ตอนที่ 67 เขารู้ได้ยังไง
ถ้าหากผู้ชายในตอนนั้นคือเย่ซื้อเฉินจริง ๆ ถ้า หากถูกเขาจับได้จริง ๆ ! ผลลัพธ์นั้น เธอไม่กล้าแม้แต่จะคิด เป็นลั่วฉิงพบว่ามือ ที่ถือโทรศัพท์อยู่สั่นนิดหน่อย แม้ว่าเธอจะสุขุมขนาด ไหน แต่ตอนนี้ในใจก็สับสนอลหม่าน
“ถงถง ซื้อเฉินโทรมา” เป็นลั่วนิ่งรู้สึกว่าเสียงของ ตนเองสั่นเล็กน้อย
“อะไรนะ? เขาโทรมาตอนนี้? หรือว่าจี้หซีพูดอะไรมั่ว ๆ แล้วเขากลับเกิดสงสัยเข้า?” เห่อถึงถึงตกใจจนพูด ออกมา ตกใจยิ่งกว่าเงินลั่วเฉิง
ถังจื่อโม่ที่นั่งอยู่ด้านหลังได้ยินได้ยินเสียงตกใจของ เห่อถงถง ดวงตากระพริบอย่างรวดเร็ว
“ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจ ฉันโทรกลับหาเขาก่อน เดี๋ยวค่อย โทรหาเธอใหม่” ถึงแม้เป็นลั่วนิ่งจะฉลาดขนาดไหน แต่ ตอนนี้ก็เดาไม่ออกว่าเย่ซื้อเฉินจู่ ๆ ทำไมถึงโทรหาเธอ ตอนนี้
เพราะว่าลูกรักกลับมาพอดี แล้วเย่ซื้อเฉินก็ปรากฏตัวที่ สนามบินพอดี บวกกับจี้หซี เรื่องบังเอิญมากเกินไปจน ทำให้เธอไม่เป็นกังวลไม่ได้
“โอเค เธอโทรกลับหาเขาเร็ว ๆ อย่าเสียเวลานาน ไม่ งั้นเขาจะยิ่งสงสัย” เห่อถุงถุงตอบตกลงติดต่อกัน เธอ
ใจร้อนมาแต่ไหนแต่ไร จึงวางโทรศัพท์ไปก่อน
เป็นลั่วนิ่งสูดลมหายใจเข้า พยายามทำให้จิตใจสงบลงจากนั้นจึงกดโทรออกเบอร์ของเย่ซื้อเฉิน
ซื้อเฉินเห็นเบอร์ที่โทรเข้ามา เขากระพริบตาเล็ก น้อย เมื่อครู่เขาโทรหาเธอ สายของเธอไม่ว่าง เขาคิด ไม่ถึง ว่าเธอจะโทรกลับหาเขาเร็วขนาดนี้ “สามี มีอะไรเหรอคะ?” เมื่อรับสาย เสียงอ่อนโยนของ เธอ เสียงไม่เร่งรีบดังขึ้น
“วันนี้ฉันไปทำงานนอกสถานที่ ไม่กลับบ้านนะ” เสียง ของเย่ซื้อเฉินเคร่งขรึมนิดหน่อย แต่ไหนแต่ไรมาเขา ไม่มีนิสัยรายงานความเคลื่อนไหวของตนเอง แต่เมื่อ ครูไม่รู้ว่าทำไม จู่ๆ ก็ก่อนขึ้นเครื่องก็อยากจะบอกเธอ
สักคำ
“ค่ะ” เมื่อได้ยินแบบนี้ เป็นลั่วนิ่งดีใจมาก เดิมทีนึกว่า เขารู้อะไรแล้ว คิดไม่ถึงว่าจู่ ๆ จะมีข่าวดีแบบนี้ ลูกรักสองคนมาเมือง A ตอนนี้เธอแทบอยากจะบินไป อยู่ข้างลูกๆ ในทันที แต่กังวลว่าจะถูกเย่ซือเฉินจับได้ ดังนั้นจึงไม่กล้าออกนอกบ้าน
ตอนนี้เย่ซื้อเฉินไปทำงานนอกสถานที่ เธอก็สามารถ ไปหาลูกรักทั้งสองได้แล้ว
สำหรับเธอแล้ว ไม่มีข่าวอะไรที่จะทำให้ดีใจได้ขนาดนี้ แล้ว
แต่ว่าดีใจก็ส่วนดีใจ เธอไม่ลืมที่จะระงับความตื่นเต้น
ในเสียงของเธอ
“ดูเหมือนเธอจะดีใจมาก?” อีกด้านนึงของโทรศัพท์ สีหน้าของเย่ซื้อเฉินเคร่งขรึมขึ้น ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าผู้ หญิงคนนี้เมื่อได้ยินว่าเขาไม่กลับไปเหมือนกับดีใจมาก
ๆเวินลั่วฉิงตะลึง ไม่จริงมั้ง ขนาดนี้เขายังฟังออก เธอ ระงับตนเองแล้วแท้ๆ เธอไม่รู้สึกถึงความแปลก ประหลาดใด ๆ เย่ซือเฉินฟังผ่านโทรศัพท์ก็สามารถ ฟังออกได้
เวลานี้เป็นลั่วฉิงคิดได้เพียงอย่างเดียวนั่นก็คือเย่ซื้อ เฉินไม่ใช่คน
“สามีโทรมาหาฉัน ฉันก็ต้องดีใจอยู่แล้วค่ะ” ในเมื่อเขา ฟังออกแล้ว จึงเป็นธรรมชาติที่เป็นลั่วอึ้งจะปิดบังต่อไป ไม่ได้
เพียงแต่ว่า เมื่อเธอพูดจบก็แอบได้ยินเสียงถอนหายใจ ของเย่ซื้อเฉิน คงหมายความว่าไม่เชื่อในคำพูดของ เธอสินะ!
สามีคะ เดินทางปลอดภัย แล้วก็กลับมาเร็วๆ นะคะ” เป็นลั่วนิ่งอารมณ์ดีแล้ว ดังนั้นเรื่องอะไรก็ไม่สนใจ “อืม” เย่ซื้อเฉินตอบรับ จากนั้นก็วางสายโทรศัพท์ไป เพียงแต่หลังจากนั้นเย่ซือเฉินก็กดโทรออกอีกครั้ง “พี่สาม มีเรื่องอะไรเหรอครับ?” จี้หซีรับสายเยซือเฉิน แล้วพูดขึ้น มึนงงเล็กน้อย เขาเพิ่งจะแยกกับพี่สาม พี่ สามโทรมาเพราะมีเรื่องสำคัญอะไรงั้นเหรอ?
“เด็กสองคนนั้นนามสกุลอะไร?” เย่ซื้อเฉินถามขึ้น ตอนที่โทรหาเงินลั่วชิง เขาก็นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้ กระทันหัน
“นามสกุลถัง บังเอิญมาก นามสกุลเหมือนกับพี่ใหญ่ แล้วก็พี่สี่เลย” จี้หซีถึงแม้จะแปลกใจกับคำถามของ เยซื้อเฉิน แต่ก็ตอบกลับอย่างรวดเร็ว เมื่อได้จี้หซีพูดว่านามสกุลเดียวกับพี่ใหญ่ เย่ชื่อเฉินกระพริบตาอย่างเร็ว หวังว่าจะเป็นแค่ความบังเอิญจริง ๆ เพียงแต่เขาจับโทรศัพท์ในมือไว้จนแน่นอย่างไม่รู้ตัว “พี่สาม ทำไมจู่ ๆ พี่ก็ถามคำถามนี้ ผมรู้สึกว่าพี่เหมือน จะสนใจเด็กสองคนนั้นมาก” จี้หซีอดไม่ได้ที่จะถาม ความสงสัยในใจ พี่สามยังไม่ทันได้เจอเด็กสองคนนั้น
ทำไมจู่ ๆ ถึงได้สนใจเด็กสองคนนั้นขนาดนี้ แถมยังตั้งใจโทรมาถามนามสกุลของเด็กสองคนนั้น อีก!
“ไม่มีอะไรแล้ววางแล้วนะ” เย่ซือเฉินไม่ได้พูดอะไรอีก แล้วก็วางสายไป เขารู้สึกว่าเรื่องนี้ยิ่งอยู่ยิ่งซับซ้อน แล้ว
หลังจากเงินลั่วชิงโทรคุยกับเย่ซือเฉินเสร็จ ก็โทรบอก
เห่อถงถง จากนั้นก็ออกจากบ้านไป เมื่อคิดว่าจะได้เจอ ลูกรักสองคนแล้ว เวลานี้เธออยากจะบินไปด้วยซ้ำ เมื่อไปถึงที่ที่ถงถงอยู่ ถงถงก็เพิ่งถึงได้ไม่นาน เวินลั่วฉิงเดินเข้ามาก็เห็นลูกรักสองคน ในใจดีใจเป็น ธรรมชาติ เพียงแต่เมื่อคิดถึงการกระทำที่ใจกล้าของ พวกเขา ก็อดไม่ได้ที่จะเป็นกังวล ครั้งนี้โชคดี ไม่มี เรื่องอะไรเกิดขึ้น แต่ใครจะรับประกันได้ว่าจะโชคดี แบบนี้ทุกครั้ง
ดังนั้นเมื่อเป็นลั่วนิ่งเข้าห้องมา สีหน้าก็ดูเคร่งขรึม เดิมทีเมื่อเห็นเธอ ถังจื่อซีสีหน้าดีใจจนแทบจะพุ่งตัวมา ก็กลับเบะปาก ความเร็วช้าลงอย่างเห็นได้ชัด “พูดมา นี่มันเรื่องอะไรกัน? พวกลูกสองคนทำไมถึง ออกมาข้างนอกในสถานการณ์ที่ไม่มีผู้ใหญ่นำพา? แถมยังนั่งเครื่องบินมาเมือง Aกันเองอีก?” ถึงตอนนี้เงินลั่วชิงยังรู้สึกหวาดกลัวอยู่ ดังนั้นเธอจำป็นต้องให้ ลูกรักสองคนเข้าใจ ว่าพวกเขาทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง มัน อันตรายเกินไปแล้ว
เห่อถงถงที่รักและเอ็นดูเด็กสองคนมาตลอด ต่อให้เด็ก สองคนลำบากแม้แต่นิดเดียวก็รับไม่ไหว แต่ครั้งนี้ อดใจไม่ขอความเมตตาให้เด็กน้อยสองคน เด็กสี่ขวบสองคนทำแบบนี้อันตรายเกินไปจริง ๆ ถ้า ครั้งนี้ไม่พบกับจี้หซี ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น และแน่นอนว่าเพราะพบกับจี้หซีจึงอันตรายขึ้นไปอีก ขั้น สีหน้าของเห่อถงถงเปลี่ยนไปเล็กน้อย นั่นคือเป็น อันตรายกับเธอ..
ถังจื่อโม่ก้มหน้าก้มตา ไม่กล้ามองเวินลั่วฉิง เห็นได้ชัด ว่าเขาสำนึกผิดแล้ว
“มามี อย่าโมโหเลยนะคะ” ถังจื่อซีเดินมาข้างหน้า เงินลั่วชิง ดึงชายเสื้อของเธอ “พี่ชายบอกว่ามามี แต่งงานแล้ว กลัวมามี้จะโดนรังแก ดังนั้นพวกเราเลย มาปกป้องมาม”
เมื่อได้ยินคำพูดของถังจื่อซี เวินลั่วฉิงตะลึงและใจสั่น นิดหน่อย
“เสียงเป่าลมออกจากปาก” เห่อถุงถึงได้สติขึ้น ข่ม อารมณ์ที่ซับซ้อนในใจ แล้วพูดยิ้มขึ้นอย่างตั้งใจ “พวก เธอปกป้องมามี? จะปกป้องมามี้ยังไง?” “ลูกรู้เรื่องที่มามี้แต่งงานได้ยังไง?” เพียงแต่จู่ ๆ
เงินลั่วชิงกลับคิดถึงอีกคำถามหนึ่งขึ้น เรื่องที่เธอแต่ง งานดับเย่ซื้อเฉิน เธอบอกแค่เห่อถุงถุง นอกจากเห่อ ถงถงแล้ว คนที่เธอรู้จักไม่มีใครรู้เรื่องนี้ จื่อโม่รู้ได้ยังไง?
เงินลั่วชิงมองไปทางเห่อถงถง อยากจะรู้ว่าเป็นถุงถง หรือเปล่าที่บอกพวกเขา เพียงแต่เห่อถงถุงกลับส่าย หน้าอย่างเร็ว ใบหน้าเคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย เห็นได้ชัด ว่าเธอก็คิดถึงอะไรบางอย่าง
เป็นลั่วนิ่งในใจเงียบงัน เรื่องที่เธอแต่งงานกับเย่ซือเฉิน แม้กระทั่งรุ่นพี่เธอก็ไม่ได้บอก ไม่ใช่ถงถงบอกพวกเขา ตกลงว่าเด็กสองคนนี้รู้ได้ยัง ไง? เรื่องนี้มันช่าง….