The king of War – บทที่ 814 ประสบการณ์ของฉินซี

บทที่ 814 ประสบการณ์ของฉินซี

หยางเฉินกำลังอยู่ในห้องทำงานเพียงคนเดียว ไม่นานลั่วปิงก็วิ่งเข้ามา

“ท่านประธาน ผมจัดการเรื่องต่างๆ เรียบร้อยแล้วครับ หลังจากที่เรื่องอื้อฉาวของผู้กำกับหวางและอู๋เทียนโย่วถูกเปิดเผย พวกเขาก็ถูกแบล็กลิสต์ไปทั่วประเทศ”

ลั่วปิงพูดว่า “ไม่เพียงแค่นั้น ทีมงานเทพสงครามผู้ชนะก็ได้ทำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เรียบร้อยแล้วครับ นอกจาก ศิลปินหน้าใหม่เซี่ยเหอ นักแสดงอื่นๆ ล้วนแล้วแต่เป็นดาราดังครับ”

“เพราะเรื่องอื้อฉาวของผู้กำกับหวางและอู๋เทียนโย่ว ทำให้เทพสงครามผู้ชนะยิ่งฮิตขึ้นไปอีกครับ ตอนนี้ผู้ชมจำนวนมากตั้งหน้าตั้งตารอละครเรื่องนี้เป็นอย่างมากครับ”

“อีกทั้งการเข้าร่วมของ หยวนหย่าฉีและดาราดังหลายคนก็ทำให้ละครเรื่องนี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ตอนนี้ละครเรื่องนี้ถูกชาวเน็ตขนานนามว่าเป็นเว็บซีรีส์ประวัติศาสตร์ที่แข็งแกร่งที่สุดครับ”

หยางเฉินกลับไม่แปลกใจเลย พยักหน้าและพูดว่า “ดีแล้ว งั้นต่อไปงานหลักของคุณก็คือการกลับไปดูแลโครงการเมืองจิ่วโจวต่อ”

ลั่วปิงรีบพยักหน้า “ท่านประธานสบายใจได้ ผมได้จัดการงานทั้งหมดที่อยู่ในมือเรียบร้อยแล้วครับ และจะเริ่มตั้งแต่วันนี้ ไม่ว่าจะกินจะนอนผมก็จะอยู่ที่ไซต์งานก่อสร้างเฝ้าดูโครงการเมืองจิ่วโจวทั้งหมดด้วยตัวเอง”

หยางเฉินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่ต้องการให้โครงการเมืองจิ่วโจวตกเป็นเป้าหมายของผู้ที่สนใจ และเขาไม่ได้อยากให้ให้ลั่วปิงอาศัยอยู่ที่ไซต์งานก่อสร้าง

ลั่วปิงยังไงก็เป็นผู้จัดการใหญ่ที่มีเงินเดือนทั้งปีกว่าสิบล้านหยวน จะไปนอนที่ไซต์งานก่อสร้างได้ยังไง?

“ผู้จัดใหญ่ลั่ว คุณไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้ แค่ให้คนที่ไว้ใจได้หนึ่งคนไปเฝ้าดูก็พอแล้ว”

หยางเฉินพูดขึ้น

ลั่วปิงรีบพูดว่า “ท่านประธานไม่ต้องห่วง ผมสบายดีครับ อีกอย่างผมไปไซต์งานก่อสร้างก็ไม่ใช่เพียงเพราะว่าเรื่องไซต์งานอย่างเดียวเท่านั้น ผมก็แค่ย้ายห้องทำงานไปที่เมืองจิ่วโจวก่อนล่วงหน้าเท่านั้นครับ”

“หลังจากที่เมืองจิ่วโจวสร้างเสร็จ พวกเราสำนักงานใหญ่เยี่ยนเฉินกรุ๊ปก็ต้องย้ายไปที่นั่นแน่ๆ ก็ถือซะว่าผมไปทำความคุ้นเคยกับบรรยากาศสำนักงานใหม่ล่วงหน้า”

หลังจากฟังลั่วปิงพูด หยางเฉินก็เข้าใจว่านี่ลั่วปิงไม่ได้ทำเพราะอารมณ์ชั่ววูบ แต่นี่เป็นการเตรียมการที่ดีที่สุด

“ก็ได้ ในเมื่อคุณวางแผนทั้งหมดเอาไว้แล้ว ถ้าอย่างนั้นผมก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว”

หยางเฉินพูดด้วยสีหน้าดีใจและโล่งใจ

“ขอบคุณนะครับท่านประธาน! ”

ลั่วปิงรีบพูดขึ้น

เขากำลังจะออกไป แต่จู่ๆ ก็นึกอะไรบางอย่างได้ จึงรีบพูดว่า “ท่านประธานครับ ประธานฉินไม่ได้ไปแมมบ้าแดงกรุ๊ปวันนี้เหรอครับ? ผมคิดว่า ท่านประธานน่าจะต้องไปช่วยประธานฉินนะครับ”

หยางเฉินอึ้งไปชั่วครู่ ประธานฉินที่ลั่วปิงพูดถึงคือฉินซี

“คุณหมายถึง เสี่ยวซีไปรับตำแหน่งรักษาการแทนผู้จัดการใหญ่จะเกิดเรื่องขึ้นเหรอ?”

หยางเฉินขมวดคิ้วถามขึ้น

ลั่วปิงพยักหน้า พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ถึงแม้ว่า แมมบ้าแดงกรุ๊ปจะเป็นองค์กรที่ก่อตั้งโดยผู้นำตระกูลเย่ แต่แท้จริงแล้ว แมมบ้าแดงกรุ๊ปกลับถูกคนในตระกูลแทรกซึมมาเป็นเวลานานแล้วครับ”

“ตอนนี้ผู้นำเย่กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล การแย่งชิงอำนาจภายในตระกูลเย่และทรัพย์สินนับแสนล้านของแมมบ้าแดง ดังนั้น จึงกลายเป็นสถานที่แข่งขันแย่งชิงอำนาจกันของตระกูลเย่ครับ”

“เดิมที ญาติพี่น้องของตระกูลเย่ต่างก็แย่งชิงตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ของแมมบ้าแดงกรุ๊ป ตอนนี้จู่ๆ ก็มีประธานฉินเข้ามา พวกเขาต้องไม่ให้ความร่วมมือแน่นอนครับ”

เดิมทีหยางเฉินไม่ได้คิดถึงขนาดนั้น ตอนนี้ได้ยินที่ลั่วปิงพูด เขาถึงได้ตระหนักว่าฉินซีกำลังเผชิญกับปัญหาใหญ่

“แน่นอนว่า จู่ๆ ผมก็คิดถึงเรื่องนี้ได้และก็พูดขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ ท่านประธานตัดสินใจแล้วกันครับว่าจะทำอย่างไร”

ลั่วปิงพูดอย่างระมัดระวัง “ท่านประธานครับ ถ้าหากว่าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ”

“อืม ไปเถอะ! ”

หยางเฉินพูดขึ้น

หลังจากลั่วปิงไปแล้ว เหลือเพียงหยางเฉินอยู่ในห้องทำงาน เขานั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงาน สีหน้าจริงจัง

เย่ม่านไม่เข้าใจสถานการณ์ตระกูลเย่มากนัก ให้ฉินซีไปแมมบ้าแดง นอกจากอยากจะให้ฉินซีทำความคุ้นเคยก่อนล่วงหน้า และรับช่วงต่อแมมบ้าแดงหลังจากนี้ และเธอยังอยากให้ฉินซีมีประสบการณ์

แต่ว่าเธอไม่เข้าใจสถานการณ์ของตระกูลเย่ในตอนนี้

หยางเฉินรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้หรือเปล่า

แต่ถ้าเขาออกหน้า ก็สามารถทำให้ตระกูลเย่สงบลงได้อย่างง่ายดาย

ถ้าเป็นแบบนี้ ฉินซีก็จะสามารถครอบครองแมมบ้าแดงได้อย่างราบรื่นโดยไม่มีอุปสรรคใดๆ

แม้ว่าฉินซีจะมีความสามารถด้านการทำธุรกิจมาก เธอก่อตั้งธุรกิจของตัวเองขึ้นในช่วงเรียนมหาวิทยาลัย แต่เมื่อเปรียบเทียบซานเหอกรุ๊ปกับแมมบ้าแดงแล้วนั้นอยู่กันคนระดับเลย

พูดได้ว่า ครั้งนี้ที่ไปแมมบ้าแดงเพื่อดำรงตำแหน่งรักษาการแทนผู้จัดการใหญ่เพียงชั่วคราว เป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับฉินซีที่จะได้รับประสบการณ์ที่ดี

หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน หยางเฉินก็ถอนหายใจ “ไม่เข้าไปยุ่งดีกว่า ถ้าหากเสี่ยวซีต้องการก็ต้องติดต่อมาหาเขาก่อนแน่ๆ”

ฉินซีมีเฉียนเปียวคอยปกป้องเธออยู่ลับๆ แม้ว่าจะมีอันตรายตอนที่อยู่แมมบ้าแดงจริงก็สามารถรับมือกับมันได้แน่

ในเวลาใกล้เคียงกัน ชั้นบนสุดของแมมบ้าแดงกรุ๊ป ในห้องประชุมขนาดใหญ่ที่นั่งอยู่เต็มห้องประชุม

ตำแหน่งผู้นำว่างเปล่า

ตำแหน่งผู้นำทั้งสองด้าน ด้านหนึ่งคือเย่หัว ด้านหนึ่งคือเย่ชัง

“10 โมงแล้ว แต่รักษาการแทนผู้จัดการใหญ่ที่มารับตำแหน่งใหม่ ช่างวางอำนาจบาตรใหญ่จริงๆ กล้าให้พวกเรารอมาครึ่งชั่วโมงแล้ว”

เย่ชังพูดขึ้นทันใด

เย่หัวขมวดคิ้ว พูดอย่างไม่พอใจว่า “ประธานฉินได้รับมอบหมายจากผู้นำตระกูลให้มาดำรงตำแหน่งรักษาการแทนผู้จัดการใหญ่ วันนี้วันแรก เธอก็มีธุระที่เธอต้องทำ พวกเรารอครึ่งชั่วโมงแล้วยังไงล่ะ?”

“เย่หัวอย่าพูดไร้สาระ ฉันไม่สนหรอกว่าเธอจะยุ่งไหม รู้แค่ว่าเมื่อวานแจ้งให้เธอทราบไปแล้วว่าวันนี้เช้าตอน 9 โมงครึ่งมีประชุมใหญ่ เธอสายไปครึ่งชั่วโมงแล้ว”

เย่ชังพูดด้วยสีหน้าเฉยเมยว่า “ฉันไม่สนหรอกว่าเธอมีเหตุผลอะไร มาสายก็ถือว่าผิดแล้ว”

“แล้วยังไง? คุณอยากจะลงโทษประธานฉินเหรอ?” เย่หัวยิ้มเยาะถามขึ้น

เย่ชังพูดอย่างราบเรียบว่า “ตามกฎของแมมบ้าแดงกรุ๊ปแล้ว ผู้บริหารระดับสูงกว่าผู้จัดการขึ้นไปมาประชุมสายครึ่งชั่วโมงในการประชุมที่สำคัญจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการเลิกจ้าง”

“ฉินซีสายไปครึ่งชั่วโมงแล้ว แม้ว่าเธอจะเป็นรักษาการแทนผู้จัดการใหญ่ก็จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎของแมมบ้าแดง”

เย่หัวสีหน้าไม่สู้ดีนัก แมมบ้าแดงกรุ๊ปมีกฎนี้อยู่จริงๆ แต่ว่าหลายปีมานี้ไม่เคยมีผู้บริหารระดับสูงคนไหนเคยสายเกินครึ่งชั่วโมง

ดังนี้กฎนี้จึงไม่เคยใช้กับใครมาก่อน

“เย่ชัง ฉันรู้ว่าคุณอยากได้ตำแหน่งผู้จัดการใหญ่แมมบ้าแดงกรุ๊ปมาตลอด แต่อย่าลืมว่าแมมบ้าแดงก่อตั้งโดยผู้นำตระกูล และนี่เป็นทรัพย์สินส่วนตัวของเธอ”

“จะไล่ประธานฉินออกได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับผู้นำเป็นคนตัดสินใจ””

“อีกอย่าง กฎบอกว่าผู้บริหารระดับสูงที่มาสายครึ่งชั่วโมงในการประชุมสำคัญต้องถูกเลิกจ้าง แต่การประชุมวันนี้ ก็แค่การประชุมต้อนรับประธานฉินเท่านั้น ไม่ได้เป็นการประชุมสำคัญอะไรเลย”

เย่หัวพูดอย่างเยือกเย็นว่า “ในเมื่อไม่ใช่การประชุมสำคัญอะไร ประธานฉินก็ไม่จำเป็นต้องถูกไล่ออก”

เขาเป็นคนสนิทของเย่ม่าน และเขาก็เป็นรักษาการแทนชั่วคราวของตระกูลเย่หลังจากเย่ม่านเกิดอุบัติเหตุ แต่เย่ชังไม่เคยเข้ากับเขาได้

และเขาก็ได้รับคำส่งจากเย่ม่าน ไม่ว่าใครก็ตามที่กล้าต่อต้านฉินซี นั่นก็เหมือนกับการต่อต้านเธอด้วย

เห็นได้ชัดว่า เย่ม่านอยากจะฝึกฉินซีให้รับตำแหน่งต่อจากเธอ แม้ว่าเขาจะอยากได้ตำแหน่งผู้นำตระกูลเย่ แต่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่งของเย่ม่าน

“พวกเราผู้บริหารระดับสูงทั้งหลายต่างก็มารอต้อนรับเธอที่แมมบ้าแดงกรุ๊ป เธอก็ยังมาสายขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้สนใจพวกเราเลย”

เย่ชังพูดอย่างเยือกเย็นว่า “ผู้บริหารที่งานยุ่งอย่างพวกเรา มารอเพื่อต้อนรับเธอ ยังไม่ถือว่าเป็นงานประชุมสำคัญอีกเหรอ?”

“ฉันขอเสนอให้ไล่ฉินซีออก! ใครเห็นด้วยยกมือขึ้น!”

ทันทีที่เย่ชังพูดจบก็ยกมือขวาขึ้น

The king of War

The king of War

Status: Ongoing

ห้าปีก่อน หยางเฉินเพื่อให้ตัวเองคู่ควรกับฉินซี เขาจากไปโดยไม่ร่ำลา ห้าปีต่อมา เขาพกความสามารถอันน่าทึ่ง กลับมาอย่างรุ่งโรจน์ เพียงแต่ว่าพอมาถึง กลับพบว่าตนมีลูกสาวเพิ่มขึ้นมาอีกคน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads แทงบอลออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน