คำโบราณเคยกล่าวไว้ว่าถ้าไม่อยากตายก็อย่าแกว่งเท้าหาเสี้ยน
ไม่มีใครรู้ว่าว่าหลินจีจะตายไหมแต่แรงระเบิดอันรุนแรงที่เกิดขึ้นทำให้หลินจีหน้าถอดสี
ตูม!ร่างของหลินจีปะทะเข้ากับต้นไม้ด้านข้าง พลังอันรุนแรงทำให้ต้นไม้หักลงในทันที
มันเกิดขึ้นในชั่วพริบตาแม้แต่ทหารปีศาจนับพันไม่สามารถตั้งสติได้ทัน
สำหรับหลินจี…
นางร่วงลงมาบนพื้นพร้อมกันฟันที่ร่วงออกมาจากปากของนาง
นางบาดเจ็บ?!
เทพอสูรบาดเจ็บ?!
ใคร…ใครเป็นคนลงมือ?!
ทหารปีศาจต่างตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เทพอสูรผู้ทรงพลังได้รับบาดเจ็บ?
ด้านหลินจีนางนิ่งงันไปทันทีที่เห็นฟันของนางร่วงลงบนพื้น
ตัวตนที่ทรงพลังเช่นนางกลับถูกใครที่ไหนไม่รู้ทำให้บาดเจ็บ
ความโกรธค่อยๆพวยพุ่งขึ้นมาในจิตใจของนาง!
ใครกัน!! เสียงของหลินจีดังขึ้นจิตสังหารอันรุนแรงปะทุออกมาจากร่างของนาง
อย่างไรก็ตามไม่มีใครตอบนาง
นั่นเป็นเพราะมีร่างหนึ่งยืนอยู่ข้างฉานยู่ที่ถูกมัดเอาไว้เขาค่อยๆเอาเศษหนังสัตว์ที่ปิดปากฉานยู่ออกและแก้มัดให้นาง
ท่าน…ท่านเป็นใคร? ฉานยู่ถามคำถามเดียวกับหลินจี
อย่างไรก็ตามฉานยู่ไม่ได้รอให้ร่างนั้นตอบนางเพราะหัวหน้าถิ่นฐานทั้งสามได้ล้มลงไปบนพื้นแล้ว
เหยียนหยา! ฉานยู่ตะโกนออกมาอย่างไรก็ตามนางไม่สามารถทำอะไรได้ นางไม่สามารถสู้กับหลินจีและทหารปีศาจนับพันได้
อย่างไรก็ตามนางเป็นราชินีของดินแดนภูเขาทางใต้นางจะทนนั่งดูอยู่เฉยๆได้ยังไง?
นางพุ่งเข้าไปโดยไม่ลังเล
อย่างไรก็ตามกลับมีมือหนึ่งกดลงบนไหล่ของนางมันดูเป็นการกระทำที่ธรรมดาแต่ทั้งร่างของนางราวกับถูกกดทับด้วยภูเขาทั้งลูก
ปล่อยข้าข้าจะไปช่วยพวกเขา!
เจ้าช่วยพวกเขาได้หรือไง? ร่างนั้นกล่าวออกมาพร้อมกับแสงที่เปล่งออกมาจากตาของเขามันเป็นแสงธรรมดาๆแต่เต็มไปด้วยความสงบและซับซ้อน
ข้าไม่สามารถนั่งดูอยู่เฉยๆได้…
ก่อนที่ฉานยู่จะตอบมือที่กดไหล่ของนางอยู่เลื่อนลงมาที่เอว
ท่าทีของฉานยู่เปลี่ยนไปทันที
อย่างไรก็ตามนางได้สติอย่างรวดเร็วเพราะหลินจีได้พุ่งเข้ามาแล้ว
นางไม่ได้รอร่างนั้นตอบคำถามของนางทันทีที่ร่างนั้นช่วยฉานยู่ หลินจีก็เข้ามาโจมตีทันที
นางไม่คิดจะทักทายคู่ต่อสู้อยู่และแม้ศัตรูของนางจะอ่อนแอกว่า แต่การลอบโจมตีก็ทำให้ทุกอย่างจบลงอย่างง่ายดายโดยที่นางไม่ต้องเหนื่อย
อย่างไรก็ตามการลอบโจมตีของหลินจีล้มเหลว
ทันทีที่นางพุ่งไปด้านข้างร่างนั้นเขาได้อุ้มร่างของฉานยู่ขึ้นและกระโจนตัวออกไปด้านหน้า
เหอะไปตายซะ! หลินจีไม่สามารถสงบใจได้ นางไล่ตามร่างนั้นออกไปโดยไม่ลังเล
นางมีความมั่นใจมากไม่มีมนุษย์คนไหนอยู่ในระดับเทพเจ้าเช่นเดียวกับนางที่ออกมาจากประตูเทพเจ้าของเผ่าอสูร
นางจะกลัวอะไร? อย่างไรก็ตามเรื่องแปลกประหลาดได้เกิดขึ้นตอนที่นางไล่ตามร่างนั้นไป นางกลับรู้สึกว่ามีดวงตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองนางจากด้านหลัง
มันเป็นสัญชาตญาน
หลินจีสามารถสัมผัสได้ว่าผู้ที่มาช่วยฉานยู่ต้องมีมากกว่าหนึ่งคนแน่นอน
งั้นก็ฆ่าคนที่อยู่ด้านหน้าก่อนก็จบเรื่อง! หลินจีกัดฟันและไล่ตามร่างที่อยู่ตรงหน้าไป
จากนั้น…
ดวงตาของนางเบิกกว้าง
เป็นเพราะรางที่พุ่งออกไปกลับยกเท้าขึ้นและเตะมาที่ใบหน้าของนาง
มันเป็นเรื่องบังเอิญ?
หรือเป็นการกระทำที่คาดเดาไว้แล้ว
หลินจีไม่มั่นใจแต่นางมั่นใจว่าลูกเตะนั้นทั้งรวดเร็วและเด็ดขาดราวกับเห็นทุกการเคลื่อนไหวของนาง บัดซบ…
ตูม!
ร่างกายของหลินจีแข็งค้างขณะที่นางสัมผัสถึงความเจ็บปวดบนใบหน้า
ตูม!หินแตกออกเป็นชิ้น
หลินจีถูกส่งกระเด็นไปกระทบก้อนหินจนมันแตกออก!
แต่นางกลับลุกขึ้นในทันทีและมองไปด้านหลัง
ไม่มีใครอยู่?!เป็นไปได้ยังไง! หลินจีตกใจมาก นางมั่นใจว่ามีดวงตาคู่หนึ่งมองมาจากด้านหลัง
อย่างไรก็ตามกลับไม่มีใครอยู่?
มันไม่ควรจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
ทหารปีศาจนับพันมองไปยังร่างที่อุ้มฉานยู่เอาไว้
แสงจันทร์ส่องสว่างยามค่ำคืน
มันตกกระทบกับชุดคลุมของร่างนั้นบนเสื้อคลุมที่ยาวถึงพื้นมีตัวอักษรคำว่า’เทพเจ้า’อยู่
ทุกคนต่างตกตะลึง
สำหรับพวกเขาแล้วคำว่าเทพเจ้าหรือพระเจ้านั้นหมายถึงตัวตนที่อยู่เหนือจินตนการของพวกเขา อย่างไรก็ตามหลังจากที่ประตูเทพเจ้าถูกเปิดออก ความเข้าใจในคำว่าเทพเจ้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทันที
เทพเจ้า?!
ชายคนนั้นอยู่ในระดับเทพเจ้าเช่นเดียวกันงั้นรึ?
เขาเป็นปีศาจหรืออสูร?
ทหารปีศาจต่างตกตะลึงพวกเขาไม่มั่นใจว่าตัวตนเทพเจ้าอีกคนได้ออกมาจากประตูแล้วหรือไม่ อย่างไรก็ตามการที่ชายคนนั้นมีพลังพอที่จะทำให้หลินจีบาดเจ็บได้…
เทพเจ้า?เจ้า…เจ้าเองก็… หลินจีไม่สามารถคาดเดาได้นางอยู่ด้านหลังทำให้ไม่สามารถเห็นใบหน้าของเขาได้ แต่นางก็กระโจนเข้าไปอีกครั้งอย่างไม่ลังเล อย่างไรก็ตามตอนนี้นางเห็นคำว่าเทพเจ้าบนผ้าคลุมของเขาเช่นกัน
นางหยุดนิ่งทันที
นางพยายามหยุดความโกรธในใจเพื่อยืนยันตัวตนของเขา
มันเป็นคำสั่งของหยุนชิงวู
ไม่ควรมีความขัดแย้งระหว่างระดับเทพเจ้าเกิดขึ้น
ข้าไม่เคยได้เห็นเรื่องไร้สาระแบบนี้มาก่อนเจ้าบังคับให้ข้าต้องต่อยหน้าที่สวยงามของเจ้า แค่นั้นยังไม่พอเจ้ายังเอาหน้ามาให้ข้าเตะอีกด้วย…เห้อ…เจ้าพยายามทำร้ายตัวเองหรือไงทั้งๆที่ข้าแค่ยื่นเท้าออกไปเฉยๆเท่านั้น ร่างนั้นพูดพร้อมส่ายหัวขณะมองรอยเท้าบนใบหน้าของหลินจี
หุบปากบอกชื่อของเจ้ามา เจ้าเป็นปีศาจหรืออสูร? ใบหน้าของหลินจีดำคล้ำลงในทันที แม้ว่านางจะเชื่อฟังคำสั่งหยุนชิงวูและไม่คิดจะมีเรื่องขัดแย้ง แต่มันไม่ได้หมายความว่านางกลัวชายที่อยู่ตรงหน้า อย่างน้อยทั้งสองฝ่ายก็อยู่ในระดับเทพเจ้าเหมือนกัน
ขณะที่นางพูดนางก็พยายามนึกว่าใครในสงครามโบราณที่มีลักษณะการต่อสู้คล้ายกับชายคนนี้
อย่างไรก็ตาม…
นางกลับคิดไม่ออกแม้แต่น้อย
อยากรู้ชื่อของข้างั้นหรือ?งั้นเจ้าก็ก้มหัวขอร้องข้าสักสามรอบเป็นเยี่ยงไร?
ก้มหัวขอร้อง…
…
ทหารปีศาจที่อยู่รอบๆต่างเบิกตากว้าง
ท่าน…ท่านเป็นปีศาจหรืออสูร?ทำไมต้องช่วยข้า? สีหน้าของฉานยู่นั่นต่างออกไปจากพวกปีศาจ ในฐานะราชินีนางต้องรู้จักที่จะปกปิดอารมณ์ของตัวเองเอาไว้
ชายสวมหน้ากากที่ช่วยนางเอาไว้นั้นแข็งแกร่งจริงๆ อย่างไรก็ตามอย่างที่หลินจีกล่าวตัวตนเช่นนี้ควรจะมาจากประตูเทพเจ้าของปีศาจไม่ก็อสูร
หรือบางที…
แม้ฉานยู่จะไม่รู้ว่าแรงจูงใจของหลินจีและชายสวมหน้ากากคืออะไรแต่นี่น่าจะไม่ใช่เรื่องที่เกิดจากแผนการของหยุนชิงวู
หุบปากถ้าเจ้ายังอยากมีชีวิต ชายสวมหน้ากากไม่ตอบฉานยู่ที่กำลังพยายามดิ้นรนออกไปจากแขนของเขาทันใดนั้นพลังสีดำราวกับเส้นไหมปรากฎขึ้นบนฝ่ามือของเขา
จากนั้นเมือเขาวางมันลงบนร่างของฉานยู่นางไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ทันที
ฉานยู่หน้าซีดขาว
สำหรับหลินจีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทำให้นางประหลาดใจอย่างไรก็ตามมันทำให้นางวางใจขึ้นเล็กน้อย
เจ้าได้พบกับจักรพรรดินีน้อยแล้วหรือยัง? ใครคือจักรพรรดินีน้อย? ร่างนั้นถามอย่างแปลกใจพร้อมกับมองดูหลินจีด้วยความรังเกียจ เจ้ากลายเป็นทาสแล้วงั้นรึ?
เยี่ยม!ข้าจะถามเป็นครั้งสุดท้าย เจ้าคือใคร? เป็นอสูรหรือปีศาจ? หลินจีหายใจหอบถี่ นางพยายามยับยั้งความโกรธเอาไว้
ว้าวเจ้าโกรธงั้นหรือ? แต่เจ้าทำอะไรข้าไม่ได้เลยนะ! โกรธไปแล้วจะได้อะไรกัน? ชายสวมหน้ากากหัวเราะด้วยความดูถูกอีกครั้ง
เจ้ากำลังรนหาที่ตาย! ความโกรธของหลินจีระเบิดออกมาอีกครั้ง นางต้องการยืนยันตัวตนของร่างตรงหน้า อย่างไรก็ตามใช่ว่าใครจะทำอะไรกับนางก็ได้
ในฐานะอสูรโบราณนางไม่อ่อนแอแน่อน
โดยไม่ลังเล…
หลินจีกำหมัดแน่นเกล็ดสีดำปกคุลมร่างของนาง
เดี๋ยวก่อน! ชายสวมหน้ากากโบกมือราวกับเขาไม่ได้มีเจตนาจะต่อสู้กับนาง
เจ้าเหลือโอกาสสุดท้ายบอกชื่อของเจ้ามา! หลินจีหรี่ตา
จากลักษณะของเจ้า…น่าจะเป็นผู้หญิงใช่ไหม?โอ้ โอ้ ไม่ เจ้าเป็นอสูรจะบอกว่าเป็นผู้หญิงได้ยังไง น่าจะเป็นสัตว์ตัวเมียมากกว่าหรือเปล่า? ชายสวมหน้ากากยังพูดต่อไปอย่างไม่ใส่ใจ
ข้าจะฆ่าเจ้า! หลินจีพุ่งไปด้านหน้าอย่างไม่ลังเล
ทันทีที่นางพุ่งออกไปเกล็ดบนร่างของนางตั้งขึ้นราวกับหนามแหลม
ฮ่าฮ่า…ใช่แล้วถ้าเจ้าสามารถโจมตีได้ก็ลองดู! ชายสวมหน้ากากหัวเราะอีกครั้ง ผ้าคลุมที่มีคำว่า’เทพเจ้า’ของเขาเด่นชัดท่ามกลางแสงจันทร์
……………………………………..
��