Gate of God – ตอนที่ 936 ไชเท้าน้อย

ตอนที่ 936 ไชเท้าน้อย

  ความคิดแรกของเหล่าปีศาจอาวุโสและราชาอสูรหลังจากเห็นเทพปีศาจถูกฆ่าตายคือฆ่าฟางเจิ้งจือและฉือกูเหยียนที่บาดเจ็บหนัก

  อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาเห็นดาบไร้ร่องในมือของฟางเจิ้งจือพวกเขากลับเปลี่ยนใจในทันที พวกเขารวมทั้งไป่ฉือต่างมีท่าทีจริงจัง

  ด้านฟางเจิ้งจือเองก็เช่นกัน

  เพราะมีแต่ตัวเขาเองที่รู้สภาพร่างกายของตัวเองเขาเหนื่อยล้าและพร้อมจะล้มลงทุกเมื่อ

  ตอนที่ฉือกูเหยียนพุ่งเข้าไปแทงดวงตาปีศาจฟางเจิ้งจือ กลายเป็นคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง แน่นอนมันไม่ใช่เรื่องง่าย

  เมื่อหางจิ้งจอกเข้ามาโจมตีเขาพยายามอย่างสุดความารถ

  ตอนนั้นเขามีเพียงความคิดเดียว  ปกป้อง!

  เขาต้องปกป้องฉือกูเหยียน!

  เช่นนั้นตอนที่เขาพยุงร่างของฉือกูเหยียนจากด้านหลังเขาได้ส่งผ่านพลังงานของเขาให้นาง

  อย่างไรก็ตามเขาไม่คาดคิดว่ามันจะส่งผลต่อระดับพลังของฉือกูเหยียนจากระดับจุติกลายเป็นระดับเซียน

  ยิ่งไปกว่านั้นตอนที่ฉือกูเหยียนเข้าสู่ระดับเซียนพลังในมิติพิเศษของเขาได้รับผลกระทบเช่นกัน

  ฟางเจิ้งจือตกตะลึงแต่ก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว

  ฉือกูเหยียนฝืนตัวเองมาก!

  ตามปกติการที่จะบรรลุเข้าสู่ระดับพลังขั้นต่อไปได้นั้นในร่างกายต้องมีพลังงานเพียงพอเพื่อเสริมสร้างและปรับโครงสร้างร่างกาย

  อย่างไรก็ตามฉือกูเหยียนนั้นต่างออกไป

  นางตัดสินใจที่ฝ่าฝืนกฎธรรมชาตินางเลือกที่จะฝืนบรรลุเข้าสู่ระดับเซียนด้วยตัวเอง แน่นอนว่าพลังในมิติพิเศษของนางไม่เพียงพอ…

  ดังนั้นมีทางเดียวที่รออยู่คือความตายมิติพิเศษจะกลายเป็นหลุมดำที่ดูดทุกอย่างในร่างกายเข้าไปอย่างรวดเร็ว

  แน่นอนว่าฟางเจิ้งจือเข้าใจเรื่องนี้เขาเลยไม่ได้ต่อต้านพลังงานถูกสูบออกไปจากมิติพิเศษของเขาอย่างรวดเร็ว

  เขารู้สึกว่ามหาสมุทรขนาดใหญ่ในมิติพิเศษของเขาแห้งเหือดไปอย่างรวดเร็ว

  มันเร็วเกินไป!

  หากร่างกายของเขามีพลังไม่พอย่อมหมายถึงความตายของเขาด้วยเช่นกัน

  ดังนั้นตอนนี้เขาแทบไม่เหลืออะไรเลย

   ผู้หญิงน่ากลัวจริงๆ! ฟางเจิ้งจือคิดในใจ อย่างไรก็ตามเขาพยายามฝืนยืนอยู่ในอากาศ เพราะถ้าหยุนชิงวูรู้ถึงสภาพร่างกายของเขาในตอนนี้ นั่นหมายถึงจุดจบของทุกคน แม้แต่วู่จวี้เอ๋อที่ยืนอยู่ด้านล่าง

  เขาควรทำยังไง?

  หากพลังของเขาไม่หมดเขาคงฆ่าหยุนชิงวูและไป่ฉือโดยไม่ลังเล อย่างไรก็ตามพลังของเขากำลังจะหมดลงในไม่ช้า..

  ทางเลือกเดียวของเขาคือใช้อุบายหลอกหยุนชิงวู

  เขาต้องแสดงให้เห็นว่าเขายังมีพลังอยู่และให้ทุกคนเชื่อแบบนั้น

   ฟางเจิ้งจือแม้ว่าเจ้าจะฆ่าข้าได้ในตอนนี้เจ้าก็จะไม่ได้ประโยชน์อะไรจากมัน  หยุนชิงวูกล่าวพร้อมมองดาบในมือของฟางเจิ้งจือ

   ข้าไม่คิดแบบนั้น ฟางเจิ้งจือกล่าวพร้อมค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าหาหยุนชิงวู

   เจ้าไม่มีทางฆ่าข้าได้! 

   แต่ข้าสามารถลองได้! 

   เจ้ามีเวลาไม่พอเทพปีศาจจะมาถึงอีกเมื่อไรก็ได้    อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนนี้? ฟางเจิ้งจือเหลือบมองประตูสองบานที่เปิดอยู่ เขากังวลเล็กน้อยเพราะเมื่อเทพปีศาจมาถึงนั่นเท่ากับเป็นจุดจบของเขา

   เจ้าต้องการจะทำอย่างนั้นงั้นรึ? 

   ข้าไม่มีเหตุผลที่จะไม่ลอง 

   หกเดือนข้าสัญญาว่าภายในหกเดือน ไม่ว่าเจ้าจะไปที่ไหนเผ่าปีศาจและเผ่าอสูรจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเจ้า  หยุนชิงวูกัดฟันพร้อมกล่าวข้อเสนอออกมา

  ฟางเจิ้งจือไม่ได้ตอบในทันทีเขากำลังพิจารณาข้อเสนอของหยุนชิงวู มันเป็นข้อเสนอที่ตรงไปตรงมา

  ประตูเทพเจ้าของเผ่าอสูรและปีศาจได้เปิดออกแล้ว

  สงครามครั้งใหญ่จะต้องเกิดขึ้นอยางแน่นอนดังนั้นแม้ว่าเขาจะฆ่าหยุนชิงวูไปผลลัพธ์ก็ไม่เปลี่ยนแปลง

   สามปี ฟางเจิ้งจือยื่นข้อเสนอออกไปเช่นกัน

   สองปีคือที่ข้าให้เจ้าได้มากที่สุดถ้าเจ้าไม่ตกลงก็โจมตีเข้ามาได้เลย  หยุนชิงวูพูดด้วยความมั่นใจพร้อมก้าวไปด้านหน้า

   ได้สองปี  ฟางเจิ้งจือพยักหน้าทันที

  จากนั้นเขาก็หันไปมองประตูสองบานบนท้องฟ้าโดยไม่ลังเลเขาร่อนลงไปหาวู่จวี้เอ๋อ

   ทำไมเจ้าต้องรับข้อเสนอนางด้วย? วูู่จวี้เอ๋อไม่เข้าใจ

   ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะฆ่านาง ฟางเจิ้งจืออุ้มฉือกูเหยียนไว้ด้วยมือข้างหนึ่งอีกมือหนึ่งจับอยู่ที่แขนของวู่จวี้เอ๋อ ดาบไร้ร่องรองหายไป

   ข้าไม่เข้าใจ… วู่จวี้เอ๋อต้องการจะถามต่อแต่เห็นเหงื่อที่ไหลออกมาจากมือของฟางเจิ้งจือ

  ยิ่งไปกว่านั้นนางสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่เหนื่อยหอบและใบหน้าที่ซีดขาวของฟางเจิ้งจือ  วู่จวี้เอ๋อไม่พูดอะไรออกมาอีกจากนั้นนางก็วิ่งไปที่ตีนภูเขาสวรรค์

  ฟางเจิ้งจือยิ้ม

  เขารู้ว่าวู่จวี้เอ๋อต้องรู้สถานการณ์ในตอนนี้ดีการกระทำของนางพิสูจน์เรื่องนั้นได้ เพราะนางไม่ได้รับฉือกูเหยียนไป

  เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกขาของฟางเจิ้งจือสั่นจนแทบควบคุมไม่ได้ เขาเกือบจะลมล้งกับพื้น อย่างไรก็ตามเขายังฝืนยืนอยู่ได้

   ท่านจะปล่อยพวกเขาไปจริงๆงั้นหรือ? 

   จักรพรรดินีน้อยถ้าพวกเราปล่อยให้พวกเขารอดไปจะมีปัญหาตามมา… 

   ข้าสัมผัสได้ว่าฟางเจิ้งจือไม่มีพลังเหลืออีกต่อไปแล้วถ้าเข้ามีพลังคงไม่ยอมรับข้อเสนอท่านง่ายๆ 

  ราชาอสูรและปีศาจอาวุโสไม่อยากยอมรับความเป็นจริงที่ฟางเจิ้งจือและวู่จวี้เอ๋อได้หนีไปแล้ว   เรื่องสำคัญที่สุดของเราในตอนนี้คือประตูเทพเจ้าไม่ใช่ฟางเจิ้งจือ หยุนชิงวูส่ายหน้า สายตาของนางจ้องไปยังร่างที่ค่อยๆลับตาไป นางกำมือแน่น  ฟางเจิ้งจือ…ข้าจะรอสงครามที่จะเกิดขึ้นกับเจ้าในอีกสองปี! 

  ตูม!

  ทันใดนั้นเสียงราวกับฟ้าผ่าได้ดังขึ้น

  จากนั้นลำแสงสองเส้นก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้า

  หินยักษ์สองก้อนตกลงมาที่ยอดต้นไม้เทพเจ้าทั้งโลกถูกปกคลุมไปด้วยบรรยากาศโบราณอันทรงพลัง

   พวกเขามาถึงแล้ว! 

   เทพปีศาจโบราณได้มาถึงแล้ว! 

  แกรก!เสียงของหินแตกดังขึ้นในทันที จากนั้นหินทั้งสองก้อนก็ระเบิดออกพร้อมๆกัน

  สองร่างปรากฎขึ้นท่ามกลางเศษฝุ่นและควันมันเป็นร่างของผู้หญิงและผู้ชาย ผู้ชายนั้นดูเย็นชาส่วนผู้หญิงนั้นดูน่าหลงไหล   ในที่สุดพวกเขาก็ออกมาแล้ว! ราชาอสูรพูดออกมาด้วยความตื่นเต้น จากนั้นเขาก็หันไปมองทางตีนเขา

   จักรพรรดินีน้อยถ้าพวกเราไล่ตามฟางเจิ้งจือไปตอนนี้ยังทัน… 

   หืม? หยุนชิงวูหันไปมองราชาอสูรด้วยใบหน้าอันเย็นชา นางไม่ได้แสดงความโกรธออกมา แต่น้ำเสียงของนางนั้นเย็นเยียบ  เจ้าต้องการให้ข้าผิดคำสัญญางั้นรึ? 

   ยกโทษให้ข้าด้วย! เห็นท่าทีของหยุนชิงวู เหงื่อเย็นๆไหลออกมาจากหลังของราชาอสูรคนนั้นทั้นที ก่อนที่เขาจะคุกเข่าลงอย่างรวดเร็ว

  หยุนชิงวูไม่พูดอะไรอีกนางหันไปมองทางตีนเขา จากนั้นก็หันไปให้ความสนใจกับผู้ที่เดินออกมาจากก้อนหิน…

  …

  ..

  .   หนึ่งเดือนครึ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว

  ในช่วงเวลานั้นข่าวสิ่งที่เกิดขึ้นบนภูเขาสวรรค์ได้กระจายไปทั่วโลกรวมถึงทุกเมืองหลวงของทั้งสี่อาณาจักร

  ข่าวการมาถึงของเทพปีศาจและเทพอสูรเป็นข่าวที่ผู้คนให้ความสนใจมากที่สุด

  ผู้คนต่างตกอยู่ในความหวาดกลัว

  บางคนบอกว่าหายนะกำลังจะมาถึงในไม่ช้าบางคนก็บอกว่านี่เป็นการแก้แค้นของปีศาจและอสูร พวกมันจะจับมนุษย์ไปเป็นทาส

  พลังของคำพูดนั้นน่ากลัว

  แม้ว่าสี่อาณาจักรจะพยายามหยุดข่าวลือที่แพร่สะพัดอย่างเต็มที่แต่พวกเขาก็ไม่สามารถหยุดได้อย่างสมบูรณ์ เพราะแม้แต่พวกเขาก็หวาดกลัว

  พวกเขาเห็นประตูเทพเจ้าทั้งสองบานเปิดออกด้วยตาตัวเอง

   ฝ่าบาท!คำสั่งของท่านที่ให้ทหารคอยปกป้องเมืองหลวง ทุกอย่างถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว! 

   หืมมจดหมายที่ส่งไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์เรียบร้อยไหม? 

   มันถูกส่งไปแล้วแต่ว่าด้านดินแดนศักดิ์สิทธิ์ตอนนี้นั้น… 

   พูด! 

   ไม่มีการตอบกลับจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์จากที่ข้ารู้สงครามในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เทพปีศาจและเทพอสูร… 

   ข้าเข้าใจแล้วเจ้าไปได้! 

   รับทราบ! 

  …

  ขณะที่เมืองหลวงตกอยู่ในความวุ่นวายดินแดนบางสวนที่ห่างไกลจากเมืองหลวงอยู่ในความสงบสุข

  เช่นหมู่บ้านภูเขาทางเหนือที่ตีนเขาคังหลิง  ตามภูมิศาสตร์แล้วหมู่บ้านภูเขาทางเหนือใกล้กับภูเขาคังหลิง และด้านหลังภูเขาคังหลิงคือดินแดนที่ปีศาจครอบครอง อาจพูดได้ว่าหมู่บ้านภูเขาทางเหนือเป็นหมู่บ้านชายแดนของอาณาจักรเซี่ย

  อย่างไรก็ตามเพราะภูเขาคังหลิงเป็นพื้นที่ต้องห้ามทำให้หมู่บ้านชายแดนแห่งนี้อยู่ในความสงบสุข

   ไชเท้าน้อยตระกร้านี้ใหญ่มากเจ้าถือไหวหรือ? เสียงดังขึ้นที่ทางเข้าหมู่บ้านภูเขาทางเหนือ ในเวลาเดียวกันผู้หญิงในชุดผ้าฝ้ายธรรมดาเดินออกมาจากหมู่บ้าน

  ที่ทางเข้ามีเด็กชายคนหนึ่งอายุประมาณห้าขวบดวงตาคู่โตของเขาเป็นสีดำ

  อย่างไรก็ตามหัวของเด็กชายคนนี้ดูจะใหญ่เกินไปทำให้เขาถูกชาวบ้านเรียกว่าไชเท้าน้อย

  แน่นอนว่าการตัดสินคนที่รูปร่างไม่ใช่เรื่องดีแต่เจ้าตัวกลับยิ้มแย้มอย่างมีความสุขเพราะชื่อ’ไชเท้าน้อย’เป็นชื่อที่ฟางเจิ้งจือตั้งให้เขา ทุกสิ่งที่มาจากฟางเจิ้งจือย่อมเป็นเรื่องดีแน่นอน

  เพราะฟางเจิ้งจือนั้นเป็นความภาคภูมิใจของหมู่บ้านภูเขาทางเหนือ!

   ท่านพ่อไปล่าสัตว์บนภูเขาท่านแม่ก็ไปกับเขาด้วย ข้าต้องไปเตรียมข้าวเย็นให้ท่านพ่อกับท่านแม่ของข้า  ไชเท้าน้อยวางตระก้าลงบนพื้นและถอนหายใจออกมา

   เด็กดีเจ้าเป็นเด็กที่ทำตัวดีที่สุดในหมู่บ้านภูเขาทางเหนือแล้ว ใหข้าช่วยเจ้าแล้วกัน  หญิงนางหนึ่งยิ้มออกมาและกำลังเข้าไปช่วยไชเท้าน้อยถือตระกร้า

   ไม่เป็นไรพี่เจิ้งจือบอกว่าลูกผู้ชายต้องทำงานหนักและไม่พึ่งพาผู้หญิง!  ไชเท้าน้อยส่ายหัว

   โอ้ฟางเจิ้งจือสอนเจ้ามางั้นรึ? 

   ใช่แล้ว! 

   ฮ่าฮ่า…พี่เจิ้งจือของเจ้าพูดถูกแต่เจ้ายังอายุไม่ถึงเจ็ดขวบเลย เจ้ายังเด็กมาก ไม่เป็นไรหรอกที่จะขอความช่วยเหลือจากคนอื่น 

   ข้าไม่ได้เป็นเด็กแล้วนะ!ตอนที่พี่เจิ้งจืออายุเจ็ดขวบเขายังไปล่าสัตว์บนภูเขาแล้วเลย เมื่อข้าโตขึ้นข้าจะเป็นแบบพี่เจิ้งจือ!  ไชเท้าน้อยปฏิเสธความช่วยเหลือ

   ฮ่าฮ่าฮ่างั้นข้าไม่ช่วยเจ้าก็ได้… หญิงสาวยิ้มออกมาและหันกลับเข้าไปในหมู่บ้าน

   ท่านป้าดูนั่นสิมีใครกำลังมา? 

   ใคร?เป็นพวกกลุ่มล่าสัตว์หรือเปล่า?เดี๋ยวนะ พวกนั้นคือ… เมื่อหญิงสาวหันไปมองทางที่ไชเท้าน้อยบอก รอยยิ้มบนใบหน้านางหายไปแทนที่ด้วยความหวาดกลัวบนใบหน้า

  ……………………………………..

  ��

 

Gate of God

Gate of God

เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads แทงบอลออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน