 12,300 ตารางเมตร ซึ่งดูเหมือนจะเป็นชุมชนเล็ก ๆ

เวลาประมาณเจ็ดโมงเช้า ซูเถาตรวจสอบความเรียบร้อยต่าง ๆ จากนั้นก็พยายามฝืนหนังตาเพื่อเรียกจวงหว่านและเมิ่งเชียนมาหา หลังจากกำชับเรื่องงานเสร็จ ก็ทิ้งตัวลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่นและหลับไปทันที

เมิ่งเชียนอ้าปากค้าง พลางหันไปถามจวงหว่าน “เถ้าแก่บอกว่าเพิ่งสร้างห้องพัก 180 ห้องเหรอ แน่ใจใช่ไหม? ไม่ใช่ 18 ห้องหรอกนะ”

“หากสร้างแค่ 18 ห้อง คงไม่ทำให้เธออ่อนเพลียจนสลบไปแบบนี้หรอก 180 ห้องน่ะถูกต้องแล้ว มันเป็นช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์จริง ๆ” จวงหว่านเอ่ย

ทันทีที่ห้องพัก 180 ห้องนี้ถูกโพสต์ลงบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของเถาหยาง ก็ทำให้เครือข่ายล่มทันที

กานหงอวี้และเฝิงอันหัวหน้าฝ่ายไอทีสองคนที่ยังไม่ได้กินอาหารเช้า เขาต้องรีบมานั่งหน้าคอมพิวเตอร์ด้วยความงุนงงและเริ่มซ่อมแซมระบบเครือข่าย

แม้แต่เซียวเหวินอวี้ และเวินม่านก็เดินทางมาถามด้วยความตื่นเต้น

เวินม่านคว้าแขนจวงหว่าน และถามอย่างตื่นเต้น “พวกคุณกำลังจะเริ่มการขยายตัวครั้งใหญ่เหรอ? ต้องการเงินทุนหรือฐานทัพเคลื่อนที่ไหม? ตราบใดที่คุณขายที่ดินผืนเล็ก ๆ ให้กับเรา เราจะสนับสนุนคุณด้วยกำลังทั้งหมดอย่างแน่นอน”

จวงหว่านโบกมืออย่างรวดเร็ว เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่การตัดสินใจของเธอ

หรือแม้แต่เหล่าอวี๋ผอก็เข้ามาถามว่า “เสี่ยวจวง ทำไมจู่ ๆ ก็สร้างห้องพักมากมายขนาดนั้นเหรอ? หรือพวกคุณวางแผนที่จะรับคนหนุ่มสาวหรือคนวัยกลางคนให้มากขึ้นเพื่อสร้างกองกำลัง วิธีนี้ไม่เลวเลย สู้ ๆ เข้านะ”

จวงหว่านไม่กล้าพูดอะไร เถ้าแก่เพียงขอให้เธอปล่อยเช่าห้องทั้งหมดโดยเร็วที่สุด โดยพิจารณาจากครอบครัวทหารก่อน รองลงมาคือครู แพทย์ และผู้เกี่ยวข้อง โดยไม่ลืมผู้สูงอายุ คนป่วย คนพิการ

เมื่อมองเห็นแบบนี้แล้ว คงไม่ใช่เพื่อสร้างความแข็งแกร่ง…

เถ้าแก่ยังกล่าวอีกว่าหากห้องพัก 180 ห้องถูกปล่อยเช่าจนหมด จะสามารถเพิ่มผู้เช่าได้ 650 คนในคราวเดียว และเมื่อเป็นเช่นนี้ก็จะสามารถปลดล็อกอะไรบางอย่างได้เมื่อมีผู้เช่าถึง 1,000 คน หลังจากนั้นก็จะได้แก้ปัญหาในส่วนที่ต้องการได้

ส่วนจะแก้ปัญหาอะไรนั้นก็คงต้องถามเถ้าแก่อีกที แต่ว่าตอนนี้เธอกำลังพักผ่อนหลังจากเหนื่อยล้ามาทั้งคืน

ผู้คนทั้งภายในและภายนอกเถาหยางต่างก็ตกใจและตื่นเต้นกับห้องที่เพิ่งปล่อยเช่าใหม่จำนวนมากนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากฤดูหนาวที่มาอย่างกะทันหัน ผู้คนในเขตอื่น ๆ ของตงหยางต้องตรวจสอบเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของเถาหยางทุกวัน เพราะกลัวว่าจะพลาดข้อมูลการปล่อยเช่าใหม่

มีบางคนที่เห็นการปล่อยเช่าเป็นจำนวนมากในแวบแรก คิดว่าตัวเองเผชิญกับความหนาวเย็นจนตาลาย

เมื่อซูเถาตื่นขึ้นก็เป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เครื่องสื่อสารของเธอได้รับข้อความมากมาย แต่ก่อนที่จะมีเวลาอ่านมัน เวินม่านและสามีก็มาขอพบ จุดประสงค์ไม่มีอะไรไปมากกว่าต้องการซื้อที่ดิน

ซูเถากุมขมับ…

“พวกคุณลองคิดดูสิ ฤดูหนาวอันหนาวเหน็บมากะทันหันแบบนี้ เชียนอันก็อยู่ห่างไกลจากเถาหยาง พวกเราต้องบินไปบินมาลำบากมาก ดีไม่ดีอาจทำให้ที่ดินแห่งนี้ตลบอบอวลไปด้วยฝุ่น”

ในขณะที่เวินม่านคิดว่า ไม่ว่าจะไกลแค่ไหน ลำบากเพียงใดในการมาที่นี่ เธอจะต้องซื้อที่ดินและตั้งบ้านในเถาหยางให้ได้ จะได้มีข้ออ้างในการมาพบเสียวหั่วเยี่ยนด้วย

ถึงแม้ว่าเธอจะมาอยู่อาศัยในเถาหยางเป็นเวลาสั้น ๆ แน่นอนว่าในช่วงเวลานี้เธอเห็นเสียวหั่วเยี่ยนมีพัฒนาการขึ้น หางสีเปลวไฟของมันก็ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อมันวิ่งเล่นไปรอบ ๆ หางของมันก็สะบัดไปมาสวยงามราวกับขนปอมปอม เห็นแบบนี้แล้วเธอก็รู้สึกหลงใหลมันมากขึ้น

นอกจากนี้ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอเดินทางไปหามันบ่อย ๆ หรือเปล่า และทุกครั้งที่เธอนำของอร่อย ๆ และของเล่นสนุก ๆ ไปให้ แม่แมวก็ไม่ขู่ฟ่อเมื่อเห็นเธอแล้ว

ถึงแม้ว่ามันจะขู่เธอบ้างเป็นครั้งคราว แต่ก็นับว่าน้อยครั้งมาก

มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เวินม่านฉวยโอกาสตอนที่แม่แมวไม่สนใจ เอื้อมมือไปหาเสียวหั่วเยี่ยน แต่เมื่อแม่แมวเห็นมันก็ส่งเสียงขู่แล้ววิ่งมาคาบลูกมันออกไป

แต่แม่แมวก็ไม่ได้เข้ามาทำร้ายเธอ สิ่งนี้ทำให้เธอซึ้งใจจนน้ำตาไหลพราก

“ในเมื่อคุณตัดสินใจแล้ว เราจะขายที่ดินให้คุณตามราคาที่ดินของเซียวเหวินอวี้ แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าช่วงนี้ฉันยุ่งมาก คุณเองก็น่าจะเห็น อาจจะสักพักใหญ่กว่าที่ฉันจะสามารถสร้างบ้านให้คุณได้ ในช่วงเวลานี้คุณควรหาคนมาออกแบบให้เรียบร้อย” ซูเถากล่าว

เวินม่านรีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อกอดเธออย่างตื่นเต้น

ซูเถาโดนหน้าอกอันอ่อนนุ่มของเธอ มันทำให้เธอแอบสะดุ้งเล็กน้อย

อา…ก็นะ ความสวยน่ะมันไม่ใช่แค่ในเรื่องของหน้าตาอย่างเดียว

————————-

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

Status: Ongoing
คอยดูเถอะ…วันสิ้นโลกแบบนี้ฉันจะยืนด้วยด้วยลำแข้งของตัวเองให้ได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท