สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1262 โจมตีโดยไม่ทันตั้งตัว

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1262 โจมตีโดยไม่ทันตั้งตัว

นอกเมืองอวิ๋นจิง

กองทัพต้าเยี่ยนเตรียมตัวบุกเมืองอยู่ที่ฝั่งตะวันออก แม่ทัพของต้าเยี่ยนอยู่ด้านหน้าสุดของขบวน เขาสั่งห้ามทหารทุกคนจุดคบเพลิงและให้ซ่อนตัวเองอยู่ในความมืด เหล่าทหารสวมเกราะเหล็กซึ่งยืนอยู่ไม่ห่างออกไปจ้องไปทางประตูเมืองทิศตะวันออกของอวิ๋นจิงด้วยสายตาที่พร้อมเขมือบเหยื่ออันโอชะของตัวเองทุกเมื่อ

พวกเขาจะทำลายประตูทิศตะวันออกให้พังเป็นประตูแรก ให้อวิ๋นจิงกลายตกเป็นของต้าเยี่ยนของพวกเขาให้ได้

ประตูเมืองทิศเหนือ

ม้าศึกที่ไป๋จิ่นซิ่วนั่งอยู่ย่ำเท้าไปมาด้วยความร้อนใจทนแทบทนไม่ไหวแล้ว มันอยากพุ่งตัวเข้าไปในเมืองเป็นคนแรก ตอนนี้เอาแต่พ่นควันขาวออกมาจากจมูกไม่หยุด

ธงเฮยฟานไป๋หมั่งโบกสะบัดไปมาท่ามกลางสายลมแรงยามค่ำคืน ไป๋ชิงฉีซึ่งสวมชุดเกราะสีเงินกำหอกยาวในมือแน่นด้วยแววตาวาวโรจน์ เขานำทัพกองทัพไป๋และบรรดาน้องๆ ของเขามารอบุกเมืองด้วยความมุ่งมั่นราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังจะออกล่าเหยื่อในยามวิกาล

พวกเขาจะทำลายซีเหลียงให้ราบคาบเพื่อรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่ง! พวกเขาจะช่วยคุณชายห้าของตระกูลไป๋ออกมาอย่างปลอดภัย!

ประตูเมืองทิศตะวันตก

ด้านหลังของแม่ทัพเสิ่นและแม่ทัพเซี่ยสวินคือกองทัพต้าเยี่ยนและกองทัพต้าโจว สองกองทัพร่วมมือกันบุกโจมตีเมืองเพื่อช่วยลดทอนกำลังทหารของซีเหลียงให้กองทัพต้าโจวและต้าเยี่ยนที่กำลังจะโจมตีประตูทิศเหนือและทิศตะวันออกของเมืองอวิ๋นจิง พวกเขาจะทำให้เต็มที่ที่สุด

ทหารสองกองทัพสวมเกราะแตกต่างกัน ทว่า พวกเขาอยู่ในท่าที่พร้อมเพรียงราวกับดาบแหลมคมสองเล่มที่กำลังจะถูกชักออกมาจากฝัก

ประตูทิศใต้

ไป๋จิ่นจื้อเสียบหอกไว้ตรงพื้นบริเวณปลายเท้า ผูกผ้าสีแดงไว้ที่ศีรษะของตัวเอง นางจะเป็นกำแพงเฝ้าอยู่ตรงนี้เพื่อกันไม่ให้หลี่เทียนเจียวหลบหนีไปจากเมืองอวิ๋นจิงได้! นางจะตัดศีรษะของแม่ทัพชราชุนซานจงให้ได้ด้วยตัวเองเหมือนที่พี่หญิงใหญ่เคยตัดศีรษะของแม่ทัพใหญ่ผางผิงกั๋วของแคว้นสู่ได้เพื่อล้างความอัปยศให้พี่ชายห้า!

ต้าเยี่ยนและต้าโจวล้อมเมืองอวิ๋นจิงไว้ทั้งสี่ทิศเพราะไม่ต้องการให้พวกเขามีทางหนี

ไม่รู้เป็นเพราะฝนใกล้ตกลงมาหรือไม่ บรรยากาศในค่ำคืนนี้จึงเงียบสนิท รอบกายไม่มีเสียงใดทั้งสิ้น

ไม่นานทหารซีเหลียงบนกำแพงเมืองอวิ๋นจิงก็โกลาหลขึ้นมาทันที เกิดไฟไหม้ขึ้นทางตะวันออกของเมืองอวิ๋นจิง ควันไฟลอยฟุ้งขึ้นกลางอากาศ ต่อมามีแสงสีแดงจากพลุปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า

พลุคือสัญญาณ เปิดประตูเมืองแล้ว!

แม่ทัพต้าเยี่ยนที่อยู่ฝั่งตะวันออกเงยหน้ามองพลุสัญญาณ จากนั้นชักดาบออกมาจากฝักพลางตะโกนขึ้นสุดเสียง

“ทหารต้าเยี่ยนทุกคน! ถึงเวลาแล้ว! นี่คือสงครามทำลายล้างซีเหลียง! ทหารต้าเยี่ยนทุกคนจะได้รับการบันทึกลงในประวัติศาสตร์ พวกเราคือวีรบุรุษที่ทำลายล้างซีเหลียงให้หมดสิ้น! บุก!”

ทิศเหนือ

เมื่อพลุสัญญาณปรากฏขึ้นชายหนุ่มหันม้ากลับไปหาทหารทุกคน แสงสีเงินของเสื้อเกราะส่องสะท้อนท่ามกลางความมืด ชายหนุ่มเย็นชาและโดดเด่นท่ามกลางทหารในกองทัพ

“ทหารต้าโจวทุกคน! ผู้ที่อยู่ในวันนี้มีทั้งกองทัพไป๋และกองทัพต้าโจว มีทั้งสหายที่เคยร่วมรบกับคนตระกูลไป๋ เคยปกป้องชาวบ้านที่หนานเจียง เคยร่วมเป็นร่วมตายด้วยกันมา! มีทั้งทหารที่เลือดยังร้อน เข้ามาร่วมกับกองทัพเพราะอยากปกป้องบ้านเมืองและรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่ง! สงครามครั้งนี้คือหนึ่งในสงครามที่สำคัญที่สุดในการรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่ง คือสงครามแห่งการล้างแค้นของพวกเราต้าโจว! ซีเหลียง…ต้องถูกทำลายโดยพวกเราต้าโจวเท่านั้น!”

“ทหารทุกคน!”

ไป๋ชิงฉีตะโกนสุดเสียง ม้าศึกของเขาชูขาหน้าทั้งสองข้างขึ้นกลางอากาศ ชายหนุ่มชูหอกยาวขึ้นสูงพลางตะโกนเสียงดังกึกก้อง

“บุก!”

“ตีกลองศึก! บุก!” เลือดในกายของไป๋จิ่นซิ่วร้อนผ่าว นางหันม้ากลับ จากนั้นชุกดาบออกมาแล้วพุ่งตัวออกไปเป็นคนแรก

ทหารด่านหน้าในสังกัดของไป๋จิ่นซิ่วและไป๋จิ่นเจาบุกไปทางประตูทิศเหนือทันที…

สิ่งที่ตามพวกนางไปติดๆ คือพลทหารโล่และโยนหินที่มากมองไม่เห็นปลายแถว พวกเขาเคลื่อนทัพไปใกล้ประตูทิศตะวันออกขึ้นเรื่อยๆ อย่างฮึกเหิม

เสียงกลองและแตรศึกดังสนั่นทั่วทั้งสี่ทิศของเมืองอวิ๋นจิงภายในชั่วพริบตา

แม่ทัพชราชุยซานจงที่ขี่ม้าออกมาจากวังหลวงเพื่อมุ่งหน้าไปยังประตูทิศเหนือมองเห็นกองทัพไป๋กำลังต่อสู้อยู่กับทหารซีเหลียงที่ประตูทิศเหนือ ประตูกลถูกทหารกองทัพไป๋ที่ถูกธนูยิงหลายดอกควบคุมไว้แล้ว ประตูใหญ่ค่อยๆ เปิดออก ตอนนี้เปิดกว้างพอที่คนสองคนจะบุกเข้ามาได้แล้ว…

“ตีกลอง! เหตุใดทหารของพวกเรายังไม่มาอีก!”

ทหารซีเหลียงคนหนึ่งตะโกนถามขึ้นเสียงดังท่ามกลางความอลหม่าน

เวลานี้เดิมทีทหารซีเหลียงควรนอนหลับพักผ่อนกันหมดแล้ว ทว่า เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นที่ประตูเมืองทั้งสี่ทิศของอวิ๋นจิงเช่นนี้พวกเขากลับไม่มาสมทบเสียที มันน่าแปลกยิ่งนัก

ค่ายทหารซีเหลียง

ทหารซีเหลียงที่ฝืนตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินว่าศัตรูบุกมาโจมตีแล้วใช้น้ำเย็นราดสหายของตัวเองเพื่อปลุกให้พวกเขาตื่น จากนั้นตะโกนลั่นว่าศัตรูบุกโจมตีแล้ว

เหล่าทหารซีเหลียงที่กำลังสะลึมสะลือรีบสวมเครื่องแต่งกาย พอออกมาจากประตูก็เห็นทหารซีเหลียงคนอื่นยืนออกันอยู่หน้าห้องน้ำเต็มไปหมด พวกเขารีบเร่งให้คนที่กำลังเข้าห้องน้ำอยู่เร่งทำภารกิจของตัวเองให้เสร็จ

“รีบหน่อย ศัตรูบุกโจมตีเมืองแล้ว กลับมาค่อยมาเข้าห้องน้ำใหม่ รีบไปก่อนเถิด!”

ทหารซีเหลียงคนหนึ่งใส่รองเท้าหนังพลางตะโกนเร่ง

นอกเมืองอวิ๋นจิง

ทหารซีเหลียงที่กำลังต่อสู้กับศัตรูอยู่รู้สึกปวดท้องขึ้นมากะทันหัน พวกเขาทนความจู่โจมนี้ไม่ไหว บางคนถึงขนาดฉี่ราดกางเกง เหงื่อบริเวณหน้าผากไหลท่วมกายพวกเขา

แม่ทัพชราชุยซานจงที่ถูกทหารของตัวเองดักอยู่ห่างออกไปจนเข้าไปใกล้ประตูเมืองไม่ได้ตะโกนขึ้นด้วยความร้อนใจ

“รีบขวางพวกนั้นเอาไว้เร็ว!”

ทว่า เสียงตะโกนของแม่ทัพชราชุยซานจงถูกกลบด้วยเสียงฆ่าฟันของเหล่าทหาร

กองทัพไป๋ถูกแม่ทัพชราชุยซานจงจับเป็นเข้ามาในเมืองอวิ๋นจิง ทว่า ตอนนี้พวกเขาคือกุญแจสำคัญที่จะทำให้อวิ๋นจิงพ่ายแพ้!

ขอเพียงประตูเมืองถูกเปิดออก กองทัพไป๋จะทยอยเข้ามาในเมืองได้อย่างไม่ขาดสาย อีกไม่นานพวกเขาคงบุกไปถึงเมืองหลวงได้สำเร็จ

ไป๋จิ่นซิ่วและไป๋จิ่นเจาขี่ม้านำพลทหารม้าเข้าไปในเมืองเป็นกลุ่มแรก ดาบตวัดไปที่ใดที่นั่นล้วนเต็มไปด้วยเลือดและเสียงร้องอวดครวญ…

ทหารต้าโจวใช้ร่างกายของตัวเองดันประตูเมืองให้เปิดกว้างมากขึ้นกว่าเดิม

ทหารกองทัพไป๋ที่ถูกแม่ทัพชราชุยซานจงจับเข้ามาในเมืองอวิ๋นจิงสวมเครื่องแบบทหารของซีเหลียง พวกเขาผูกผ้าสีขาวไว้ที่แขนจะได้แยกแยะได้ว่าพวกเขาไม่ใช่ทหารซีเหลียง พวกเขาหมุนแกนวงล้อประตูเมืองให้เปิดอย่างรวดเร็วโดยไม่สนทหารซีเหลียงที่พุ่งเข้าไปยับยั้งพวกเขา เมื่อคนหนึ่งล้มลงอีกคนรีบเข้าไปแทนที่ทันที สุดท้ายพวกเขาเสียชีวิตด้วยคมดาบหรือลูกธนูของศัตรู…

ไป๋จิ่นซิ่วสังเกตเห็นเหตุการณ์นี้แล้ว นางกระตุกบังเหียนม้า ม้าศึกชูขาสองข้างขึ้นกลางอากาศ จากนั้นมุ่งหน้าไปยังห้องควบคุมประตูทันที

พลทหารม้าติดตามไป๋จิ่นซิ่วไปติดๆ พวกเขาพุ่งเข้าสังหารทหารซีเหลียงบริเวณเครื่องควบคุมประตูเพื่อปกป้องสหายของตัวเองและให้พวกเขาทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปอย่างราบรื่น

“ไป๋จิ่นเจา! พาทหารบุกขึ้นไปบนกำแพงเมือง ยึดกำแพงเมืองสูงมาให้ได้ ให้ทหารกองทัพไป๋ปักธงเฮยฟานไป๋หมั่งลงบนกำแพงเมือง สร้างขวัญและกำลังใจให้ทหารของพวกเรา!”

ไป๋จิ่นจื้อตะโกนสั่งเสียงดังพลางชี้หอกยาวไปทางกำแพงเมืองด้วยแววตาเยือกเย็น

“ไป๋จิ่นเจารับบัญชาเจ้าค่ะ!”

ไป๋จิ่นเจาร้อนใจมานานแล้ว นางรีบพาทหารบุกขึ้นไปบนกำแพงเมืองอย่างกล้าหาญทันที

ประตูเมืองถูกเปิดกว้างขึ้นเรื่อยๆ ทหารต้าโจวบุกเข้าด้านในมากขึ้นเรื่อยๆ ทหารบางส่วนโจมตีอยู่ที่นอกเมือง ทหารบนกำแพงเมืองต้องป้องกันทั้งการลอบโจมตีทหารต้าโจวของไป๋จิ่นเจาและต้องป้องกันกองทัพใหญ่ของต้าโจว พวกเขารับมืออย่างยากลำบากทั้งสองทาง

ทหารซีเหลียงถูกแบ่งไปช่วยดับไฟและกระจายตัวไปยังประตูเมืองทั้งสี่ทิศ ต้าเยี่ยนและต้าโจวบุกโจมตีโดยที่พวกเขาไม่ทันตั้งตัว ที่สำคัญในเมืองมีสายลับของพวกเขาแฝงตัวอยู่นี่คือเหตุผลที่กองทัพซีเหลียงไม่สามารถรวมพลเป็นกองทัพที่แข็งแกร่งเพื่อต่อต้านศัตรูได้ในเวลาอันสั้น

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท