ซ่อนรักเคียงบัลลังก์ – ตอนที่ 89-2 คำอวยพรจากใจจริง

ตอนที่ 89-2 คำอวยพรจากใจจริง

เมื่อเสียงเปิดปิดประตูจากประตูหลายๆ บานดังขึ้น ฮเยจินที่อุ้มลูกน้อยไว้ในอ้อมกอดก็เดินเข้ามา กโยรูนที่เกิดเมื่อตอนต้นฤดูฝนอยู่ในอ้อมกอดของฮเยจิน แม้ซังกุงจะห้ามปรามไม่ให้กโยรูนที่เพิ่งเกิดได้ไม่นานนั้นออกไปข้างนอก แต่ฮเยจินก็ปรามพวกนางด้วยสายตาที่ยากจะอธิบาย

ฮเยจินคำนับทำความเคารพทั้งๆ ที่นางอุ้มกโยรูนอยู่ หลังจากนั้นก็ค่อยๆ เดินเข้ามานั่งที่เบาะรองนั่งที่อยู่ในที่ที่ต่ำกว่ากโยซึล ฮเยจินที่มองกโยซึลอยู่ครู่หนึ่งเอ่ยปากพูด

“หม่อมฉันบอกแล้วใช่ไหมเพคะ”

“…เพคะ?”

“หม่อมฉันเคยพูดแล้วมิใช่หรือเพคะ ว่าพระชายาฮวางแทจาก็จะได้อุ้มบุตรเช่นกัน”

ฮเยจินหัวเราะทำให้เห็นฟันขาวของนางโผล่ออกมาระหว่างริมฝีปาก กโยซึลเหม่อมองฮเยจิน นี่เป็นครั้งแรกที่กโยซึลเห็นฮเยจินหัวเราะแบบนี้ เมื่อตั้งสติได้กโยซึลก็พูดขึ้น

“อ้อ เอ่อ ไปๆ มาๆ มันก็กลายเป็นอย่างนี้ไปเสียแล้ว เป็นไปตามที่พระชายาเซจาตรัสไว้จริงๆ เพคะ”

เนื่องจากโยซึลคิดว่าการที่ฮเยจินพูดว่าตนจะได้อุ้มบุตรนั้น เป็นเพียงการพูดเพื่อมารยาท นางจึงไม่ได้เก็บมาคิดอย่างจริงจัง

“ขอแสดงความยินดีด้วยเพคะ” เสียงงึมงำของฮเยจินดังขึ้น

กโยซึลที่ยิ้มให้กับคำพูดแสดงความยินดีนั้นรู้สึกขมขื่นอย่างช่วยไม่ได้ ทุกคนกำลังแสดงความยินดีอย่างจริงใจ แต่ทุกคนกำลังถูกหลอกอยู่ ด้วยความคิดนี้จึงทำให้จิตใจของกโยซึลไม่เป็นสุขนัก

“ทรงรับคำยินดีไว้อย่างสบายใจเถิดเพคะ”

“เพคะ?” กโยซึลกลอกตาด้วยความงงงันในคำพูดของฮเยจินที่ดูเหมือนว่านางจะอ่านใจของกโยซึลที่กำลังยิ้มอยู่ได้

“แม้พระชายาฮวางแทจาจะทรงยิ้มอยู่ แต่ก็ไม่ได้ทรงยิ้มเลยเพคะ อย่าทรงคิดถึงเรื่องอื่นไปเลย ทำตัวให้มีความสุขเถิดเพคะ ทรงเป็นกังวลถึงสิ่งอันใดหรือเพคะ เด็กที่อยู่ในครรภ์เป็นบุตรของพระชายาฮวางแทจาไม่ใช่หรือเพคะ”

“…ใช่แล้ว”

“เช่นนั้นแล้วจะทรงเป็นกังวลเรื่องใด ทรงมีอะไรในใจหรือเพคะ พระชายาฮวางแทจาต้องทำจิตใจให้สบายแล้วเด็กในครรภ์ถึงจะเกิดมาอย่างแข็งแรงนะเพคะ”

สายตาของฮเยจินส่องประกายอย่างมีความหมายลึกซึ้ง ดูเหมือนนางจะรู้อะไรบางอย่าง ฮเยจินที่กำลังมองกโยซึลกระพริบตาอยู่ มองไปที่หนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะเล็กๆ นางยื่นมือออกมาเปิดหนังสือเล่มนั้น

“หนังสือเล่มนี้หม่อมฉันเคยเรียนก่อนหน้านี้เพคะ”

“อ้อ ช่วงนี้หม่อมฉันกำลังเรียนเรื่องของมกกุกจากรูแฮ…ฮวางเซจาอยู่น่ะเพคะ ฮวางเซจาทรงเป็นพ่อทูนหัวให้บุตรของหม่อมฉัน”

“อย่างนั้นหรือเพคะ หม่อมฉันเองก็ได้ยินเรื่องราวของฮวางเซจาจากบินซองบ่อยๆ”

“อย่างนี้นี่เอง”

“พระองค์ทรงเป็นคนที่ดีมากเพคะ เลยคิดว่าหากลูกของหม่อมฉันโตขึ้นก็อยากจะให้เล่าเรียนกับฮวางเซจา”

ฮเยจินพูดไปด้วยพลางลูบแก้มของกโยรูนในอ้อมอกไปด้วย เด็กน้อยรู้สึกตกใจตัวสั่นจึงมุดเข้าไปในอ้อมกอดของมารดา สายตาของฮเยจินที่มองลูกของนางนั้นช่างอ่อนโยน กโยซึลมองฮเยจินพลางลูบท้องของตัวเองไปด้วย นางคิดว่าตัวนางเองกับเด็กที่อยู่ในท้องตอนนี้จะสามารถยิ้มอย่างมีความสุขแบบฮเยจินได้หรือไม่ ในขณะที่กโยซึลกำลังมองฮเยจินอย่างเหม่อลอย เสียงซังกุงก็ดังมาจากประตู

“พระชายาฮวางแทจาเพคะ แทฮวางกุน มู ต้องการเข้าพบเพคะ”

และในตอนนั้นฮเยจินก็ลุกขึ้นพอดี

“หม่อมฉันขอตัวกลับก่อนนะเพคะ ขอแสดงความยินดีกับการตั้งครรภ์อีกครั้งเพคะ ทรงสนทนากับ

แทฮวางกุน มูอย่างไม่ต้องวิตกเถิดเพคะ”

“เพคะ เชิญพระองค์เข้ามาได้”

ฮเยจินทำความเคารพเสร็จก็เดินออกไป หลังจากที่ฮเยจินออกไปแล้วมูก็รีบเดินเข้ามาด้วยสีหน้าตื่นเต้น เขาที่เดินเข้ามาอย่างเร็วๆ ด้วยฝีเท้าเล็กๆ พุ่งเข้าไปกอดกโยซึลที่กำลังนั่งอยู่บนเบาะรองนั่ง

“พระชายาขี้โรค พระชายาขี้โรค”

“แท แทฮวางกุน ทรงเป็นอะไรหรือเพคะ มีเรื่องอะไรหรือ”

กโยซึลตกใจกับการกระทำของมู นางจึงจับมือเขาไว้และลูบหลังเขา มูมุดตัวเข้าไปในอ้อมกอดของ

กโยซึลแล้วพูดออกมาเบาๆ

“อย่าทรงประชวรนะขอรับ ตอนนี้ข้ายังเด็กมากไม่สามารถปกป้องพระชายาขี้โรคได้ ทรงอย่าประชวรนะ”

“แทฮวางกุน…”

“ข้าไปอุทยานดอกไม้มา เสด็จแม่ก็ไปมาด้วย แล้วเสด็จแม่ก็บอกว่าพระชายาขี้โรคไม่สามารถมาที่อุทยานได้อีกแล้ว พอข้าถามว่าทำไม เสด็จแม่ก็ตอบว่าพระชายาขี้โรคต้องดูแลสุขภาพจึงจะทรงประทับอยู่ที่พระตำหนักอย่างเดียว พระชายาประชวรใช่หรือไม่ขอรับ ประชวรไม่ได้นะขอรับ เดี๋ยวมูเป่าให้นะ”

“ท่านมูเป่าให้แล้ว ตอนนี้ก็ไม่เป็นอะไรแล้วเพคะ”

กโยซึลยิ้มให้กับรอยยิ้มอันสดใสของเด็กน้อย การที่นางตั้งครรภ์แล้วค่อยๆ เดินอย่างระมัดระวังนั้น มู

กลับคิดว่านางเจ็บป่วย มูที่กำลังแกว่งหัวไปมาเพราะกโยซึลที่กำลังยิ้มอยู่ เมื่อรู้ว่านางน่าจะหายป่วยแล้วจึงมองไปที่นางแล้วหัวเราะร่าออกมา กโยซึลลูบหัวมูแล้วพูดว่า

“ขอบพระทัยที่เป็นห่วงหม่อมฉันนะเพคะ แทฮวางกุน แต่ว่าหม่อมฉันไม่ได้เจ็บป่วย”

“ไม่ได้ประชวรหรือขอรับ”

“ใช่แล้ว ในท้องนี้มีเด็กน้อยอยู่เลยต้องระวังสุขภาพจึงออกไปข้างนอกไม่ได้น่ะเพคะ”

กโยซึลพูดไปด้วยพลางลูบท้องตัวเองไปด้วย สายตาของมูมองไปที่ท้องของกโยซึล มูที่อยู่นิ่งๆ อยู่ดีๆ ก็ปรบมือขึ้น แล้วลุกขึ้นยืน

“ข้ารู้ มูรู้ อืม เหมือนกับพระชายาเซจาใช่หรือไม่ ถ้าอย่างนั้นท้องของพระชายาก็จะโตขึ้นแบบนี้ใช่หรือไม่” มูใช้มือทำท่าท้องโตที่ท้องของตัวเอง

กโยซึลกลั้นหัวเราะไม่อยู่กับการกระทำของเด็กน้อย และพยักหน้าตอบ

“ว้าว ถ้าอย่างนั้นมูก็จะมีน้องอีกคนใช่ไหมขอรับ เมื่อครู่เห็นพระชายาเซจาอุ้มกโยรูนอยู่ ข้าจะมีน้องแบบกโยรูนอีกคนหรือขอรับ”

“ใช่แล้ว แทฮวางกุนฉลาดหลักแหลมนัก”

มูที่ดูเหมือนจะยิ้มกว้างให้กับคำชมของกโยซึลเดินเข้ามาอย่างรวดเร็วแล้วหยุด จากนั้นจึงค่อยๆ เดินเข้ามาต่อ มูที่ค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้คุกเข่าลงต่อหน้ากโยซึล แล้วจูบไปที่ท้องของนาง

“น้องข้า ได้ยินหรือไม่ อยู่ในนั้นรีบโตไวๆ แล้วรีบออกมานะ มาเล่นด้วยกัน!”

มือเล็กๆ ลูบไปที่ท้องของกโยซึลเบาๆ ในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ทำให้กโยซึลลืมเรื่องอื่นๆ และสามารถหัวเราะได้อย่างมีความสุข

ซ่อนรักเคียงบัลลังก์

ซ่อนรักเคียงบัลลังก์

มีคำสั่งขอตัว อูรึม องค์หญิงหนึ่งเดียวแห่งราชอาณาจักรฮวากุกที่เงียบสงบให้มาอภิเษกสมรสกับ ฮวางแทจา องค์รัชทายาทอันดับหนึ่งแห่งมหาจักรวรรดิมกกุกที่ขึ้นชื่อเรื่องการแย่งชิงอำนาจ

แม้การอภิเษกนี้องค์หญิงอูรึมจะไม่เต็มใจไปแต่ก็เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ กระนั้นชายคนแรกที่เธอได้พบเมื่อมาถึงมหาจักรวรรดิมกุกนั้นกลับไม่ใช่ฮวางแทจา แต่เป็นองค์รัชทายาทอันดับสาม รูแฮ ผู้เป็นน้องชายร่วมสายเลือดของเขา

เมื่อคู่ครองไม่ใช่คนที่รัก และคนที่รักไม่อาจเป็นคู่ครอง เรื่องราวรักสามเส้าของเขาและเธอสามคนในครั้งนี้จะลงเอยกันอย่างไร…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท