ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน – บทที่ 85 คนหนึ่งดื้อรั้น อีกคนก็บ้าพอกัน

ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน

บทที่ 85 คนหนึ่งดื้อรั้น อีกคนก็บ้าพอกัน

บทที่ 85 คนหนึ่งดื้อรั้น อีกคนก็บ้าพอกัน

ไม่นานหลังจากที่หลิงเยว่และโม่จวินเจ๋อกลับมา ฉีซิวซีก็เข้ามาในห้องด้วยสีหน้าเฉยเมยเหมือนเมื่อครู่นี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ราวกับว่าผ่านทัณฑ์สวรรค์มันง่ายพอ ๆ กับการปลดทุกข์อย่างไรอย่างนั้น

หลิงเยว่ตกตะลึงกับสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้ามาก ผู้บำเพ็ญเป็นเช่นนี้กันหมดเลยใช่หรือไม่?

นางไม่เชื่อ!

อย่างน้อยนางก็คงไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เช่นนี้อย่างแน่นอน มันคือการถูกฟ้าผ่าเชียวนะ…

“ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านช่วยส่งข้าไปหาอาจารย์หน่อยได้หรือไม่เจ้าคะ” หลิงเยว่แบ่งอาหารใส่กล่องให้ชิงยวนเรียบร้อย พร้อมคว้าหลงหว่านโหรวที่ยังคงกินอยู่

“วางเอาไว้ก่อนเถิด ข้าจะไปส่งให้เจ้าทีหลัง”

หลงหว่านโหรวทนไม่ไหวที่จะทิ้งหมูดำดินย่างไว้ ด้วยรู้ดีว่าหากจากไปตอนนี้ เมื่อกลับมาคนในห้องก็คงจะกินมันจนเกลี้ยงแล้วเป็นแน่

“ไม่นะเจ้าคะ ข้ามีเรื่องจะถามท่านอาจารย์!” หลิงเยว่ตะโกนแล้วลากศิษย์พี่ใหญ่ของนางออกไปทันที

เมื่อทั้งสองจากไป ผู้ที่กำลังกินเนื้อคนอื่น ๆ ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าหลิงเยว่ต้องการขอให้ชิงยวนทำอะไร

หลงหว่านโหรวเองก็ดูแปลก ๆ เมื่อนางกลับมา ส่วนหลิงเยว่ที่ตามหลังมานั้น กำลังยิ้มราวกับคนเสียสติ

ไม่ว่าใครจะถามอะไรไป ก็ไม่ได้รับคำตอบเลยจนกระทั่ง…

“ศิษย์น้องห้า… นี่คือสิ่งที่เจ้าขออาจารย์หรือ?”

ติงหลิวหลิ่วติดตามหลิงเยว่พลางดูนางมอบหมายงานให้กับศิษย์ของยอดเขาโอสถคนอื่น ๆ

สิ่งที่หลิงเยว่ได้มอบหมายให้กับศิษย์ของยอดเขาคนอื่น ๆ เป็นการทำความสะอาดและแปรรูปสมุนไพรวิญญาณ สกัดแก่นแท้ของสมุนไพรวิญญาณแล้วบดเป็นเครื่องเทศ ชำแหละเนื้อสัตว์อสูร การหมักและการย่าง…

แน่นอนว่านี่เป็นการสั่งงานคนเพียงส่วนเล็ก ๆ ของยอดเขา ทว่านางยังแบ่งงานให้กับคนในส่วนอื่นของภูเขา รวมถึงที่ด้านล่างอีกด้วย

“ใช่แล้วเจ้าค่ะ!”

หลิงเยว่ยิ้มอย่างมีความสุข นางจะเตรียมอาหารทั้งหมดที่ต้องใช้ในงานเลี้ยงรับศิษย์ด้วยตัวเองคนเดียวได้อย่างไร?

แน่นอนว่าสิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในงานเลี้ยงตามปกติที่จัดขึ้นในโลกบำเพ็ญเซียนมักจะมีแค่การเลี้ยงด้วยผลไม้วิญญาณและชาวิญญาณเท่านั้น ส่วนอาหารนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยนำมาอยู่ในงานเลี้ยงอยู่แล้ว เพราะท้ายที่สุด ผู้บำเพ็ญส่วนใหญ่จะไม่กินมัน

เพื่อที่จะทำภารกิจให้สำเร็จ และส่งเสริมชื่อเสียงของอาหารวิญญาณแบบพิเศษ หลิงเยว่จึงขอความช่วยเหลือจากชิงยวนอย่างไร้ยางอาย ในตอนแรกนางเพียงต้องการขอศิษย์ที่เป็นนักกลั่นโอสถร้อยคนมาช่วยงาน

แต่ใครจะคิดว่าหลังจากที่ชิงยวนกินหมูดำดินย่างได้เพียงไม่กี่อึดใจ ก็พลันโบกมือออกคำสั่งให้นักกลั่นโอสถทั้งหมดของยอดเขาโอสถหลักไปช่วยเหลือหลิงเยว่

ในงานเลี้ยงรับศิษย์นี้จะมีสำนักต่าง ๆ มากมายมาเยือน ฉะนั้นเพียงนักกลั่นโอสถหนึ่งร้อยคนจะพอได้อย่างไร?

“ท่านอาจารย์เห็นด้วยจริง ๆ” ว่านอวี้เฟิงจิบชาสมุนไพรเพื่อสงบสติอารมณ์

นี่คือสิ่งที่นักกลั่นโอสถคนอื่นไม่คาดคิด พวกเขาหมกมุ่นอยู่กับการหลอมโอสถเพียงอย่างเดียว แต่ทันใดนั้น พวกเขาก็ได้รับแจ้งจากผู้นำยอดเขาว่าทุกคนที่เป็นคนของยอดเขาหลักทั้งหมด จะต้องอยู่ภายใต้คำสั่งของหลิงเยว่!

พวกที่ต่อต้าน พวกที่แสร้งทำเป็นตาย และพวกที่พยายามจะหลบหนี ทั้งหมดจะถูกกลุ่มผู้อาวุโสจับกลับมาทำงาน นั่นไม่สมเหตุสมผลเลย!

ผู้นำยอดเขาส่ง ‘ผู้บำเพ็ญมาร’ ตัวน้อยนี้มาสั่งพวกเขาได้อย่างไร! นางจะไปรู้อะไร ขนาดการหลอมโอสถนางยังทำไม่เป็นเสียด้วยซ้ำ!

อาหารวิญญาณแบบพิเศษนี่มันมีอะไรดีนักหนา?

มันจะดีเท่าโอสถของพวกเขาได้อย่างไร?!

นักกลั่นโอสถสาปแช่งในใจ พลางหยิบสมุนไพรวิญญาณที่เพิ่งทอดขึ้นมากัด โอ้! มันอร่อย…

“ลองหญ้าวิญญาณทองที่ข้าเพิ่งทอดดูเถิด…”

กรอบ! กรอบ!

“อืม… อร่อยมาก”

“นี่! ข้ามีชานมสมุนไพรวิญญาณ ขอแลกของทอดของเจ้าหน่อยสิ”

ชายจากหอกลั่นโอสถข้าง ๆ ที่กำลังอยากกินของทอด พลันเดินเข้ามาพร้อมกับชานมสมุนไพรวิญญาณหม้อใหญ่

“ข้ามีขนมอบสมุนไพรวิญญาณ ขอแลกกับพวกเจ้าด้วย”

นักกลั่นโอสถที่ได้รับมอบหมายทำอาหารต่าง ๆ นำผลงานที่พวกเขาทำออกมาแลกกัน

ขณะนี้ยอดเขาโอสถหลักทั้งหมดไม่เพียงแต่เต็มไปด้วยกลิ่นหอม ทว่ายังมีชีวิตชีวาและคึกคัก ซึ่งตรงกันข้ามกับก่อนหน้านี้ที่เงียบมากเสียจนดูราวกับว่าไม่มีคนอาศัยอยู่

“ข้าไม่คิดเลยว่าวัตถุดิบการทำโอสถจะสามารถผสมผสานร่วมกับอาหารได้ดีเช่นนี้”

ผู้อาวุโสใหญ่นั่งอยู่บนยอดเขา บนโต๊ะเต็มไปด้วยของว่างชั้นเลิศทุกชนิด มีทั้งสมุนไพรวิญญาณทอดกรอบ เนื้อย่างหลายแบบและชานมสมุนไพรวิญญาณหลากรสชาติ เขาจิบชานมแล้วตามด้วยขนม… ช่างมีความสุขเสียจริง!

“ใช่แล้ว ตัวข้าคงไม่สามารถคิดวิธีการเอาสูตรโอสถมารวมกับอาหารได้เช่นนี้ ต่อให้จะครุ่นคิดอย่างหนักก็ตาม”

“ข้าต้องไปลองดูบ้างแล้ว ไม่แน่มันอาจทำให้ข้าเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับการกลั่นโอสถ และอาจได้รับผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดก็ได้”

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกไป พวกผู้อาวุโสที่ยังคงจิบชานมและของว่างต่างรู้สึกตื่นเต้น ในไม่ช้าก็เหลือผู้อาวุโสเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังนั่งอยู่บนยอดเขา

แน่นอนว่ายังมีคนหัวแข็งบางคนที่คิดว่านี่เป็นการดูหมิ่นสูตรยา บางคนที่เห็นด้วยก็เพียงนั่งเงียบ ๆ ไม่ได้แสดงอาการอะไร แต่บางคนที่หัวแข็งมากถึงกับต้องไปหาชิงยวนด้วยกัน เพื่อขอให้ชิงยวนกำจัดหลิงเยว่ ซึ่งพวกเขามองว่าเด็กสาวเป็นคนนอกรีตของเหล่านักกลั่นโอสถ

“พวกเจ้ามากันแล้วหรือ ถ้าอย่างนั้นมาช่วยข้าหน่อยเถิด”

ชิงยวนทักทายผู้อาวุโสที่เข้ามาพบนางอย่างอบอุ่น

ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่และสวยงามถูกเปลี่ยนให้เป็นห้องครัว บนโต๊ะมีแป้งหลายชนิด และมีขนมดอกบัวที่ล้มเหลวมากมายลอยอยู่ในกระทะน้ำมัน

หลงหว่านโหรวง่วนอยู่กับการนวดแป้ง เมื่อนางเห็นพวกผู้อาวุโสที่กำลังตกตะลึงก็พยักหน้าให้เล็กน้อย ก่อนกลับไปนวดแป้งต่อ

นางไม่เข้าใจว่าเหตุใดอาจารย์ถึงเลือกขนมที่ทำยากเช่นนี้ในการเริ่มต้นเรียนรู้ ไม่ใช่ว่าขนมอบดอกหอมหมื่นลี้เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นมากกว่าหรือ?

ยิ่งไปกว่านั้นคือศิษย์น้องห้าได้เขียนสูตรขนมที่เรียบง่ายและเรียนรู้ได้ไม่ยาก ทั้งยังสามารถทำออกมาก็ดูดีไม่น่าเกลียดอยู่หลายสูตรให้กับอาจารย์ แต่เหตุใดอาจารย์ถึงจะเอาแต่ทำขนมดอกบัวเช่นนี้เล่า?

ดื้อพอ ๆ กับศิษย์น้องรองเลย!

คนหนึ่งดื้อเรื่องขนมดอกบัว และอีกคนเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับเกี๊ยวทุกวัน!

ความขุ่นเคืองของหลงหว่านโหรวรุนแรงขึ้น พวกผู้อาวุโสที่ไม่เห็นด้วยกับการทำอาหารวิญญาณก็เริ่มไม่พอใจเช่นเดียวกัน เหตุใดพวกเขาต้องได้รับมอบหมายให้ทำงานตามเส้นทางของพวกนอกรีตด้วย?

ไม่ พวกเขาจะไม่ทำ!

“เพียงทำตามสูตร ใครก็ตามที่ทำสำเร็จเป็นคนแรกจะได้รับรางวัลเป็นสมุนไพรวิญญาณระดับสูง!”

ชิงยวนแจกสูตรให้พวกผู้อาวุโสที่กำลังตกตะลึงแล้วชี้ไปที่โต๊ะกลมข้าง ๆ

โต๊ะกลมสีขาวลายครามเต็มไปด้วยขนมนานาชนิด แน่นอนว่าตรงกลางจุดที่โดดเด่นมากที่สุดมีขนมดอกบัวหลากสีสันวางอยู่ แต่ละกลีบมีสีต่างกัน โดยสีจะไล่จากสีอ่อนเป็นสีเข้ม นอกจากนี้ยังมีขนมอีกหลายแบบนับจำนวนได้มากกว่าหนึ่งโหลอยู่ด้วย ซึ่งทุกแบบทำจากสมุนไพรวิญญาณทั้งสิ้น

เกือบทุกอย่างจะถูกปั้นเป็นรูปดอกไม้มีสีสันสดใส มีหนึ่งในบรรดาขนมที่เรียงรายอยู่นั้นคือขนมชนิดเดียวที่ทำเป็นรูปใบไม้ โดยชั้นของใบไม้แต่ละใบมีสีต่างกัน ทั้งยังล้อมรอบไปด้วยขนมดอกไม้ที่ถูกจัดวาง มันดูสบายตาและส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่ว

ความหวานแผ่กระจายไปในอากาศ ทำให้จิตใจของผู้คนแช่มชื่นขึ้น

ชิงยวนเห็นพวกผู้อาวุโสจ้องมองไปที่โต๊ะขนม ทันใดนั้นรอยยิ้มบนใบหน้าของนางก็ลึกซึ้งขึ้น “พวกเจ้าลิ้มรสได้ แต่อย่ากินมากจนเกินไป”

“ท่านผู้นำยอดเขา จุดประสงค์การมาของเรา…”

“ข้ารู้ พวกเจ้ากลัวใช่หรือไม่ว่าอาหารวิญญาณแบบพิเศษจะมาแทนที่โอสถ พวกเจ้าสามารถมั่นใจได้ในจุดนี้ ไม่มีข้อขัดแย้งระหว่างทั้งสองอย่าง ในทางกลับกัน แต่ละอย่างก็มีข้อดีของตัวเอง พวกเจ้าจะรู้หลังจากได้ลองแล้ว”

ชิงยวนพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบ จนทำให้พวกผู้อาวุโสคลายโทสะลงบ้าง นางหยิบขนมชั้นสมุนไพรวิญญาณหลากสีขึ้นมาหนึ่งจานแล้วยื่นให้พวกเขา

ผู้อาวุโสที่ยืนอยู่แถวหน้าลังเลเล็กน้อย ก่อนจะหยิบขึ้นมาชิ้นหนึ่ง เขากัดแล้วเคี้ยวมันอย่างช้า ๆ จากนั้นตาก็พลันเบิกกว้างทันที “นี่คือ… นี่คือ…”

ผู้อาวุโสพูด ‘นี่คือ’ อยู่นานโดยไม่มีคำอื่น เดาได้ว่าเขาคงประหลาดใจ

ขนมชั้นนี้มีทั้งหมดสิบแปดชั้น โดยแต่ละชั้นแบ่งเป็นสิบแปดสี และแต่ละสีสอดคล้องกับสมุนไพรวิญญาณ ทั้งหมดล้วนเป็นพวกสมุนไพรวิญญาณที่จำเป็นสำหรับสูตรโอสถห้ามเลือด!

มีรสชาติหอมหวาน นุ่มเหนียวยืดหยุ่น ถึงแม้ว่าฤทธิ์ทางยาจะไม่รุนแรง แต่ก็ให้ผลเหมือนโอสถระดับสองถึงสาม มันแปลกจริง ๆ!

สมุนไพรวิญญาณที่ใช้เป็นพวกระดับต่ำสุด แต่มันกลับก่อให้เกิดผลการรักษาได้หลังจากเอามาทำเป็นขนมในลักษณะนี้หรือ

“ข้าขอบอกพวกเจ้าอีกอย่าง จำนวนการใช้สมุนไพรวิญญาณในการเอามาทำขนมนี้ น้อยกว่าที่พวกเจ้าต้องสูญเสียในการเอามาทำโอสถแบบปกตินัก!”

ทันทีที่ชิงยวนพูดคำเหล่านี้ ผู้อาวุโสที่กำลังชิมขนมชั้นก็แทบสำลัก

พวกเขาไม่เชื่อหรอก!

ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน

ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน

Status: Ongoing
‘หลิงเยว่’ ผู้ฝึกตนสำนักฝ่ายนอกแสนอ่อนหัด ทั้งยังถูกกลั่นแกล้งจากศิษย์ร่วมสำนัก ทว่ายังโชคดีได้ระบบนี้มาช่วยชีวิต มอบหมายภารกิจให้นางสามารถแข็งแกร่งขึ้นโดยใช้ทักษะการทำอาหารให้เกิดประโยชน์ แม้เส้นทางการเป็นยอดเซียนจะหริบหรี่ ทว่าโชคชะตาของยอดแม่ครัวได้เปิดทางให้ ‘หลิงเยว่’ ได้พบหนทางที่จะช่วยให้ตนรอดจากวิกฤติในครั้งนี้ไปได้‘ลิขิตฟ้าหรือจะสู้ตะหลิว เอ้ย! มานะตน หากนางไม่ยอมแพ้ ย่อมต้องมีหนทางสดใสรออยู่ข้างหน้าแน่’

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท