เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1281

ตอนที่ 1281

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1281 กวาดออกไป

แปลโดย iPAT

แม่น้ำหวนคืน

ยิ่งพวกเขาว่ายไปข้างหน้า ผิวน้ำก็ยิ่งสงบ

อย่างไรก็ตามสำหรับนักว่ายน้ำในแม่น้ำหวนคืน พวกเขากลับรู้สึกว่ากระแสน้ำเชี่ยวกรากมากขึ้นเรื่อยๆ มันท้าทายความคิดที่จะว่ายไปข้างหน้าของพวกเขา

การโจมตีทางร่างกายไม่ใช่สิ่งใด แต่การโจมตีทางจิตใจน่ากลัวมาก

ในตำนาน กระทั่งมนุษย์คนแรกยังล้มเหลวในแม่น้ำหวนคืน แต่ผู้อมตะเหล่านี้กำลังทำสิ่งเดียวกันกับมนุษย์คนแรก

‘บัดซบ! ข้าไปต่อไม่ไหวแล้ว!’ อวี๋อี้เย่ซือถึงขีดจำกัด เขาไม่สามารถว่ายต่อไปและถูกกระแสน้ำพัดพาไปในที่สุด

ผู้อมตะภาคกลางอีกสองคนถูกพัดตามออกไปในเวลาใกล้เคียงกัน

ซือเจิ้งอี้ทุ่มเทความพยายามทั้งหมดแต่ยังล้มเหลวและถูกกวาดออกไป

ปู้เจิ้งซือไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้แต่เขาทำได้เพียงลอยไปตามกระแสน้ำเท่านั้น

ใบหน้าของไป่เฉินเทียนและคนอื่นๆกลายเป็นน่าเกลียดเมื่อผู้อมตะภาคกลางค่อยๆถูกแม่น้ำหวนคืนพัดพาไป

ไม่นานหลังจากนั้นผู้อมตะภาคกลางในแม่น้ำหวนคืนก็เหลือเพียงเว่ยหลิงหยางเท่านั้น

ผู้อมตะระดับแปดย่อมมีพลังจิตตานุภาพที่ไม่ธรรมดา

เว่ยหลิงหยางแสดงให้เห็นถึงรากฐานที่ลึกซึ้งของผู้อมตะระดับแปดออกมาในครั้งนี้

สำหรับผู้อมตะที่ถูกกวาดออกไป พวกเขากลับไปรวมกลุ่มกับไป่เฉินเทียนโดยไม่ถูกปีศาจอมตะเซี่ยหูหรือพังพอนหางสุนัขขัดขวาง

“เหตุใดผู้อมตะของเราถึงถูกกวาดออกมาทั้งหมดแต่พวกเขายังอยู่ในแม่น้ำ?” ผู้อมตะภาคกลางบางคนรู้สึกไม่พอใจกลุ่มของอิงอู๋เซี่ยและฟางหยวน

“เพียงผู้อมตะระดับหกแต่พลังใจกลับน่าตกใจนัก แต่กระทั่งพวกเรายังพ่ายแพ้ พวกเขาจะล้มเหลวในไม่ช้า” ผู้อมตะภาคกลางที่พึ่งถูกกวาดออกมาจากแม่น้ำกล่าว

แต่พวกเขายังไม่เห็นฟางหยวนหรือกลุ่มของอิงอู๋เซี่ยล้มเหลวก่อนที่บางสิ่งจะเกิดขึ้น

หม่าหงหยุนสำลักน้ำและเกือบถูกพัดพาไป

“ระวัง!” ไป่เฉินเทียนอุทาน

อิงอู๋เซี่ยมีความสุขมากแต่ในไม่ช้าหม่าหงหยุนกลับสามารถว่ายน้ำอีกครั้ง

“หญิงผู้นั้น ความมุ่งมั่นของนางก็น่าตกตะลึงเช่นกัน” เหมาหลี่ชิวสามารถมองเห็นรายละเอียด

ในช่วงเวลาสำคัญจ้าวเหลียนหยุนช่วยหม่าหงหยุนให้กลับมาได้อีกครั้ง

ความจริงก็คือเมื่อแม่น้ำหวนคืนกลับสู่สภาวะปกติ กระแสน้ำไม่ได้ท้าทายความแข็งแกร่งทางร่างกายมากนักโดยเฉพาะต้นน้ำที่เริ่มตื่นขึ้นเรื่อยๆ แต่แรงกดดันจากจิตใจของมันกลับรุนแรงมาก

‘หงหยุน เราจะไม่แยกจากกันอีก’

‘เจ้ารู้หรือไม่เพื่อที่จะได้พบกับเจ้าอีกครั้ง ข้าต้องผ่านสิ่งใดมาบ้าง ข้าต้องผ่านความยากลำบากมามากมายเพียงใด?’

จ้าวเหลียนหยุนไม่สามารถส่งเสียงออกมาและทำได้แค่คิด

อย่างไรก็ตามร่างกายแก่ชราของนางกำลังปลดปล่อยพลังที่แม้แต่ตัวนางเองยังไม่อยากจะเชื่อว่านางจะมีออกมา

จ้าวเหลียนหยุนลืมเรื่องความแข็งแกร่งและอายุของนางไปแล้ว นางเพียงต้องการอยู่กับหม่าหงหยุนเท่านั้น

แม้พวกเขาจะต้องว่ายน้ำเพื่อรักษาชีวิตรอดและไม่สามารถแม้แต่จะมองหน้ากัน

แม้นางจะไม่สามารถพูดและมีอันตรายอยู่ด้านหลัง

‘ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายเพียงใด ข้าก็ต้องอดทน ข้าจะใช้ทุกนาทีและวินาทีต่อสู้เคียงข้างกับเขา ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร ข้าก็มีความสุขกับสิ่งนี้!’

หม่าหงหยุนและจ้าวเหลียนหยุนยังเดินหน้าต่อไป แม้พวกเขาจะช้าลง แต่สถานการณ์ยังมีเสถียรภาพ

ไป่เฉินเทียนและผู้อมตะภาคกลางตลอดไปถึงผู้อมตะดำและผู้อมตะคลื่นสมุทร หัวใขของพวกเขาสั่นสะท้านขึ้นด้วยความตกใจ

ปีศาจอมตะเซี่ยหูก่นเสียงเย็น เขาไม่ได้ปกปิดความผิดหวังของตน

ทุกการเคลื่อนไหวในแม่น้ำหวนคืนส่งผลกระทบต่ออารมณ์ความรู้สึกของพวกเขา

‘กระทั่งร่างผีดิบอมตะยังรู้สึกเหนื่อย?’ อิงอู๋เซี่ยรู้สึกขมขื่น

ราชันภูเขาม่วงอยู่บนศีรษะของอิงอู๋เซี่ย บางครั้งเขาร้องไห้และบางครั้งเขาหัวเราะ

‘ข้าเป็นร่างแยกของเทพปีศาจจิตวิญญาณ’

‘ตั้งแต่กำเนิดข้ารู้ว่าข้ามีหน้าที่ของตนเอง’

‘ตอนนี้ท่านสีม่วงบ้าไปแล้ว ข้าทิ้งเขาไม่ได้ มิฉะนั้นเขาอาจสำลักน้ำตาย ข้าคือความหวังเดียวของนิกายเงา’

‘แม้ข้าจะต้องตายเพราะความเหน็ดเหนื่อยอยู่ที่นี่ ข้าก็ไม่สามารถยอมแพ้ เพียงจับจ้าวเหลียนหยุนและหม่าหงหยุน ข้าก็จะสามารถถ่วงเวลาจนกว่าท่านสีม่วงจะฟื้นคืนสติ!’

อิงอู๋เซี่ยกระตุ้นตนเอง

ไป่หนิงปิงกัดฟันแน่น

“ฮ่าฮ่าฮ่า” นางหัวเราะเบาๆด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว อย่างไรก็ตามดวงตาของนางยังเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

‘น่าตื่นเต้น!’

‘นี่มันน่าตื่นเต้นมาก!’

‘ในแม่น้ำหวนคืน ข้าได้พบกับความตื่นเต้นรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน นี่คือเส้นทางที่มนุษย์คนแรกเคยเดิน!’

‘น่าสนใจ นี่มันน่าสนใจเกินไปแล้ว!’

‘ต่อให้ล้มเหลว แต่การเดินทางครั้งนี้ก็ถือว่าคุ้มค่า มันคุ้มที่จะตาย!’

ไห่ลั่วหลันเต็มไปด้วยความโกรธ

‘ข้าจะหยุดอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?’

‘ท่านแม่ ข้ายังไม่ได้ล้างแค้นให้ท่าน!’

‘ข้ายังไม่ได้ฆ่าชายผู้นั้นด้วยมือของข้าเอง!’

‘อ๊าก…’

‘ข้าต้องอดทน…’

อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไป บางคนก็ไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป

‘ความตื่นเต้นของข้าจะจบลงที่นี่งั้นหรือ?’

‘ข้า…ยังไม่ได้…แก้แค้น…’

ไป่หนิงปิงและไห่ลั่วหลันหมดแรงและถูกแม่น้ำพัดพาไป

แต่ปีศาจอมตะเซี่ยหูยังช่วยดูแลความปลอดภัยให้กับพวกเขา

ดังนั้นตอนนี้จึงเหลือเพียงหกคนที่ยังอยู่ในแม่น้ำ

หม่าหงหยุนและจ้าวเหลียนหยุนยังอยู่ด้านหน้าสุด

อิงอู๋เซี่ยและราชันภูเขาม่วงเป็นอันดับสอง

ฟางหยวนอยู่ในอันดับสาม

เว่ยหลิงหยางอยู่ที่สี่

“ยังมีหวัง!” ตอนนี้ความหวังของปีศาจอมตะเซี่ยหูอยู่ที่อิงอู๋เซี่ย

ตราบเท่าที่อิงอู๋เซี่ยจับหม่าหงหยุนและจ้าวเหลียนหยุนได้สำเร็จ ฝ่ายปีศาจอมตะเซี่ยหูจะมีความได้เปรียบ พวกเขาจะสามารถคุกคามกลุ่มของไป่เฉินเทียนรวมถึงพังพอนหางสุนัข

หากหม่าหงหยุนและจ้าวเหลียนหยุนถูกกวาดออกมา ทุกคนจะมีโอกาส การต่อสู้ครั้งใหญ่จะปะทุขึ้นและยังไม่ชัดเจนว่าฝ่ายใดจะได้รับชัยชนะ ทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งและโชคของพวกเขา

‘ท่านเว่ยหลิงหยาง ตอนนี้ขึ้นอยู่กับท่านแล้ว’ ไป่เฉินเทียนคิดและกำหมัดแน่น

พังพอนหางสุนัขหัวเราะ

ดวงตาของมันมองไปที่แม่น้ำและครุ่นคิด

“อา…เกียรติยศของวังสวรรค์…” ครู่ต่อมาเว่ยหลิงหยางก็ถึงขีดจำกัด แม้จะไม่เต็มใจแต่เขาก็ถูกกระแสน้ำกวาดออกไป

ผู้อมตะภาคกลางตกตะลึงไปอย่างสมบูรณ์

บางคนกรีดร้องออกมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “เป็นไปได้อย่างไร? ท่านเว่ยหลิงหยางเป็นผู้อมตะระดับแปด ท่านจะแพ้คนเหล่านี้ได้อย่างไร?”

“การเดินทางในแม่น้ำหวนคืนไม่เกี่ยวกับระดับการบ่มเพาะ มันขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่นเท่านั้น” บางคนอธิบาย

ผู้อมตะภาคกลางเงียบ นี่หมายความว่าความมุ่งมั่นของผู้อมตะระดับแปดที่ยิ่งใหญ่ของภาคกลางยังด้อยกว่าคนเหล่านั้นงั้นหรือ?

ไป่เฉินเทียนกล่าวอย่างช้าๆ “อย่าลืมว่าหม่าหงหยุนกับจ้าวเหลียนหยุนพักบนเนินดินมาก่อนหน้านี้ ตามข้อมูล พวกเขาได้กินผลไม้ไปด้วย ตั้งแต่แรกพวกเขาอยู่ด้านหน้าสุดขณะที่ผู้อมตะคนอื่นๆอยู่ด้านหลังและผ่านการต่อสู้หลายครั้ง ความแข็งแกร่งและความมุ่งมั่นของทุกคนถูกใช้ไปมากแล้ว”

ผู้อมตะภาคกลางเข้าใจในที่สุด

“เป็นเรื่องจริง”

“หากทุกคนมีจุดเริ่มต้นเหมือนกัน ท่านเว่ยหลิงหยางจะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน!”

คำกล่าวของไป่เฉินเทียนกอบกู้ขวัญกำลังใจของกลุ่มผู้อมตะภาคกลางกลับมาได้อีกครั้ง

แต่ไป่เฉินเทียนยังนิ่งเฉย เขารู้สึกหนักใจมาก

‘ตอนนี้เราควรทำอย่างไร?’ ไป่เฉินเทียนลังเล

กลุ่มผู้อมตะภาคกลางมีความเสียเปรียบ

ทางเลือกที่ฉลาดที่สุดคือการล่าถอยและรักษาความแข็งแกรงของพวกเขาเอาไว้ พวกเขาสามารถไปยังสวรรค์สีดำเพื่อรวมกลุ่มกับนักรบหมื่นมังกรและดูว่าพวกเขาจะสามารถใช้คฤหาสน์วิญญาณอมตะสองหลังพลิกสถานการณ์ได้หรือไม่

ทางเลือกอีกสายคืออยู่ที่นี่ต่อสู้กับปีศาจอมตะเซี่ยหูและพังพอนหางสุนัขเพื่อชิงตัวหม่าหงหยุนกับจ้าวเหลียนหยุน

‘เราควรปรึกษาท่านเว่ยหลิงหยางก่อน’ นี่เป็นเรื่องใหญ่เกินไป ไป่เฉินเทียนไม่สามารถตัดสินใจเพราะเขาไม่ใช่ผู้นำกลุ่ม

แต่ในขณะที่พวกเขากำลังรอ การเปลี่ยนแปลงบางอย่างก็เกิดขึ้นในแม่น้ำหวนคืนอีกครั้ง

“ข้า…ต้องไม่แพ้!” อิงอู๋เซี่ยเงยหน้าตะโกน แต่แม่น้ำหวนคืนยังกลืนกินเขาและกวาดเขาออกไป

‘ในที่สุดมันก็จบแล้ว อิงอู๋เซี่ยตายซะ!’ ฟางหยวนกรีดร้องอยู่ในใจ เขารอช่วงเวลานี้มาตลอด

เขาเผชิญหน้ากับอิงอู๋เซี่ยและต่อสู้กันอยู่ในแม่น้ำ นี่ทำให้ความก้าวหน้าของพวกเขาหยุดลง

ร่างทารกอมตะกับร่างผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่ง ปฎิเสธไม่ได้ว่าอิงอู๋เซี่ยเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เขาถูกทุบตีจนกระดูกหัก

แต่ร่างผีดิบอมตะเป็นร่างกายที่ตายไปแล้วตั้งแต่แรก จุดอ่อนเดียของมันคือสมอง

ฟางหยวนเคยอยู่ในร่างผีดิบอมตะมาระยะหนึ่ง เขาเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี แต่อิงอู๋เซี่ยก็ปกป้องศีรษะของเขาเอาไว้และไม่สนใจร่างกายส่วนที่เหลือ

นี่เป็นการตัดสินใจที่ฉลาด

เมื่อเวลาผ่านไปพวกเขาจะถูกกวาดออกจากแม่น้ำขณะที่ปีศาจอมตะเซี่ยหูรวมถึงไป่หนิงปิงและไห่ลั่วหลันรออยู่แล้ว

ท่ามกลางผู้คนทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ ฟางหยวนเป็นคนเดียวที่ไม่มีพรรคพวก

เขาต้องแข่งขันกับเวลา

ฟางหยวนต้องสังหารอิงอู๋เซี่ยและราชันภูเขาม่วงก่อนที่พวกเขาจะถูกกวาดออกจากแม่น้ำหวนคืน

แต่อิงอู๋เซี่ยยังพยายามถ่วงเวลาเพื่อรักษาชีวิตรอด

นั่นทำให้ฟางหยวนไม่สามารถทำสิ่งใด

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads แทงบอลออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน