บทที่117 ความอำมหิตของเธอ
คณพศก็ยิ้มมุมปากออกมา สุดท้ายก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจ
เงยหน้าขึ้นมองพิมมี่อย่างเยอะเย้ยแล้วพูดว่า “เสร็จแล้ว เธอไปได้แล้ว”
ถึงแม้ว่าเขาจะบรรลุเป้าหมายแล้ว ผู้หญิงคนนี้ก็กลับไปรอ มันเป็นจุดจบของเธอแล้ว
ภรรยาของเขาถูกรังแกโดยผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่เด็ก ครั้งที่แล้วเธอเกือบจะจมน้ำตายในทะเล
ความแค้นนี้เขาเคยพูดไว้แล้ว ยังไงก็ต้องคิดบัญชี
“ไปงั้นหรอ？แต่ว่าคณพศไม่ใช่ว่าคุณบอกว่า ตราบใดที่ฉันช่วยให้คุณได้รับหลักฐานที่ผิดกฎหมายของวิษณุส์ คุณก็จะไม่หย่ากับฉันไม่ใช่หรอ？”
เธอเอาหลักฐานที่ไม่ได้หามาง่ายๆให้กับคณพศ คณพศไม่ทันไรก็ไล่ให้เธอไปแล้ว
ไม่รู้ว่าคณพศที่จริงแล้วต้องการอะไร พิมมี่จึงกระวนกระวายใจ
ในใจก็คิดว่า หรือว่าคณพศคิดว่าหลักฐานพวกนี้ยังไม่พอ ดังนั้นเลยไม่คิดจะให้โอกาสเธออย่างนั้นใช่ไหม？
แต่ก็ไม่ควรนะ เท่าที่เธอฟังปัญหาพวกนี้มามันก็ร้ายแรงพอแล้ว
เธอคิดว่าหาก เอาเครื่องบันทึกเสียงนี้ให้กับคณพศ คณพศก็จะไล่นาราออกจากคฤหาสน์เจหงส์
จากนั้นจะได้ซาบซึ้งใจ ให้พาเธอกลับเข้าไป ถึงยังไงนาราก็เป็นแจกันดอกไม้ที่ไร้ความหมาย เธอจึงจะช่วยเป็นภรรยาที่ดีของคณพศได้
แต่ทำไมตอนนี้ คณพศไม่พูดอะไรเลย และยังจะไล่ให้เธอรีบไปอีก？
“งั้น？เธอคิดว่าฉันจะรีบรับเธอกลับเข้าไปในบ้าน พิมมี่ เธอคิดว่าเธอมีคุณสมบัติอะไรที่จะมาเป็นเมียของฉัน？เธอโดนวิษณุส์เล่นจนยุ่ยหมดแล้ว ที่จริงฉันพูดคุยกับเธอก็คิดว่าเธอนั้นช่างสกปรกซะจริง”
“เธอยังให้คนมาลักพาตัวนารา พยายามที่จะฆ่าเธอ เรื่องพวกนี้ เธอคิดว่าฉันจะไม่อะไรเลยหรอ แล้วยังจะให้ฉันรับเธอกลับเข้าบ้าน？”
เรื่องพวกนี้คณพศจำได้ขึ้นใจ ดังนั้นจึงไม่พูดถึง รอคิดบัญชีกับเธอทีเดียว
แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเรื่องพวกนี้ไม่เคยเกิดขึ้น
แต่พอคณพศพูดออกมา เมื่อกี้ยังคิดว่าในที่สุดตัวเองจะได้เป็นภรรยาของประธานบริษัทตระกูลปัญญาพนต์ ชั่วพริบตาสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นไม่น่ามองซะแล้ว
เธอมองไปที่คณพศด้วยความสับสน จับชายเสื้อไว้แน่น “คณพศ คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ ที่ฉันทำแบบนั้นกับวิษณุส์ก็เพื่อให้งานที่คุณมอบหมายนั้นลุร่วง ฉันไม่ได้ตั้งใจ！”
“ครั้งก่อนที่ลักพาตัวนาราฉันก็สำนึกผิดแล้ว ฉันไปขอโทษก็ได้ แต่คุณจะลดความโกรธลงไม่ได้เลยหรอ？”
“ขอโทษ เพราะความอิจฉาริษยาของฉัน เพราะฉันที่ควรจะเป็นภรรยาของคุณ ทำไมเธอยังหน้าด้านอยู่ไม่ไปสักที ดังนั้นเลยให้คนไปลักพาตัวนารา คุณจะผิดข้อตกลงของเราเพราะความผิดพลาดชั่วขณะของฉันไม่ได้ ”
แท้ที่จริงแล้วปัญหาคืออะไรกันแน่ ทำไมก่อนหน้านั้นเธอกับคณพศตกลงกันไว้แล้วพอมาถึงตอนนี้ถึงเปลี่ยนไป？
หรือว่านี่จะเป็นกลอุบายของนารา？
ไม่ได้การละเธอจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้น เธอจะต้องแต่งงานกับผู้ชายคนนี้ จะอยู่ในฐานะภรรยาของคณพศ
ฐานะภรรยาของประธานบริษัทตระกูลปัญญาพนต์เป็นของเธอ ไม่มีใครสามารถพรากมันไปได้！
เมื่อได้ยินที่พิมมี่พูดอย่างนั้นแล้ว วิษณุส์ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างเย็นชาออกมา
จากนั้นก็พูดออกมาอย่างเชื่องช้าว่า“น่าเสียดายที่เธอทั้งขี้อิจฉาและโง่เขลา มันทำให้ฉันสะอิดสะเอียนจนไม่มีอะไรมาเทียบได้！”
“ฉันบอกว่าจะไม่หย่ากับเธอ แค่เพื่อจะดูว่าเธอจะเล่นมันออกมาแบบไหน คิดไม่ถึงว่าเธอจะหักหลังผู้ชายที่เธอรักมาหลายปีได้ ถ้าฉันแต่งงานกับเธอ ฉันคิดว่ากลางคืนฉันคงไม่กล้านอนหลับ เพราะเธอนั้นมันชั่วร้ายเกินกว่าใครจะมาเทียบได้
”
“ตอนนี้เครื่องบันทึกเสียงอยู่ในมือฉันแล้ว เธอสำหรับฉันแล้ว ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว！” พูดเย้ยหยันเสร็จก็มองไปยังผู้หญิงที่โดนหลอกไป
มีคลิปเสียงนี่แล้ว เขาก็สามารถที่จะให้คณพศหาทางตายด้วยตัวเอง
ถึงเวลาไม่ว่าจะเป็นหลานใคร หรือว่าลูกใครก็ไม่มีใครโทษเขาได้
อีกทั้งสิ่งที่น่าตลกก็คือ พิมมี่ผู้หญิงที่โง่เขลาคนนี้
เขาแค่ใช้กลอุบายกับเธอ เธอยังโดนหลอกซะขนาดนี้
“คุณ คุณโกหกฉันตั้งแต่ต้น？” ไม่คิดเลยว่าคณพศจะพูดแบบนี้ออกมา
พิมมี่ที่ยืนอยู่ตรงนั้นเบิกตากว้างมองไปยังเขา ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย
จะเป็นไปได้อย่างไรละ？ ตอนแรกคณพศกับเธอพูดคุยกันอย่างจริงจัง
เธอคิดว่าคณพศมีความรู้สึกต่อเธอ อาจเปลี่ยนความคิดเขาได้
แต่ทำไมพอสุดท้ายแล้ว กลับเป็นอย่างนี้ไปได้？
อีกทั้งคิดว่าช่วงไม่มีวันนี้ เธอเกลี้ยกล่อมวิษณุส์เพื่อเอาความจริงมาจากปากเขา เปลืองแรง ผลสุดท้ายดันเป็นอย่างนี้
“เหอะเหอะ โกหกเธอ？” คณพศยิ้มอย่างเย็นชา เขาไม่ต้องการที่จะเห็นผู้หญิงที่น่ารังเกียจนี้ ！
“เธอพูดผิดแล้ว ฉันไม่ได้โกหกเธอ ฉันแค่ใช้กลอุบายกับเธอก็แค่นั้น เหมือนกับตอนแรกที่เธอใช้กลอุบายกับฉัน หาคนให้มาแต่งงานแทนเธอ ถึงแม้ตอนนั้นเธอจะแต่งงานกับฉันแล้ว แต่ก็ต้องขอบคุณเธอที่ส่งนาราให้มาอยู่ข้างๆฉัน”
“ไปให้พ้น กลับไปแล้วไปหย่าซะ ก่อนที่ฉันจะใช้วิธีอื่นอีกครั้ง！ตอนนั้น ชีวิตของเธอหรือฐานะภรรยาของคณพศสำคัญ ？หือ ？”
พิมมี่จะไม่หย่ากับเขา ไม่ให้ฐานะภรรยา ไปเป็นของนารา
คณพศมีวิธี ให้พิมมี่จำใจต้องหย่ากับเขา ถ้าเธอยังไม่ยอม เขาจะใช้วิธีขั้นเด็ดขาด วิธีที่เขาคิดนั้นไม่ใช่วิธีที่มีเมตตา
ได้ยินที่คณพศพูดแล้ว พิมมี่ก็จะเชื่อ ที่เขาพูดมันเป็นเรื่องจริง
ดังนั้นพิมมี่จึงไม่ยอมที่จะสูญเสียฐานะที่เธอต้องการไป แต่มันพังไปแล้ว ไม่ทันได้คิดก็เดินไปเผชิญหน้ากับคณพศ มือทั้งสองข้างก็คว้าหลังมือของเขาไว้ “ไม่ คณพศคุณทำแบบนี้กับฉันไม่ได้”
“เพราะมันเป็นคำพูดของคุณ ฉันถึงไปหาวิษณุส์ ฉันใส่ร้ายเขาทำให้เขาพูดคำพูดพวกนั้นออกมา ถ้าเขารู้เข้า ด้วยนิสัยของวิษณุส์ แล้วเขาไม่ปล่อยฉันไปแน่ ”
“ไม่ว่ายังไงฉันก็เป็นภรรยาของคุณ คุณเห็นคนกำลังเดือดร้อนแล้วจะไม่ช่วยไม่ได้！ คณพศ”
มันก็แค่อารมณ์ของพิมมี่ ยังพูดไม่ทันเสร็จ ก็โดนคณพศสะบัดออก พิมมี่ถอยหลังไปไม่กี่ก้าวก็ไปชนกับขอบโต๊ะทำงาน
คณพศมองลงไปที่ใบหน้าของเธอด้วยสายตาเย็นชา แสดงความเกลียดชังออกมาอย่างชัดเจน
พิมมี่จับโต๊ะทำงานไว้ เธอที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็ต้องตกใจกับสีหน้าของเขา
เธอรู้ว่าคณพศจะจัดการได้โหดร้ายขนาดไหน เธอเชื่อว่าถ้าเธอยังเดินไปหาเขาอีกแม้แค่ก้าวเดียว ไม่แน่คณพศก็อาจจะฆ่าเธอได้！
อีกทั้งพิมมี่ก็ตกใจขนาดนี้ เธอไม่กล้าแม้แต่จะขยับไปไหน
คณพศที่ปริปากพูดขึ้นมากอีกครั้ง พูดออกมาแค่คำเดียวอย่างเย็นชาว่า“ไปให้พ้น！”
เมืองที่แสนสงบ ช่วงบ่ายที่แสนจะน่าเบื่อ
อยู่ๆก็มีข่าวที่น่าตกใจออกมาบนอินเทอร์เน็ต ระเบิดซะเมืองทั้งเมืองเดือดพล่านกันเลยทีเดียว
นี่ทำให้ชาวเน็ตทั้งประเทศ ล้วนตกใจ
กลุ่มผู้นำที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในประเทศ วิษณุส์ผู้จัดการบริษัทตระกูลปัญญาพนต์
ไม่คิดเลยว่าจะทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ออกมาได้ และประธานคนปัจจุบันของบริษัทตระกูลปัญญาพนต์ ประธานคณพศในนามของภรรยา น้องชายและน้องสาวของตัวเองมั่วกัน
อีกอย่างข่าวนี้ก็ไม่ใช่ข่าวลือไม่มีที่มา ในข่าวก็โดนคนถ่ายรูปไว้ได้แล้ว ภาพที่วิษณุส์กับพิมมี่มั่วกัน
ท่าทางที่สนิทสนมนั้นจะให้คนอื่นรับได้ได้อย่างไร มันเป็นการกระทำที่ทำให้ผู้คนตกใจ
