บทที่ 147 ผลจากความโกรธเกรี้ยวของคุณชายสามเย่ (1)
เห็นท่าทีที่เธอพยักหน้า เฉินก็โกรธจนถึงขีดสุด ตอนนี้เขาไม่อยากจะได้ยินเธอพูดอะไรแล้ว เขาเดินไปหา เธอกะทันหัน มือข้างหนึ่งยื่นไปยังทางด้านของเธออย่าง รวดเร็ว เห็นได้ชัดว่าจะจับตัวเธอ
เขาจะจับเธอมาตีแรงๆสักหนึ่งยก
เวินลั่วฉิงตกใจรีบถอยหลัง ด้วยท่าทางที่เร็วกว่าหลบ เข้าไปยังห้องนอนแล้วปิดประตูไว้
“โอ้โห เร็วจังเลย ต้องเคยฝึกมาก่อนแน่ๆเลย “ดวงตา ของเมิ่งโร่ถึงกะพริบด้วยสีหน้าที่ตกตะลึงและนับถือ พี่ สะใภ้ยอดเยี่ยมจริงๆเลย
แต่ว่าความเร็วของพี่สะใภ้นั้นฝึกมาได้อย่างไรกันนะ?
เฉินเคยเห็นเธอมีปฏิกิริยาที่เร็วรวดแล้ว ดังนั้นตอน นี้จึงไม่ได้ประหลาดอะไรนัก เพียงแต่มองประตูที่ได้ปิดไว้ ด้วยสายตาที่ยิบหยี”เปิดประตู”
“ไม่เปิด ฉันก็พูดแล้วว่าจะเก็บเป็นความลับ คุณจำเป็นจะ ต้องฆ่าปิดปากไหม? “ลั่วชิงกั้นประตูห้องไว้ เวลานี้ไม่ สามารถเปิดประตูได้เป็นอันขาด
เฉินตกตะลึงไปชั่วครู่ เขาจะฆ่าปิดปากเธอ? ดวงตาคู่นั้นของเธอเห็นเขาจะฆ่าปิดปากเธอแล้วหรือ?
เขาโมโหจนอยากจะหยิกเธอให้ตาย แต่เกี่ยวอะไรกับฆ่า ปิดปากกันล่ะ?
เธอไม่ใช่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาอาชญากรรม หรือ? เธอไม่ใช่ว่าแค่ดูแวบเดียวก็สามารถมองทะลุ ปรุโปร่งได้มิใช่หรือ? ทำไมเวลานี้กลับดูไม่ออกว่าเขา โมโหเพราะอะไร?
ใช่ เป็นลั่วนิ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาอาชญากรรม เธอไม่เคยทำคดีผิดพลาดเลย แต่ในด้านความรักนั้นเธอ กลับมีความรู้สึกที่เชื่องช้า มู่หรงด้วยหยางพูดเสมอว่าเธอ เป็นปัญญาอ่อนในด้านความรัก
หรืออาจจะตรงกับคำพูดที่ว่า คนเรานั้นไม่มีใครเพียบ พร้อมไปเสียหมดทุกด้าน ซึ่งจะมีความโดดเด่นในด้านหนึ่ง ส่วนอีกด้านหนึ่งอาจจะไม่ได้เรื่องเลย
“ฮ่าๆ ….”เมิ่งโร่ถึงได้ยินคำว่าฆ่าปิดปากจึงอดไม่ได้ที่จะ หัวเราะออกมา แต่ตอนนี้เป็นถั่วนิ่งหลบอยู่ในห้อง จึงไม่เห็น และไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น
“เปิดประตูก่อน”เยสซือเฉินถอนหายใจ พยายามให้น้ำ เสียงของตนปกติที่สุด แต่ก็ยังคงเย็นชาน่ากลัวเหมือนเดิม
ในห้องนอน เวินลั่วฉิงไม่ได้พูดอะไรและไม่ได้เปิดประตู ห้องด้วย
ด้วยท่าทีที่อยากจะฆ่าคนของเขาเมื่อสักครู่นี้ ถ้าเธอเปิด ประตูก็โง่แล้ว
“คุณจะเปิดเอง หรือจะให้ผมเอากุญแจเปิดเอง? “เพลิงแห่งความโมโหที่เยซือเฉินพยายามจะกดเอาไว้นั้น บัดนี้ได้ ลุกขึ้นเป็นไฟเสียแล้ว เสียงนี้ได้ยินแล้วชวนให้ตกใจกลัว เป็นอย่างยิ่ง
เงินลั่วชิงที่ในห้องนอน ได้ยินเสียงของเขาก็รู้สึกใจสั่น เย่ซื่อเฉินมีกุญแจห้อง ดังนั้นเธอล็อคประตูก็ไม่มีประโยชน์ อะไร
เป็นลั่วนิ่งมองหน้าต่างแวบหนึ่งแล้วเดินเข้าไป
เวลานี้เย่ซื้อเฉินกำลังโกรธอยู่ ถึงแม้จะไม่ถึงขั้นฆ่า ปิดปาก แต่เกรงว่า….
ทางที่ดีเธอควรจะหลบไปก่อน และเมื่อเธอออกไปแล้วก็ จะไม่รบกวนพวกเขาทั้งสองแล้ว พอดีกับที่เธอสามารถไปหาเด็กน้อยทั้งสองคนได้
ส่วนเรื่องอื่นรอให้เขาใจเย็นลงแล้วค่อยคุยกันก็ได้ เย่ซื้อเฉินรออยู่ที่หน้าประตูเป็นเวลานานก็ไม่เห็นมีการ
เคลื่อนไหวใดๆเกิดขึ้น ดวงตาเขาแวววาวรีบเอากุญเจไข ประตูออก แต่ภายในห้องนอนไร้ซึ้งเงาของเวินลั่วฉิง ในห้องนอนนั่นนอกจากประตูแล้วก็มีทางออกเพียงทาง เดียวก็คือหน้าต่าง เห็นได้ชัดว่าเธอปืนออกทางหน้าต่างไป
แล้ว
เยซื้อเฉินหรี่ตาขึ้น ซึ่งในแววตากำลังมีเพลิงไฟแห่งความ โกรธลุกไหม้อย่างโชกโชน เขารีบโทรศัพท์ไปหาเธอ แต่ ไม่มีคนรับสาย
เงินลั่วฉิงปืนหน้าต่างหนีไปแล้ว เวลานี้ก็ต้องไม่รับสาย ของเขาอย่างแน่นอน
ดี ดีมาก เขาจะดูสิว่าจะหนีไปไหนได้? หนีได้ชั่วคราว แต่เธอไม่สามารถหนีได้ตลอดชีวิต!
นี่เป็นบ้านของเธอ เธอต้องกลับมาอย่างแน่นอน เขาจะ รอวันที่เธอกลับมา
“พี่สะใภ้ตกใจกลัวพี่หนีไปทางหน้าต่างแล้วเหรอ? “ท่าที
ในเวลานี้ของเมิ่งโร่ถึงเรียกว่า ช็อก พี่สะใภ้ชวนให้ ประหลาดใจเกิดความรู้สึกคาดไม่ถึงยิ่งนัก “พี่ชาย ท่าทางของพี่เมื่อกี้มันน่ากลัวมากเลย เป็นใครก็ ต้องหวาดกลัวกันทั้งนั้นแหละ”
เรื่องนี้ไม่สามารถโทษพี่สะใภ้ได้ ท่าทีของพี่ชายเมื่อสัก ครู่นี่น่ากลัวมาก น่ากลัวจริงๆ
“เก็บข้าวของของน้องแล้วรีบกลับไปซะ” เย่ซือเฉินกวาด สายตามองเธอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง จากนั้นก็ไล่เธอกลับไป
ในบางเรื่องเขายังบอกอะไรเธอไม่ได้ แต่ว่าหากโร่ถึงอยู่ ที่นี่ต่อไปก็จะยิ่งทำให้เธอเข้าใจผิดไปอีก
ปากเมิ่งโร่ถึงกระตุก เพื่อพี่สะใภ้พี่ชายถึงขั้นไล่เธอ ดู ออกว่าพี่ชายแคร์พี่สะใภ้มากขนาดไหน
เมิ่งโร่ถึงรู้สึกว่าก่อนที่จะไปเธอต้องโทรไปคุยกับพี่สะใภ้ ให้รู้เรื่องเสีย และเนื่องจากเรื่องในอดีต เธอจึงไม่สามารถ เปิดเผยสถานะของตนได้ แต่อย่างน้อยเธอก็สามารถ อธิบายอะไรสักนิดหนึ่ง
“สวัสดีค่ะ ฉันคือเมิ่งโร่ถึง “เมื่อรับสาย เมืิ่งโร่ถึงก็กล่าว แนะนำตัว
“คุณเมิ่ง, คุณมีธุระอะไรหรือค่ะ? “เวินรั่วฉิคาดไม่ถึงว่า เพิ่งโร่ถึงจะโทรมาหาเธอ
“มีเรื่องหนึ่งที่ฉันอยากจะอธิบายให้คุณฟังค่ะ ที่จริงแล้ว ฉันกับเยซูเฉินไม่ได้มีความสัมพันธ์อย่างที่คุณคิดค่ะ คุณ เข้าใจผิดแล้วค่ะ”เมิ่งโร่ถึงพูดความในใจของเธอ
เวินลั่วฉิงหยุดชะงัก ดวงตากะพริบไปมา เธอได้เห็นกับ ตาด้วยตัวเองแล้วยังจะไม่ใช่อีกหรือ?
เมิ่งโร่ถึงได้โทรมาอธิบายโดยเฉพาะ อาจเป็นเพราะยัง คงกังวลว่าเธอจะพูดไปเรื่อย ดังนั้นเธอได้คล้อยตามคำพูด ของเมิ่งโร่ถึงแล้วกล่าวว่า”อ่อ ค่ะ ฉันรับทราบค่ะ”
เมิ่งโร่ถึงฟังออกว่าน้ำเสียงของเธอมีความไม่ค่อยอยาก จะเชื่อแล้วพูดลอยๆ แต่ว่าสิ่งที่เธอสามารถพูดได้ก็มีเพียง แค่นี้
“ฉันจะไปแล้ว คุณรีบกลับมาเถอะ”วัตถุประสงค์หลักที่ เมิ่งโร่ถึงโทรไปก็เพื่อให้เธอกลับมาเร็วๆ มิเช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าพี่ ชายจะทำอะไรขึ้นมา
“คุณจะไปแล้ว? “น้ำเสียงของเวินลั่วฉิงยกสูง
เธอตอบสนองอย่างกะทันหันทำให้เพิ่งโร่ถึงต้องหยุด ชะงัก เธอจะไปแล้ว พี่สะใภ้จะตื่นเต้นทำไมนักหนา? คือ อยากจะให้เธอไป? หรือไม่อยากให้เธอไปกันแน่?
“คุณเมิ่ง คุณชายเย่อารมณ์ไม่ดี ถ้าคุณไปแล้ว จะทำอย่างไงดีล่ะ? “เวินลั่วชิงรู้ตัวว่าเมื่อกี้เสียมารยาทพูดเสียง สูงเกินไปแล้ว ตอนนี้จึงรีบปรับเสียงให้เป็นปกติ
“คุณสามารถกลับมาอยู่เป็นเพื่อนกับเขานิ….”ดวงตา ของเมิ่งโร่ถึงแวววาว อะไรคือเรียกว่าเธอไปแล้วก็ไม่ สามารถจัดการเรื่องนี้ได้แล้ว?
“ฉันกลับไปก็ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ คุณก็เห็น สถานการณ์ในตอนเช้าแล้ว ฉันกลับไปก็ยิ่งจะทำให้เรื่อง ใหญ่โตขึ้นไปอีก มีแต่คุณที่สามารถเอาเขาให้อยู่ได้ ค่ะ”เงินลั่วฉิงนึกถึงท่าทางของเย่ซือเฉินในตอนเช้าก็ยังคง รู้สึกหวาดกลัวอยู่ไม่น้อย
ถ้าเวลานี้เมิ่งโร่ถึงจากไป เมื่อเธอกลับไปก็ต้องถูกเยชือ เฉินคิดว่าเธอบีบคั้นให้เมิ่งโร่ถึงออกไปอย่างแน่นอน
เธอไม่กล้าคิดว่าผลมันจะเป็นอย่างไร
ปากของเมิ่งโร่ถึงขยับ คำพูดนี้ของพี่สะใภ้ทำให้เธอไม่ สามารถแบกรับไว้ได้ คนที่สามารถเอาพี่ชายให้อยู่หมัดก็มี เพียงพี่สะใภ้คนเดียวเท่านั้นเอง
แต่เห็นได้ชัดว่าพี่สะใภ้ไม่เข้าใจจุดนี้เสียเลย
“แล้วคุณว่าจะทำอย่างไงดีล่ะค่ะ? “เมิ่งโร่ถึงอยากฟังพี่ สะใภ้บอกว่าจะให้เธอทำยังไงกันแน่?
“คุณอย่าเพิ่งรีบไป สองสามวันนี้ฉันมีธุระนิดหน่อยยังไม่ กลับไป ฉันยังมีธุระอยู่ แค่นี้ก่อนนะคะ” เวินลั่วฉิงพูดจบ ไม่ รอให้เมิ่งโร่ถึงปฏิเสธก็วางสายเลย
เมิ่งโร่ถึงมองมือถือที่ถูกวางสาย ไม่เข้าใจในเหตุการณ์อยู่ตั้งนาน นี่มันเกิดอะไรขึ้น? เธอจะไปหรือไม่ไปดีนะ?
เธอรู้สึกว่าถ้าเธอไปอย่างนี้ พี่สะใภ้ก็จะเข้าใจผิดอย่าง ถาวร แล้วพี่ชายเธอจะพบเจอฟ้าหลังฝนที่สดใสได้ อย่างไรกัน?
ดังนั้นสุดท้ายแล้วเมิ่งโร่ถึงจึงตัดสินใจอยู่ต่อ อยู่ช่วยพี่ ชายของเขา และแน่นอน สิ่งสำคัญคืออยู่รอดูเหตุการณ์ที่ น่าสนใจนั่นเอง