บทที่ 149 เธอคลุมเสื้อของเขาออกมาจากห้องทำงาน
ณัจยาพูดจบน้ำตาก็ไหลลงเป็นทาง ท่าทางน่าสงสาร
แต่คณพศยังคงมองเธอด้วยท่าทางเย็นชา
ได้ยินเธอเอ่ยถึงอตีดที่ผ่านมา ตอนนั้นเป็นแบบนี้ เธอเคยอยู่เคียงข้างเขาในช่วงเวลาโดดเดี่ยว
“ผมไม่เคยบอกว่าเป็นเพื่อนไม่ได้ ผมมีภรรยาแล้ว อีกอย่าง ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมเกลียดผู้หญิงมาตลอด มีเพียงนาราคนเดียวเท่านั้นที่ผมรัก” พูดจบจึงหยิบเช็คออกมาจากลิ้นชัก
“อันนี้ให้คุณ ตอบแทนบุญคุณที่ผ่านมาของคุณ ณัจยา อะไรที่ไม่ควรคาดหวังก็อย่าได้คิด” เขายื่นเช็คให้เธอ
ณัจยายืนนิ่งมองเขา เลือดในกายสูบฉีด เขายื่นเช็คให้เธอ ความหมายคือจ่ายเพื่อตัดความสัมพันธ์ที่ผ่านมาของเธอกับเขา ไม่เกี่ยวข้องกันอีกต่อไป
ไม่ได้ แบบนี้ไม่ได้ เธอจะรับมันไว้ไม่ได้ เธอถอยหลังหนึ่งก้าว น้ำตาเอ่อล้นมองไปยังคณพศ
“คณพศ คุณโหดร้ายมากจริงๆ ตอนนั้นฉันรักคุณ ความรักที่ฉันมีให้คุณไม่ได้มีค่าแค่เช็คใบเดียวถ้าฉันรับเช็คนี้ไป ก็เหมือนกับการดูถูกเหยียดหยามเกียรติตัวเอง คณพศทำไมคุณใจร้ายแบบนี้”
ณัจยายิ่งร้องไห้หนักขึ้น คณพศพอฟังว่าเธอไม่รับเช็คใบนั้น จึงขมวดคิ้ว
“เอาล่ะ คุณไม่รับเช็คก็คือไม่รับ นั่งลงเถอะ อย่าร้องไห้เลย วันนี้มาหาผมมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?” เขาทนไม่ได้ที่เห็นผู้หญิงร้องไห้
ผู้หญิงคนนี้ร้องไห้เขารู้สึกรำคาญ แต่เวลานาราร้องไห้เขากลับรู้สึกปวดใจ
“ขอบคุณค่ะ” ณัจยาเห็นว่าดีแล้วจึงเก็บ รู้ว่าเขาจะไม่ให้เช็คเธออีก เช็ดน้ำตาแล้วจึงเอ่ยขอบคุณแล้วนั่งลง เธอเอ่ยถามออกไป “คณพศ ช่วงนี้คุณยุ่งหรือเปล่า ฉันมาเยี่ยมคุณโดยเฉพาะจริงๆ”
“ผมไม่ได้เป็นอะไร ก็เหมือนเดิม” เขาตอบออกไปอย่างไม่ใส่ใจ เปิดเอกสารตรงหน้าต่อ
เขากำลังคิดว่า ผู้หญิงคนนี้มาเพื่อคุยเล่นกับเขา? แค่นึกถึงรอยลิปสติกในวันนั้น เขาพลันนึกรังเกียจ
เห็นว่าเขากำลังยุ่งเธอก็ไม่กล้าอยู่ต่อนาน เธอลุกขึ้นเตรียมจะกลับ “ฉันแค่ผ่านมาทางนี้ เลยแวะมาเยี่ยม คุณทำงานต่อเถอะ ฉันกลับก่อนนะคะ”
เธอพูดพร้อมรีบร้อนลุกขึ้น
“โอ๊ะ”
“ครืดดด”
เสียงอะไรฉีกขาด บวกกับเสียงตกใจของณัจยา
คณพศเงยหน้าขึ้นไปมอง พบว่ากระโปรงของเธอถูกบางอย่างเกี่ยวจนขาด
“คณพศ กระโปรงฉันโดนตะขอเกี่ยวขาดแล้ว เอ่อ แล้วจะทำยังไงต่อดี” ใบหน้าซีดของณัจยาเอ่ยถาม สงสัยจะรีบร้อนเกินไป
คณพศไม่คิดว่าอยู่ๆจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เก้าอี้เขาทำไมมีตะปู
เขาลุกขึ้นเดินเข้าไปหา พบว่ากระโปรงของเธอถูกตะขอที่โผล่ขึ้นมาเกี่ยวขาดจริงๆ อีกทั้งยังยิดอยู่อีก
ใบหน้าหล่อเหลามืดทมึนราวกับก้นหม้อ แปลกจริง เก้าอี้ของเขามีตะขอ มากจากไหนกันนะ?
ในใจของคณพศชะงักกึก แต่ไม่ได้คิดอะไรมาก ก้มลงไปช่วยเธอปลดตะขอนั่น
รอคณพศก้มลงไป เธอรีบหยิบโทรศัพท์ที่ปิดเสียงไว้ก่อนหน้าขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้
เธอถ่ายไปอย่างชาญฉลาด มองแล้วเหมือนคณพศกำลังเกาะกอดเอวเธอเอาไว้
พอแผนการสำเร็จ เธอรีบเก็บโทรศัพท์ คณพศปลดตะขอที่เกี่ยวกระโปรงเธอออกเรียบร้อย
แต่การกระทำของเธอนั้นเขารู้ตัวแล้ว เขามองเธออย่างเย็นชา นัยน์ตาเต็มไปด้วยความโกรธที่พร้อมจะมอดไหม้
มุมปากหยักยิ้มตามมา
“ได้แล้ว แต่คุณจะออกไปแบบนี้คงไม่ได้” คณพศคิดอยู่สักพัก ถอดเสื้อนอกบนตัวเขาออกมา “เอาเสื้อนี้คลุมไปเถอะ จะได้ไม่น่าอาย”
ณัจยามองเขาถอดเสื้อนอกออกมาให้เธอ ดวงตาพราวระยับ ในใจนั้นยินดี “คุณเอาเสื้อคุณให้ฉันใช้หรอ? พรุ่งนี้ฉันซักแล้วจะเอามาคืนให้ ขอบคุณนะคะ คณพศ” ใจของณัจยาเต้นกระหน่ำ
“ไม่ต้องหรอก แค่เสื้อตัวเดียว โยนทิ้งไปก็พอแล้ว” เขาโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ หันกลับไปนั่งทำงานต่อ สนใจเอกสารตรงหน้าต่อ
แม้จะรู้ว่าเสื้อตัวนี้เป็นเพราะคณพศเห็นแก่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงให้เธอมา แต่ในใจณัจยาก็ยังรู้สึกปรีดาราวกับดอกไม่ผลิบาน
เธอคลุมเสื้อไว้ที่เอว “ฉันไปแล้วนะคะ ขอบคุณนะ”
มีหนึ่งแล้วก็ต้องมีสอง หึ แค่เธอพยายามมีวางแผนดีๆ ไม่ได้กลัดกลุ้มที่คณพศไม่กลับมาเคียงข้างเธอ
เสื้อตัวนี้ราวกับเป็นของล้ำค่า เดินออกไปอย่างร่าเริง
คลุมเสื้อนอกของเขาเดินออกจากห้องทำงาน เธอรีบถ่ายรูปเซลฟี่ตัวเองกับประตูห้องทำงานของคณพศ แล้วรีบส่งรูปนั้นให้พิมมี่
ภาพสองภาพนั้นเข้าใจได้ว่า ทั้งคู่ฉีกกระโปรงจนขาดรุ่ยอยู่ในห้องทำงาน จึงต้องใช้เสื้อเขาคลุมออกมา
นี่เป็นเป้าหมายสำคัญของเธอ ยัยนารานั่นไม่ใช่ขี้หึงหรอ หึ สิ่งที่เธอรอก็คือให้นาราหึง ให้ดีไปแล้วก็ไม่ต้องกลับมาอีกเลย
ข้อความถูกส่งไปอย่างรวดเร็ว ณัจยาเดินไปพร้อมพิมพ์ :โอกาสแบบนี้มีไม่บ่อย รูปต้องใช้ให้คุ้มค่านะ
พิมมี่ที่ได้รับรูปภาพมาพลันริษยาอย่างบ้าคลั่งอยู่ชัวครู่ ที่แท้คณพศยังมีใจให้ณัจยา แล้วทำไมเขาถึงไม่ชอบเธอบ้าง
หรือว่าแม้กระทั่งณัจยาเธอยังเทียบไม่ได้หรอ?
แต่จะอิจฉาก็อิจฉาแต่ทำให้นาราเสียใจก็เป็นสิ่งสำคัญ
เธอหัวเราะอย่างพอใจ ฮ่าๆ นารา ยัยคนโง่เง่า มาดูกันว่าฉันจะทรมานแกยังไง
ไม่นาน เธอก็ค้นพบโปรแกรม หารูปภาพคู่รักกำลังจูบกัน ปรับแต่งรูปให้เป็นคณพศกับณัจยา
และทำภาพที่ณัจยาส่งมาให้ ทำให้มันไม่ชัดเจนเท่าที่ควร ดูแล้วน่าคิดเข้าไปอีก
หลังจากจัดการเรียบร้อย เธอก็กดส่งออกไปอย่างแช่มชื่น นารา ฉันจะรอดูเธอร้องไห้ ดูเธอทรมานและเจ็บปวด
…..
ไม่นาน นาราที่ตัวอยู่ฝรั่งเศสไม่ได้เปิดโทรศัพท์มานาน พึ่งเปิดขึ้นก็ได้รับข้อความรูปภาพที่พิมมี่ส่งมาให้
มองเห็นว่าคนที่ส่งรูปมาเป็นพิมมี่ เธอรับรู้ได้จึงไม่อยากเปิดดู
แต่พอคิดว่าเธอกับคณพศเป็นแบบนี้ ดูแล้วจะทำไม
เธอเอ่ยเตือนตัวเองไม่ควรที่จะเปิด แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ
แต่ว่า ยิ่งเธอกลัวข่าวเกี่ยวกับคณพศ เธอก็ยังตัดเขาออกจากใจไม่ขาด ยังไงก็เปิดเข้าไปดูดีกว่า
พอเปิดดูชัดเจนแล้ว น้ำตาพลันเอ่อขึ้นมา เกี่ยวกับคณพศจริงด้วย แต่เป็นเขากอดกับผู้หญิงคนอื่น
เธอชะงักงันมองดูรูปๆหนึ่ง หัวใจราวกับมีมีดแหลมคมกรีดเข้ามา
มองเขาก้มหัวลงไปกอดณัจยา หลังจากนั้นทั้งคู่จูบกันอย่างร้อนแรง สุดท้าย ณัจยาคลุมเสื้อของเขาออกมาที่หน้าห้องทำงานของเขา
รูปภาพแสดงให้เห็นว่าพวกเขาทั้งคู่นั้นรักกันหวานชื่น ยากที่จะแยกจาก
ในอกเธอปวดร้าว ขาวโพลนไปหมด
ดูเหมือนว่าตอนนี้ เธอมาต่างประเทศครั้งนี้ ต้องแยกจากกันแล้วจริงๆ