Super God Gene – ตอนที่ 2814
ทุกคนตกตะลึง เหมิงเลี่ยเป็นระดับเทพเจ้าขั้นลาร์วาเรียบร้อยแล้ว และเขายังใช้ร่างกายแห่งราชันโกลโซลเยอร์เพื่อเปลี่ยนงูเก้าหัวเกล็ดดำระดับเทพเจ้าขั้นลาร์วาเป็นอาวุธของเขา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ถูกส่งกระเด็นออกไปอย่างง่ายดาย
“เป็นไปไม่ได้… เจ้าไม่ใช่หานเซิ่น…” เหมิงเลี่ยพยายามพยุงตัวเองขึ้นมา มือของเขาเต็มไปด้วยเลือก แต่เขาไม่ได้สนใจในเรื่องนั้น เขาจ้องมองไปที่ชายหนุ่มด้วยความตกตะลึง
“โอ้? ทำไมข้าจะไม่ใช่หานเซิ่น? มันเป็นเพราะข้าไม่ได้ใช้วิชามีดใต้นภาอย่างนั้นหรอ? ถ้าเจ้าอยากเห็นข้าใช้มัน ข้าก็จะแสดงมันให้เจ้าดู” ชายหนุ่มมองเหมิงเลี่ยด้วยความสนใจ
เกือบจะในเวลาเดียวกัน ร่างกายของชายหนุ่มก็ปลดปล่อยจิตแห่งมีดของวิชาใต้นภาออกมา จิตใจที่น่ากลัวเข้าปกคลุมทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบๆอย่างฉับพลัน แม้แต่ใบหน้าของลุงสองก็เปลี่ยนไป เมื่อเขาได้เห็นมัน แม้แต่จิตใจที่แข็งแกร่งของเขาก็ได้รับผลกระทบจากจิตแห่งมีดของของอีกฝ่าย มันเหมือนกับว่าพวกเขาทุกคนกลายเป็นหุ่นเชิด ถ้าชายหนุ่มคนนั้นต้องการ เขาก็สามารถเปลี่ยนชะตากรรมของทุกคนได้ในชั่วพริบตา
หานเซิ่นสังเกตได้ว่าจิตแห่งมีดของชายหนุ่มนั้นคลายคลึงกับจิตแห่งมีดของเขา แต่มันแตกต่างออกไปเล็กน้อย จิตแห่งมีดของชายหนุ่มเหมือนกับจิตใจของเวรี่ไฮมากกว่า มันเหมือนกับว่าเขาเป็นบุคคลที่เล่นหมากรุก ทุกอย่างนั้นเป็นตัวหมาก และตัวหมากก็อยู่ในมือของเขา
มันเหมือนกับจิตใจของหานเซิ่น แต่เขาใช้ตัวเองเป็นตัวหมากตัวหนึ่ง เขาไม่ได้เป็นคนที่เล่นหมากรุกเหมือนกับชายหนุ่ม จิตใจของชายหนุ่มนั้นแข็งแกร่งและไม่ได้ด้อยไปกว่าหานเซิ่นเลยแม้แต่น้อย หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจที่ชายหนุ่มคนนี้อาจจะเป็นคนที่ชาญฉลาดที่สุดในโลกใบนี้เลยก็เป็นได้ หานเซิ่นไม่เข้าใจว่าทำไมชายหนุ่มคนนี้ถึงได้ปลอมตัวเป็นเขา
“เจ้าไม่ใช่หานเซิ่น” เหมิงเลี่ยยังคงพูดเสียงแข็ง
“โอ้? เจ้าพูดแบบนั้นเพราะข้าแข็งแกร่งเกินไป และเขาไม่ได้แข็งแกร่งถึงขนาดนี้ใช่ไหม?” ชายหนุ่มถามขึ้นมา
เมื่อได้ยินชายหนุ่มพูดออกมาอย่างนั้น ทุกคนก็เข้าใจว่าที่เหมิงเลี่ยพูดนั้นถูกต้อง ชายหนุ่มคนนี้ไม่ใช่หานเซิ่น
“ไม่ใช่ ออร่าของเจ้านั้นต่างออกไป ถึงแม้เจ้าจะเลียนแบบใบหน้าของเขาได้ แต่เจ้าไม่อาจลอกเลียนออร่าของเขาได้ เจ้าไม่ใช่หานเซิ่น”
เหมิงเลี่ยกัดฟันของเขาและถามขึ้นว่า “เจ้าเป็นใครกัน?”
“เจ้าพูดถูก” ชายหนุ่มตอบ “หานเซิ่นเป็นเพียงแค่สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำ มันไม่สำคัญว่าข้าจะพยายามปลอมตัวเองให้เหมือนเขายังไง ข้าก็ยังคงไม่มีออร่าที่ต่ำต้อยแบบเขา”
ใบหน้าของลุงสองเปลี่ยนไป เขามองไปที่ชายหนุ่มและพูด
“ถ้าเจ้าไม่ใช่หานเซิ่น แบบนั้นพวกเราก็ไม่ใช่ศัตรูของเจ้า นี่เป็นแค่การเข้าใจผิด พวกเราควรจะหยุดต่อสู้กันเพียงเท่านี้”
ชายหนุ่มยิ้มและถาม “นี่ข้าเพิ่งจะบอกพวกเจ้าไม่ใช่หรือว่าตั้งแต่นี้เป็นต้นไป พวกเจ้าต้องฟังคำสั่งของข้า? ถ้าพวกเจ้าทำงานได้ดี ข้าก็อาจจะไว้ชีวิตของพวกเจ้า”
“เจ้าทรงพลังมากๆ แต่ถ้าพวกเราต่อสู้กันจริงๆ มันก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าเจ้าจะเป็นฝ่ายชนะ อย่างนั้นแทนที่จะเป็นศัตรู ทำไมพวกเราไม่เป็นมิตรต่อกัน? ครั้งนี้เจ้าล่วงเกินพวกเรา ถ้าเจ้าหยุดซะตอนนี้ เจ้าจะกลายเป็นพันธมิตรของเอ็กซ์ตรีมคิง”
พลังของลุงสองเหนือกว่าเหมิงเลี่ย แต่เขาไม่ใช่คนที่จะแก้ไขปัญหาด้วยการใช้กำลังเพียงอย่างเดียว และเขาก็ไม่คิดว่าจะเอาชนะชายปริศนาตรงหน้าได้
หลังจากได้ยินที่ลุงสองพูด ชายหนุ่มก็ยิ้มกว้างยิ่งกว่าเดิม
“ในสายตาของสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำ เอ็กซ์ตรีมคิงอาจจะพันธมิตรที่แข็งแกร่ง แต่สำหรับคนอย่างข้า เอ็กซ์ตรีมคิงก็เป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำไม่ต่างอะไรจากสิ่งมีชีวิตอื่นๆทั้งหมด พวกเขาไม่คู่ควรที่จะมาเจรจากับคนอย่างข้า”
‘หมอนี่เป็นใครกัน? เขาอวดดีมากๆ เขาไม่ยำเกรงเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงเลยแม้แต่นิดเดียว’ หานเซิ่นไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาแค่มองไปที่ชายหนุ่ม
“เจ้าจะอวดดีเกินไปแล้ว” ลุงสองโกรธ เขาไม่คิดจะปล่อยให้ชายหนุ่มมาหยามเกียรติของเอ็กซ์ตรีมคิงแบบนั้น
คลื่นกระแทกแปลกๆมากมายถูกปล่อยออกมาจากร่างกายของลุงสอง คลื่นกระแทกนั้นไร้รูปและสีสัน แต่คนอื่นเห็นคลื่นกระแทกนั้นกระเพื่อมอย่างรุนแรงและเกิดเป็นอาณาเขตพิเศษสำหรับร่างกายของลุงสอง
หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย พลังที่ลุงสองใช้เหมือนจะเป็นพลังธาตุกาลเวลา มันเป็นธาตุที่หาได้ยากมากๆ
“ธาตุกาลเวลา? นั่นหาได้ยากมากๆ แต่เจ้าอ่อนแอเกินไป” ชายหนุ่มลุกขึ้นมาจากแท่นหิน ในจังหวะต่อมาเขาก็บินเข้าไปหาลุงสอง
ในการก้าวขาเพียงก้าวเดียว เขาก็มาอยู่ตรงหน้าลุงสองเรียบร้อยแล้ว
ดวงตาของลุงสองมีแสงแห่งเทพอยู่ภายใน พลังกาลเวลาในร่างกายของเขาบิดเบือนมิติรอบๆ มันเหมือนกับเวลาในบริเวณรอบๆนี้ช้าลงไป ทุกสิ่งทุกอย่างเคลื่อนที่แบบสโลโมชั่น
แม้แต่การร้องตะโกนของเป่าฉินก็ถูกทำให้ช้าลงไปหลายเท่า เขาอ้าปากของตัวเอง แต่เขาไม่สามารถสร้างเสียงขึ้นมาได้เป็นเวลานาน
ปัง!
แต่ชายหนุ่มคนนั้นไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย มือของเขากดลงบนหัวของลุงสองและทำให้ขาของอีกฝ่ายนั้นอ่อนไป ลุงสองคุกเข่าลงต่อหน้าชายหนุ่ม
ทุกคนไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้เห็น แม้แต่ระดับเทพเจ้าขั้นบัตเตอร์ฟลายที่มีร่างกายแห่งราชันธาตุกาลเวลาอย่างลุงสองก็ยังถูกกดลงไปด้วยมือข้างเดียว นี่ชายหนุ่มคนนั้นแข็งแกร่งถึงขนาดไหนกันแน่?
ลุงสองโกรธมากๆ เขาไม่เคยถูกหยามเกียรติแบบนี้มาก่อน พลังภายในตัวของเขาระเบิดออกมา เขาต้องการจะหนีจากพลังของชายหนุ่ม
แต่ไม่ว่าเขาจะระเบิดพลังออกมามากสักแค่ไหน มือของชายหนุ่มก็ยังคงกดลงบนหัวของเขา และทำให้เขาคุกเข่าต่อไป
“ข้าบอกเจ้าแล้วยังไง พลังธาตุกาลเวลาของเจ้าอาจจะเป็นอะไรที่หาได้ยาก แต่เจ้ายังอ่อนแอเกินไปเมื่อเทียบกับคนอย่างข้า สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำยังไงก็เป็นแค่สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำ” ชายหนุ่มทำเหมือนกับว่าเขากำลังสอนรุ่นน้อง มันทำให้ลุงสองโกรธจนหน้าแดง
แต่ไม่ว่าลุงสองจะโกรธสักแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถหนีไปจากมือของชายหนุ่มได้ มันทำให้เขารู้สึกแย่ และความโกรธของเขาก็ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เหมิงเลี่ยคำราม เขาหยิบหอกเก้าง่ามที่หักขึ้นมา แสงแห่งเทพสีทองระเบิดจากร่างกายของเขาราวกับสึนามิ ขณะที่เขาแทงหอกออกไปใส่ชายหนุ่ม
เกอร์ ลอนโอ เป่าฉิน เป่าอิงและระดับเทพเจ้าคนอื่นทั้งหมดต่างก็ใช้การโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของตัวเองโจมตีไปใส่ชายหนุ่มพร้อมๆกัน พวกเขาต้องการจะใช้จังหวะที่ชายหนุ่มยังรับมือกับลุงสองอยู่เพื่อสร้างความเสียหายกับอีกฝ่าย
ชายหนุ่มหันมามองด้วยความดูถูก มือข้างหนึ่งของเขายังคงกดลุงสองเอาไว้ และเขาไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหน เขาแค่ปลดปล่อยแสงแห่งเทพออกมาห่อหุ้มร่างกายเอาไว้
ปัง!
พลังที่น่ากลัวต่างพุ่งไปถูกแสงแห่งเทพนั่น แต่พวกมันไม่สามารถเจาะทะลวงผ่านไปได้
“ข้าจะให้โอกาสพวกเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าพวกเจ้ายังไม่ฟังคำสั่งของข้า พวกเขาก็ไร้ค่าและไม่คู่ควรที่จะมีชีวิตต่อไป”
ชายหนุ่มพูด ร่างกายของเขาระเบิดแสงแห่งเทพออกมา มันพัดเหมิงเลี่ยและระดับเทพเจ้าคนอื่นกระเด็นออกไป
เมื่อเห็นระดับเทพเจ้าของเอ็กซ์ตรีมคิงพ่ายแพ้อย่างราบคาบ หานเซิ่นก็รู้สึกตกใจ เขาคิดกับตัวเอง ‘หมอนี่เป็นใครกัน? เขาคือยอดฝีมือขั้นทรูก็อตอย่างนั้นหรอ? แต่ทำไมเขาถึงได้ปลอมตัวเป็นเรากัน? นี่เขาเป็นมิตรหรือศัตรู?’