บทที่ 207 คุณชายสามเย่เป็นคนใจดำอำมหิต (2)
เวินลั่วฉิงหยุดชะงัก ที่เธอบอกว่าจงใจนั้นหมายถึงเรื่องที่ กำลังคุยกันอยู่นี้ แต่เชื่อเงินกับดึงเอาต้นเหตุของเรื่องมา พูด เห็นได้ชัดว่าเขากำลังพูดเรื่องที่เกิดขึ้นในห้างสรรพ สินค้าอยู่
“ฉัน….”เวินลัวฉิงแอบถอนหายใจ ไม่มีอะไรจะโต้ตอบ
เห็นสีหน้าของเขาแล้ว เป็นลั่วชิงบิดมุมปากขึ้นอย่างหมั่น
ใส้ว่าเขากำลังเสียใจอะไรอยู่กันแน่?
แต่ตอนนี้เธอมีความทุกข์ใจแต่ยากจะพูดได้
“แต่ตอนนั้นคุณก็ไม่จำเป็นต้อง….”ตอนนั้นเวินลั่วฉิงคิด
ไม่ถึงว่าเขาจะจูบเธอจริง ถ้ารู้ก่อนล่วงหน้า ให้ตายเธอก็จะ ไม่ไปทำท่ายั่วเขาเด็ดขาด
“คุณเป็นคนเริ่มก่อนนะ! “เพียงแต่ว่าเธอยังไม่ทันพูดจบ เย่ซื้อเฉินก็เอ่ยปากพูดเน้นย้ำคำพูดเมื่อกี้อีกครั้ง
“ฉันรู้ ฉันรู้ ฉันหมายถึงตอนนั้นคุณสามารถใช้วิธีอื่นได้ นิ..”เวินลั่วฉิงอธิบายด้วยความอดทน แต่ปกติเป็นคนที่ ฉลาดเฉลียวอย่างเธอเหมือนจะไม่รู้ว่า ตอนนี้ถึงเธอจะโต้ แย้งกับเขายังไงก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย
ส่วนเยชื่อเฉินนั้นมีเจตนาจะจงใจแกล้งอย่างเห็นได้ชัด!เป้าหมายคือ..
“เพราะคุณเริ่มก่อนนะ”ครั้งนี้ก็เช่นกัน เย่ซื้อเฉินไม่ให้เธอ พูดจบ ยังคงเน้นย้ำประโยคเดิมด้วยสีหน้าที่บริสุทธิ์ใจและ ด้วยน้ำเสียงที่เสียใจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม
“เย่ซื่อเฉิน คุณเป็นนกแก้วหัดพูดเหรอ พูดซ้ำไปซ้ำมาอยู่ ได้ พูดอย่างอื่นไม่เป็นแล้วหรือ ถึงแม้ฉันจะเป็นคนเริ่มก่อน แต่คุณก็ไม่จำเป็นต้องจูบฉันต่อหน้าผู้คนก็ได้ไหม ตอนนี้ กลายเป็นเรื่องที่ไม่สามารถกู้กลับมาได้แล้ว” เวินลั่วฉิงคิดว่า ตัวเองสงบพอแล้ว แต่เวลานี้รู้สึกคุมตัวเองไม่อยู่เล็กน้อย น้ำ เสียงถึงได้สูงขึ้นมาหลายระดับ
“ภรรยาผมยั่วผมในที่สาธารณะ ถ้าผมไม่แสดงท่าทีให้ เข้ากันหน่อย คนอื่นเห็นแล้วจะคิดยังไง? “เย่ซื้อเฉินมองเธอ เพื่อให้เธอรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ควรจะเป็น
“เวินลั่วฉิงหยุดชะงัก เขาพูดอย่างนี้เหมือนจะมี เหตุผลนะ! แต่นาทีต่อมา เมื่อเป็นลั่วฉิงคิดทันเขา โอ๊ย! เธอเกือบจะ
หลงกลเขาแล้วไหมล่ะ
“ใครจะรู้ว่าฉันเป็นภรรยาของคุณ? ใครรู้บ้าง? “เวินลั่วฉิ งอยากจะให้ตัวเองสงบที่สุด จึงแอบสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหวจนตะคอกออกมา
เธอกับเขาแอบแต่งงานกับลับๆ ไม่เคยประกาศบอกคน อื่น นอกจากเธอกับเขา ใครจะรู้เรื่องนี้? ไม่มีเลยสักคนเดียว เขาจะกังวลหาสวรรค์วิมานอะไรกัน?
“วางใจได้ ไม่นานทุกคนก็ต้องรู้กันหมดแล้ว” เย่ซือเฉิน เสริมอีกหนึ่งประโยคด้วยท่าทีที่ไม่เร็วและไม่ช้า
“.”เวินลั่วฉิงตกตะลึงดวงตากะพริบ เข้าใจว่าสิ่งที่พวก เขากำลังถกเถียงกันอยู่นั้นไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง สิ่ง สำคัญในตอนนี้ก็คือหาวิธีแก้ไขต่างหาก
“สามีค่ะ”จู่ๆเป็นลั่วงก็จ้องมองเขาด้วยน้ำเสียงที่อ่อน
โยน
“อืม? “เย่ซื่อเฉินขานตอบด้วยเสียงต่ำทุ้ม มุมปากยกขึ้น อีกครั้งแต่สีหน้าไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ เขาอยากจะรู้ว่า เธอจะพูดอะไรต่อ?
“คุณสามารถกลบข่าวให้เงียบได้ไหมค่ะ? “ตอนนี้ เงินลั่วชิงรู้ว่ามีทางออกเดียว ซึ่งก็คือให้เขาลบข่าวพวกนี้ลง ไปให้หมด
หางคิ้วของเยซื้อเฉินยกขึ้นเล็กน้อย เธอยังกล้าคิดที่จะให้ เขากลบข่าวนี้ลงเหรอ?
เป็นไปได้เหรอ?
ตอนนี้เขาอยากจะให้คนทั้งโลกด้วยซ้ำ!
“หรือไม่คุณก็บอกผมก่อนว่าคุณกำลังกลัวอะไรอยู่? ดวงตาขนาดนี้ของเย่ชือเฉินลุ่มลึกมาก เธอกลัวข่าวนี้จะแพร่ ออกไปเพราะอะไรกัน? หรือกลัวใครจะเห็นเข้า?
“กลัวคุณปู่เห็นไง” เวินลั่วฉิงบิดปากเล็กน้อย แอบถอน หายใจหนึ่งครั้ง
เธอจะกลัวอะไรได้? ก็ต้องกลัวคุณปู่จะเห็นเข้า เมื่อนึกถึง คำพูดที่คุณปู่เคยพูด แล้วนึกภาพตอนที่คุณปูรู้เรื่องนี้ เธอก็ รู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที
“คุณปู่น่ากลัวขนาดนั้นเลยหรือ? “เย่ซื้อเฉินหยุดชะงัก ความกลัวจะได้รับคำตอบที่ไม่อยากจะฟังได้หายไปกลาย เป็นรอยยิ้ม เขาดูออกว่าเธอไม่ได้พูดปม เธอกำลังพูดความ จริงอยู่
เพียงแต่เธอจำเป็นต้องกลัวคุณปู่ขนาดนั้นเลยเหรอ?
“ใช่” เงินลั่วชิงรีบพยักหน้า
“คุณปู่รู้แล้วจะเป็นยังไง? “ตอนนี้เย่ชื่อเฉินมีความสงสัย เป็นอย่างมาก
“คุณปู่รู้แล้วก็ต้องให้พวกเราแต่งงานกันล่ะสิ” เวินลั่วฉิง นึกถึงท่าทางของคุณปู่ตอนนั้นก็รู้สึกลัวแล้ว
“พวกเราแต่งงานกันแล้วนิ”เย่ซือเฉินยิ้มเบาๆ ดูเหมือ นว่ายัยนี้จะกังวลจนจะสับสนแล้วจริงๆ
“ความหมายของฉันคือแต่งงานจริงๆ ถ้าคุณปู่รู้ ฉันก็รับ ประกันไม่ได้ว่าจะทำเรื่องที่บ้าคลั่งอะไรขึ้นมา”เวินลั่วฉึงรู้ว่า เขาเข้าใจความหมายเธอผิด รีบอธิบายทันที
“อ่อ ใช่เหรอ? “หางคิ้วของเย่ซื้อเฉินยกขึ้น”น่ากลัวขนาด นั้นเลยหรือ? ”
“ใช่อย่างแน่นอน เพราะก่อนหน้านั้นก็ได้ลองใจดูแล้ว คุณ ปู่บอกว่าขอเพียงตระกูลเย่มีเจตนาจะสู่ขอฉัน คุณปู่พูดอย่าง แน่วแน่ว่าจะยกฉันให้แต่งงานกับคุณแ”เวินลั่วฉิงเห็นท่าที ของเย่ชื่อเฉินที่ไม่รู้ร้อนไม่รู้หนาว ดังนั้นจึงได้ขุดเอาเรื่องที่ คุยกับคุณปู่เวินขึ้นมาพูด
“อย่างแน่วแน่ เมื่อคุณได้ยินคำพูดนี้ก็น่าจะนึกภาพความ บ้าคลั่งของคุณปู่ออกนะ”เงินลั่วชิงยังเน้นย้ำอธิบายเป็น พิเศษ
เธอคิดว่าพูดอย่างนี้ เยซือเฉินคงไม่กล้าจะประมาทอีกต่อ ไปแล้ว
ดวงตาของเยซื้อเฉินเป็นประกายเล็กน้อย ตอนที่เธอคุย กับคุณปู่เรื่องนี้อยู่ เขาก็อยู่นอกประตูหน้าต่าง จึงได้ยินอย่าง ซัตถ้วนซัดคำ
เพียงแต่ตอนนั้นเขาไม่คิดว่าเรื่องนี้จะมีผลอย่างนี้ หลัง จากที่เธอได้เดือนให้ฟัง ในที่สุดเขาก็เข้าใจเสียที แต่เข้าใจ ตอนนี้ก็ยังไม่สาย
เขารู้สึกว่าต้องหาเวลาไปพบคุณปู่แล้วคุยกันดีๆสักครั้ง แล้ว โอกาสดีๆอย่างนี้จะให้เขาพลาดไปได้ยังไงกัน
เวินลั่วฉิงไม่รู้ว่าตัวเองขุดหลุมฝังตัวเองเสียแล้ว เธอเห็น เย่ซื้อเฉินไม่พูดอะไร จึงคิดว่าเขากำลังครุ่นคิดอยู่ ดังนั้นจึง ถามอีกครั้งว่า”ถ้าคุณปู่รู้เรื่องของพวกเรา พอถึงเวลาก็จะไม่ อนุญาตให้เราหย่ากัน และต้องบังคับให้ฉันจัดงานเลี้ยง ฉลองแต่งงานด้วยแน่นอน ฉันคิดว่าคุณก็คงไม่อยากให้เกิด เรื่องอย่างนี้ขึ้นใช่ไหม?
ดังนั้นคุณควรหาวิธีกลบข่าวนั้นลงไปเร็วๆ ไม่ต้องให้คุณปู่ เห็นเด็ดขาด”
พวกเขาแค่แต่งงานกันในนามและแต่งเงียบๆอีกด้วย อีก ทั้งยังมีเมิงโร่ถึงอยู่ทั้งคน อันที่จริงเย่ชื่อเฉินยิ่งไม่อยากให้ เกิดเรื่องอย่างนี้มากกว่าเธอนะ? เขาน่าจะใจร้อนมากกว่า เธอนะ?
ดังนั้นเธอจึงคิดว่า เย่ซื้อเฉินคงต้องไปจัดการเรื่องนี้เอง อย่างแน่นอน
ดวงตาของเย่ซื้อเฉินกะพริบ จากนั้นก็แสดงท่าทางว่า ลำบากใจ”แต่ว่าคุณภรรยา คุณยกย่องผมมากเกินไปแล้ว”
เห็นเธอกำลังจ้องมองเขาอย่างใจจดใจจ่อ เขาจึงพูดเสริม ขึ้นหนึ่งประโยคอย่างช้าๆ “ผมไม่มีความสามารถขนาดนั้น”
คุณชายสามเย่พูดเท็จอย่างไม่รู้สึกหน้าแดงและหายใจ
หอบเลย
“เวินลั่วฉิงหยุดชะงัก จากนั้นก็แอบถอนหายใจ เขาพูดว่าอะไรนะ? เขาบอกว่าเขาไม่มีความสามารถ ขนาดนั้น? เธอไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม?
แค่บ้านตระกูลเย่ก็สามารถกลบข่าวนั้นได้อย่างไม่มี ปัญหาอะไร ยิ่งเขามีอำนาจเป็นของตัวเองด้วย แต่ตอนนี้เขา กลับบอกว่าไม่มีความสามารถนั้น? รุ่นพี่เพิ่งเคยบอกว่า อำนาจของเขานั้นใหญ่กว่าบ้านตระกูลเย่เสียอีก
ไอ้คนหลอกลวง ไอ้คนหลอกลวง! เขาคือนักต้มตุ่น!