Gate of God – ตอนที่ 971 ความเงียบที่น่าหวาดกลัว

ตอนที่ 971 ความเงียบที่น่าหวาดกลัว

  จากนั้นเมิ่งเทียนก็เดินตรงไปยังหอคอยหลิงหยุนเขาไม่สนใจเหล่าศิษย์ที่ใบหน้ามีแต่ความว่างเปล่า

   หยุดเดี๋ยวนี้! หลังจากตกตะลึง ศิษย์สิบเอ็ดคนพุ่งเข้าไปหาเมิ่งเทียนอีกครั้ง น่าเศร้าที่เมิงเทียนเดินไปไกลแล้ว

   เขาเร็วมาก?! 

   เป็นไปได้ยังไง?! 

   เขาเป็นตัวตนระดับเทพเจ้าเทพอสูรหรือไม่ก็เทพปีศาจแน่นอน! 

  ศิษย์ทั้งสิบเอ็ดคนต้องการจะไล่ตามไปแต่ความเร็วของเมิ่งเทียนนั้นเร็วเกินไป ในชั่วพริบตาเขาก็ห่างไปเกือบหนึ่งร้อยก้าวแล้ว

  …

  ฟางเจิ้งจือคิดว่าตัวเองให้คำใบ้กับศิษ์หอคอยหลิงหยุนมากพอแล้ว

  อย่างน้อยเขาก็เก็บดาบจากศิษย์ทั้งสิบเอ็ดคนมาเขายังไม่ได้ลงมืออะไรไปมากกว่านั้น

  เช่นจับพวกนางถอดเสื้อผ้า

  อย่างไรก็ตามศิษย์หอคอยหลิงหยุนทั้งสิบเอ็ดคนกลับไม่รู้เลยแม้แต่น้อยพวกนางยังคงไล่ตามเขามาไม่หยุดหย่อน

  เขารู้สึกรำคาญเล็กน้อย

  อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถคาดหวังให้ทุกคนฉลาดแบบตัวเขาได้

  ฟางเจิ้งจือเดินอย่างรวดเร็วและถึงด้านหน้าหอคอยหลิงหยุนที่มีศิษย์รอยกว่าคนรอเขาอยู่แต่ละคนใบหน้าแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการฆ่าที่ชัดเจน

   เมิ่งเทียนพวกเราจะไว้ชีวิตเจ้าถ้าเจ้ายอมเปิดเผยใบหน้าให้พวกเราเห็น!  เสียงหนึ่งดังขึ้นท่ามกลางศิษย์จำนวนมาก

   พวกเจ้าช่วยทำอะไรที่มันสร้างสรรค์กว่านี้ได้ไหม? ฟางเจิ้งจือรู้สึกพูดไม่ออกเล็กน้อย เขาไม่เข้าใจว่าทำไมศิษย์หอคอยหลิงหยุนถึงได้หยิ่งผยองขนาดนี้ มันเห็นชัดกันอยู่แล้วในเรื่องความแตกต่างของพลัง

  ใครเป็นคนทำให้พวกนางมีความมั่นใจขนาดนี้?

   ตาย! การโจมตีที่เตรียมพร้อมมาเป็นอย่างดีได้เริ่มขึ้นทันทีเมื่อคำสั่งได้ดังขึ้น

  พวกนางกระจายตัวออกไปในทุกทิศทางจากนั้นก็เรียงแถวกันโดยมีฟางเจิ้งจืออยู่ตรงกลาง

  เป็นค่ายกลที่ค่อนข้างน่าประทับใจ

  อย่างน้อยทั้งตำแหน่งการยืนและการเคลื่อนไหวล้วนดีเยี่ยมโดยเฉพาะเมื่อหญิงสาวที่สวมกระโปรงเคลื่อนไหว มันราวกับดอกไม้ที่กำลังผลิบาน

  ฟางเจิ้งจือเป็นคนหนึ่งที่รู้จักชมความงามของศิลปะเช่นนั้นเขาจึงยังไม่เคลื่อนไหวในทันที เขารอให้พวกนางยืนกันเข้าที่เข้าทางเสียก่อน

  และสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้น…   เขาคิดว่าเจ้าบ้านน่าจะเดินออกมาหลังจากที่เขาถูกล้อมอย่างสมบูรณ์แล้ว

  เช่นนั้นคนที่เดินออกมาควรจะเป็นเฉียนยู่ผู้ทรงเสน่ห์ที่เขาไม่ได้พบถึงห้าเดือนใช่หรือไม่หรือจะเป็นสาวน้อยปิงหยาง?

  ขณะที่ฟางเจิ้งจือกำลังเตรียมใจร่างหนึ่งเดินออกมาจากหอคอยหลิงหยุนช้าๆ

  ส่วนเอว…

  ค่อนข้างแปลก

  หน้าอก?

  เดี๋ยวๆ?ทำไมถึงไม่มีหน้าอกล่ะ?

  หรือว่าในช่วงห้าเดือนที่ผ่านมาเฉียนยู่ใช้วิธีพิเศษในการบ่มเพาะพลังทำให้ส่วนนั้นของนางหายไป?

   เจ้าเป็นใครกันแน่?! เสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวดังขึ้น ผ่อนกับแสงสีทองที่สว่างจ้า

  ราวกับแสงอาทิตย์ได้ส่องออกมาจากชุดที่ร่างนั้นสวมฟางเจิ้งจือรู้สึกตาของตัวเองพร่ามัวลงเล็กน้อย

  เดี๋ยวก่อน!

  ทำไมเป็นผู้ชาย?

  ทำไมถึงมีผู้ชายอยู่ที่หอคอยหลิงหยุน?

  นี่มันเรื่องบัดซบอะไรกัน!

  ขณะที่ฟางเจิ้งจือกำลังตกตะลึงเขาเลื่อนสายตาขึ้นไปและพบกับใบหน้าที่ค่อนข้างอ่อนเยาว์และคุ้นเคย

   บัดซ…ฝะ..ฝ่าบาท?! ฟางเจิ้งจือเกือบจะสบถออกมาเพราะเขาไม่คาดคิดว่าจักรพรรดิหลินมู่ไป่จะปรากฎตัวขึ้นที่หอคอยหลิงหยุน

  เกิดอะไรขึ้น?

  ไม่ใช่ว่าจักรพรรดิของอาณาจักรเซี่ยควรจะคอยควบควมและตรวจสอบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงงั้นหรือ?

  ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่?

   ข้าคือจักรพรรดิของอาณาจักรเซี่ยถ้าเจ้าคือเทพสงครามจริง เจ้าควรคุกเข่าต่อหน้าข้า! จักรพรรดิหลินมู่ไป่ออกคำสั่งทันที ขณะที่ฟางเจิ้งจือยืนเงียบ

   เอ่อเรื่องนี้… ฟางเจิ้งจือเริ่มเข้าใจสถานการณ์มากขึ้น

  เพื่อจะพิสูจน์ตัวตนของเมิ่งเทียนจักรพรรดิหลินมู่ไป่จึงได้เดินทางจากอาณาจักรเซี่ยมาที่หอคอยหลิงหยุน

   ฝ่าบาทท่านไม่ควรห่วงสถานการณ์ที่เข้าขั้นวิกฤตของอาณาจักรเซี่ยงั้นหรือ แต่ท่านกลับมาอยู่ที่หอคอยหลิงหยุนนี่?  ฟางเจิ้งจือถาม

   ไม่มีสถานการณ์รุนแรงในอาณาจักรเซี่ยทั้งนั้น จักรพรรดิหลินมู่ไป่ขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าเมิ่งเทียนไม่ยินยอมคุกเข่า

  เขาสามารถอ่านสถานการณ์ออกได้ในทันทีอย่างไรก็ตามเขายังคงรักษาท่าทีเงียบสงบเอาไว้

   งั้นรึ?ไม่ใช่ว่าเมืองเกล็ดทองถูกบุกยึดไปแล้ว?  ฟางเจิ้งจือ มองศิษย์ที่อยู่รอบๆแล้วกล่าวออกมา

   มันเป็นเรื่องของอาณาจักรข้าเจ้า…เป็นใครกันแน่? ปีศาจหรืออสูร?  จักรพรรดิหลินมู่ไป่ไม่คิดจะเสียเวลากับฟางเจิ้งจือ

   นามสกุลของข้าคือเมิ่งและชื่อของข้าคือเทียน! ฟางเจิ้งจือตอบโดยไม่ลังเล

   ฮ่าฮ่า…เจ้ายังเสแสร้งเป็นเมิ่งเทียนอีกงั้นรึ? หลิ่นมู่ไป่หัวเราะเยาะขณะที่เอามือทั้งสองขว้างไขว้หลัง

   ท่านจะว่าอะไรไหมล่ะถ้าข้าจะขอดู’ดวงตามงกรมรกต’ที่ท่านซ่อนเอาไว้ด้านหลัง?  ฟางเจิ้งจือเห็นการกระทำของหลินมู่ไป่

   เจ้า…เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้ามีดวงตามังกรมรกต? ท่าทีที่เงียบสงบของหลินเปลี่ยนไปทันที

  แม้เรื่องนี้จะไม่ใช่ความลับใหญ่โตแต่ก็มีไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้

  ยิ่งไปกว่านั้นตัวตนระดับเทพเจ้าของเผ่าปีศาจและอสูรก็พึ่งลงมาจากประตูเทพเจ้าไม่นานคำนึงถึงเรื่องเวลาแล้ว…

  ถ้าเมิ่งเทียนตรงหน้าเป็นปีศาจหรืออสูรก็ไม่น่าจะรู้เรื่องดวงตามังกรมรกต

   นอกจากดวงตามังกรมรกตแล้วข้ายังรู้มากกว่านั้น อย่างเช่นหญิงสาวที่เป็นคนพาปิงหยางหลบหนีคือสนมเฉินเฟยฮัว!  ฟางเจิ้งจือกล่าว

   ฮ่าฮ่า…ข้าเข้าใจแล้วดูเหมือนหยุนชิงวูจะบอกเจ้าทุกอย่างสินะ จักรพรรดิหลินมู่ไป่เริ่มหัวเราะอีกครั้ง

   งั้นฝ่าบาทก็ยังคิดว่าข้าเป็นตัวปลอมอยู่? ฟางเจิ้งจือก้าวไปข้างหน้าและถามอีกครั้ง

   หยุดอยู่ตรงนั้น! ก้าวเล็กๆแต่กลับทำให้ศิษย์ที่อยู่รอบๆตื่นตัวเป็นอย่างมาก

  แสงสีเขียวเข้มสว่างขึ้น

  มันสว่างขึ้นบนตัวของศิษย์ทีละคนทีละคน

  ในเวลาเดียวกันกับที่แสงสีเขียวเข้มกระจายออกไปมีแสงสีเขียวอ่อนที่เต็มไปด้วยจิตสังหารปรากฎขึ้น

   เดี๋ยวก่อนถ้าฆ่าข้าตอนนี้ พวกเจ้าก็จะเสียโอกาสที่จะเข้าใจความจริงของ’เมิ่งเทียน’ไปนะ?  ฟางเจิ้งจือพยายามโน้วน้าวพวกนาง

   หยุดอย่าพึ่งฆ่าเขา!  จักรพรรดิหลินมู่ไป่ยกมือขึ้นพร้อมกับหรี่ตา  ในเมื่อเจ้าไม่ต้องการตาย งั้นตอบคำถามของข้ามา 

   ขอบคุณที่ไม่ฆ่าข้าเชิญฝ่าบาทถามได้เลย  ฟางเจิ้งจือตอบ

   ทำไมเจ้าต้องปลอมเป็นเมิ่งเทียน? จักรพรรดิหลินมู่ไป่ถาม

   ปลอม?ข้าไม่ได้ปลอมเป็นเมิ่งเทียน ข้าคือเมิ่งเทียน ไม่มีเมิ่งเทียนคนไหนจริงไปกว่าข้าแล้ว  ฟางเจิ้งจือพูดความจริง เมิ่งเทียนจำนวนมากในปัจจุบันเขาคิดว่าตัวเองนั้นใกล้เคียงตัวจริงที่สุดแล้ว

   เจ้าอยากตายงั้นรึ? หลินมู่ไป่ถามด้วยน้ำเสียงอันเย็นชา

   ไม่ ฟางเจิ้งจือส่ายหัว

   งั้นตอบข้ามาทำไมเจ้าต้องปลอมเป็นเมิ่งเทียน? 

   ข้าคือเมิ่งเทียน! 

   ดูเมือนเจ้าอยากจะตายจริงๆ! 

   ไม่! 

   งั้นเจ้า… จักรพรรดิหลินมู่ไป่กำลังจะพูดออกไปแต่รอบนี้เขากลับหยุด เขาโกรธที่ต้องพูดคำเดิมซ้ำๆ อย่างไรก็ตามเขารีบข่มความโกรธในใจอย่างรวดเร็วเพราะเหตุผลง่ายๆ

  มีดวงตาคู่หนึ่งจ้องมองเขาอยู่จากด้านหลัง

  เขาจมอยู่ในความเงียบพร้อมกับสูดหายใจลึกๆถ้าเขาไม่สามารถเอาคำตอบได้ เขาก็ควรเปลี่ยนวิธี

   ได้ในเมื่อเจ้าบอกว่าตัวเองคือเมิ่งเทียน งั้นใครที่ปรากฎตัวขึ้นที่ภูเขาหลิงเซียว?  หลินมู่ไป่ถามคำถามที่สอง   แน่นอนว่าเป็นตัวปลอม ฟางเจิ้งจือตอบ

   เจ้าบอกให้ใครสักคนลงมือใช่ไหม? จักรพรรดิหลินมู่ไป่พยักหน้าและถามต่อ

   ไม่ข้าไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวปลอมนั่น  ฟางเจิ้งจือส่ายหัว

   งั้นตัวปลอมคนอื่นๆล่ะ?  ดวงตาของจักรพรรดิหลินมู่ไป่สว่างขึ้น

   คนอื่น…อาจจะทั้งใช่และไม่ ฟางเจิ้งจือตอบตรงๆ

   เจ้าหมายความว่ายังไง? 

   พูดง่ายๆข้าได้ให้คนจำนวนหนึ่งปลอมเป็นข้า อย่างไรก็ตามมีคนกลุ่มอื่นปะปนเข้ามาเป็นเมิ่งเทียนตัวปลอมด้วย เช่นนั้นในตอนนี้ข้าเองก็แยกไม่ออกเช่นกัน 

   เจ้าเองก็แยกไม่ออก? จักรพรรดิหลินมู่ไป่ไม่เข้าใจที่ฟางเจิ้งจือ กล่าว

  ทุกอย่างดูวุ่นวายยิ่งกว่าเดิม

  ชายตรงหน้าที่อ้างว่าเป็นเมิ่งเทียนตัวจริงเขาได้ให้คนจำนวนหนึ่งปลอมเป็นเมิ่งเทียน และมีคนอีกกลุ่มหนึ่งปลอมเป็นเมิ่งเทียนเข้ามาปะปนอีก?

  ถ้าเปรียบเทียบดินแดนศักสิทธิ์ตามปกติเป็นหม้อโจ๊กขนาดใหญ่งั้นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในปัจจุบันคงเทียบได้กับหม้อโจ๊กที่ผสมผักกับสมุนไพรทุกชนิดลงไป

   เอาล่ะข้าตอบคำถามของท่านแล้ว คราวนี้ถึงทีหอคอยหลิงหยุนต้องตอบคำถามของข้าบ้าง  ฟางเจิ้งจือพยักหน้าและเริ่มพูด

   เจ้าอยากรู้อะไร? จักรพรรดิหลินมู่ไป่ขมวดคิ้วและถามออกมา

   ทำไมหอคอยหลิงหยุนถึงไม่เข้าร่วมกับกลุ่มพันธมิตร?พวกท่านตัดสินใจกลับมาที่นี่อีกครั้ง? ดูเหมือนว่ามันจะไม่สอดคล้องกับอุดมการณ์ของทั้งห้าสำนักที่ว่า’ห้าสำนักล้วนอยู่บนรากฐานเดียวกัน’  ฟางเจิ้งจือมองเข้าไปในหอคอยหลิงหยุนขณะถาม

   เจ้ากำลังพูดถึงอะไรหอคอยหลิงหยุนไม่เคยต้องการอยู่ในเส้นทางเดียวกันกับสี่สำนักที่เหลือ มันแค่คำพูดสวยหรูที่สี่สำนักที่เหลือสร้างขึ้น  เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านในหอคอยหลิงหยุน

  จากนั้นร่างหนึ่งที่สวมชุดสีขาวอมเทาได้เดินออกมา

  เฉียนยู่!

  ครั้งหนึ่งนางเคยถูกกักขังไว้กว่าสิบปี

  แน่นอนว่ายังมีอีกร่างอันงดงามยืนอยู่ข้างๆนาง

  สีแดงสดบนตัวนางไม่ได้พบเห็นได้ทั่วไปในหอคอยหลิงหยุนมีเพียงนางคนเดียวที่ชอบสีแดงสด

  ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากปิงหยาง

  เวลาผ่านไปเพียงห้าเดือนแต่นางกลับดูสงบและเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากอย่างน้อยหน้าของนางก็ไม่ได้บึ้งตึงตลอดเวลา

  อย่างไรก็ตามฟางเจิ้งจือรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่ตัวตนที่แท้จริงของนางจะเปลี่ยนไปตามเวลานางกำลังแสร้งทำเป็นเงียบสงบต่อหน้าคนอื่นเท่านั้น

  หรือพูดง่ายๆ…

  นางกำลังแสดงเท่านั้น!

   โอ้ท่านผู้นำหอคอยกล่าวถูกแล้ว ข้าไม่มีข้อโต้แย้ง อย่างไรก็ตามในเมื่อท่านรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้อยู่บนเส้นทางเดียวกันกับสี่สำนักที่เหลือ ทำไมท่านไม่ลองพิจารณาถึงการเข้าร่วมกับข้า เดินบนเส้นทางเดียวกันกับข้า?  ฟางเจิ้งจือยิ้ม

   เส้นทางเดียวกันกับเจ้า?ฮ่าฮ่า… เฉียนยู่หัวเราะราวกับดอกไม้ที่บานอยู่ท่ามกลางหิมะ แม้จะไม่ได้สวยงามมากแต่ดูยิ่งใหญ่

   ผู้นำหอคอยโปรดอย่าเข้าใจผิดข้าไม่ได้หมายถึงเรื่องอย่างว่า!  ฟางเจิ้งจือรู้สึกกระอักกระอวนเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทีมีความสุขของเฉียนยู่

   … 

   … 

  ทั่วทั้งหอคอยหลิงหยุนตกอยู่ในความเงียบทันทีความเงียบที่น่าหวาดกลัว…

  ……………………………………..

 

Gate of God

Gate of God

เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads แทงบอลออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน