พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – ทที่725 คุณแน่ใจเหรอว่าจะสามารถฆ่าฉันได้หรอ

ทที่725 คุณแน่ใจเหรอว่าจะสามารถฆ่าฉันได้หรอ

บทที่725 คุณแน่ใจเหรอว่าจะสามารถฆ่าฉันได้หรอ

“อะไรนะ!!! ชินาธิปเหรอ? ยอดฝีมือแดนปรมาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังนะเหรอ? พระเจ้า ลูกพี่ ทำไมเขาถึงรอพี่อยู่ข้างนอกล่ะ?”

หลังจากที่สงควนได้ยินคำพูดของไออ้วน ก็อุทานออกมาตรงๆ มองไปที่รพีพงษ์ข้างๆด้วยความเหลือเชื่อ

“ฉันฆ่าลูกศิษย์ของเขา เขาน่าจะมาหาฉันเพื่อแก้แค้น”

รพีพงษ์เลิกคิ้ว เขาก็คาดไม่ถึงว่าชินาธิปจะรอเขาที่ข้างนอกคุกที่ห้ามาโดยตลอด ดูเหมือนว่าปรมาจารย์คนนี้จะไม่ใช่แค่เข้าข้างคนของตัวเองธรรมดานะ

ไออ้วนตัวสั่น มองไปที่รพีพงษ์ด้วยความหวาดกลัว และพึมพำว่า: “ฆ่า…..ฆ่าลูกศิษย์ของปรมาจารย์ ลูกพี่ พี่ก็โหด….เกินไปแล้ว”

เดิมทีเขาคิดว่าตัวเองสามารถออกมาพร้อมกับรพีพงษ์ได้ เป็นสิ่งที่โชคดีมาก แต่ตอนนี้เขาได้รู้ว่ายังมีปรมาจารย์อีกคนรอฆ่ารพีพงษ์อยู่ด้านนอก เขารู้สึกเสียใจในทันที

“รพีพงษ์ ศักยภาพของนายเป็นสิ่งที่ฉันเพิ่งเคยเห็นในประวัติศาสตร์ ถ้าหากว่าให้เวลานายสักพัก สามารถก้าวหน้าไปสู่แดนปรมาจารย์ได้อย่างแน่ นายถูกคุมขังไว้ในคุกที่ห้า อาจกล่าวได้ว่าติดคุก มันจะดีกว่าถ้าจะบอกว่านี่เป็นวิธีเดียวที่จะหลบหลีกจากชินาธิป นายสามารถรอจนกว่าก้าวหน้าสู่แดนปรมาจารย์แล้ว ค่อยออกจากที่นี่ไป”สงควนเอ่ยปาก

ไออ้วนพยักหน้า แล้วพูด: “ลูกพี่ เราอย่าออกไปเลยดีกว่า ปรมาจารย์คงจะไม่ได้มาเล่นๆ ถ้าพวกเราออกไปตอนนี้ ไม่แน่อาจถูกชินาธิปฆ่าตายด้วยฝ่ามือเดียว”

รพีพงษ์แสดงสีหน้าครุ่นคิด ชินาธิปตรงมารอที่ด้านนอกคุกที่ห้า โดยที่เขาคาดไม่ถึง

ตอนนี้ความแข็งแกร่งของเขายังอยู่ที่จุดสูงสุดของพลังวิเศษเสนชั้นต้น เพียงแค่ต้องการโอกาส ที่จะสามารถก้าวหน้า ถ้าพลังวิเศษเสนสามารถบรรลุถึงชั้นสูงรพีพงษ์ก็ไม่กลัวชินาธิปแม้แต่น้อย

ตอนแรกเขาคิดว่าหลังจากออกไปข้างนอก ต่อให้ชินาธิปจะตามหาเขา ก็คงต้องใช้เวลาพอสมควร เขาสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อหาวิธีที่จะยกระดับพลังวิเศษเสนให้ถึงชั้นสูง

ใครจะไปคิดว่าชินาธิปเพื่อที่จะล้างแค้นให้ลูกศิษย์ตัวเอง จะตรงมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูคุกที่ห้า เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่ายอดฝีมือปรมาจารย์คนนี้ จะจริงขนาดนี้เพราะเรื่องนี้

ข้อเสนอแนะของสงควนดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้ เพียงแต่ตอนนี้รพีพงษ์ไม่คิดว่าเขาจะไม่มีคุณสมบัติที่จะต่อสู้กับชินาธิป

แม้ว่าระยะทางพลังวิเศษเสนชั้นสูงของเขาจะเหลือโอกาสเพียงครั้งเดียว แต่เมื่อโอกาสนี้มาถึง ไม่มีใครรู้ว่า ในคุกที่ห้าไม่มีคนไหนที่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของเขาแล้ว เขาอยู่ที่นี่ต่อไป มันก็เป็นเพียงการเสียเวลา

ที่สำคัญใครสามารถรับประกันได้ว่าต่อสู้กับชินาธิปในครั้งนี้ ไม่ใช่โอกาสของเขา

การต่อสู้กับยอดฝีมือแท้จริงเท่านั้น ถึงจะเป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการก้าวหน้า

หลังจากผ่านครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง แววตาของรพีพงษ์กลายเป็นแน่วแน่ขึ้นมา สองมือประสานเข้าด้วยกันแล้วเขาก็คำนับให้กับสงควน กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า: “ขอบคุณสำหรับความห่วงใยของผู้คุม แต่ตอนนี้มาถึงที่นี่แล้ว งั้นก็ไม่มีความจำเป็นต้องกลับไปอีก สำหรับความคับแค้นใจระหว่างฉันกับชินาธิป ฉันจะหาวิธีจัดการกับมันเอง”

เมื่อเห็นรพีพงษ์พูดเช่นนี้ สงควนถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ และไม่พูดอะไร แม้ว่าเขาจะหวงแหนความสามารถ แต่รพีพงษ์ยืนยันจะออกไป เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะห้ามอีกต่อไป

เมื่อไออ้วนเห็นหลังจากที่รพีพงษ์รู้ว่าชินาธิปรอข้างนอกแล้วยังจะออกไป ก็กังวลทันที พูดอย่างรวดเร็วว่า: “ลูกพี่ พี่คิดให้ดีๆ พวกเราไม่ได้ออกมาง่ายๆ สุดท้ายกลับถูกปรมาจารย์ฆ่าตาย นี่ไม่คุ้มค่าที่จะได้มาเลย”

“ถ้าหากว่านายกลัว นายสามารถรอออกมาพรุ่งนี้ ไม่ต้องตามฉันมา”รพีพงษ์เอ่ยปาก

หลังจากพูดเสร็จ เขาก็เดินไปด้านนอก

ไออ้วนกัดฟัน สบถอย่างลับๆในใจ: “แม่ง ก็แค่ปรมาจารย์คนเดียว ถ้าไม่ใช่ลูกพี่ ไม่แน่ฉันอาจตายอยู่ในคุกที่ห้าไปตั้งนานแล้ว เวลานี้มาขี้ขลาดตาขาวห่าอะไร”

หลังจากนั้นเขาก็รีบตามรพีพงษ์ เดินออกไปด้านนอก

ผู้คนในอาคารใหญ่ในคุกต่างพากันวิ่งออกมาดู“เน็ตไอดอล”ที่พวกเขาติดตามมากว่าสี่เดือน ผู้คนไม้น้อยต่างก็เสียดาย

ไม่นาน รพีพงษ์และไออ้วนก็มาถึงหน้าประตูอาคารคุก โกรพยืนอยู่ที่นั่น จ้องมองรพีพงษ์อย่างทอดถอนใจ แล้วพูดว่า: “นายเพิ่งมาถึงฉันก็เดิมพันกับอื่นๆว่านายจะมีชีวิตรอดเพียงสิบกว่าวัน คาดไม่ถึงว่านายจะกลายเป็นคนแรกของประวัติศาสตร์ในคุกที่ห้าที่ได้ออกไปข้างนอก ดูเหมือนว่าประเมินนายต่ำเกินไปจริงๆ”

รพีพงษ์ยิ้มให้กับเขา โดยไม่พูดอะไร

“ชินาธิปอยู่ข้างนอก ฉันแนะนำทางที่ดีนายออกไปแล้วก็รีบหนี ไม่อย่างนั้น นายอาจจะโชคร้าย”โกรพพูดเสริม

“ขอบคุณครับ”รพีพงษ์ตอบกลับอย่างสุภาพ

ประตูของอาคารคุมขังค่อยๆเปิดออก รพีพงษ์และไออ้วนยืนอยู่หน้าประตู รู้สึกถึงลมที่พัดมาตรงหน้า รพีพงษ์รู้สึกสดชื่นเล็กน้อย

แม้ว่าไออ้วนจะตั้งหน้าตั้งตารอคอยมานานแล้ว แต่ในตอนนี้เขาไม่สนใจที่จะสัมผัสกับอากาศภายนอกคุก ข้างนอกยังมีปรมาจารย์รออยู่คนหนึ่ง แม้ว่าเขาจะอยากมีความสุขแต่ก็ทำไม่ได้

ด้านหน้าอาคารคุก บนก้อนหินขนาดใหญ่ ชินาธิปกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ด้านบน หลับตานั่งสมาธิ

ทันทีที่ประตูของอาคารใหญ่ของคุกเปิดออก เขาก็ลืมตาทั้งสองข้างขึ้นมาทันที แววตาที่แหลมคมพุ่งออกมา และพลังอานุภาพที่มองไม่เห็นก็แผ่กระจายออกไปยังบริเวณโดยรอบทันที

สายตาของรพีพงษ์จ้องมองไปที่บนตัวของชินาธิป ใส่ชุดผ้าฝ้ายลินิน มองไปที่ชายชราที่หน้าตาธรรมดา ใบหน้าของเขาปรากฏความหนักแน่น คนที่อยู่ตรงหน้านี้ คือปรมาจารย์แท้จริง แดนเครึ่งปรมาจารย์อย่างจรัสเทียบไม่ได้

เขาเดินไปด้านหน้า โดยไม่มีความกลัวใดๆ เขาในตอนนี้ มีความแข็งแกร่งที่จะท้าทายปรมาจารย์

ไออ้วนกลืนน้ำลาย เดินตามไป ตอนนี้เขาหวังเพียงว่าเดี๋ยวตอนที่ชินาธิปลงมือ อย่าได้กำจัดเขาไปพร้อมกัน

หลังจากทั้งสองคนออกมา สงควนนำทีมยอดฝีมือฝ่ายบริหารของเรือนจำ ออกมาถึงข้างนอก ยืนอยู่ข้างหลังรพีพงษ์ในลักษณะที่เป็นหนึ่งเดียวกัน

ไออ้วนพิจารณาอยู่สักพัก สุดท้ายยืนอยู่กับคนของฝ่ายบริหารของเรือนจำ ต่อให้เขาตามรพีพงษ์ไปพร้อมกัน ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้มากนัก

ชินาธิปมองไปที่รพีพงษ์ตั้งแต่หัวจรดเท้า จากนั้นเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงที่เรียบ: “แกก็คือรพีพงษ์เหรอ?”

“ถูกต้อง ปรมาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เพื่อที่จะฆ่าฉัน ยอมรอฉันอยู่นอกคุกเป็นเวลานานเลยนะ ความแค้นนี้ ทำให้คนนับถือจริงๆ”รพีพงษ์เอ่ยปาก

ชินาธิปส่งเสียงเย็นชา เอ่ยปากว่า: “ลูกศิษย์คนเดียวของฉันตายในเงื้อมมือของแก ตามความรู้สึกและเหตุผล ฉันจะต้องแก้แค้นแทนเขา ในเมื่อวันนี้แกออกมา งั้นก็เตรียมตัวตายได้เลย”

“พูดความจริง ถ้าหากคุณไม่รับอนันยชลูกศิษย์คนนี้ บางทีฉันอาจจะเรียกคุณว่าอาจารย์ก็ได้ แต่ว่าคุณไม่เพียงแต่รับเขาเป็นศิษย์ ยังจะแก้แค้นให้เขา ทำให้ฉันรู้สึกว่าคุณมีความสามารถ แต่กลับไม่มีแววในการมองคน”รพีพงษ์เอ่ยปาก

“สำหรับคนที่กำลังจะตาย พูดมากไปมันก็ไร้ประโยชน์”ชินาธิปไม่ได้โกรธเพราะคำพูดของรพีพงษ์

“คุณแน่ใจแล้วเหรอว่า วันนี้จะสามารถฆ่าฉันได้อย่างแน่นอน?”รพีพงษ์มองชินาธิป กระตุกรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นที่มุมปาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท