ฟางเจิ้งจือรู้ดีว่าในฐานะลูกผู้ชายมันก็เหมือนกับคนตายถ้าเขาไม่มีประสบการณ์
อาบน้ำด้วยกัน!
เขาไม่ได้มีความคิดซับซ้อนมากมายน้ำเปล่านั้นมีค่ามากมายขนาดไหน ฟางเจิ้งจือนั้นรู้ดี เช่นนั้นเขาเลยเลือกที่จะใช้ถังอาบน้ำเพียงใบเดียวร่วมกับฉานยู่ นอกจากมันจะช่วยประหยัดน้ำแล้วมันยังช่วยให้เขาและนางสามารถทำความสะอาดร่างกายได้ดีขึ้นด้วย…
…
ขณะที่ฟางเจิ้งจือกำลังทำสิ่งที่ตัวเองคิดว่ามันถูกต้องอีกด้านหนึ่ง กองทัพหนึ่งกำลังยืนอยู่ท่ามกลางหิมะ
ด้านหน้ากองทัพเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่สูงเสียดฟ้ามีดอกไม้สีขาวขึ้นแซมอยู่ประปราย
มู่เอ๋อร์เลือดในร่างกายไม่ใช่เลือดของเจ้าอีกต่อไป เจ้าเข้าใจไหม? หนานกงมู่ที่สวมชุดใหญ่กว่าขนาดตัวเองเล็กน้อยหันไปมองร่างที่ยืนอยู่ด้านข้าง ตอนแรกเสียงของเขาดูเสียใจแต่มันก็เปลี่ยนเป็นแน่วแน่อย่างรวดเร็ว
ข้าเข้าใจแล้ว หนานกงมู่กล่าวด้วยน้ำเสียงอันเย็นชา
แต่หนานกงมู่ไม่ได้มีแค่เพียงความสงบบนใบหน้าอีกต่อไปมันยังซ่อนไปด้วยความเกรี้ยวกราด
ระหว่างการต่อสู้ที่ภูเขาสวรรค์เขาถูกหนานกงเทียนผู้ที่เป็นพ่อแทงเข้าที่หัวใจ และเห็นพี่ชายของเขาตายต่อหน้าต่อตา
ไม่มีใครรรู้ว่าหนานกงมู่ที่ผ่านประสบการณ์อันโหดร้ายเหล่านี้มาได้ยังไงและตอนนี้เขามีความรู้สึกเช่นไร
อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่าร่างกายของหนานกงมู่กลับมาเป็นปกติหลังจากที่ได้ครอบครองหัวใจของหนานกงเฮา
แล้วเจ้ากำลังรออะไรอยู่ทำไมเจ้าไม่ลงมือ? หนานกงเทียนกำหมัดแน่นหลังจากเห็นหนานกงมู่ไม่เคลื่อนไหว
ท่านต้องการจะให้ข้าทำอะไร? หนานกงมู่หันหน้าไปมองพ่อของตัวเอง
ด้วยเหตุผลบางอย่างเขาไม่กลัวพ่อของตัวเองอีกต่อไปอันที่จริงเขาไม่อยากจะได้ยินเสียงพ่อของตัวเองด้วยซ้ำ
อาจจะเป็นเพราะเขามีหัวใจใหม่แล้ว
หัวใจของหนานกงเฮา!
ในตระกูลหนานกงพูดได้ว่ามีเพียงหนานกงเฮาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่กล้าไม่เชื่อฟังคำสั่งของหนานกงเทียน
มู่เอ๋อร์!
มู่เอ๋อร์ฮ่าฮ่า… หนานกงมู่หัวเราะด้วยความเศร้า ท่านพ่อ หนานกงมู่ได้ตายไปแล้วไม่ใช่รึ?
ใช่หนานกงมู่ไม่ใช่หนานกงมู่คนเดิมในอดีตอีกต่อไป
หลังจากหัวใจของหนานกงมู่และหนานกงเฮาถูกผสานเข้าด้วยกันหนานกงมู่…หรืออาจจะกล่าวได้ว่าสัตว์ประหลาดได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
มู่เอ๋อร์ข้าขอโทษ! ถ้าเจ้าจะเกลียดข้า ข้าสามารถตายตรงนี้เลยก็ได้ ข้าเพียงหวังว่าเจ้าจะช่วยเติมเต็มความปรารถนาให้กับตระกูลหนานกง ภารกิจที่ยังไม่สำเร็จของตระกูลหนานกง… มีดสั้นปรากฎขึ้นในมือของหนานกงเทียน
หัวหน้าตระกูล! ผู้คนที่ยืนอยู่รอบๆเต็มไปด้วยความตกใจใบหน้าของพวกเขาซีดขาวเมื่อเห็นมีดสั้นในมือของหนานกงเทียน แต่ไม่มีใครคิดที่จะหยุดเขา
ฉั๊วะ!มีดสั้นถูกแทงเข้าไปที่หน้าอกของหนานกงเทียน เลือดไหลออกมาทันที
นายท่าน!
ตั้งแต่บัดนี้เจ้า…หนานกงมู่จะเป็นผู้นำตระกูลหนานกงคนใหม่! หนานกงเทียนโบกมือหยุดผู้คนรอบๆที่จะเข้ามาช่วยเขา หนานกงมู่ไม่เคลื่อนไหวแม้แต่น้อยมีเพียงความเจ็บปวดปรากฎขึ้นในดวงตาของเขาเท่านั้น
ตึก! เสียงของหัวใจดังขึ้น
ตึกตึก…
ตึก!
เสียงนี้ยังคงอยู่ในหูของหนานกงมู่
เวลาราวกับได้หยุดลง
สายลมที่หนาวเย็นพัดผ่านอย่างไรก็ตามมันกลับไม่สามารถทำให้เลือดอุ่นๆที่พึ่งไหลออกมาแข็งตัวได้
อ๊าก!!!! เสียงคำรามด้วยความเจ็บปวดดังขึ้น แม้แต่ต้นไม้ขนาดยักษ์ก็ต้องสั่นสะเทือนเพราะเสียงนี้
หัวหน้าตระกูล!
พวกเรายินดีรับใช้ท่าน!
ทุกคนต่างแสดงความเคารพต่อหนานกงมู่ไม่มีร่องรอยความเจ็บปวดในดวงตาพวกเขา แต่มันเต็มไปด้วยความเกลียดชังอันรุนแรง
มู่เอ๋อร์… เสียงที่อ่อนแอดังขึ้นอีกครั้ง
ท่านพ่อ! หนานกงมู่คุกเข่าลงต่อหน้าหนานกงเทียน
มู่เอ๋อร์..ตอนนี้เจ้าเป็นหัวหน้าตระกูลหนานกงแล้วเจ้าไม่จำเป็นต้องคุกเข่าให้ข้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เจ้าไม่จำเป็นต้องคุกเข่าให้ใครอีกเพราะว่า…แค่ก…เจ้าถูกลิขิตให้เป็นผู้พิชิตโลกใบนี้!
ท่านพ่อข้าไม่อยากเป็นผู้พิชิตโลกใบนี้ ข้าไม่อยาก!!!!
ข้าเข้าใจตั้งแต่เจ้ายังเป็นเด็ก ข้า…ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ใช่คนที่ชอบแข่งขันกับใคร สิ่งที่เจ้าทำทุกอย่างก็เพียงเพื่อพิสูจน์ความสามารถของตัวเอง…เจ้าเพียงอยากให้ข้าสนใจเจ้า อย่างไรก็ตาม…อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถทำตามความปรารถนาของเจ้าได้
ท่านพ่อ… เจ้าอาจจะไม่เข้าแต่สิ่งที่ข้ากำลังทำ…เป็นการทำให้เจ้าพัฒนาตัวเองขึ้นไป…เฮาเอ๋อร์เองก็เข้าใจ เขา…เขาเองก็ต้องการจะปกป้องเจ้า น่าเศร้าที่…
ท่านพ่อหยุดพูดได้แล้ว!
ไม่ให้ข้าพูดให้จบ สิ่งที่เฮ่าเอ๋อร์ได้สร้างเอาไว้จะไม่เสียเปล่าเพราะเจ้านั้นแข็งแกร่งกว่าเขาแล้ว…แค่ก…เจ้าต้องสามารถช่วยให้ตระกูลหนานกงลบเลือนความอับอายที่เกิดขึ้นที่ภูเขาสวรรค์!
แน่นอนท่านพ่อข้าจะทำ!!
อืมงั้นก็จงทำภารกิจที่พี่ชายของเจ้าทำไม่สำเร็จ ใช้วิชาสังเวยเลือดเพื่อกลืนกินต้นไม้เทพเจ้า จากนั้นเจ้าจะสามารถชนะทุกคน…แค่ก แค่ก…เฮาเอ๋อร์ปฏิเสธที่จะกลืนกินต้นไม้เทพเจ้าเพื่อปกป้องเจ้าเพราะเขารู้ว่าทันทีที่เขากลืนกินมัน ข้าจะต้องผลไม้เทพเจ้าออกมาจากร่างของเจ้าแน่นอน มันเป็นความผิดของข้า…ข้าไม่ควรทำแบบนั้น ข้าน่าจะเชื่อใจเขามากกว่านี้! ท่านพ่อข้าผิดไปแล้ว เพราะข้าดื้อรั้นจนทำให้ท่านไม่มีทางเลือก ข้าไม่ควรจะกินผลไม้เทพเจ้าเข้าไป ไม่อย่างนั้นพี่ชายของข้า…
ไม่เจ้าเข้าใจผิดแล้ว มันเป็นความผิดของข้า ข้ากลัวว่าจะมีเรื่องผิดพลาดเพราะเฮาเอ๋อร์ไม่ทำตามคำแนะนำของข้าโดยการดูดกลืนพลังสายเลือดของฉือกูเหยียน ข้าเกรงว่าเฮาเอ๋อร์จะล้มเหลว ดังนั้นข้าเลยให้เจ้ากินผลไม้เทพเจ้า… ร่างของหนานกงเทียนสั่นไหวก่อนที่เขาจะกระอักเลือดออกมา
นายท่าน! ผู้คนที่อยู่รอบๆต่างคุกเข่าลง
ใบหน้าของหนานกงเทียนนั้นเต็มไปด้วยอารมณ์อันหลากหลายทั้งไม่เต็มใจ เกลียดชัง ผิดหวัง
แต่ตอนนี้…
ทุกอย่างหายไปเหลือแต่การตัดสินใจอันแน่วแน่
มันยังไม่สายเกินไปแม้เฮาเอ๋อร์จะจากไปแล้ว แต่เขาได้ทิ้งทุกอย่างไว้ให้เจ้า ตอนนี้ที่เจ้าต้องทำเพียงแค่กลืนกินต้นไม้เทพเจ้าเข้าไป เชื่อข้า…ฆ่าฟางเจิ้งจือ และเอาผลไม้เทพเจ้ามาให้ได้ จากนั้นก็เปิดประตูเทพเจ้าเพื่อต้อนรับการกลับมาของบรรพบุรุษตระกูลหนานกง เมื่อถึงตอนนั้นแม้แต่อสูรและปีศาจก็ต้องเชื่อฟังตระกูลหนานกงของพวกเรา!
ท่านพ่อ!
จำเอาไว้พวกเราคือคนของตระกูลหยาน…ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นราชันย์แห่งโลกใบนี้! หนานกงเทียนเบิกตากว้างพร้อมกับกล่าวประโยคสุดท้ายออกมา
สายตาของเขามองไปที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ราวกับเขาหวนย้อนนึกถึงการต่อสู้บนภูเขาสวรรค์
นายท่าน!
ท่านพ่อ!
เสียงดังกองไปทั่วท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหิมะ
หลังจากผ่านไปนานหิมะก็ค่อยๆปกคลุมรอยเลือดบนพื้นจนหมด
หยุนชิงวูข้าหนานกงมู่ขอสาบานด้วยสายเลือดของตระกูลหยาน ข้าจะฆ่าล้างเผ่าอสูรและปีศาจให้หมดสิ้น! เสียงของหนานกงมู่เต็มไปด้วยความหนักแน่น
ขณะเดียวกันร่างหนึ่งได้กระโจนขึ้นไปบนอากาศ วิชาสังเวยเลือดขนาดใหญ่ปรากฎขึ้น
ตูม!สายฟ้าสีแดงจากท้องฟ้าผ่าลงบนต้นไม้เทพเจ้า
…
ครึ่งเดือนผ่านไปณ หนองน้ำยักษ์ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แต่เดิมที่เผ่าอสูรถูกจองจำจากโลกภายนอกไว้ที่นี่ ทุกอย่างในตอนนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว
นอกเหนือจากเก้าขุนเขาที่ถูกยึดครองโดยปีศาจและอสูรหุบเขาฟู่ซี่และศาลาเต๋าสวรรค์ยังถูกรุกรานจากตัวตนระดับเทพเจ้า
สามในห้าสำนักใหญ่ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ถูกรุกราน
อย่างไรก็ตามหนองน้ำยักษ์ได้กลายเป็นแกนกลางของสงครามในครั้งนี้
นายน้อยท่านยังไม่มั่นใจงั้นหรือ? ในวังที่ตั้งอยู่กลางหนองน้ำยักษ์ หลินยู่ถามหยุนชิงวูด้วยความระมัดระวัง
ถ้าเขาเป็นเมิ่งเทียนจริงๆเขาน่าจะมาถึงดินแดนศักดิ์ศิทธิ์แล้ว หยุนชิงวูราวกับพูดกับตัวเอง แต่นางกำลังตอบคำถามของหลินยู่
พวกเราได้ส่งสายไปที่ภูเขาหลิงเซียวแล้วถ้าเมิ่งเทียนมาถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์และเจอผู้คนจากศาลาหยินหยางและหุบเขาฟู่ซี่ พวกเราจะได้รับข้อมูลในทันที ยกเว้นว่า… หลินยู่หยุดพูดกลางประโยค
……………………………………..