ตอนที่ 205: การหมิ่นประมาท
“แม่ อิงกริด หนูรักพวกคุณจัง!” คริสตินาพูดด้วยรอยยิ้มที่สวยงามบนใบหน้าของเธอ ขณะที่เธอกินทาโกะยากิ
ปลาหมึกยักษ์กลายเป็นส่วนผสมที่อร่อยมากเมื่อลูเอนใช้พลัง Qi เชิงลบเพื่อชําระพิษและทิ้ง และเติมพลัง Qi ไว้ในเนื้อของปลาหมึก และทําให้รสชาติและคุณค่าทางโภชนาการมากยิ่งขึ้น ก่อนหน้านี้ ทุกคนเหนื่อยเล็กน้อย แต่เมื่อได้เวลากิน พวกเขาก็รีบกินทันที บางทีอาจจะกินมากกว่าปกติด้วยซ้ำ
ไมร่ายิ้ม “ลูกน่ารักมากรู้ไหม” เธอบีบแก้มของคริสตินา
อิงกริดมองด้วยรอยยิ้ม เธอดีใจที่มันออกมาดี เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอเตรียมทาโกะยากิ
“ลูเอน “อ้า” ” อิงกริดใช้ส้อมจิ้มทาโกะยากิเสียบเข้าปากของลูเอน
“โอ้” ลูเอน เปิดปากและกัดลง
เหตุการณ์นี้ดําเนินไปมากกว่า 10 ครั้ง จนกระทั่งไม่มีใครสามารถทนต่อการถูก “ป้อนอาหาร สุนัข” ได้อีกต่อไป (การแสดงความรักต่อสาธารณชน)
“อิงกริด กินเองเถอะ อย่าเพิ่งให้อาหารพี่ชายฉัน” คาธารีน่าพูด
“โอ้… แต่เขายุ่งกับการทําบาร์บีคิว และฉันก็อยากให้เขาได้กินด้วย” อิงกริด มองเธอด้วยดวงตาไร้เดียงสาของเธอ เธอกระพริบตาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ยังไงก็เถอะ เธอก็ควรต้องกินด้วย” คาธารีน่าตอบ
“เอาละ ไว้ฉันกินทีหลังก็ได้” อิงกริดตอบ
” ทําในสิ่งที่เธอต้องการเถอะ” คาธารีน่าไม่อยากถูกรบกวนโดยคนโง่ที่กําลังหลงในความรักอย่างหัวปักหัวป่าคู่นี้อีกต่อไป
“ลูเอน”
ลูเอนหันไปมองอีเลียส “ว่า?”
“ฉันต้องการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง ฉันทําได้ดี แต่ฉันคิดว่ามันจะง่ายกว่าถ้าฉันต่อสู้กับคนที่แข็งแกร่ง” อีเลีสกล่าว
“นายสามารถเลือกพูห์หรือซุสเป็นคู่ต่อสู้ของนายได้ แต่เตรียมรับความเจ็บปวดเล็กน้อย เพราะพวกเขาไม่ค่อยเก่งในการควบคุมตัวเอง” ลูเอน กล่าวพร้อมคําเตือนในตอนท้าย
“พวกมันแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยเหรอ?” อีเลียสมองดูพวกเขาทั้งสองและไม่ค่อยเชื่อ
“หากพวกเขาใช้กําลังเต็มที่ นายจะตายด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว” ลูเอนกล่าวและถาม “นี่แข็งแกร่งหรือไม่?”
“ใช่ แข็งแกร่งมาก!” อีเลียสพยักหน้า ความกลัวเป็นประกายในดวงตาของเขา
“คนงี่เง่าที่กําลังกลัว” คาธารีน่าเยาะเย้ยเขา
อีเลียสเกาศรษะด้วยความเขินอาย แต่ไม่ตอบ เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วหัวเราะอย่างเคอะเขิน ใช่ เขาทําเหมือนคนงี่เง่าที่กําลังหวาดกลัว…
“คาธารีน่า ” เมื่อเห็นเธอขมวดคิ้ว อีเลียสก็รีบพูด “ช่วยส่งน้ำผลไม้ให้หน่อยได้ไหม”
“นอกจากจะเป็นแมวขี้กลัวแล้ว นายยังขี้เกียจอีกหรอ” คราวนี้คาธารีน่าพูดติดตลก แต่เมื่อเธอไม่แสดงท่าที่ใดๆ เลยอีเลียสก็ลงเอยด้วยการเอาจริงเอาจังและลุกไปหยิบเหยือกน้ำขึ้นมาอย่างงุ่มง่าม
“เดี๋ยวก่อน ฉันไม่ต้องการให้นายคิดว่าฉันใจร้ายแค่ไหนหรอกนะ ฉันจะให้นาย เพราะฉันไม่อยากให้ขาขี้เกียจของนายต้องเริ่มเจ็บ” เธอเยาะเย้ยอย่างสนุกสนาน
“ฮ่าฮ่า ขอบคุณ” อีเลียสหัวเราะอย่างเคอะเขิน
“นายขอบคุณฉันที่เรียกนายว่าขี้เกียจเหรอ” คาธารีน่า เลิกคิ้ว
“ไม่ แน่นอน มันก็แค่… ไม่เป็นไร” อีเลียสถอนหายใจ ในการแข่งขันทางวาจา เขาจะเป็นผู้แพ้เสมอเมื่อพูดกับ คาธารีน่า
ลูเอน เห็นแล้วไม่ได้แสดงความคิดเห็น นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คาธารีน่า ยั่วยุอีเลียสและเขาก็ยอม
“กัปตันอีเลียสกินของจากมือของคุณหญิงคาธารีน่า เมื่อเห็นด้านใหม่ของกัปตัน คนทั้ง 20 คนที่ได้รับการฝึกฝนจากอีเลียสก็ประหลาดใจ เพราะมันแตกต่างจากที่พวกเขาเคยเห็นมาก
“กัปตันต้องชอบเธอแน่ๆ” นั่นคือสิ่งที่พวกเขาคิด
*
[ข่าวล่าสุด: สหรัฐอเมริกาสามารถกําจัดสัตว์ประหลาดที่คุกคามประเทศได้ แม้ว่าจีนจะมีผู้เสียชีวิตจํานวนมาก แต่ประเทศก็ใกล้จะกําจัดมอนสเตอร์ของพวกเขาด้วยเช่นกัน ญี่ปุ่นและเยอรมนีคาดว่าจะสามารถทรงตัวได้ภายใน 1-2 วันอย่างมากที่สุด โศกนาฏกรรมในอินเดียทําให้พวกเขาใช้มาตรการที่รุนแรงมากขึ้น และพวกเขาได้เริ่มฆ่ามอนสเตอร์บางตัวที่ดูเหมือนสัตว์ที่พวกเขาบูชา สหราชอาณาจักรก็ใกล้จะรักษาเสถียรภาพของประเทศและมีอัตราการเสียชีวิตต่ำที่สุดแห่งหนึ่ง…] ประเทศอื่น ๆ ได้รับการระบุเหตุการณ์ไว้ที่ละประเทศ แต่ส่วนที่เหลือทั้งหมดจะใช้เวลาเฉลี่ย 2 ถึง 5 วันในการจัดการกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
บางประเทศเช่นสหรัฐอเมริกา จีน ฯลฯ จัดกลุ่มที่ซ่อนตัวเพื่อช่วยต่อสู้กับสัตว์ประหลาด ความจริงของการมีอยู่ของพวกเขาไม่เป็นประโยชน์สําหรับพวกเขาที่จะซ่อนอีกต่อไป นอกจากนี้ ในไม่ช้าพวกเขาก็ค้นพบว่าพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ส่วนใหญ่มาจากตระกูลที่ซ่อนอยู่เหล่านี้ อย่างน้อยกลุ่มที่มีอํานาจหลายกลุ่มก็เป็นผู้ปกครองประเทศของตน ซึ่งไม่น่าแปลกใจเลยที่กลุ่มเหล่านี้ มีประวัติศาสตร์หลายศตวรรษและความสามารถพิเศษที่ช่วยให้พวกเขาประสบความสําเร็จอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ข้อดีเหล่านี้เริ่มอ่อนแอลงเมื่อวันสิ้นโลกมาถึง
ตอนนี้เรามาพูดถึงครอบครัว ดีมาสกัน: ลูเอน ดีมาส กับครอบครัวของเขาไปที่ไหนกัน พวกเขาเพิ่งซื้อเกาะมา กล้องเฮลิคอปเตอร์พยายามจับภาพของสิ่งที่เกิดขึ้น แต่สิ่งที่พวกเขาเห็นคือโดมที่ล้อมรอบด้วยควันสีเทา ด้วยเหตุนี้เราจึงไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่เราต้องถามตัวเองว่ามีอะไรซ่อนอยู่? ทําไมความลับถึงมากมายเช่นนี้
[เราจะเชื่อได้จริงหรือว่าพวกเขาเป็นผู้กอบกู้ประเทศไม่ใช่ผู้ทําลาย? ฉันหมายความว่า พวกเขากําลังตุนเนื้อมอนสเตอร์ทั้งหมด และดูเหมือนพวกเขาจะรู้มากกว่าที่เราคิด เพราะท้ายที่สุด Online Survival เป็นตัวอย่างของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้)
[บางที่พวกเขาอาจรู้อยู่แล้วว่าสิ่งนี้กําลังจะเกิดขึ้นและกําลังเตรียมพร้อม แต่ทําไมเขาถึงไม่มีมารยาทร่วมกันที่จะแจ้งให้พวกเราทุกคนรู้?]
แน่นอน บางคนเชื่อหลายสิ่งหลายอย่างที่ผู้ประกาศพูด แต่แล้วนักข่าวเรเดร โกลโบ อีกคน ที่อยู่ถัดจากนักข่าวคนนี้แสดงความคิดเห็น: [นี้เป็นการหลอกลวงในส่วนของคุณ! จริง ๆ แล้วเขาไม่ได้พูดเหรอ? จริงหรือ? ลูเอน ดีมาส เคยกล่าวไว้ว่า: ทุกอย่างที่นี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของบางสิ่งที่ใหญ่กว่า และเราจําเป็นต้องอยู่อย่างปลอดภัยและเตรียมพร้อม! ท้ายที่สุดแล้ว เขาไม่ได้ทําให้เกม Online Survival เข้าถึงได้สําหรับทุกคน เพื่อที่เราจะได้เล่นและแข็งแกร่งขึ้นใช่หรือไม่ บอกฉันทีว่าจริยธรรมของคุณอยู่ที่ไหน คุณจะลดระดับตัวเองให้อยู่ในระดับนี้เพียงเพื่อเงินเพียงเล็กน้อย และจบลงด้วยการทําให้ครอบครัวดีมาส ออกจากประเทศและย้ายไปประเทศอื่นหรือไม่?]
[แต่…] นักข่าวอแมนด้ากําลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ถูกเคลเบอร์ขัดจังหวะ
คัท! คัท!
[ไม่ “แต่” อแมนด้า! คุณกําลังขายตัวเองและต้องการทําลายล้างคนที่ทําเพื่อประเทศชาติมามากมาย อแมนด้าดูข่าวที่คุณรายงานเองสิ ถ้าไม่ใช่สําหรับ ลูเอน ดีมาส และครอบครัว บราซิลคงอยู่ในสภาพที่เลวร้ายยิ่งกว่าอินเดีย เราไม่เหมือนกับมหาอํานาจอื่นๆ ในโลก แม้แต่สหรัฐอเมริกาก็ทําได้แค่ทําให้เป็นมาตรฐานในตอนนี้ และคุณกําลังพยายามตัดสินพวกเขาอยู่เหรอ? บอกตามตรง ฉันเบื่อมัน!]
พวกเขาพยายามห้ามคลีเบอร์ไม่ให้พูด แต่มันสายเกินไปแล้ว การถ่ายทอดสดทั้งหมด และในขณะที่ทุกคนสนใจที่จะฟังข่าว ผู้คนจํานวนมากกําลังดูและลงเอยด้วยการบันทึกรายการมันสายเกินไปที่จะเสียใจ
ในทางกลับกัน เคลเบอร์เงยหน้าขึ้นและออกจากการแสดงสด
ผู้คนที่ดูเริ่มคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้: จะเกิดอะไรขึ้นถ้าลูเอน ดีมาส และครอบครัวของเขาต้องการออกจากบราซิล เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งพอที่จะฆ่ามอนสเตอร์กว่าพันตัวในเวลาอันสั้น นี่คือสิ่งที่ไม่ธรรมดา เป็นสิ่งที่ประเทศใด ๆ จะต้องดิ้นรนเพื่อให้ได้มา ถ้าลูเอน ดีมาส บอกว่าเขาต้องการย้ายไปประเทศอื่น พวกเขาจะต้อนรับเขาด้วยอาวุธที่เปิดกว้าง
ความโง่เขลาทางการเมืองของบราซิลมาถึงจุดที่อยากจะเสียสละชีวิตหลายพันชีวิตตราบเท่าที่พวกเขายังอยู่ในอํานาจเพื่อที่พวกเขาจะได้ขโมยเงินจากประชาชนต่อไป มันน่ารังเกียจโดยสิ้นเชิง
บางคนโกรธจัดและพากันไปที่ถนน พวกเขาต้องการยกเลิกการเลือกปฏิบัติที่เรเดร โกลโบ และ ฟอลฮา เดอ เซาเปาโล มีต่อ ลูเอน ดีมาส และครอบครัวของเขา
ขอบคุณที่สนับสนุนการแปลค่ะ
