Gate of God – ตอนที่ 475-476

ตอนที่ 475-476

ตอนที่ 475 ชีวิตบัดซบ
ค่ำคืนกลับสู่ความเงียบสงบอีกครั้งเสียงกรีดร้องของการสังหารได้หายหมดไป
มีเพียงแสงสีทองบนท้องฟ้าเท่านั้นแสงของเขาปิดกั้นแสงของดวงดาวและดาวจันทร์จนหมดสิ้น
ในขณะนั้นเองทุกคนต่างมองดูเสาแสงสีทองผู้คนเกิดความรู้สึกตกใจ ยินดี หวาดกลัว และเศ้ราโศก
และแน่นอนอีกหนึ่งอารมณ์
นั่นก็คือ…
”ชีวิตข้ามันบัดซบ!”่
นี่เป็นโชคร้ายอย่างมากแต่ ฟาง เจิ้งจือ ไม่มีคำพูดไหนจะอธิบายอารมณ์ของเขาออกมาได้
สิ่งที่เขาเห็นคืออะไร?
เชี่ยนั่นมันคืออะไร?
นี่เป็นโลกที่แปลกประหลาดและเขารู้ตั้งแต่ตอนที่เขาเคยเข้ามาแล้วมันเต็มไปด้วยสิ่งไม่คาดฝัน
อย่างไรก็ตามนี่มันต่างไปอย่างสิ้นเชิง!
ชายชราที่ใกล้ตายกลับมาเป็นวัยหนุ่มอีกครั้ง?นี่มันเรื่องเชี่ยอะไรกัน?
นกฟินิกซ์ที่เกิดใหม่จากเถ้าถ่านงั้นหรือ?หรือผีเสื้อที่แง้มปีกออกจากรังไหม?
ที่สำคัญยิ่งกว่า…
แสงสีทองตรงนั่นมันเชี่ยอะไรกัน?
มันเปลี่ยนแปลงทุกอย่างภายในพริบตา
ฟางเจิ้งจือ ไม่อยากจะเชื่อว่า คังหยาง สามารถเปลี่ยนแปลงกฎของโลกที่เขาควบคุมอยู่ได้
เขารู้สึก…
อัปยศเป็นอย่างมาก!
ฟางเจิ้งจือ โกรธแค้นเช่นกัน
หาได้ยากที่เขาจะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้เขายังจำได้ถึงตอนที่เขาถือดาบไร้ร่องรอยในโลกแห่งเซียน
เขารู้สึกผ่อนคลาย
ราวกับว่าเขายืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกที่สามารถควบคุมชีวิตของทุกคนได้เขาล้ม หยิง ชาน ที่อยู่ในระดับอภินิหารลงได้ภายในการโจมตีเพียงครั้งเดียว
ในตอนนี้เขาได้รู้สึกแบบนั้นเช่นกัน…
เขารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้ครอบครองกลืนกินโลกเขาคิดว่าเขาควบคุม …
แต่…
ความตื่นเต้นนั้นอยู่ได้ไม่นานนัก
ฟางเจิ้งจือ ตั้งใจจะสั่งสอนพวกปีศาจก่อนที่จะคุยเรื่องข้อตกลงกับ ฉาน หลิง
เขาต้องการยืนยันวันเวลาในการส่งมอบอัญมณีเหล่านั้น

เขารู้สึกว่าเขาได้เปรียบมาก
อนาคตของเขาสดใสมาก
อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะได้ยืนยันเรื่องข้อตกลงคังหยางกลับทำลายมันจนหมดสิ้น
ยิ่งไปกว่านั้นเขารู้สึกเหมือนมองเห็นทุกอย่าง
ใช่แล้ว…
ตอนที่คังหยางพุ่งขึ้นไปบนสวรรค์ราวกับเขามองเห็นทุกอย่าง
เรื่องนี้ไม่สมเหตุสมผล
ตามปกติแล้วตำแหน่งของฟาง เจิ้งจือ ไม่ควรถูกเปิดเผยเพราะเขาเป็นผู้ควบคุมกลืนกินโลก
”ลงไป!”่

”ลงไปซะ!”่
เสียงของฟาง เจิ้งจือ ดังขึ้นบนท้องฟ้า แสงสีม่วงพุ่งลงมาใส่คังหยางที่กำลังทะยานร่างขึ้นไปด้านบน
”ตูม!”กระแสไฟฟ้าสีม่วงล้อมรอบแสงสีทองเอาไว้อย่างสมบูรณ์
อย่างไรก็ตามเสาแสงยังคงนิ่งเฉยมันแข็งแกร่งมาก
ตั้งตรงขึ้นไปสู่สวรรค์…
ทุกคนต่างมองดูด้วยความหวาดกลัว
เซียน!
นั่นคือระดับพลังที่ถูกเคารพจากทั้งมนุษย์และเหล่าปีศาจ
การเข้าถึงระดับเซียนหมายถึงความสามารถและพลังที่ไร้ขีดจำกัดนี่คือระดับพลังขั้นสูงสุดและแสดงให้เห็นถึงความสามารถของการฝึกฝนทุกอย่าง
สิ่งนี่ต่างเป็นความใฝ่ฝันของทั้งมนุษย์และปีศาจ
สำหรับประโยชน์ของการเป็นเซียนนั้น…
เซียนนั้นอยู่ในระดับเดียวกับจักรพรรดิแม้แต่องค์จักรพรรดิที่มีทหารนับล้าน หรือเจ้าปีศาจก็ยังต้องเคารพเซียน
1ศาลา4เซียน 13กองตรวจการศักดิ์สิทธิ์
นั่นเป็นคำพูดที่ได้ยินทัวไปในอาณาจักรเซี่ย
ศาลามาจากศาลาเต๋าสวรรค์ที่ควบคุมการสรรค์สร้างและทำตามประสงค์ของสวรรค์ 4 เซียน คือผู้ที่มีพลังอำนาจมากที่สุดในโลก
พวกเขาอยู่ในระดับเดียวกันกับจักรพรรดิผู้นำของ 13 กองตรวจการ
นี่เป็นสิ่งพิสูจน์จุดยืนของเขา
ตอนนี้แสงสีทองที่พุ่งขึ้นมามันมีชื่อว่า
แสงแห่งเซียน!
ไม่มีใครรู้ว่าทำไมคังหยางพัฒนาไปได้อย่างกระทันหัน
แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอน
เมื่อหน้าผากของเขาส่องแสงขึ้นมาเขาได้กลายเป็นเซียนไปแล้ว
”ท่านพ่อฟาง เจิ้งจือ… ” ซิง ฉิงซุย กำมือแน่นด้วยความกังวลขณะที่มองดูคังหยางท่ามกลางแสงแห่งเซียน
”เห้อมันคงเป็นความประสงค์ของสวรรค์ …” ซิง หยวนกัว ถอนหายใจออกมาเมื่อเขามองดู
คังหยาง
สู้กับเซียน?
ไม่อย่างแน่นอน
เขาทำได้เพียงแต่รอและกัดฟันรอต่อไป!
”ประสงค์ของสวรรค์…” ฉาน หลิง พึมพำกับตัวเองเขาไม่สามารถยอมรับความจริงนี้ได้

ฟางเจิ้งจือ รู้สึกไม่ค่อยดีเมื่อเห็นคังหยางพุ่งขึ้นมา เขาไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น …
เขารู้อยู่เรื่องหนึ่ง…
ความสามารถของคังหยางเพิ่มขึ้น
”ไม่มีทาง!เขาเลือกที่จะจบชีวิตตัวเองอย่างนั้นหรือ?”ฟาง เจิ้งจือ ถอนหายใจ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้เห็น
หยิงชาน ก็เลือกที่จะจบชีวิตตัวเองเพื่อพลังที่เพิ่มขึ้น
ความสามารถของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต
ที่ทางเข้าถิ่นฐานวานรน้ำแข็งเขาพบกับปีศาจตนหนึ่งที่ใช้พลังดวงตาปีศาจ
แต่เขาไม่คิดเลยว่าคังหยางจะใช้วิธีนี้
อย่างที่พูด
เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ…
ฟางเจิ้งจือ มองไปที่คังหยางและสัญลักษณ์ที่ซับซ้อนบนหน้าผาก…
คังหยางไม่ได้ดูเหมือนกำลังจะตายเลยแม้แต่น้อย!
ฟางเจิ้งจือ ไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับการดึงพลังจากดวงตาปีศาจออกมาเท่าไรนัก ระดับพลังปัจจุบันของคังหยาง ไม่เหมือนกับการทำลายตัวเองที่เขาเคยเจอมาก่อนเลย
พลังของปีศาจถูกรวมอยู่ในดวงตาปีศาจของพวกเขานั่นคือแหล่งที่พวกเขาจะดึงพลังออกมา
ตอนที่พวกเขาเข้าสู่การทำลายตัวเอง…
พวกเขาจะดึงพลังออกมาจากดวงปีศาจ
จะไม่มีพลังงานเหลือในดวงตาปีศาจมันจะเปลี่ยนเป็นสีเทา …
แต่…
สิ่งที่เกิดขึ้นกับคังหยางดูแตกต่างออกไป
คังหยางแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อพลังของเขาถูกรวมเอาไว้ในสัญลักษณ์บนหน้าผากฟาง เจิ้งจือ รู้สึกถึงพลังที่แผ่กระจายออกมาจากสัญลักษณ์
”เขาไม่ได้ทำลายตัวเองงั้นหรือ?”ฟางเจิ้งจือ สับสนเล็กน้อย
ถ้าคังหยางเลือกที่จะจบชีวิตตัวเองก็พอจะเข้าใจได้อยู่แต่ถ้าเขาไม่ได้ทำ แล้วคังหยางกลายเป็นผู้ที่ทรงพลังแบบนั้นได้ยังไงกัน?
กลืนกินโลกเป็นเหมือนมิติที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง
มันเป็นสถานที่ที่มีกฎในตัวเอง
ฟางเจิ้งจือ รู้สึกว่า …
ตอนที่คังหยางถูกดูดกลืนเข้ามาในกลืนกินโลกฟาง เจิ้งจือ รู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามหลังจากที่สัญลักษณ์บนหน้าผากเขาเปลี่ยนไป …
ฟางเจิ้งจือ รู้สึกเหมือนกับว่าคังหยางไม่อยู่ในกฎของกลืนกินโลกอีกต่อไป
ไม่ใชเรื่องที่ดีเลย
หมายความว่าคังหยางสามารถลบตัวเองออกจากกลืนกินโลกได้ทุกเมื่อ
ถ้าเขาไม่ได้ทำลายตัวเอง…
และแข็งแกร่งขึ้น…
นั่นอาจหมายถึง…
การเข้าถึง!
”โอ้… มันเป็นการเข้าถึงพลัง … ” ฟาง เจิ้งจือ ถอนหายใจอย่างโล่งอก และตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เดี๋ยวก่อน
คังหยางเป็นครึ่งเซียน…
ครึ่งเซียนจะเข้าถึงพลัง…
อะไรกัน?
”เขากลายเป็นเซียนงั้นเหรอ?”สีหน้าของฟาง เจิ้งจือ เปลี่ยนไปทันที
สิงที่เขาอยากจะตะโกนออกมาในตอนนี้คือ…
ชีวิตข้าช่างบัดซบเหลือเกิน!

คังหยางยังพุ่งขึ้นมาด้านบนเรื่อยๆ
ในขณะเดียวกันพื้นดินก็เริ่มสั่นคลอนมีรอยแตกขยายออกไปทั่วทุกทิศทาง
เมื่อพื้นแตกออกหินยักษ์ก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า
พวกมันลอยขึ้นไปด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ
หินเริ่มรวมตัวกันณ จุดเดียวราวกับว่ามีภูเขาขนาดใหญ่ขวางกั้นคังหยาง
”ตูม!่
ราวกับดาบได้ตัดผ่านคังหยางพุ่งผ่านหินเหล่านั้นไปเรื่อยๆ
แสงสีทองเปล่งประกายไปทั่ว
หินไม่ได้แตกเป็นเสี่ยงๆพวกมันสลายไปราวกับร่างเงาสีดำก่อนหน้านี้มันมันสลายหายไป
ทุกคนบนพื้นกำลังเฝ้าดูเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น
พวกเขาตกใจแต่พวกเขาคิดไว้อยู่แล้ว นี่เป็นพลังของเซียน ไม่มีอะไรมาขวางทางเซียนได้
ภูเขาหายไปและค่ำคืนยังคงเงียบสงบ
ในที่สุดคังหยางก็หยุดกลางอากาศเขามองไปรอบๆ หน้าผากของเขายังคงส่องสว่าง
”แตกสลาย!”เขาพูดเบาๆ
ทันทีที่เขาพูดรอยแตกขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้นข้างหน้าเขา
มันเป็นรอยแตกสีดำ…
ราวกับว่าพื้นที่นั้นกำลังแตกสลาย
รอยแตกที่ไม่คาดคิดเมื่อใดก็ตามที่มีบางสิ่งที่รวดเร็วมากหรือทรงพลังมากๆ รอยแตกนี้จะก่อตัวขึ้น
อย่างไรก็ตาม…
ผู้ทึ่จะทำได้ต้องมีพลังเป็นอย่างมากด้วย
ความสามารถที่จะสร้างรอยแตกได้ด้วยคำพูดนั้นหาได้ยากมากยิ่งไปกว่านั้นหลังจากที่รอยแตกปรากฎขึ้น มันไม่มีทีท่าจะหายไปแม้แต่น้อย
แต่มันกลับแผ่ขยายไปอย่างต่อเนื่อง
หากท้องฟ้าเปรียบดั่งแผ่นแก้ว…
แผ่นแก้วนี้เพิ่งถูกหินทุบอย่างจัง
ท้องฟ้ามืดครึ้ม…
รอยแตกร้าวแผ่ขยายออกไปเรื่อยๆกลืนกินดวงดาวบนท้องฟ้า
จากนั้นมันก็เริ่มกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ที่สามารถกลืนกินท้องฟ้าได้

ฟางเจิ้งจือ อยากจะโยนกลืนกินโลกในมือให้ ปิง หยาง แล้วพูดว่า “ข้าให้เจ้า ขอตัวล่ะ!”
พูดตรงๆ
เมื่อกลืนกินโลกถูกเปิดใช้งาน!
เขาสงสัยว่าคังหยางมีความลับอื่นอีกหรือไม่…
เขาคิดว่าคังหยางอาจมีสมบัติที่ทรงพลังหรือคังหยางอาจดึงพลังจากดวงตาปีศาจ
แต่เขาไม่คิดเลยว่าคังหยางจะเข้าถึงพลังใหม่
เขาต้องมีพลังอีกมากขนาดไหน?
ครึ่งเซียนก็ทรงพลังมากพอแล้ว!
แต่นี่กลับเป็นเซียน!
เซียน!
ฟางเจิ้งจือ กำลังจะจบสิ้น
เขาไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรอีกแล้วถ้าเป็นไปได้เขาอยากจะมอบกลืนกินโลกให้กับคนอื่น
แต่มันก็สายเกินไป
เขารู้ว่ามันสายเกินไปก็ตอนที่รอยแตกปรากฏขึ้น
ท้องฟ้าแตกสลาย
โลกก็แตกเป็นเสี่ยงๆ ผงฝุ่นและก้อนหินมากมายกระจายทั่วท้องฟ้า
นี่คือความพินาศ…
ทุกสิ่งถูกทำลาย
ฟางเจิ้งจือ รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก นอกจากนี้เขายังรู้อีกด้วยว่าถ้ากลืนกินโลกถูกทำลาย เขาต้องตายแน่
เขาควรทำอะไรดี?
เขาทำอะไรได้บ้าง?
เขาปล่อยให้กลืนกินโลกพังไม่ได้
โอ้ใช่…
กลืนกินโลกสามารถกลืนกินได้…
ใช่แล้ว… เขาสามารถเชื่อมโยงมิติพิเศาของเขาเข้ากับมันได้!
”เชื่อมมิติพิเศษของเขา!”
”มิติพิเศษ…”
ฟางเจิ้งจือ พูดซ้ำๆกับตัวเอง จากนั้นแววตาของเขาก็เริ่มเปล่งประกาย
”เชื่อมมิติพิเศษเข้ากับกลืนกินโลก!”
เสียงดังก้องทั่วท้องฟ้าทุกๆคนต่างได้ยินอย่างชัดเจน
พื้นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง…

ต้นไม้ใหญ่ปรากฏขึ้นมันเป็นต้นไม้ที่หนาและสูงมาก และเต็มไปด้วยใบไม้และดอกผลนับไม่ถ้วน
ตอนที่ 476 บ้า
คำเดียวที่จะพออธิบายลักษณะของต้นไม้นี้ได้คือ…
มันใหญ่มาก!
เมื่อต้นไม่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างกิ่งก้านมากมายแตกหน่อยืดออกไปสูงเสียดฟ้า
มันเต็มไปด้วยกิ่งไม้นับไม่ถ้วน…
ที่สำคัญคือบนตนไม้นั้นเต็มไปด้วยผลไม้ที่ส่องแสงออกมามากมาย
มีสีแดงสีเขียว สีฟ้า สีน้ำเงิน สีม่วง …
ลวดลายที่ซับซ้อนปรากฎอยู่บนเปลือกของผลไม้เหล่านี้
”ตูม!”
โลกถูกทำให้สั่นสะเทือนขณะที่ก้อนหินกระจายไปทั่วทุกทิศทาง
ทุกคนต่างจ้องมองไปที่ต้นไม้
”มันคืออะไรกัน?!”
”อาจจะเป็นไปได้ว่าฟาง เจิ้งจือ … ”
”มันจะต้องเป็น!นี่คือแหล่งพลังงานของมิติพิเศษของเขา!”
พวกเขามองต้นไม้ที่กำลังเติบโตด้วยความตกใจ…
ตอนที่พวกเขาอยู่นอกถิ่นฐานวานรน้ำแข็ง….
ฟางเจิ้งจือ บอกว่าเขามีเต๋านับร้อยในมิติพิเศษ พวกเขาทั้งหมดไม่เชื่อ …
แต่ตอนนี้…
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริงพวกเขาทำได้แค่หวาดกลัว

คังหยางยืนอยู่กลางอากาศ ชุดสีฟ้าของเขาพัดไปตามสายลม
รอยแตกรอบๆเขาเริ่มหายไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เขาขมวดคิ้ว…
ไม่มีใครรู้ว่าเพราะเขาเห็นต้นไม้ที่สูงใหญ่หรือรู้สึกได้ว่ารอยแตกได้หายไป อย่างไรก็ตามทุกคนสามารถสัมผัสได้ว่าคังหยางไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก
อย่างไรก็ตามในพริบตา…
ต้นไม้ก็ปรากฎตัวหน้าคังหยางราวกับพวกมันมีเป้าหมายที่เขา
”ขาด!”คังหยาง ตะโกน
ทันใดนั้นแสงสีทองก็ปรากฏขึ้นบนมือเขามันมีรูปร่างคล้ายจันทร์เสี้ยว ก่อนที่เขาจะเขวี้ยงมันใส่เถาวัลย์ที่พุ่งเข้ามา
”ตูม!”เถาวัลย์ขาดเป็นสองส่วน…
ก่อนที่จะตกลงไปที่พื้น
ไม่นานเถาวัลย์ก็ถ่งเข้ามาอีกครั้ง
”ขาดไปซะ!”เขาตะโกนอีกครั้ง
เถาวัลย์ขาด…
แต่เถาวัลย์อื่นก็พุ่งเข้ามาอีกครั้งอีกครั้งและอีกครั้ง…
แม้แต่กิ่งไม้และใบไม้ก็โจมตีใส่คังหยาง
กิ่งไม้และเถาวัลย์ราวกับเป็นแส้…
ใบไม้อันแหลมคมราวกับมีดที่พุ่งใส่คังหยางราวกับคังหยางยืนอยู่กลางสายฝนที่ตกหนัก
แสงสีทองตัดกับแสงสีเขียว
มันดูบ้าคลั่งมาก
”บ้าชัดๆ!ผู้ชายคนนี้บ้าไปแล้ว!”
ทุกคนจ้องมองการต่อสู้ที่เกิดขึ้นพวกเขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน
”ตูม!เสียงระเบิดดังก้องไปทั่วท้องฟ้า
แสงสีทองนับไม่ถ้วนกลายเป็นดาบพุ่งเข้าใส่ต้นไม้พวกมันตัดกิ้นก้าน เถาวัลย์ออกเป็นสองส่วน ใบไม้ร่วงหล่นกับพื้น
ซิงหยวนกัว มองไปที่ฉากตรงหน้า ท่าทีของเขาซับซ้อน ไม่รู้ว่าควรคิดยังไงกับสิ่งที่เกิดขึ้นดี
”ฟางเจิ้งจือ ฟาง เจิ้งจือ !เจ้าต้องการให้ข้าทำอะไรกันแน่?!” ซิง หยวนกัว กัดฟันแน่น
ฉานหลิง เองก็มองไปที่ต้นไม้แต่เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา อย่างไรก็ตามมือของเขากลับกำแน่น
หัวหน้าถิ่นฐานเองก็ต่างมองหน้ากัน
ดวงตาของหนาน กงเฮา เป็นประกาย เขากำดาบแน่นก่อนจะปล่อยมัน ก่อนจะจับไปที่ดาบอีกครั้ง….
ดูเหมือนว่าเขากำลังพบกับตัวเลือกที่ตัดสินใจได้ยากอยู่
ปิงหยาง จ้องมองการต่อสู้ด้วยดวงตาอันเป็นกังวล
”พี่เหยียนชายคนนั้นกำลังทำอะไร… ”
”เขาเชื่อมโยงมิติพิเศษเข้ากับกลืนกินโลกด้วยการทำแบบนี้เขาจะแข็งแกร่งขึ้นมาก ที่สำคัญที่สุดคือต้นไม้ต้นนั้น มันไม่ใช่สิ่งที่เกิดจากการสรรค์สร้าง!”ริมฝีปากของ ฉือ กูเหยียน สั่นเล็กน้อย นางเต็มไปด้วยความสับสน
”มีสิ่งที่ไม่ได้เกิดจากการสรรค์สร้างด้วยงั้นหรือ?”
”ใช่มันเกิดจากแหล่งพลังงานของ ฟาง เจิ้งจือ ต่อให้คังหยานเป็นเซียนก็ไม่สามารถควบคุมมันได้!”่
”นั่นหมายความว่าฟาง เจิ้งจือ จะชนะ?!”
”ไม่แต่นี่เป็นวิธีเดียวที่เขาจะสามารถสู้กับเซียนได้… แต่ … ”
”แต่อะไร?”
”เมื่อกลืนกินโลกพังทลายเขาจะ … ” ฉือ กูเหยียน กำหมัดแน่น นางไม่สามารถพูดต่อได้…
”เขาจะตาย!”เสียงของ หยุน ชิงวู ดังขึ้น
”ตาย?”ปิง หยาง เบิกตากว้างด้วยความตกใจ
หยุนชิงวู พยักหน้า นางมองไปบนท้องฟ้า ไม่มีใครรู้ว่านางมองไปที่คังหยางหรือต้นไม้
ฉือกูเหยียน ไม่พูดอะไรเช่นกัน
นางมองไปบนท้องฟ้าขณะที่มือของนางเคลื่อนไหวนางดูเหมือนกำลังจะหาบางอย่างจาก ปิง หยาง

การต่อสู้บนท้องฟ้ายังคงดำเนินต่อไป..
มันทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
แสงสีทองตัดต้นไม้และใบ
”เชี่ยเอ้ย!”ทันใดนั้นเสียงก็ดังก้องไปทั่ว
จากนั้นสายเลือดก็ไหลลงมาจากท้องฟ้ามันสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน
”บาดเจ็บ?่
”เขาไม่สามารถสู้กับคังหยางได้…”
ทุกคนมองดูสายเลือดที่เกิดขึ้น
ในฐานะมนุษย์…
พวกเขาหวังว่าฟาง เจิ้งจือ จะชนะ
อย่างไรก็ตาม…
พวกเขารู้ว่าต่อให้ฟาง เจิ้งจือ พยายามแค่ไหนก็ไม่สามารถเอาชนะเซียนได้อยู่ดี
คังหยางเป็นเซียน…
สิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก
ท้องฟ้าสีขาวและดาวเริ่มหายไปแสงสีแดงปรากฎขึ้นที่ขอบฟ้า
รุ่งอรุณกำลังมาถึง…
อย่างไรก็ตามมีเซียนยืนอยู่ท่ามกลางแสงแห่งวันใหม่
”ตูม!”
ทันใดนั้นเสียงระเบิดดังก้องไปทั่ว
ในเวลาเดียวกันคลื่นพลังอันรุนแรงก็เกิดขึ้น
มันเป็นพายุหมุน…
พายุขนาดมหึมาที่เต็มไปด้วยคมดาบสีเขียวพร้อมโจมตีใส่คังหยาง
”ตายซะ!”
เสียงตะโกนที่เต็มไปด้วยความโกรธ
มันเป็นเสียงของฟาง เจิ้งจือ
ไม่มีใครคิดว่าฟาง เจิ้งจือ โหดร้ายที่ทำแบบนี้
แม้แต่…
ปีศาจ…
พวกเขาก็ไม่สามารถว่าอะไรฟาง เจิ้งจือ ได้ เพราะถ้าพวกเขาอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน พวกเขาก็จะทำแบบนี้
แต่คังหยางสามารถป้องกันพายุได้กิ่งไม้ค่อยๆล่วงหล่น
คังหยางมองไปยังกิ่งไม้ที่ตกลงไปที่พื้นหัวใจของเขาเต็มไปด้วยความโกรธเช่นกัน
อย่างไรก็ตามเขาตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว
ท่าทีของเขาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น
ก่อนที่เขาจะเคลื่อนไหวเขาไปอยู่ด้านในต้นไม้ภายในชั่วพริบตา
”ตูม!”เสียงดังขึ้น
คังหยางถืออผลไม้สีแดงไว้ในมือ
”ตูม!”เสียงระเบิดดังขึ้น
เสาเพลิงพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าและเผาไหม้รอบๆไปในเวลาเดียวกัน
ขณะเดียวกันแขนของคังหยางสั่นเล็กน้อย แสงสีทองบนหน้าผากของเขาจางไปชั่วขณะ ก่อนจะกลับมาเป็นแบบเดิมอย่างรวดเร็ว
ด้านล่าง…
ทุกคนมองเสาเพลิงที่เกิดขึ้น
พวกเขามีท่าทีแตกต่างกันไปบางคนตกใจกลัว บางคนยินดี
ทุกคนรู้ว่าคังหยาง กำลังทำอะไรอยู่
และรู้ว่าทำไม
”ฟางเจิ้งจือ ข้าจะทำลายเจ้าซะ!” เสียงของคังหยาง ดังก้อง
หลังจากที่เขาพูดจบ…
ร่างกายของเขาก็กลายเป็นลำแสงก่อนจะปรากฎขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับผลไม้สองลูกในมือ
มือของคังหยางเคลื่อนไหว
เขาพยายามดึงผลไม้ออกมา
อย่างไรก็ตามไม่มีเสียงผลไม้ที่หลุดออกมาเพราะผลไม้ได้หายไปจากมือเขา
ท่าทีของคังหยางแข็งค้าง
คนอื่นๆที่เห็นก็ตกใจเช่นกันพวกเขารู้ว่าผลไม้คือเต๋า
พวกมันเติบโตบนต้นไม้
แล้วพวกมันจะเคลื่อนไหวเองได้ยังไง?
นั่นคือคำถาม
คังหยางก็สับสนเช่นกัน
อย่างไรก็ตามคำตอบถูกเฉลยออกมาในเวลาไม่นานมีใครบางคนอยู่ด้านหน้าคังหยาง
ชายคนนั้นยืนอยู่บนกิ่งไม้…
เขาสวมเสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน
แสงแดดส่องกระทบใบหน้าของเขา
”ฟางเจิ้งจือ!”
”เขาดึงผลไม้ของตัวเองออกมา!”
”เขาจะทำอะไรกัน?”
ไม่มีใครเข้าใจสิ่งที่ฟาง เจิ้งจือ ทำ
เขาพยายามจะทำอะไร?
ฟางเจิ้งจือ ไม่รู้ว่าใครคิดอะไรอยู่ ต่อให้รู้ก็ไม่คิดจะตอบคำถามเหล่านั้น เพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าผลลัพธ์ของสิ่งที่เขาทำจะเป็นยังไง
แต่นั่นเป็นการตัดสินใจของเขา
”ข้าจะกินมัน!”ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่คังหยาง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและบ้าคลั่ง
เขาอ้าปาก…
จากนั้นก็เอาผลไม้เข้าปากและกลืนลงไปท่ามกลางสายตาอันตกใจของผู้คน
ทันใดนั้น…
ทั้งโลกเงียบสนิท
ทุกคนมองไปยังฟาง เจิ้งจือ ที่กำลังเคี้ยวผลไม้ พวกเขาไม่เชื่อสายตาตัวเอง
แต่นั่นไม่สำคัญ
ที่สำคัญกว่า…
ฟางเจิ้งจือ พึ่งกินผลไม้แห่งเต๋าไป?!
ไม่มีใครเคยทำแบบนี้มาก่อน
การที่จะทำแบบนี้นั้นหมายความว่าคนคนนั้นสิ้นหวังแล้ว
พวกเขาต้องเชื่อมโยงมิติพิเศษเข้ากับกลืนกินโลกจากนั้นก็ต้องอาศัยความบ้าในการทำแบบนี้
ไม่มีใครเคยทำมาก่อน
บ้าไปแล้ว…
แต่
เขาต้องการทำอะไร?
ไม่มีใครรู้หรือ ฟาง เจิ้งจือ จะเสียสติไปแล้ว
จากนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นเป็นเสียงที่ค่อนข้างพอใจ
”โอ้?มันค่อนข้างอร่อยอยู่นะ”
เพจหลัก: Gate of god TH

Gate of God

Gate of God

เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads แทงบอลออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน