เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1754 ตัวตนในอนาคตของฟางหยวน

บทที่ 1754 ตัวตนในอนาคตของฟางหยวน

บทที่ 1754 ตัวตนในอนาคตของฟางหยวน

ฟางหยวนขึ้นไปบนเกาะบัวหิน

เมื่อเขาก้าวเข้าสู่เกาะบัวหิน เขาเห็นฉากความทรงจําของเทพปีศาจบัวแดงอีกครั้ง

เขาเคยเห็นสิ่งนี้มาแล้วในชีวิตก่อนหน้า มันเป็นฉากเดียวกันแต่หัวใจของฟางหยวนยังรู้สึกสั่นไหวเล็กน้อย

“เทพปีศาจบัวแดงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจริงๆ เขาเป็นผู้อมตะระดับเก้าแต่เขายังใช้วิญญาณกาลเวลาย้อนกลับมาเกิดใหม่และละทิ้งการบ่มเพาะระดับเก้า”

“แต่หากเขาไม่ทําเช่นนั้น เขาจะไม่สามารถเปลี่ยนประวัติศาสตร์และชดเชยความเสียใจของตนเอง

ดังนั้นในเวลาต่อมาเขาจึงสร้างท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคต ท่าไม้ตายอมตะอัญเชิญอดีต และท่าไม้ตายอมตะสนับสนุนอนาคต”

เกาะบัวหินมีความสามารถในการปกปิด วังสวรรค์จะไม่พบมันโดยง่าย

ในชีวิตก่อนหน้า เมื่อวังสวรรค์พบเกาะบัวหินแห่งหนึ่ง ฟางหยวนทําลายโอกาสของพวกเขาและทําให้ฟงจิวเก้อไม่มีทางเลือกนอกจากทําลายมัน

ฟางหยวนมองสายธารแห่งกาลเวลาและตระหนักถึงบางสิ่ง

“ต้นกําเนิดของสายธารแห่งกาลเวลาควรจะเป็นจุดเริ่มต้นที่โลกใบนี้ถูกสร้างขึ้น

“จุดจบของมันเป็นเวลาที่โลกใบนี้ถูกทําลาย

“แม่น้ำทั้งสายคือประสบการณ์ของคนทั้งโลก มันเป็นตัวแทนของทุกสรรพสิ่งไม่ว่าจะเป็นนก ดอกไม้ ปลา แมลง มนุษย์ สัตว์อสูร พืช และอื่นๆ

“เห็นได้ชัดว่ายิ่งโลกใบนี้อุดมสมบูรณ์เท่าใด สายธารแห่งกาลเวลาก็ยิ่งกว้างใหญ่เท่านั้น ยิ่งสิ่งมีชีวิตลดน้อยลงเท่าใด สายธารแห่งกาลเวลาก็ยิ่งแคบลงเท่านั้น”

ฟางหยวนเป็นกึ่งปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางแห่งกาลเวลา ด้วยแรงบันดาลใจที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน มันทําให้เขาเกิดการตระหนักรู้และเข้าใจเกี่ยวกับการกําเนิดใหม่มากขึ้น

แก่นแท้ของการกําเนิดใหม่ของข้าคือการนําเจตจํานงจากปลายน้ำกลับไปยังต้นน้ำด้วยความช่วยเหลือจากจักจั่นไม้แห่งกาลเวลา จากนั้นเจตจํานงของข้าก็หลอมรวมเข้ากับตัวข้าในช่วงเวลาหนึ่ง”

“ทฤษฎีของเวลาในโลกใบนี้ทําให้มันมีความพิเศษ ไม่มีมิติคู่ขนาน เมื่อข้ากําเนิดใหม่ ปลายน้ำยังเหมือนเดิม หลังจากที่ข้าตาย วังสวรรค์ปกครองโลก”

แต่หลังจากการกําเนิดใหม่ของข้า ข้าเหมือนน้ำหมึกที่หยดลงในน้ำสะอาด ข้าเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์และผู้คน บางสิ่งคงเดิมแต่บางสิ่งจะเปลี่ยนแปลงไป น้ำหมึกจะขยายวงกว้างออกไปก่อนที่แม่น้ำทั้งสายจะถูกย้อมสีไปอย่างสมบูรณ์

“เมื่อน้ำหมึกไปถึงจุดที่วังสวรรค์ฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรมและจัดการแข่งขันใหญ่บนเส้นทางแห่งการหลอมรวม หลายสิ่งหลายอย่างจะเปลี่ยนแปลง อนาคตจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป”

ฟางหยวนเป็นคนข้ามโลก เขามีแนวคิดที่เรียกว่าผลกระทบปีกผีเสื้อ

แต่ตอนนี้ฟางหยวนรู้สึกว่าในโลกใบนี้ ผลกระทบหยดน้ำหมึกสามารถอธิบายการกําเนิดใหม่ของเขาได้ดีกว่า

“แน่นอนว่าข้าสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆได้อย่างง่ายดายเพราะวิญญาณชะตากรรมยังไม่ฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ สิ่งสําคัญที่สุดคือข้าเป็นปีศาจต่างโลกที่สมบูรณ์ วิญญาณชะตากรรมไม่สามารถผูกมัดข้า”

สําหรับเทพปีศาจบัวแดง มันยากที่เขาจะเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่าง การเปลี่ยนแปลงของเขาจะยังนําไปสู่ผลลัพธ์เดิม”

“กล่าวให้ถูกต้องกว่านั้นคือปีศาจต่างโลกเหมือนน้ำหมึกปริมาณมหาศาล ขณะที่ผู้คนของโลกใบนี้เป็นเพียงหยดน้ำหมึก แม้พวกมันจะทําให้เกิดความวุ่ยวายในระยะสั้น แต่ภายใต้การควบคุมของวิญญาณชะตากรรม ทุกอย่างจะกลับคืนสู่สภาพเดิมในที่สุด”

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฟางหยวนรู้สึกชื่นชมเทพปีศาจบัวแดงมากขึ้น

คนผู้นี้ทําให้เกิดสถานการณ์ปัจจุบันแม้เขาจะไม่ใช่ปีศาจต่างโลกก็ตาม ราคาที่เขาต้อจ่ายเพื่อสิ่งนี้คือการเสียสละที่ไม่น่าเชื่อของเขา

มีทรัพยากรอมตะอยู่บนเกาะบัวหินมากมาย ส่วนใหญ่เป็นทรัพยากรอมตะระดับแปด

ความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงอยู่ที่นี่เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีท่าไม้ตายอมตะทุกประเภทที่ใช้วิญญาณกาลเวลาเป็นแกนกลาง

เทพปีศาจบัวแดงทิ้งท่าไม้ตายอมตะไว้ให้กับฟางหยวนเป็นพิเศษ มันคือท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคต มันช่วยให้ผู้อมตะได้รับพลังอํานาจระดับเจ็ดบนจุดสูงสุดในอนาคตของพวกเขา

สิ่งเดียวที่ขาดหายคือวิญญาณความเสียใจ

วิญญาณอมตะระดับแปดดวงนี้ยังอยู่ในถ้ำสวรรค์วาฬมังกรฟ้า มันถูกยึดครองโดยเทพอมตะสวรรค์พิภพ

ในชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนใช้การจัดเตรียมของเทพอมตะสวรรค์พิภพเพื่อรับวิญญาณความเสียใจก่อนจะถูกส่งตัวมาที่เกาะบัวหินแห่งนี้

ตอนนี้เนื่องจากเขารู้ตําแหน่งที่ตั้งของเกาะบัวหิน เขาจึงสามารถมาที่นี่และรับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงล่วงหน้า

ครั้งนี้เร็วกว่าครั้งก่อนมาก

ในชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนเข้าสู่สายธารแห่งกาลเวลาสามครั้ง

ครั้งแรก เขาถูกโจมตีโดยคฤหาสน์วิญญาณอมตะสี่หลังของวังสวรรค์และถูกหลี่ฮวงซุ่มโจมตี เขาสูญเสียคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ไม่สมบูรณ์ที่เขาสร้างขึ้นหลังจากการทํางานอย่างหนัก นอกจากนั้นเขายังเปิดเผยไพ่ตายหลายใบออกมาก่อนจะหลบหนีไป

ครั้งที่สอง ฟางหยวนใช้การจัดเตรียมของเทพอมตะสวรรค์พิภพเพื่อรับวิญญาณความเสียใจและถูกส่งตัวมาที่เกาะบัวหินแห่งนี้

ครั้งที่สาม เขาพบเกาะบัวหินแห่งใหม่ที่วังสวรรค์กําลังจะยึดครอง ด้วยการร่วมมือกับปิงช่ายฉวน ในที่สุดฟงจิวเก้อถูกบังคับให้ใช้เพลงลมมรณะทําลายเกาะบัวหิน ทั้งสองฝ่ายจบลงด้วยการกลับไปมือเปล่า

โดยภาพรวม ประสบการณ์ในสายธารแห่งกาลเวลาของฟางหยวนมีทั้งขึ้นและลง เขาเคยประสบความสําเร็จและล้มเหลว

ตอนนี้ ด้วยความทรงจําที่เขามี ฟางหยวนสามารถลิ้มรสความสําเร็จตั้งแต่ครั้งแรก

“วิญญาณความเสียใจไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ไม่เป็นไร สิ่งสําคัญในตอนนี้คือการบุกแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาของวังสวรรค์ ยังมีเวลาให้ข้ายกระดับวิญญาณอมตะทั้งหมดของข้า”

“ข้าควรใช้ประโยชน์จากท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคตเป็นอันดับแรก”

ฟางหยวนน้ำอิงอู๋เซียและคนอื่นๆออกมา เขาปล่อยให้สมาชิกนิกายเงาฝึกฝนท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคตอยู่ที่เกาะบัวหินแห่งนี้เช่นเดียวกับชีวิตก่อนหน้า

สิ่งที่แตกต่างออกไปคือเทพธิดาเมี่ยวหยินและเทพธิดากระต่ายขาวยังมีชีวิตอยู่

นอกจากนี้ตัวฟางหยวนเองก็สามารถใช้ประโยชน์จากท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคตเช่นกัน

ในชีวิตก่อนหน้าเขาก้าวเข้าสู่ระดับแปดก่อนจะมาถึงที่นี่ ท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคตไม่มีประโยชน์สําหรับเขา แต่ตอนนี้เขายังเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด ดังนั้นเขาจึงสามารถใช้งานท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคต

“เดี๋ยว!”

“บางทีนี่อาจเป็นช่วงเวลาที่แท้จริงที่ข้าควรจะมาถึงเกาะบัวหินแห่งนี้

“เทพปีศาจบัวแดงอนุมานว่าข้าจะมาที่นี่ด้วยการบ่มเพาะระดับเจ็ด นั่นคือเหตุผลที่เขาทิ้งท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคตไว้เพื่อข้า!”

“ในชีวิตก่อนหน้า ข้าคิดว่าเทพปีศาจบัวแดงอนุมานพลาด แต่ตอนนี้ดูเหมือนเทพปีศาจบัวแดงจะพิจารณาเกี่ยวกับการกําเนิดใหม่ของเข้าไว้แล้ว

“นั่นหมายความว่ามรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงไม่ได้ถูกทิ้งไว้ให้ข้าในชีวิตก่อนหน้าแต่มันมีไว้เพื่อข้าในชีวิตนี้!”

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้นอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง

เขาทิ้งกลุ่มของอิงอู๋เซี่ยไว้ที่นี่ขณะที่เขาออกจากเกาะบัวหิน

ฟางหยวนซ่อนตัวและว่ายน้ำไปยังเกาะบัวหินอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ในความทรงจํา

เป้าหมายของเขาคือการยึดครองเกาะบัวหินสองเกาะในการเดินทางครั้งนี้

หลังจากใช้เวลานานและเผชิญหน้ากับอุปสรรคบางอย่าง ฟางหยวนไปถึงจุดหมายในที่สุด

อย่างไรก็ตามเขาไม่พบมัน

“เกาะบัวหินสามารถเคลื่อนที่ ดูเหมือนเกาะบัวหินเกาะนี้จะไม่ได้อยู่ในตําแหน่งนี้ มันแตกต่างไปจากเดิม”

ฟางหยวนไม่รู้สึกหดหูแม้เขาจะไม่ประสบความสําเร็จ

คาดหมายของเขา

วิหารอดีตปัจจุบัน

ส่ซุนจือพบปัญหาเล็กน้อย

อสูรบีบรรพกาลโจมตีวิหารอดีตปัจจุบันแต่มันถูกสังหารด้วยความร่วมมือของสี่ซุนจือ

เกาซุนจือกรีดร้อง “เยี่ยม! เราได้รับทรัพยากรบนเส้นทางแห่งกาลเวลามากมาย!”

“ถูกต้อง” จงซุนจือถอนหายใจ “สายธารแห่งกาลเวลาเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ของผู้อมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาอย่างแท้จริง มันเหมือนภูเขาตงฮันและหุบเขาเหล่าโปที่เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ของผู้อมตะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ”

เซี่ยซุนจือกล่าวเสริม “วังสวรรค์ส่งพวกเรามาเพื่อป้องกันฟางหยวน แต่นี่เป็นโอกาสที่ดีสําหรับการบ่มเพาะของพวกเราเช่นกัน! หากพวกเราได้รับทรัพยากรอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลามากขึ้น การบ่มเพาะของพวกเราจะราบรื่น”

จางซุนจือยิ้ม “ไม่เพียงเท่านั้น ด้วยการคงอยู่ของวิหารอดีตปัจจุบัน เราสามารถเฝ้ามองสายธารแห่งกาลเวลา สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อความสําเร็จบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของพวกเรา”

เกาซุนจือกัดฟันกล่าว “น่าเสียดายที่วิญญาณชะตากรรมไม่สมบูรณ์ ก่อนที่มันจะได้รับบาดเจ็บ ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาจะได้รับประโยชน์มากในการเฝ้ามองสายธารแห่งกาลเวลา พวกเขายังสามารถทํานายอนาคตได้อย่างแม่นยํา”

เซี่ยซุนจือพยักหน้า “ถูกต้อง เทพอมตะกลุ่มดาวทําเช่นนั้นในอดีต แม้นางจะไม่ใช่ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา แต่นางสามารถใช้ทักษะบนเส้นทางแห่งปัญญาเลียนแบบเส้นทางแห่งกาลเวลาและอนุมานเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต นางทํานายว่าพี่น้องทั้งเจ็ดของหลิวกุ้ยจะสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะบ้านเต่าทะเล ด้วยเหตุนี้นางจึงสามารถสร้างกระดานหมากรุกกลุ่มดาว”

สี่ขุนจือรําลึกถึงประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์ของเส้นทางแห่งกาลเวลาก่อนจะดูดซับทรัพยากรและเฝ้ามองสายธารแห่งกาลเวลาต่อไป

สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือฟางหยวนลอบเข้ามาในสายธารแห่งกาลเวลา รับสืบทอดมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง และจากไปแล้ว

ฟางหยวนออกจากสายธารแห่งกาลเวลาผ่านเส้นทางเดิมและกลับไปยังที่ราบภาคเหนือ

เขาออกจากค่ายกลวิญญาณอมตะและกระตุ้นใช้งานวิญญาณท่องแดนอมตะเดินทางไปยังภาคใต้

เหตุใดฟางหยวนจึงสามารถใช้วิญญาณท่องแดนอมตะในเวลานี้?

วิญญาณอมตะทุกดวงมีเพียงหนึ่งเดียว ปัจจุบันวิญญาณท่องแดนอมตะยังอยู่กับฟงจิวเก้อ

คําตอบของคําถามนี้คือฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคต

นี่เป็นท่าไม้ตายอมตะที่ลึกลับมาก มันสร้างร่างมายาของฟางหยวนขึ้นในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

ร่างมายานั่งอยู่กลางอากาศ ร่างกายของมันราวกับสร้างขึ้นมาจากสายธารแห่งกาลเวลา

ร่างมายาร่างนี้มีมิติช่องว่างจักรพรรดิอยู่ในร่างกายของมันเช่นกัน มันคือมิติช่องว่างจักรพรรดิในอนาคตของฟางหยวนที่บรรจุวิญญาณท่องแดนอมตะและวิญญาณอีกมากมายที่เขาครอบครองในอนาคตเอาไว้

ท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคตระดับเจ็ดอนุญาตให้ฟางหยวนก้าวเข้าสู่สถานะผู้อมตะระดับเจ็ดบนจุดสูงสุดในอนาคตของเขา ในชีวิตก่อนหน้า ช่วงเวลาที่ฟางหยวนแข็งแกร่งที่สุดในฐานะผู้อมตะระดับเจ็ดคือก่อนการต่อสู้บนเทือกเขาห้าภูมิภาค

ก่อนหน้านั้นเขาขโมยวิญญาณท่องแดนอมตะมาจากฟงจิวเก้อระหว่างการต่อสู้ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

เขาโจมตีรอยแยกปล้นเงาและลอบทําธุรกรรมกับจื่อชิวหยู

เขาจับเซี่ยซาและผู้อมตะภาคใต้คนอื่นๆ เขารีดไถทรัพยากรจํานวนมากจากกองกําลังใหญ่ของภาคใต้ทั้งหมด

เพื่อต่อต้านวังสวรรค์ เขากลืนกินมิติช่องว่างของเซียชาและก้าวเข้าสู่ระดับแปด

เขาวางกับดักก่อนที่การต่อสู้บนเทือกเขาห้าภูมิภาคจะปะทุขึ้น

หลังจากนั้นฟางหยวนก็เข้าสู่สายธารแห่งกาลเวลา เขาไม่พบเกาะบัวหิน วังสวรรค์ไล่ล่าเขาและทําให้เขาแทบไม่สามารถรักษาชีวิต

ดังนั้นท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคตจึงทําให้ฟางหยวนได้รับความแข็งแกร่งก่อนที่เขาจะกลืนกินมิติช่องว่างของเซียชาเพื่อก้าวเข้าสู่ระดับแปด

ในเวลานั้นเขาเป็นเจ้าของวิญญาณท่องแดนอมตะเรียบร้อยแล้ว

ด้วยการพึ่งพาท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคต เขาสามารถใช้วิญญาณท่องแดนอมตะจากอนาคตเพื่อเดินทางจากภาคเหนือไปยังภาคใต้

แต่เขาไม่ได้ไปที่เทือกเขาห้าภูมิภาค

มรดกห้าภูมิภาคของเต๋จูอาจมีประโยชน์สําหรับเขา แต่เขาไม่ควรเปิดเผยมรดกห้าภูมิภาคในเวลานี้

เนื่องจากการรับสืบทอดมรดกห้าภูมิภาคจะสร้างความโกลาหลครั้งใหญ่ เทือกเขาห้าภูมิภาคต้องถูกทําลายก่อนที่เจตจํานงของเต๋จจะตื่นขึ้นและยอมรับเขา

ฟางหยวนยังเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด แม้เขาจะมีพลังการต่อสู้ระดับแปด แต่มันยังยากที่เขาจะต่อต้านผู้อมตะระดับแปดที่แท้จริง

หากฟางหยวนดึงดูดผู้อมตะระดับแปดหรือคฤหาสน์วิญญาณอมตะเพราะการรับสืบทอดมรดกห้าภูมิภาค เขาอาจพบอันตราย

เพื่อความปลอดภัย เขาจะทิ้งมรดกห้าภูมิภาคไว้ภายหลัง

ครั้งนี้เขาไม่ได้มาภาคใต้เพื่อรับสืบทอดมรดกห้าภูมิภาคแต่เขามาที่หุบเขาธรรมดาแห่งหนึ่ง

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads แทงบอลออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน