บทที่193 สองพี่น้องเฮนรี่
เธอพยักหน้ายิ้มน้อยๆ ให้กับสาวใช้ “ ไม่ได้เวอร์วังขนาดนั้นสักหน่อยค่ะ เรารีบไปที่งานเลี้ยงกันเถอะ “
“ จริงๆ นะคะ ดิฉันไม่ได้โกหกเลยนะคะคุณหนู คุณเหมือนกับเทพธิดาเลยจริงๆ งดงามมากค่ะ “
สาวใช้ยังคงยกยอนาราอย่างต่อไป ถึงกับยืดอกตัวเองอย่างภาคภูมิ
ราวกับว่าได้ดูแลหญิงสาวมาได้อย่างงดงาม และนั่นคือความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอ
นาราหัวเราะเบาๆ รีบสาวเท้าไปข้างหน้าอย่างอารมณ์ดี
งานเลี้ยงอาหารค่ำถูกจัดขึ้นที่สวนดอกไม้ด้านหลังของปราสาท เมื่อนาราและสาวใช้ไปถึง สถานที่จัดนั้นได้ถูกจัดตกแต่งใหม่อย่างสวยงามและหรูหรา
นารามองไปยังป้ายที่แขวนอยู่กลางอากาศกลางสวนดอกไม้ก่อนหรี่ตาลง อ่านออกเสียงทีละคำ ” ขอแสดงความยินดีกับคุณหนูนาราที่เอาชนะการประกวดงานออกแบบ? ”
มุมปากของนารากระตุกเบาๆ ใครเป็นคนคิดป้ายนี้ขึ้นมากัน แน่ใจเหรอว่าไม่ได้เขียนมาแกล้งเธอ?
แล้วยังจะใช้ภาษาไทยอีก ที่นี่สหราชอาณาจักรนะ! แต่ข้างล่างนั้นก็ยังมีภาษาอังกฤษด้วย เธอหัวเราะลั่น
ลั่วนี่นะ!
ให้แน่ใจว่าแขกชาวต่างชาติจะเข้าใจได้ แน่ใจเหรอว่าพวกเขาจะเข้าใจว่ารางวัลนั่นคืออะไร?
นอกจากนั้น เอาชนะ มีกี่ความหมายกัน?
เธอเข้าร่วมกันการแข่งขันอย่างยุติธรรม และก็ไม่ได้ไปร่วมสู้อะไรสักหน่อย ได้โปรดอย่าใช้คำว่าเอาชนะนั่นเลยได้ไหม?
ทางด้านของนารานั้นเธอกำลังเงยหน้ามองป้ายและวิจารย์อยู่ในใจ แต่กลับไม่ได้รู้เลยว่าสายตาทุกคนในงานกำลังจับจ้องไปยังตัวเธอ
อังกฤษเป็นดินแดนแห่งความโรแมนติก แต่ไหนแต่ไรไม่เคยขาดแคลนสาวงาม หากแต่พวกเขาก็ยังไม่เคยพบเจอหญิงงามสะพรั่งถึงขนาดนี้
ตั้งแต่ฟื้นขึ้นมา เคลลี่ลั่วก็ประคบประหงมเธออย่างดี หลายๆ คนไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีตัวตนของเธออยู่
และในวันนี้ก็ได้เวลาเปิดหน้าสาวงาม
เธอสวมชุดราตรีรัดรูปที่ตัดเย็บอย่างประณีตด้วยเนื้อผ้าคุณภาพสูง เผยรูปร่างอันสมบูรณ์แบบและขับให้เธอดูเซ็กซี่และมีเสน่ห์มากขึ้นไปอีก
เดรสสีเงินยวงปักด้วยเลื่อมเงิน สะท้อนแสงไฟระยิบระยับ เปล่งประกายดั่งดวงดาวพราวแสง
เมื่อสายตาของเคลลี่ลั่วจ้องกับนาราก็ไม่อาจละสายตาไปไหนได้อีก
อยู่ๆ เขาก็รู้สึกเสียใจขึ้นมากะทันหัน ทำไมถึงต้องสั่งตัดชุดพิเศษแบบนั้นให้เธอกัน ทำไมต้องจัดงานเลี้ยงนี่ขึ้นมาด้วยนะ
ความสวยของเธอช่างน่าหลงใหล ควรจะเป็นสมบัติที่ไม่ควรจะเป็นของที่ใครอื่นจะโลภได้ครอบครอง
เธอเป็นของเขา!
ขณะที่เคลลี่ลั่วกำลังลังเลที่จะให้นาราไปเปลี่ยนชุดดีหรือไม่ แขกที่เขาเชิญมาก็เข้ามากันแล้ว
” โอ้ เคลลี่ ไม่ได้เจอกันนานขนาดนี้ ฉันยังนึกว่านายไปเที่ยวรอบโลกอีกแล้วซะอีก ” ชายหนุ่มร่างสูงคนหนึ่งอ้าแขนเดินเข้าหาเคลลี่ลั่วพร้อมรอยยิ้มกว้าง
เคลลี่ลั่วเดินเข้าไปทักทายเขา ยื่นมือไปชนกำปั้นกับชายหนุ่มแล้วยิ้มออกมา ” เจสซี เพื่อนยาก นายมาจนได้ ซาบซึ้งชะมัด! ”
” พี่ชายลั่ว ไม่เต็มใจจะกอดฉันบ้างเลยนะคะ ”
เสียงเล็กเจื้อยแจ้วดังขึ้น ต้นเสียงนั้นคือหญิงสาวผมบลอนด์อกสะบึม กำลังพูดคุยกับเคลลี่ลั่วอย่างเย้ายวน
เคลลี่ลั่วถอยหลังไปครึ่งก้าวอย่างรักษาท่าที แสดงสีหน้าไปตามพิธี ” อ๋อ คุณหนูเฮนรี่นี่เอง ยินดีต้อนรับนะครับ ”
ใบหน้าของสาวผมบลอนด์นั้นยิ่งไม่พอใจเข้าไปใหญ่ เธอดึงแขน เจสซี เฮนรี่ ที่เพิ่งจะทักทายกับเคลลี่ลั่วก่อนบ่นอุบ ” พี่คะ ดูพี่ลั่วสิ เขาไม่มีความจริงใจเลยสักนิด ”
เจสซีเหมือนจะเอือมระอากับน้องสาวตัวเองอยู่หน่อยๆ ยิ้มอย่างสบายๆ ” ไม่จริงใจที่ไหนล่ะ เขาก็ยินดีต้อนรับเธออยู่ชัดๆ นะ ”
” ฮึ! นั่นเรียกยินดีตรงไหนกันล่ะ? อึดอัดอยู่ชัดๆ พี่ลั่วร้ายกาจที่สุด แค่กอดกันสักหน่อยก็ไม่ได้! ” หญิงสาวยังคงบ่นต่อไป
เจสซีส่ายหัวอย่างระอา ” อลิซ ฉันก็ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจลั่วหรอกนะ แต่ไหนแต่ไรเขาก็ไม่กอดกับผู้หญิงคนไหนอยู่แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องการหอมแก้มทักทาย เพื่อเกียรติของเฮนรี่ อย่าทำตัวเป็นเด็กขอขนมสิ ”
พูดจบ เจสซีก็มองไปทางเคลลี่ลั่วอย่างรู้สึกเสียใจ ” เธอมักจะเป็นแบบนี้ตลอด ตั้งแต่เด็กก็เอานายเป็นไอดอล พยายามจะเรียกร้องความสนใจตลอดเวลา อยู่ดีๆ ก็กลายเป็นสาวเจ้าอารมณ์ไป ”
เคลลี่ลั่วยิ้มอย่างไม่ถือสา ” ไม่เป็นไรหรอก น้องสาวนายก็คือน้องสาวฉัน ฉันจะไปถือสาอะไร มาเร็วเข้า ฉันจะแนะนำให้นายรู้จักตัวเอกของงานคืนนี้ ”
เคลลี่ลั่วพูดพลางแนะนำตัวนาราที่อยู่ข้างๆ ให้กับเจสซี เฮนรี่ ราวกับจะแนะนำสมบัติล้ำค่า ” เธอคนนี้คือนางเอกของงานเลี้ยงคืนนี้ มิสนาราที่เพิ่งจะชนะการประกวดออกแบบในระดับโลก ”
จากนั้นก็ผายมือไปทางสองพี่น้องเฮนรี่แนะนำให้กับนารา ” พวกเขาคือลอร์ดและเลดี้แห่งตระกูลเฮนรี่ ท่านนี้คือเจสซีเพื่อนสมัยเด็กของผม ทางนี้คืออลิซน้องสาวของเจสซี “
“ สวัสดีค่ะ ”
“ สวัสดีครับ ”
นาราและเจสซีพยักหน้าทักทายพร้อมกันอย่างสุภาพ
มีเพียงอลิซที่เบ้ปากอย่างหงุดหงิด ดวงตาสีฟ้าของเธอเหล่มองนาราเล็กน้อย
เธอคลั่งไคล้เคลลี่ลั่วมาตั้งแต่เด็ก จนมาวันนี้เขาจัดงานเลี้ยงใหญ่โตให้ผู้หญิงคนอื่น อดไม่ได้จะเอ่ยเสียดสีสักคำสองคำ ” ไง นักออกแบบอะไรนั่นสุดยอดขนาดนั้นเชียว? ดูยิ่งใหญ่ไม่เบานะ ”
นารามองออกถึงความเป็นปฏิปักษ์ในสายตาเธอ ไม่เข้าใจว่าตัวเองไปทำผิดอะไรให้เธอขุ่นเคือง แต่ยังไงยิ่งพวกเขายังเป็นแขกที่เคลลี่ลั่วเชิญมา เธอยิ่งควรต้องใจกว้างให้มาก
เพราะฉะนั้น นาราจึงทำได้แค่ยิ้มบางๆ กับความไร้มารยาทของอลิซ แล้วพูดอย่างถ่อมตัว ” ฉันไม่ได้สุดยอดอะไรอย่างที่คุณหนูอลิซพูดหรอกค่ะ แค่โชคช่วยเท่านั้นเอง ”
เมื่อเทียบกับความถ่อมตัวของนาราแล้ว อลิซก็ยิ่งหยิ่งทะนงมากขึ้น
เธอพูดเสียงขึ้นจมูก สีหน้าเผยการเหยีดหยามออกมาอย่างชัดเจน ” ฮึ ฉันก็ว่ามันคงจะไม่เท่าไหร่ ยังไงก็คงยังต้องรบกวนพี่ลั่วให้….. ”
อลิซยังไม่ทันพูดจบก็ถูกพี่ชายของเธอเจสซีปรามด้วยสายตา ” อลิซ อย่าหยาบคาย! ใส่ใจกับท่าทางและน้ำเสียงด้วย ”
พูดจบ เจสซีก็หันมาทางนารา ” ขออภัยจริงๆ ครับคุณนารา น้องสาวของผมออกจะก้าวร้าวไปสักหน่อย หวังว่าคุณจะไม่ถือโทษอะไร ”
” ไม่หรอกค่ะ ที่เธอพูดก็เป็นเรื่องจริง ” นารายิ้มอย่างอ่อนโยน แสดงออกว่าเธอไม่ได้ใส่ใจอะไรกับการยั่วยุของอลิซ
เธอไม่พูดยังไม่เป็นไร เมื่อพูดออกมาอลิซก็กระทืบเท้าด้วยความโมโห ” บ้าชะมัด! ทำไมต้องมาร่วมงานเลี้ยงอะไรนี่ด้วย? อยู่บ้านสบายๆ ก็ดีอยู่แล้วแท้ๆ ไม่นึกว่ามาแล้วจะโดนคนนอกมาดูถูกดูแคลนซะได้! ”
” อลิซ! ” เจสซีชักสีหน้า ” ไม่ชอบก็กลับไปซะ เคลลี่ลั่วไม่ได้เชิญเธอ เธออยากจะตามฉันมาเองนี่? ”
เจสซี เฮนรี่ รู้สึกขายหน้ากับพฤติกรรมของอลิซอย่างมาก ทำไมเขาถึงได้มีน้องสาวไร้สมองแบบนี้กันนะ?
หากรู้ว่าพวกเขามาร่วมงานเลี้ยงในนามของตระกูล ทั้งกิริยาวาจา จะต้องไม่ทำให้ตระกูลเสื่อมเสียเด็ดขาด
