Gate of God – ตอนที่ 765 ความช่วยเหลือ

ตอนที่ 765 ความช่วยเหลือ

   ฟางเจิ้งจือ เจ้าเด็กเลว ข้าอุส่ารีบมา ข้ายังไม่ได้กินอะไรเลย บ้าจริง ทั้งสามสำนักมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? …ศาลาเต๋าสวรรค์ เก้าขึุนเขา และศาลาหยินหยาน ข้าจะรอดไปได้ยังไง?

  เมื่อเซียนสวรรค์พักพิงปรากฎตัวขึ้นเขามองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ในทันที เห็นได้ชัดว่าเขาไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

   ทำไมท่านถึงมาอยู่ที่นี่? ปากของฟาง เจิ้งจือ กระตุกอีกครั้ง

   …ข้ามาเพื่อดูเรื่องสนุก นอกจากนี้ ถ้าข้าช่วยเจ้า เจ้าจะให้อะไรข้า? ข้าเดิมพันอนาคตของนิกายเงากับเรื่องนี้ เจ้าก็รู้ ถ้าข้าช่วยเจ้าตอนนี้เท่ากับข้าเป็นปฏิปักษ์ต่อศาลาเต๋าสวรรค์ รวมไปถึงเก้าขุนเขาและศาลาหยินหยานพูดถูกไหม? นิกายเงาเป็นสำนักเล็กๆ เทียบไม่ได้กับสำนักทั้งห้าของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เจ้าควรจะรู้ไว้ นอกจากนี้ ข้าต้องสู้กับพวกเขา! ใบหน้าของเซียนสวรรค์พักพิงเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

   อาจารย์เจิ้งจือสัญญาจะแต่งงานกับข้าที่หมู่บ้านภูเขาทางเหนือ รีบช่วยเขาเร็วเข้า! เมื่อ วู่ จวี้เอ๋อ ได้ยินเช่นนั้น นางก็รีบพูดทันที ในขณะเดียวกันนางก็มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ

  เมื่อเซียนสวรรค์พักพิงได้ยินเขาเองก็ไม่อยากเชื่อ เขามองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ

   หืม?จริงรึ?ทำไมข้าถึงไม่รู้? 

   บ้าหรือไงข้าไปสัญญาตอนไหนกัน? ตาเฒ่าสวรรค์พักพิง ถ้าอยากจะช่วยข้า ก็ไม่มีอะไรต้องคุยแล้ว ข้าสามารถหนีได้ด้วยตัวเอง ยังไงก็ตามถ้าถ่วงเวลาได้สักหนึ่งก้านธูปล่ะก็ ข้าจะเข้าร่วมนิกายเงา เลือกมา! ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้โง่ ไม่สำคัญว่าทั้งสองฝ่ายจะตบตากันได้มากแค่ไหน เขาไม่มีทางหลงกลอย่างแน่นอน

   ก้านธูป? เซียนสวรรค์พักพิงขมวดคิ้วแล้วมองไปที่ผู้อาวุโสสองและผู้อาวุโสสี่พร้อมกับศิษย์นับร้อยเขาสงสัยว่า  เจ้าเด็กนั่น ข้าอุส่ารีบมา ข้าไม่ได้มีกำลังคนมากมายขนาดนั้น ครึ่งก้านธูป? 

   แค่ครึ่งก้านธูป?นั่นก็พอแล้ว! ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่ หยวนหรงที่มีเลือดท่วมไหล่

   ได้ข้าขอพนันด้วยชื่อของนิกายเงา เพื่อถ่วงเวลาให้เจ้าเพียงครึ่งก้านธูป! เมื่อเซียนสวรรค์พักพิงได้ยินเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นแสงไฟก็ส่องสว่างในดวงตาของเขา จากนั้นเขาก็ยกพัดขึ้นมาและชี้ไปด้านหน้า

  เซีนยสวรรค์พักพิงโบกพัดไปทางผู้อาวุโสสองและผู้อาวุโสสี่ปากของเขาออกเสียงชัดเจน

   จู่โจม! 

   ตูมตูม ตูม! ด้วยเสียงที่เขาพูด ป่าทั้งผืนเริ่มส่งเสียง สามารรู้สึกได้ถึงแรงสะเทือนที่รุนแรง คลื่นบนผิวทะเลสาบสั่นไหว

  ในเวลาเดียวกันมีเงามากมายกระโจนออกมาจากผืนป่าพวกเขาแต่ละคนสวมผ้าคลุมหน้าสีดำ

  ทันใดนั้นท้องฟ้าก็มืดลง

  เงาสีดำบดบังท้องฟ้าราวกับเมฆสีดำมันคือกลุ่มคนประมาณสองถึงสามพันคน

  มันเป็นฉากที่น่าตกใจมากแม้ศาลาเต๋าสวรรค์จะเป็นหนึ่งในห้าสำนักในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แต่ยังมีศิษย์เพียงแค่พันกว่าคน

  แต่ด้านหน้าของพวกเขามีประมาณสองถึงสามพันคน!

   ตาเฒ่าท่านหลอกข้าอีกแล้ว ไหนท่านบอกรีบมา แล้วคนจำนวนมากขนาดนี้คืออะไรกัน?  ฟาง เจิ้งจือ สบถออกมา เมื่อเห็นคนจำนวนมากเดินออกมา

   หึก็ในเมื่อข้าบอกว่าจะถ่วงเวลาให้เจ้า เจ้าคิดจะให้ข้ามาตัวเปล่าๆหรือไง? 

   …. 

  ขณะที่เซียนสวรรค์พักพิงกับฟาง เจิ้งจือ กำลังเถียงกันอยู่นั่นเอง คนจำนวนมากก็ได้จัดทัพเสร็จเรียบร้อยแล้ว

  พวกเขาดึงดาบออกมา

   ตาย! 

   ตาย! 

   … 

  เสียงของพวกเขาดังสะเทือนสวรรค์

  เมื่อฉือฟ่าน,หยวนหรง และผู้อาวุโสสองจากกเกาะจันทราสีดำเห็นฉากที่เกิดขึ้น สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปทันที

  ไม่ใช่แค่พวกเขาแม้แต่ผู้อาวุโสและศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์ก็เช่นกัน

   นิกายเงา…พวกเขามีคนจำนวนมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?! ผู้อาวุโสสี่มองกลุ่มคนจำนวนมากด้านหน้าด้วยความตกใจ

   เป็นไปไม่ได้พวกเขาไม่มีทางที่จะมีจำนวนมากขนาดนี้! ผู้อาวุโสหกเองก็ไม่เชื่อเช่นกัน

   มีคนจำนวนมากแล้วยังไง?ก็แค่กลุ่มคนที่อ่อนแอ คิดว่าจะทำอะไรพวกเราอะไรได้งั้นรึ?  ผู้อาวุโสสองพูดออกมา

   พี่สองพูดถูก! ผู้อาวุโสสี่เห็นด้วย

   อืม! ผู้อาวุโสหกสงบใจลงเช่นกัน

   ฟังขึ้นศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์!จัดทัพพร้อมสู้! วันนี้ ฟาง เจิ้งจือ, เหยียน เฉียนหลี่ กับคนของนิกายเงา จะไม่ได้ออกไปที่นี่แบบมีชีวิต!  เสียงของผู้อาวุโสสองเต็มไปด้วยความเยือกเย็น

  ในฐานะของผู้อาวุโสสองเขามีสิทธิ์ที่จะพูดจายังไงก็ได้ที่นี่เป็นดินแดนของพวกเขา นอกจากนี้พวกเขายังมันใจในความแข็งแกร่งของตัวเองเป็นอย่างมาก

  พวกเขามีประสบการณ์ในการต่อสู้เป็นอย่างมากศิษย์ที่อ่อนแอที่สุดของพวกเขาอย่างน้อยอยู่ในระดับอภินิหาร พวกเขาไม่มีทางกลัวฝ่ายตรงข้ามแน่นอน

  แม้พวกเขาจะมีเซียนสวรรค์พักพิงและเหยียน เฉียนหลี่ อยู่ก็ตาม  ไม่มีอะไรต้องกลัว

   ฆ่า! 

   ฆ่า! 

  ในที่สุดศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ก็เริ่มเคลื่อนไหวพวกเขาเข้าปะทะกันทันที

  มันกลายเป็นฉากนองเลือดทันที

  ร่างกายของพวกเขาเปล่งแสงและจิตสังหารออกมาในหมู่พวกเขา มีอย่างน้อยร้อยคนที่อยู่ในระดับจุติ

  หมาป่าจะรู้สึกอย่างไรเมื่อเข้าไปในฝูงแกะ?

  มันจะฆ่าแกะทุกตัวที่มันเห็น?

  นั่นคือสิ่งที่ศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์คิดอย่างไรก็ตามความคิดของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเพราะศัตรูจำนวนมากด้านหน้าของพวกเขาก็สามารถเปล่งแสงออกมาจากร่างได้เช่นกัน

  ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขามีจำนวน…   อย่างน้อยสองถึงสามร้อยคน!

   ตาย! 

  สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ที่คิดว่าตัวเองเป็นผู้ล่าตกใจมากเพราะตอนนี้พวกเขาไม่รู้แล้วว่าใครคือหมาป่าใครคือลูกแกะ

  ผู้ที่อยู่ในระดับจุติสองถึงสามร้อยคน?

  มันไม่เห็นเหมือนที่ผู้อาวุโสสองพูดแม้แต่น้อย

   เป็นไปได้ยังไง? 

   ทำไมพวกเขาถึงแข็งแกร่งขนาดนี้?! 

   เมื่อเทียบกับศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์แล้วพวกเขาไม่ได้อ่อนแอกว่าแม้แต่น้อย! 

  เมื่อทั้งสองฝ่ายเข้าปะทะกันในที่สุดศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ก็ได้รู้ว่ากลุ่มคนด้านหน้าพวกเขาแข็งแกร่งขนาดไหน

   เป็นไปไม่ได้! ผู้อาวุโสสองมองศิษย์เต๋าสวรรค์ที่ล้มลงบนพื้นจำนวนมากราวกับแมลงวันด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

  ฝั่งตรงข้ามมีนักรบชั้นสูงสองถึงสามร้อยคนเมื่อเทียบกับศาลาเต๋าสวรรค์แล้ว

  ตอนนี้พวกเขามีประมาณร้อยคนเท่านั้น 

  พวกเขาจะชนะได้ยังไง?

  ผู้อาวุโสสองไม่เชื่อผู้อาวุโสสี่และผู้อาวุโสหกก็เช่นกัน แม้แต่ฉือฟ่านและหยวนหรงก็มีสีหน้าไม่ดีเท่าไรนัก

  อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่สามารถปฏิเสธความจริงได้

   เฒ่าเหยียนทำไมท่านไมไปนำตัวหลานชายท่านกลับมาก่อนล่ะ? ท่านอยากหาเรื่องตายหรือไง?  เซียนสวรรค์พักพิงมองไปที่การต่อสู้ด้านหน้า พร้อมกับโบกมืออย่างมีความสุขให้ เหยียน เฉียนหลี่

   ท่านคิดว่าข้าเป็นคนที่กลัวตายหรือไง?อย่าเอาข้าไปเปรียบกับท่าน! ข้า เหยียน เฉียนหลี่ ไม่เคยหวาดกลัวความตาย ในเมื่อข้าอยู่ที่นี่แล้วก็ไม่มีอะไรต้องกังวลอีก!  เหยียน เฉียนหลี่ สวนกลับเซียนสวรรค์พักพิงทันที

   เหอะท่านจะบอกว่าข้าขี้ขลาดงั้นรึ? ข้าแค่จะพยายามรักษาพลังงานไว้เท่านั้น? หากไม่ใช่เพราะข้าทำงานหนักมาหลายปี พวกเราจะมีวันที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ไหม? พวกเราคงถูกฆ่าตายจนหมดนานแล้ว! 

   ไปให้พ้นข้าจะสั่งการที่นี่เอง ไม่หลบอยู่ข้างสนามรบ!  เหยียน เฉียนหลี่ ไม่คิดจะเปลืองคำพูดอีก เขาดึงธงสีทองออกมาจากเสื้อทันที จากนั้นก็มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ  ข้าให้เวลาหนึ่งก้านธูป ถ้าเจ้าไม่สามารถฆ่าพวกมันและลางแค้นให้หลานชายข้าได้ เจ้าก็ลืมเรื่องจะเข้าร่วมนิกายเงาของข้าไปได้เลย! 

   เอ๊ะ…ท่านหมายความว่ายังไง’นิกายเงาของข้า’?พวกเราไม่ได้ตกลงกันแล้วงั้นรึว่าผู้นำของนิกายเงาคือศิษย์ของข้า?   เมื่อเซียนสวรรค์พักพิงได้ยิน เขาก็พูดขัดขึ้นมาทันที

   ท่านอาจารย์ช่วยเลือกเถียงกับท่านปู่เหยียนได้ไหม?พวกท่านเถียงกันมาตลอดสิบปีนี้แล้วนะ… วู่ จวี้เอ๋อ พูดพร้อมกับส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่าย

   … 

   เหยียนเฉียนหลี่ เป็นเพราะเหยียน เฉียนหลี่!  ในที่สุดผู้อาวุโสสองก็ได้สติ ใบหน้าของเขาพลันอัปลักษณ์ขึ้นมาทันที

   เหยียนเฉียนหลี่ งั้นหรือ? พี่สองท่านหมายความว่าเซียนสวรรค์พักพิงกับเหยียน เฉียนหลี่… สีหน้าของผู้อาวุโสสี่ก็ไม่ดีเท่าไรนัก

   ใช่แล้วพวกเราลืมเรื่องนั้นไปจริงๆ! ข้าน่าจะนึกเรื่องนี้ออกตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ที่อาณาจักรเซี่ยนได้ถูกก่อตั้งขึ้นดินแดนเหลียงตะวันตกถือว่าเป็นเขตแดนพิเศษที่ไม่ได้ถูกควบคุมโดยอาณาจักรเซี่ย และอาณาจักรเซี่ยก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวการพัฒนาดินแดนเหลียงตะวันตกแต่อย่างใด ข้าสงสัยเรื่องนี้มานาน แต่ตอนนี้ข้าพอจะเข้าใจแล้ว  ผู้อาวุโสสองอธิบาย

   พวกเขาต้องการเวลา! ในที่สุดผู้อาวุโสหกก็เข้าใจ

   ต้องการเวลา?ตระกูลเหยียนของพวกเราไม่เคยคิดจะก่อตั้งอาณาจักรเป็นของตัวเอง เพราะแม้พวกเราจะสามารถสร้างอาณาจักรได้ แต่ก็ต้องถูกควบคุมโดยสำนักทั้งห้าจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์อยู่ดี ตระกูลเหยียนมีความภูมิใจและเด็ดเดี่ยวเป็นอย่างมาก พวกเราปฏิเสธที่จะเข้าร่วมดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ถ้าพวกเราจะเข้าร่วมก็ต่อเมื่อพวกเราพร้อมเท่านั้น!  เมื่อ เหยียน เฉียนหลี่ ได้ยินผู้อาวุโสสองพูด เขากขัดขึ้นมาทันที

   หึอย่างไรก็ตาม มันคงเป็นไปไม่ได้ที่อยู่ดีๆตระกูลเหยียนจะสามารถสร้างนักรบชั้นยอดออกมาเป็นจำนวนมากขนาดนี้ใช่หรือไม่?  น้ำเสียงของผู้อาวุโสสองเต็มไปด้วยความเย็นชา

   ข้าถึงบอกไงว่าความดีความชอบครึ่งหนึ่งเป็นของข้า! เซีนสวรรค์พักพิงพูดขึ้นมาอีกครั้ง  ด้วยความรูและศาสตร์ในการปรุงยา รวมถึงการล่าสมบัติ มันไม่ใชเรื่องแปลกใช่ไหมล่ะที่ตาเฒ่าเหยียนจะสามารถสร้างขุมกำลังชั้นยอดออกมาได้? 

   เป็นแบบนี้นี่เอง! ในที่สุดผู้อาวุโสสองก็เข้าใจ

  ด้วยความช่วยเหลือจากยาและสมุนไพรต่างๆมันเป็นไปได้ที่ดินแดนเหลียงจะฝึกนักรบชั้นยอดออกมา

  ดังนั้นแม้ดินแดนเหลียงจะอยู่ในเขตแดนของอาณาจักรเซี่ยแต่อาณาจักรเซี่ยนก็ไม่กล้าเข้าไปยุ่มย่ามอะไร แม้แต่สิบสามกองตรวจการก็ตาม เป็นเพราะพวกเขารู้ว่าในดินแดนเหลียงนั้นมีทหารชั้นยอดอยู่

  ……………………………………..

 

Gate of God

Gate of God

เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads แทงบอลออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน