The king of War – บทที่ 1655 ไม่เต็มใจให้

บทที่ 1655 ไม่เต็มใจให้
เสียงที่ดังมาจากด้านหลัง ทำให้หวยหลันหน้าซีดเผือด
“เธอหักหลังพวกเราเหรอ”
เหล่าจิ่วสีหน้าอึมครึม ดวงตาโหดเหี้ยม จ้องไปที่หวยหลัน
หวยหลันร้อนใจ รีบอธิบายว่า “ฉันเปล่า ฉันเปล่าจริงๆ นะ
คุณต้องเชื่อฉัน! ตอนนี้ฉันหักหลังจวนเมืองหวยเฉิงแล้ว เจ้าเมืองหวยเฉิง ไม่ปล่อยฉันแน่ ฉันไม่มีทางถอยแล้ว ผู้อาวุโสได้โปรดเชื่อฉันด้วย!”
ผู้อาวุโส
ความอาฆาตแผ่ออกจากตัวเหล่าจิ่ว เขาจ้องหวยหลันอย่างเย็นชา แล้วพูดว่า
“ในเมื่อเธอไม่ได้หลอกเรา
งั้นพวกด้านหลัง พละกำลังไม่ได้แข็งแกร่ง ฝากเธอรับมือด้วย”
หวยหลันเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์เช่นกัน พละกำลังถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นสามแล้ว
คนที่แข็งแกร่งสุด ก็คือแดนเหนือมนุษย์ขั้นสามเหมือนกัน
ส่วนผู้แข็งแกร่งที่ตามมาด้านหลัง ดูจากพลังบู๊ที่พวกเขาปล่อยออกมา
หวยหลันสีหน้าตระหนก ดวงตาแดงก่ำ
น้ำตาคลอเบ้า
มองหยางเฉินอย่างน่าสงสาร “พี่หยาง ฉันไม่ได้หลอกคุณจริงๆ”
พูดจบ เธอหันหลังไป เป็นฝ่ายพุ่งเข้าไปฆ่าผู้แข็งแกร่ง ของจวนเมืองหวยเฉิง
หยางเฉินทนไม่ได้
อยู่ในเมืองหวยเฉิง มาสองสามวัน
หวยหลันไม่ได้ทำเรื่องผิดต่อเขาเลย เขาคิดว่าหวยหลัน ไม่เหมือนกำลังพูดโกหก
เหล่าจิ่วมองหวยหลัน ที่พุ่งเข้าไปหาาผู้แข็งแกร่ง ของจวนเมืองหวยเฉิง แล้วพูดเสียงทุ้มว่า
“หยางเฉิน บนโลกนี้ คนที่นายคู่ควรจะเชื่อใจ
100 เปอร์เซ็นต์ มีไม่มากหรอกนะ”
“ผู้หญิงคนนี้ เป็นคนของเจ้าเมืองหวยเฉิง เธอบอกว่าพาพวกเราออกจากเมืองหวยเฉิงได้ ฉันไม่ได้เชื่อขนาดนั้น”
หยางเฉินก็รู้ว่าเหล่าจิ่วเป็นห่วงเขา จึงพยักหน้า
เขาพูดกับเหล่าจิ่วว่า “งั้นรอดูแล้วกัน ถ้าเธอฆ่าคนของจวนเมืองหวยเฉิง ผมว่าเราพาเธอออกไปด้วยได้”
มองเรือลำเล็ก กลางแม่น้ำ ที่กำลังพายมาหาพวกเขาช้าๆ
เหล่าจิ่วเห็นหยางเฉินพูดแบบนี้ จึงพูดว่า “ได้ เอาตามที่นายว่า!”
ตอนนี้ หวยหลันกำลังปะทะกับผู้แข็งแกร่ง
ของจวนเมืองหวยเฉิง พลานุภาพบู๊แดนเหนือมนุษย์ขั้นสาม ระเบิดออกจากตัวเธอ พุ่งไปฆ่าผู้แข็งแกร่ง
ของจวนเมืองหวยเฉิงทันที
ผู้แข็งแกร่งจวนเมืองหวยเฉิง
มาทั้งหมดสามคน นำมาด้วยผู้แข็งแกร่งพละกำลัง แดนเหนือมนุษย์ขั้นสาม
ส่วนสองคนที่เหลือ เป็นผู้แข็งแกร่ง แดนเหนือมนุษย์ขั้นสอง
ส่วนหวยหลัน
มีพละกำลัง แดนเหนือมนุษย์ขั้นสามอยู่แล้ว ปะทะกับผู้แข็งแกร่ง แดนเหนือมนุษย์ทั้งสามคน
แรงกดดันยังคงสูงมาก
“หวยหลันเธอกล้ามาก กล้าหักหลังจวนเมืองหวยเฉิง
กลับตัวตอนนี้
ยังพอมีทางรอด ไม่งั้นเท่ากับรนหาที่ตาย!”
ผู้แข็งแกร่งคนที่นำมา ตบลงไปบนตัวหวยหลัน แล้วแผดเสียงพูดออกมา
หวยหลันกัดฟันพูดว่า “ในเมื่อฉันเลือกที่จะหักหลังแล้ว คงไม่มีทางกลับตัวแล้ว
นายก็รู้ว่าเจ้าเมือง เป็นคนยังไง ถึงฉันกลับตัว
เขาก็ไม่ปล่อยฉันอยู่ดี”
“พวกนายเข้ามาเลย! เพราะอีกเดี๋ยว
ฉันจะเอาจริงแล้ว
ไม่ฉัน ก็พวกนาย ที่ต้องตาย!”
เมื่อพูดจบ
พลังบู๊บนตัวหวยหลันพลุ่งพล่าน ระยะเวลาสั้นๆ พุ่งสูงถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นสามชั้นยอด
ใกล้ถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นสี่ชั้นต้นอีกด้วย
ผู้แข็งแกร่งของจวนเมืองหวยเฉิง ทั้งสามคน สีหน้าเปลี่ยนไปทันที
ผู้แข็งแกร่งคนที่นำมา จ้องหวยหลัน
งั้นอย่าหาว่าเราลงมืออย่างไร้เยื่อใยแล้วกัน!”
ด้วยสีหน้าจริงจัง แล้วพูดว่า “คิดไม่ถึง ว่าเธอแข็งแกร่งถึงขั้นนี้แล้ว ก่อนหน้านี้ ประเมินเธอต่ำไปหน่อย! ในเมื่อเป็นเช่นนี้
เมื่อพูดจบ พลานุภาพบู๊บนตัว ผู้แข็งแกร่งของจวนเมืองหวยเฉิงทั้งสามคน พุ่งสูงขึ้นมาก
แม้ไม่ถึงขั้นหวยหลัน แต่พละกำลังของพวกเขา เหนือกว่าแดนของตัวเองแล้ว
“ในเมื่อเธอหักหลัง งั้นฆ่าเธอซะ!”
ผู้แข็งแกร่งคนที่นำมา ออกคำสั่ง พุ่งไปหาหวยหลันก่อนเพื่อน
ผู้แข็งแกร่งอีกสองคน ก็พุ่งเข้าไปลงมือพร้อมกัน
ทันใดนั้น ผู้แข็งแกร่งจวนเมืองหวยเฉิง
ทั้งสามคน
ระเบิดพลังต่อสู้อันแข็งแกร่ง ใส่หวยหลัน
ตอนนี้หวยหลัน เหมือนเป็นคนละคน
ไม่มีความอ่อนโยน ตอนหยางเฉินเจอเธออีกแล้ว จิตวิญญาณการต่อสู้บนตัว
พุ่งเข้าไปฆ่าผู้แข็งแกร่งของจวนเมืองหวยเฉิง ทั้งสามคนอย่างบ้าคลั่ง
เดิมทีเหล่าจิ่วไม่พอใจหวยหลัน เพราะการตามฆ่าของผู้แข็งแกร่ง จวนเมืองหวยเฉิง แต่ตอนนี้สีหน้าเขาผ่อนคลายลงเล็กน้อย
หยางเฉินแอบโล่งใจ หวยหลันมีแรงจูงใจที่จะฆ่า
ไม่งั้นถ้าเธอฆ่าผู้แข็งแกร่ง ของจวนเมืองหวยเฉิงจริงๆ ถึงเธอกลับไปจวนเมืองหวยเฉิงอีกครั้ง ก็ไม่มีทางรอดแล้ว
ผู้แข็งแกร่งจวนเมืองหวยเฉิง นี่แสดงว่า เธอหักหลังจวนเมืองหวยเฉิงจริงๆ
หยางเฉินมองเหล่าจิ่ว แล้วพูดว่า “ท่านเก้า ผมว่าพอประมาณแล้วนะครับ”
เหล่าจิ่วพยักหน้าเบาๆ
มองเรือลำเล็ก ที่ใกล้เข้าฝั่งเรื่อยๆ
แล้วพูดว่า “ควรจบการต่อสู้ได้แล้ว!”
เมื่อพูดจบ ตัวของเขาหายไปจากที่เดิม
“พลั่ก พลั่ก พลั่ก!”
เมื่อเขาปรากฏตัวออกมาอีกครั้ง ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์
ของจวนเมืองหวยเฉิง
ทั้งสามคน ตัวลอยกระเด็นออกไป และสิ้นลมหายใจทันที
หวยหลันช็อกไปเช่นกัน มองเหล่าจิ่ว ด้วยแววตาหวาดกลัว
เหล่าจิ่วพูดว่า “ดีที่เธอไม่ได้หลอกเรา ไม่งั้นผลที่ตามมา จะรุนแรงมาก!”
ได้ยินคำพูดของเหล่าจิ่ว หวยหลันจึงแน่ใจว่า เหล่าจิ่วเชื่อเธอ
เธอดีใจมาก รีบพูดว่า “ขอบคุณผู้อาวุโส! ขอบคุณผู้อาวุโส!”
หยางเฉินก็มองหวยหลัน แล้วพูดว่า
ถ้ายืนยันไม่ได้ ว่าเธอหักหลังจวนเมืองหวยเฉิง จริงหรือเปล่า เราก็ไม่กล้าพาเธอออกไปเหมือนกัน”
“หวยหลัน หวังว่าเธอจะเข้าใจ เพราะตอนนี้เราตกอยู่ในสถานการณ์ ที่อันตรายมาก
หวยหลันรีบพูดว่า “พี่หยาง ฉันเข้าใจ
คุณไม่ต้องอธิบายกับฉันหรอก วางใจเถอะ ถ้าคุณคิดว่ามีฉันอยู่ข้างกาย จะส่งผลกระทบกับคุณ รอให้ออกจากเมืองหวยเฉิง ฉันจะไปเอง ถ้าคุณคิดว่าการที่ฉันอยู่ข้างกาย
ยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง งั้นฉันจะติดตามคุณไปด้วย”
เธอเป็นผู้หญิง ตอนนี้หักหลังจวนเมืองหวยเฉิงอีก คงทำได้เพียงอยู่กับหยางเฉิน จึงจะปลอดภัยสักนิด
ถ้าไม่ได้อยู่กับหยางเฉิน จากพละกำลังแดนเหนือมนุษย์ขั้นสามชั้นยอดของเธอ
ถ้าเจอผู้แข็งแกร่ง
แดนเหนือมนุษย์ขั้นสามชั้นยอด ของจวนเมืองหวยเฉิงตามฆ่า เธอไม่มีโอกาสรอดแน่
หยางเฉินพูดว่า “รอให้ออกจากเมืองหวยเฉิงก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน!”
เขารู้เหมือนกันว่า หวยหลันอยู่ข้างกายเขา
ในตอนที่ใช้แรงทั้งหมด สามารถปลดปล่อยพลังต่อสู้ ทัดเทียมกับแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นต้น ออกมาได้
เธอจะมีโอกาสรอดเพิ่มขึ้นมาก เพราะพละกำลังของเขาตอนนี้ เข้าสู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดชั้นกลางแล้ว
แน่นอนว่าตอนนี้ เขาต้องการผู้แข็งแกร่งข้างกาย
แม้พละกำลังของหวยหลัน เทียบเขาไม่ได้
แต่ก็พอช่วยเหลือเขาได้บ้าง
ขณะนั้น
เรือลำเล็กลำนั้น มาถึงฝั่งแล้ว
ชายชราผมขาว สวมหมวกงอบคนหนึ่ง ลงมาจากเรือ
เหล่าจิ่วมายืนขวางหน้าหยางเฉินทันที มองชายชราแล้วพูดว่า “เราต้องการออกจากเมืองหวยเฉิง ช่วยไปส่งเราหน่อย!”
ชายชราหรี่ตามองทุกคน
แล้วพูดว่า “ขอโทษด้วย พวกนายคือคนที่เจ้าเมืองหวยเฉิง ต้องการให้อยู่ที่นี่ ถ้าฉันส่งพวกนายไป
ฉันคงไม่มีที่ยืนในเมืองหวยเฉิงอีก”