Gate of God – ตอนที่ 951 ตัวตนในตำนาน!!

ตอนที่ 951 ตัวตนในตำนาน!!

  คำโบราณเคยกล่าวไว้ว่าถ้าไม่อยากตายก็อย่าแกว่งเท้าหาเสี้ยน

  ไม่มีใครรู้ว่าว่าหลินจีจะตายไหมแต่แรงระเบิดอันรุนแรงที่เกิดขึ้นทำให้หลินจีหน้าถอดสี

  ตูม!ร่างของหลินจีปะทะเข้ากับต้นไม้ด้านข้าง พลังอันรุนแรงทำให้ต้นไม้หักลงในทันที

  มันเกิดขึ้นในชั่วพริบตาแม้แต่ทหารปีศาจนับพันไม่สามารถตั้งสติได้ทัน

  สำหรับหลินจี…

  นางร่วงลงมาบนพื้นพร้อมกันฟันที่ร่วงออกมาจากปากของนาง

   นางบาดเจ็บ?! 

   เทพอสูรบาดเจ็บ?! 

   ใคร…ใครเป็นคนลงมือ?! 

  ทหารปีศาจต่างตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น  เทพอสูรผู้ทรงพลังได้รับบาดเจ็บ?

  ด้านหลินจีนางนิ่งงันไปทันทีที่เห็นฟันของนางร่วงลงบนพื้น

  ตัวตนที่ทรงพลังเช่นนางกลับถูกใครที่ไหนไม่รู้ทำให้บาดเจ็บ

  ความโกรธค่อยๆพวยพุ่งขึ้นมาในจิตใจของนาง!

   ใครกัน!! เสียงของหลินจีดังขึ้นจิตสังหารอันรุนแรงปะทุออกมาจากร่างของนาง

  อย่างไรก็ตามไม่มีใครตอบนาง

  นั่นเป็นเพราะมีร่างหนึ่งยืนอยู่ข้างฉานยู่ที่ถูกมัดเอาไว้เขาค่อยๆเอาเศษหนังสัตว์ที่ปิดปากฉานยู่ออกและแก้มัดให้นาง

   ท่าน…ท่านเป็นใคร? ฉานยู่ถามคำถามเดียวกับหลินจี

  อย่างไรก็ตามฉานยู่ไม่ได้รอให้ร่างนั้นตอบนางเพราะหัวหน้าถิ่นฐานทั้งสามได้ล้มลงไปบนพื้นแล้ว

   เหยียนหยา! ฉานยู่ตะโกนออกมาอย่างไรก็ตามนางไม่สามารถทำอะไรได้ นางไม่สามารถสู้กับหลินจีและทหารปีศาจนับพันได้

  อย่างไรก็ตามนางเป็นราชินีของดินแดนภูเขาทางใต้นางจะทนนั่งดูอยู่เฉยๆได้ยังไง?

  นางพุ่งเข้าไปโดยไม่ลังเล

  อย่างไรก็ตามกลับมีมือหนึ่งกดลงบนไหล่ของนางมันดูเป็นการกระทำที่ธรรมดาแต่ทั้งร่างของนางราวกับถูกกดทับด้วยภูเขาทั้งลูก

   ปล่อยข้าข้าจะไปช่วยพวกเขา! 

   เจ้าช่วยพวกเขาได้หรือไง? ร่างนั้นกล่าวออกมาพร้อมกับแสงที่เปล่งออกมาจากตาของเขามันเป็นแสงธรรมดาๆแต่เต็มไปด้วยความสงบและซับซ้อน

   ข้าไม่สามารถนั่งดูอยู่เฉยๆได้… 

  ก่อนที่ฉานยู่จะตอบมือที่กดไหล่ของนางอยู่เลื่อนลงมาที่เอว

  ท่าทีของฉานยู่เปลี่ยนไปทันที

  อย่างไรก็ตามนางได้สติอย่างรวดเร็วเพราะหลินจีได้พุ่งเข้ามาแล้ว

  นางไม่ได้รอร่างนั้นตอบคำถามของนางทันทีที่ร่างนั้นช่วยฉานยู่ หลินจีก็เข้ามาโจมตีทันที

  นางไม่คิดจะทักทายคู่ต่อสู้อยู่และแม้ศัตรูของนางจะอ่อนแอกว่า แต่การลอบโจมตีก็ทำให้ทุกอย่างจบลงอย่างง่ายดายโดยที่นางไม่ต้องเหนื่อย

  อย่างไรก็ตามการลอบโจมตีของหลินจีล้มเหลว

  ทันทีที่นางพุ่งไปด้านข้างร่างนั้นเขาได้อุ้มร่างของฉานยู่ขึ้นและกระโจนตัวออกไปด้านหน้า

   เหอะไปตายซะ! หลินจีไม่สามารถสงบใจได้ นางไล่ตามร่างนั้นออกไปโดยไม่ลังเล

  นางมีความมั่นใจมากไม่มีมนุษย์คนไหนอยู่ในระดับเทพเจ้าเช่นเดียวกับนางที่ออกมาจากประตูเทพเจ้าของเผ่าอสูร

  นางจะกลัวอะไร?   อย่างไรก็ตามเรื่องแปลกประหลาดได้เกิดขึ้นตอนที่นางไล่ตามร่างนั้นไป นางกลับรู้สึกว่ามีดวงตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองนางจากด้านหลัง

  มันเป็นสัญชาตญาน

  หลินจีสามารถสัมผัสได้ว่าผู้ที่มาช่วยฉานยู่ต้องมีมากกว่าหนึ่งคนแน่นอน

   งั้นก็ฆ่าคนที่อยู่ด้านหน้าก่อนก็จบเรื่อง! หลินจีกัดฟันและไล่ตามร่างที่อยู่ตรงหน้าไป

  จากนั้น…

  ดวงตาของนางเบิกกว้าง

  เป็นเพราะรางที่พุ่งออกไปกลับยกเท้าขึ้นและเตะมาที่ใบหน้าของนาง

  มันเป็นเรื่องบังเอิญ?

  หรือเป็นการกระทำที่คาดเดาไว้แล้ว

  หลินจีไม่มั่นใจแต่นางมั่นใจว่าลูกเตะนั้นทั้งรวดเร็วและเด็ดขาดราวกับเห็นทุกการเคลื่อนไหวของนาง   บัดซบ… 

  ตูม!

  ร่างกายของหลินจีแข็งค้างขณะที่นางสัมผัสถึงความเจ็บปวดบนใบหน้า

  ตูม!หินแตกออกเป็นชิ้น

  หลินจีถูกส่งกระเด็นไปกระทบก้อนหินจนมันแตกออก!

  แต่นางกลับลุกขึ้นในทันทีและมองไปด้านหลัง

   ไม่มีใครอยู่?!เป็นไปได้ยังไง! หลินจีตกใจมาก นางมั่นใจว่ามีดวงตาคู่หนึ่งมองมาจากด้านหลัง

  อย่างไรก็ตามกลับไม่มีใครอยู่?

  มันไม่ควรจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

  ทหารปีศาจนับพันมองไปยังร่างที่อุ้มฉานยู่เอาไว้

  แสงจันทร์ส่องสว่างยามค่ำคืน

  มันตกกระทบกับชุดคลุมของร่างนั้นบนเสื้อคลุมที่ยาวถึงพื้นมีตัวอักษรคำว่า’เทพเจ้า’อยู่

  ทุกคนต่างตกตะลึง

  สำหรับพวกเขาแล้วคำว่าเทพเจ้าหรือพระเจ้านั้นหมายถึงตัวตนที่อยู่เหนือจินตนการของพวกเขา อย่างไรก็ตามหลังจากที่ประตูเทพเจ้าถูกเปิดออก ความเข้าใจในคำว่าเทพเจ้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทันที

   เทพเจ้า?! 

   ชายคนนั้นอยู่ในระดับเทพเจ้าเช่นเดียวกันงั้นรึ?

   เขาเป็นปีศาจหรืออสูร?

  ทหารปีศาจต่างตกตะลึงพวกเขาไม่มั่นใจว่าตัวตนเทพเจ้าอีกคนได้ออกมาจากประตูแล้วหรือไม่ อย่างไรก็ตามการที่ชายคนนั้นมีพลังพอที่จะทำให้หลินจีบาดเจ็บได้…

   เทพเจ้า?เจ้า…เจ้าเองก็… หลินจีไม่สามารถคาดเดาได้นางอยู่ด้านหลังทำให้ไม่สามารถเห็นใบหน้าของเขาได้ แต่นางก็กระโจนเข้าไปอีกครั้งอย่างไม่ลังเล อย่างไรก็ตามตอนนี้นางเห็นคำว่าเทพเจ้าบนผ้าคลุมของเขาเช่นกัน

  นางหยุดนิ่งทันที

  นางพยายามหยุดความโกรธในใจเพื่อยืนยันตัวตนของเขา

  มันเป็นคำสั่งของหยุนชิงวู

  ไม่ควรมีความขัดแย้งระหว่างระดับเทพเจ้าเกิดขึ้น

   ข้าไม่เคยได้เห็นเรื่องไร้สาระแบบนี้มาก่อนเจ้าบังคับให้ข้าต้องต่อยหน้าที่สวยงามของเจ้า แค่นั้นยังไม่พอเจ้ายังเอาหน้ามาให้ข้าเตะอีกด้วย…เห้อ…เจ้าพยายามทำร้ายตัวเองหรือไงทั้งๆที่ข้าแค่ยื่นเท้าออกไปเฉยๆเท่านั้น  ร่างนั้นพูดพร้อมส่ายหัวขณะมองรอยเท้าบนใบหน้าของหลินจี

   หุบปากบอกชื่อของเจ้ามา เจ้าเป็นปีศาจหรืออสูร? ใบหน้าของหลินจีดำคล้ำลงในทันที แม้ว่านางจะเชื่อฟังคำสั่งหยุนชิงวูและไม่คิดจะมีเรื่องขัดแย้ง แต่มันไม่ได้หมายความว่านางกลัวชายที่อยู่ตรงหน้า อย่างน้อยทั้งสองฝ่ายก็อยู่ในระดับเทพเจ้าเหมือนกัน

  ขณะที่นางพูดนางก็พยายามนึกว่าใครในสงครามโบราณที่มีลักษณะการต่อสู้คล้ายกับชายคนนี้

  อย่างไรก็ตาม…

  นางกลับคิดไม่ออกแม้แต่น้อย

   อยากรู้ชื่อของข้างั้นหรือ?งั้นเจ้าก็ก้มหัวขอร้องข้าสักสามรอบเป็นเยี่ยงไร? 

   ก้มหัวขอร้อง… 

   … 

  ทหารปีศาจที่อยู่รอบๆต่างเบิกตากว้าง

   ท่าน…ท่านเป็นปีศาจหรืออสูร?ทำไมต้องช่วยข้า? สีหน้าของฉานยู่นั่นต่างออกไปจากพวกปีศาจ ในฐานะราชินีนางต้องรู้จักที่จะปกปิดอารมณ์ของตัวเองเอาไว้

  ชายสวมหน้ากากที่ช่วยนางเอาไว้นั้นแข็งแกร่งจริงๆ  อย่างไรก็ตามอย่างที่หลินจีกล่าวตัวตนเช่นนี้ควรจะมาจากประตูเทพเจ้าของปีศาจไม่ก็อสูร

  หรือบางที…

  แม้ฉานยู่จะไม่รู้ว่าแรงจูงใจของหลินจีและชายสวมหน้ากากคืออะไรแต่นี่น่าจะไม่ใช่เรื่องที่เกิดจากแผนการของหยุนชิงวู

   หุบปากถ้าเจ้ายังอยากมีชีวิต ชายสวมหน้ากากไม่ตอบฉานยู่ที่กำลังพยายามดิ้นรนออกไปจากแขนของเขาทันใดนั้นพลังสีดำราวกับเส้นไหมปรากฎขึ้นบนฝ่ามือของเขา

  จากนั้นเมือเขาวางมันลงบนร่างของฉานยู่นางไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ทันที

  ฉานยู่หน้าซีดขาว

  สำหรับหลินจีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทำให้นางประหลาดใจอย่างไรก็ตามมันทำให้นางวางใจขึ้นเล็กน้อย

   เจ้าได้พบกับจักรพรรดินีน้อยแล้วหรือยัง?     ใครคือจักรพรรดินีน้อย? ร่างนั้นถามอย่างแปลกใจพร้อมกับมองดูหลินจีด้วยความรังเกียจ  เจ้ากลายเป็นทาสแล้วงั้นรึ? 

   เยี่ยม!ข้าจะถามเป็นครั้งสุดท้าย เจ้าคือใคร? เป็นอสูรหรือปีศาจ? หลินจีหายใจหอบถี่ นางพยายามยับยั้งความโกรธเอาไว้

   ว้าวเจ้าโกรธงั้นหรือ? แต่เจ้าทำอะไรข้าไม่ได้เลยนะ! โกรธไปแล้วจะได้อะไรกัน?  ชายสวมหน้ากากหัวเราะด้วยความดูถูกอีกครั้ง

   เจ้ากำลังรนหาที่ตาย! ความโกรธของหลินจีระเบิดออกมาอีกครั้ง นางต้องการยืนยันตัวตนของร่างตรงหน้า อย่างไรก็ตามใช่ว่าใครจะทำอะไรกับนางก็ได้

  ในฐานะอสูรโบราณนางไม่อ่อนแอแน่อน

  โดยไม่ลังเล…

  หลินจีกำหมัดแน่นเกล็ดสีดำปกคุลมร่างของนาง

   เดี๋ยวก่อน! ชายสวมหน้ากากโบกมือราวกับเขาไม่ได้มีเจตนาจะต่อสู้กับนาง

   เจ้าเหลือโอกาสสุดท้ายบอกชื่อของเจ้ามา! หลินจีหรี่ตา

   จากลักษณะของเจ้า…น่าจะเป็นผู้หญิงใช่ไหม?โอ้ โอ้ ไม่ เจ้าเป็นอสูรจะบอกว่าเป็นผู้หญิงได้ยังไง น่าจะเป็นสัตว์ตัวเมียมากกว่าหรือเปล่า? ชายสวมหน้ากากยังพูดต่อไปอย่างไม่ใส่ใจ

   ข้าจะฆ่าเจ้า! หลินจีพุ่งไปด้านหน้าอย่างไม่ลังเล

  ทันทีที่นางพุ่งออกไปเกล็ดบนร่างของนางตั้งขึ้นราวกับหนามแหลม

   ฮ่าฮ่า…ใช่แล้วถ้าเจ้าสามารถโจมตีได้ก็ลองดู! ชายสวมหน้ากากหัวเราะอีกครั้ง ผ้าคลุมที่มีคำว่า’เทพเจ้า’ของเขาเด่นชัดท่ามกลางแสงจันทร์

  ……………………………………..

  ��

 

Gate of God

Gate of God

เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads แทงบอลออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน