เวลานี้ หลี่ชิเย่จ้องมองดูราชันซื่อตี้ และราชันซื่อตี้มองดูหลี่ชิเย่ พวกเขาเป็นศัตรูกันมาทุกชาติทุกยุค ทั้งสองฝ่ายปะทะกันจำนวนนับไม่ถ้วน แต่ว่า การลงมือด้วยร่างแท้จริงเกรงว่าจะเป็นครั้งแรก
“ตาเฒ่าเฉี่ยน สวมใส่ชุดเซียนแท้จริงของเจ้า แล้วพวกเรามาสู้กันสักครั้งให้สะใจไปเลย!” หลี่ชิเย่หัวเราะเสียงดังมองดูราชันซื่อตี้แล้วกล่าวว่า “ข้าจะดูว่าหลังจากที่เจ้าสวมใส่ชุดเซียนแท้จริงแล้วจะแข็งแกร่งถึงระดับไหนกัน เทียบกับหมิงเหรินแล้วเป็นอย่างไรบ้าง!”
คำพูดของหลี่ชิเย่ทำให้ผู้คนจำนวนมากรู้สึกเต้นกระตุกในใจทีหนึ่ง ราชันเซียนหมิงเหรินคือราชันเซียนจากเก้าแดน ในบรรดาราชันเซียนเก้าแดนทั้งหมดไม่นับเป็นราชันเซียนที่ปราดเปรื่องน่าทึ่งที่สุด แต่ทว่า เขาเป็นผู้ที่สามารถมอบหมายภารกิจสำคัญได้อย่างแน่นอน เป็นราชันเซียนที่สามารถเป็นแกนหลักได้อย่างแน่นอน! ศึกล่าราชันในครั้งนั้น ระหว่างราชันเซียนหมิงเหรินกับราชันซื่อตี้ก็เคยเกิดศึกที่สะเทือนฟ้าดินมาแล้ว ระหว่างพวกเขาใครเป็นฝ่ายชนะใครเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ บุคคลภายนอกไม่มีใครทราบถึงรายละเอียด
ราชันเซียนหมิงเหรินมีชุดเกราะเซียนแท้จริงในครอบครอง อีกทั้งยังเป็นผู้ริเริ่มให้มีการเดินทางไกลเพื่อปราบปรามเป็นครั้งสุดท้ายครั้งที่ห้าขึ้น ทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องการให้มีการเปรียบเทียบว่า ระหว่างราชันซื่อตี้กับราชันเซียนหมิงเหรินมันจะเป็นเช่นใดกันแน่? แม้ว่าทุกคนไม่สามารถทราบคำตอบได้อีกแล้ว แต่ยังคงต้องการพิจารณาชั่งน้ำหนักในใจ
“ถึงเวลาต้องสวมแล้วย่อมจะสวมใส่เอง” ราชันซื่อตี้เอ่ยขึ้นช้าๆ ทุกๆ ถ้อยวาจาคือสัจวาจา คือกฎเกณฑ์สัจธรรม ทุกคำที่พูดออกมาคือกฎที่ต้องปฏิบัติตาม ผู้ที่พูดก็คือราชันซื่อตี้นั่นเอง
“ใช่ว่าข้าดูแคลนเจ้า” หลี่ชิเย่ถูมือหัวเราะและกล่าวว่า “ถ้าหากวันนี้เจ้าไม่ได้มีท่าไม้ตายอะไรหละก็ เกรงว่าจะเป็นข้าที่เชือดเจ้า!”
“อย่าทำลำพองใจเร็วเกินไป” ราชันซื่อตี้ก็ไม่โกรธ เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “นับแต่อดีตกาล การเปลี่ยนแปลงสุดจะคาดเดา ใครจะเป็นฝ่ายชนะกันแน่ยังไม่อาจรู้ได้”
“ข้ารู้สึกชอบเจ้าจริงๆ เลยนะ” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “ครั้งนั้น หากไม่เป็นเพราะเจ้าที่พรากพวกเราไป ไม่แน่นักวันนี้ข้าอาจจะต้องเรียกเจ้าว่าท่านพ่อตาก็เป็นได้”
คำพูดลักษณะเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ทำให้ผู้คนจำนวนมากมองหน้ากันและกัน มีเพียงจอมราชันเซียนหวังที่เข้าสูงยุทธภพค่อนข้างนาน จึงรับรู้เรื่องราวความบาดหมางระหว่างอีกาทมิฬกับราชันซื่อตี้ ส่วนผู้ที่เข้าสู่ยุทธภพช้าจะไม่ค่อยชัดเจนกับเรื่องนี้นัก
จอมราชันเซียนหวังจำนวนมากล้วนแล้วแต่เคยได้ยินว่า ในครั้งนั้นลูกสาวของราชันซื่อตี้ถูกผู้อื่นล่อลวงไป ทำให้ราชันซื่อตี้โกรธมากตามฆ่าไปทั่วสิบสามทวีป!
ราชันซื่อตี้มีท่าทีเย็นชาต่อคำพูดลักษณะเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ ขณะที่พวกของราชันสวรรค์ยิวได้ล่าถอยไปอยู่ด้านหลังของราชันซื่อตี้แล้ว และมีการจัดรูปขบวนทัพใหม่ พวกเขาเตรียมพร้อมที่จะโจมตีโต้กลับอีกครั้ง
เปรี้ยง…ในเวลานี้เอง บนท้องฟ้าปรากฏเสียงฟ้าร้องขึ้นมาเลือนรางเป็นระลอก เหนือศีรษะของราชันซื่อตี้ปรากฏสายฟ้าแวบผ่านไปสายหนึ่ง
สวรรค์ลงทัณฑ์…ลักษณะของสายฟ้าที่แลบผ่านหน้าไปกะทันหัน ทำเอาผู้คนจำนวนมากรู้สึกตื่นตระหนกยิ่งนัก ทยอยกันหันมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
“ที่ตรงนี้คือโลกดึกดำบรรพ์ แม้ว่าการที่จะบังเกิดสวรรค์ลงทัณฑ์นั้นไม่ง่ายนัก” หลี่ชิเย่หัวเราะเสียงดังและกล่าวกับราชันซื่อตี้ว่า “แต่ว่า ตาเฒ่าเฉี่ยน ข้าจำได้ว่าจำนวนครั้งของสวรรค์ลงทัณฑ์ที่เจ้าหลบหลีกนั้น มือสองข้างยังนับไม่หมด เกรงว่าฟ้าดินคงปล่อยเจ้าเอาไว้ไม่ได้มานานแล้ว ช้าเร็วสวรรค์ลงทัณฑ์ก็ต้องลงมาหาเจ้าแน่ ต้องถามเจ้าว่ากลัวสวรรค์ลงทัณฑ์หรือไม่ สำหรับข้านั้น ได้เตรียมใจพร้อมแล้วกับสวรรค์ลงทัณฑ์ เจ้าหน่ะเตรียมตัวพร้อมแล้วยัง?”
ราชันซื่อตี้ไม่สนใจต่อคำพูดของหลี่ชิเย่ กล่าวเสียงทุ้มต่ำกับราชันสวรรค์ยิวว่า “ได้เวลาใช้ท่าไม้ตายของสวรรค์ได้แล้ว!”
“เรื่องนี้…” ราชันสวรรค์ยิวถึงกับลังเลและเอ่ยขึ้น เมื่อได้ยินคำพูดของราชันซื่อตี้
“เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาลังเล ควรเป็นเวลาที่หยุดการสูญเสียได้แล้ว ไม่ก็หมดทั้งกองทัพ ไม่ก็ต้องแลกมาด้วยค่าตอบแทน!” ราชันซื่อตี้กล่าวเสียงทุ้มต่ำว่า “ข้าจะคอยคุมเชิงเสริมกำลังใจให้กับพวกเจ้า ข้ามีสวรรค์ลงทัณฑ์ติดตัว ไม่สะดวกที่จะรั้งอยู่นาน!”
เมื่อราชันสวรรค์ยิวได้ยินคำพูดลักษณธเช่นนี้ของราชันซื่อตี้แล้ว ตัดสินใจร้องคำรามเสียงดังออกมาว่า “เหล่าสหายทั้งหลาย ช่วยเหลือข้าอีกแรง ลดการสูญเสียให้ต่ำที่สุด” ขาดคำเสกของวิเศษออกมาชิ้นหนึ่ง
เสียงปัง…ดังสนั่น พริบตาเดียวนี้เอง ปรากฏร่างเงาที่สูงใหญ่ยิ่งผู้หนึ่งลงมาจากท้องฟ้า ร่างเงาที่สูงใหญ่ยิ่งคนผู้นี้ยืนอยู่ตรงหน้า ศีรษะค้ำยันสวรรค์เท้าพื้นดิน เสมือนหนึ่งเป็นมนุษย์ยักษ์ที่ใหญ่โตมโหฬารผู้หนึ่ง
นี่ไม่ใช่มนุษย์ แต่ดำรงอยู่ในสถานะเหมือนมนุษย์เหล็กตนหนึ่ง โดยที่เจ้ามนุษย์เหล็กนี้ไม่รู้ว่าสร้างขึ้นมาจากโลหะเซียนประเภทใด บนตัวปรากฏประกายเป็นจุดแวบวับเป็นสารพัดสีไปทั่วตัวและดูเหมือนจริงมาก อีกทั้งเมื่อมองดูให้ละเอียดก็จะพบว่า ภายใต้ร่างกายที่มีสารพัดสีนั้นเหมือนมีดวงดาวอยู่เป็นดวงๆ เหมือนว่ามีการคว้าเอาดวงดาวแต่ละดวงจากท้องฟ้าลงมาแล้วนำมาเลี่ยมประดับเอาไว้ข้างใน.ไอลีนโนเวล.
ยิ่งไปกว่านั้น บริเวณหน้าอกของมนุษย์เหล็กคนนี้มีสิ่งที่ดูเหมือนเป็นวังวนของทางช้างเผือก ที่ตรงนั้นปรากฎทางช้างเผือกที่หมุนเคลื่อนที่อยู่ ดุจดั่งได้กลายเป็นพลังที่ไม่มีสิ้นสุดขึ้นมา
เมื่อผู้คนไปทำการพินิจพิเคราะห์มนุษย์เหล็กตนนี้อย่างละเอียดนั้น ทำให้บังเกิดมโนภาพขึ้นในใจ เหมือนว่ามนุษย์เหล็กนี้กลับกลายมาจากจักรวาลๆ หนึ่งอย่างนั้น เนื่องเพราะมนุษย์เหล็กตนนี้แลดูคล้ายแปลงมาจากจักรวาลนั่นเอง จึงทำให้ร่างกายของมันดูเหมือนมีดวงดาวเป็นดวงๆ อยู่ทั่วตัว
“นี่มันคืออะไร…” ยามที่มนุษย์เหล็กตนนี้ปรากฏขึ้นมา ทุกคนล้วนแล้วแต่รู้สึกได้ว่ามีกลิ่นอายที่ดึกดำบรรพ์ยิ่งโชยเข้ามาปะทะใบหน้า กลิ่นอายสายนี้แข็งแกร่งมากเหลือเกิน ไม่เห็นจะด้อยไปกว่าจอมราชันเซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบสองสายตรงไหน เหมือนว่ามีพลังของจักรวาลๆ หนึ่งที่รวบรวมอยู่บนตัวของมนุษย์เหล็กตนนี้อย่างนั้น
‘ชุดเกราะเซียนหยินโจ้ว!’ มีระดับเซียนหวังที่รู้สึกเย็นวาบในใจเมื่อมองเห็นมนุษย์เหล็กตนนี้ กล่าวด้วยความตระหนกว่า “นี่มันคือของวิเศษประจำสวรรค์ที่อยู่ในตำนาน โดยปรกติแล้วสวรรค์จะไม่นำออกมาใช้ ไม่นึกเลยว่าถึงกับนำมันมาด้วย มันใช้สำหรับปกป้องสวรรค์ เพื่อกันไม่ให้สวรรค์ถูกโจมตี”
‘ชุดเกราะเซียนหยินโจ้ว!’ แม้แต่จอมราชันของเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์สามเผ่าก็ต้องเย็นวาบในใจเมื่อได้เห็นมนุษย์เหล็กคนนี้ ภายในใจของพวกเขารู้สึกแปลกๆ เนื่องจากราชันสวรรค์ยิวนำเอาท่าไม้ตายนี้มาด้วยตั้งแต่ต้น แต่กลับไม่ใช้มัน
ชุดเกราะเซียนหยินโจ้ว…หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “ของดี แต่ทว่า ไม่แน่เสมอไปว่าพวกเจ้าจะรู้ถึงประวัติความเป็นมาของมัน?” ครั้นเอ่ยมาถึงตรงนี้ หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวกับบรรดาจอมราชันเซียนหวังทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์
“นี่มันหาใช่สิ่งที่อยู่ในยุคของพวกเรา เป็นของวิเศษชิ้นหนึ่งที่มีขั้นตอนการทำพิธีหลอมกลั่นที่โหดร้ายทารุณอย่างยิ่ง” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า “ชุดเกราะเซียนหยินโจ้วสร้างขึ้นโดยอาศัยโลหะเซียนชั้นเลิศสุดแห่งยุคมาเป็นเปลือกนอก รวมเอาจักรวาลๆ หนึ่งเข้าไป จากนั้นนำเอาดาวดวงใหญ่เลี่ยมฝังติดเข้าไปตามข้อต่อสำคัญๆ สมควรทราบว่า ดวงดาวขนาดใหญ่ทุกๆ ดวงล้วนแล้วแต่มีสิ่งมีชีวิตเป็นล้านล้านชีวิต มีทั้งสัตว์ปีกและสัตว์บก มีสิ่งมีชีวิตและสรรพสิ่ง รวมทั้งมีผู้บำเพ็ญตนเช่นพวกเรา ยังมีมนุษย์ปุถุชนธรรมดาจำนวนนับไม่ถ้วน ยุคสมัยหนึ่งจะนำเอาดวงดาวดวงใหญ่มาเพื่อทำพิธีหลอมกลั่นเพียงครั้งละหนึ่งดวงเท่านั้น! สุดท้ายจึงกลายมาเป็นชุดเกราะเซียนหยินโจ้วอย่างที่ได้เห็นวันนี้!”
ผู้คนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกเย็นวาบในใจเมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ชิเย่แล้ว ทุกยุคสมัยจะนำเอาดาวดวงขนาดใหญ่มาดวงหนึ่ง อีกทั้งดวงดาวขนาดใหญ่ที่เลือกนำมานั้นไม่ใช่ดวงดาวที่รกร้างปราศจากชีวิต แต่ตั้งใจเลือกเอาดวงดาวประเภทที่มีชีวิตชีวาเปี่ยมล้น มีความเจริญรุ่งเรือง นำเอามาหลั่นบูชา เท่ากับมีสรรพชีวิตจำนวนเท่าไรที่ต้องถูกหลอมกลั่นไป
“นี่มิใช่อาวุธยอดเยี่ยมแห่งยุครึ!” มีระดับเซียนหวังที่ร้องเสียงหลงขึ้นมา
“ยังขาดอยู่นิดหนึ่ง ขาดอยู่นิดหนึ่งเท่านั้นแหละ” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “ถ้าหากคนที่ทำพิธีหลอมกลั่นจะทารุณโหดร้ายเพิ่มอีกสักนิดยอมลงทุนอีกสักหน่อย นับว่าเขาสามารถหลอมกลั่นให้กลายเป็นอาวุธยอดเยี่ยมแห่งยุคจนเป็นผลสำเร็จได้จริงๆ!”
คำพูดของหลี่ชิเย่ที่พูดมานั้นไม่ผิด ชุดเกราะเซียนหยินโจ้วชุดนี้ใกล้เคียงกับอาวุธยอดเยี่ยมแห่งยุคแล้วจริงๆ อีกนิดเดียวก็ทำได้สำเร็จแล้ว
ชุดเกราะเซียนหยินโจ้วชุดนี้เรียกได้ว่ามีประวัติความเป็นมาไม่ธรรมดา ต่อมาด้วยเหตุผลอันใดตกไปอยู่ในมือของสวรรค์ไม่มีใครทราบ ไม่มีใครรู้ว่าสวรรค์ไปได้ชุดเกราะเซียนหยินโจ้วชุดนี้มาจากที่ใด สวรรค์ปกปิดประวัติความเป็นมาของมันเป็นความลับตลอดมา และลึกลับอย่างยิ่ง
เมื่อบรรดาจอมราชันเซียนหวังที่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับอาวุธยอดเยี่ยมแห่งยุคได้ยินคำพูดเช่นนี้แล้ว ถึงกับเต้นกระตุกภายในใจทีหนึ่ง ความสยองขวัญน่ากลัวของอาวุธยอดเยี่ยมแห่งยุคเป็นอะไรที่ยากจะจินตนาการได้
ครั้งนั้น บรรพบุรุษหลุนหุยก็เคยมีอาวุธยอดเยี่ยมแห่งยุคอยู่ชิ้นหนึ่ง เสียดาย กลับแตกสลายไปในขณะที่ภัยพิบัติมาถึง
“เหล่าสหายทั้งหลาย อย่าได้พูดมากความกับเขา มาช่วยเหลือข้าอีกแรงร่วมกันกำจัดเจ้าอัปลักษณ์นี่เสีย!” เวลานี้ ราชันสวรรค์ยิวไม่ต้องการพูดถึงเรื่องของชุดเกราะเซียนหยินโจ้วให้มากนัก เนื่องจากประวัติความเป็นมาของชุดเกราะเซียนหยินโจ้วชิ้นนี้ไม่สะดวกที่จะเอ่ยถึงมากนัก ความจริงแล้วเข้าไม่ต้องการให้มีใครไปไล่เรียงย้อนขึ้นไปถึงประวัติความเป็นมาของชุดเกราะเซียนหยินโจ้วชิ้นนี้
เสียงตูม…ดังสนั่นขึ้น ชะตาฟ้าสิบเอ็ดสายของราชันสวรรค์ยิวพุ่งตรงเข้าไปในวังวนสีเงินที่อยู่บริเวณหน้าอกของชุดเกราะเซียนหยินโจ้ว และร่างของเขาก็พลันหายไป
“ตกลง…” เวลานี้พวกของราชันเจี้ยนตี้ต่างไม่ลังเลอีกต่อไป ทุกคนล้วนแล้วแต่ทุ่มเทแรงกายทั้งหมด ทยอยนำเอาชะตาฟ้าของตนพุ่งเข้าไปในวังวนสีเงินนั้น และร่างของพวกเขาเหล่านั้นก็ได้หายตัวไป
แว้งค์…พริบตาเดียวนั่นเอง วังวนสีเงินบริเวณหน้าอกของชุดเกราะเซียนหยินโจ้วพลันพวยพุ่งเป็นประกายที่ไม่มีสิ้นสุดออกมา เสมือนดั่งนาทีที่มีการระเบิดขึ้นมาอย่างนั้น เปล่งประกายเซียนที่สูงหนึ่งล้านล้านล้านจ้างขึ้นมา เหมือนว่านาทีนี้มีจักรวาลที่ใหม่เอี่ยมกำลังจะถือกำเนิดขึ้นมาอย่างนั้น
ขณะเดียวกันดวงดาวจำนวนสามร้อยหกสิบดวงที่ถูกเลี่ยมฝังเข้าไปในบริเวณข้อต่อก็ทยอยกันสว่างไสวขึ้นมา
นี่มันคือ…จอมเทพที่เป็นผู้ชมรู้สึกตกใจเงียบๆ เมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว และกล่าวว่า “เป็นการนำเอาชะตาฟ้ามาขับเคลื่อนของวิเศษยอดเยี่ยมนี้หรือ?”
“ไม่จำเป็นเสมอว่าต้องอาศัยชะตาฟ้ามาขับเคลื่อน” มีจอมราชันที่ยืนดูในระยะห่างไกลและรู้เรื่องราวเกี่ยวกับชุดเกราะเซียนหยินโจ้วกล่าวว่า “ความจริงแล้ว ชุดเกราะเซียนหยินโจ้วไม่จำเป็นต้องอาศัยสิ่งใดๆ มาขับเคลื่อนมันก็สามารถสังหารไปทั่วหล้า แน่นอน ลำพังอาศัยพลังจากชุดเกราะเซียนหยินโจ้วไม่เน่เสมอไปว่าจะเอาชนะอีกาทมิฬได้ ต่อให้มีโอกาสเอาชนะได้…”
“…เกรงว่าก็ต้องสูญสิ้นพลังไปทั้งหมด และชุดเกราะเซียนหยินโจ้วนี้ก็จะเข้าสู่การหลับไหลกลายเป็นเศษเหล็กนับจากนี้เป็นต้นไป! แต่ทว่า หากจอมราชันเซียนหวังทั้งหมดยอมถ่ายทอดชะตาฟ้าของตนเองเข้าไปทั้งหมด ก็จะทำให้ชุดเกราะเซียนหยินโจ้วมีความแข็งแกร่งมากขึ้น การสูญเสียของตัวมันเองก็จะลดลงถึงขีดต่ำสุด แหะ การี่สวรรค์ไม่ยอมเอาของสิ่งนี้ออกมา เกรงว่าคงไม่ต้องการให้เกิดการสูญเสียกระมัง”
จอมราชันผู้นี้เหมือนว่าจะไม่พอใจในสวรรค์เท่าไรนัก ขณะพูดเช่นนี้แล้วได้หัวเราะเยาะออกมา
ที่จอมราชันพูดเอาไว้ไม่ผิดสักนิด และมันคือสาเหตุที่ราชันสวรรค์ยิวต้องการให้จอมราชันเซียนหวังทั้งหมดช่วยเหลือเขาอีกแรง ซึ่งนอกจากจะสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นให้กับชุดเกราะเซียนหยินโจ้วแล้ว เขายังหวังให้ชุดเกราะเซียนหยินโจ้วได้รับความเสียหายอยู่ในขีดต่ำสุด จะอย่างไรเสียสิ่งนี้คือของวิเศษประจำสวรรค์ของพวกเขา พวกเขาไม่ต้องการให้มันต้องกลายเป็นเศษเหล็กในที่สุด!
ตูม…ทันใดนั้นเองบังเกิดเสียงดังสนั่นขึ้น ชุดเกราะเซียนหยินโจ้วตัวนี้ได้แผ่วงแหวนแต่ละวงออกมา วงแหวนทุกวงมีขนาดใหญ่ดั่งทางช้างเผือก ทุกๆ วงแหวนเสมือนหนึ่งสามารถรองรับโลกทั้งใบเอาไว้ ยามที่วงแหวนแต่ละวงแผ่สยายออกมานั้น เหมือนหนึ่งได้เปิดศักราชขึ้นมาใหม่อย่างนั้น ท่ามกลางวงแหวนเซียนได้บ่มเพาะศักราชหนึ่งเอาไว้
แว้งค์…จังหวะที่ชุดเกราะเซียนหยินโจ้วขวางอยู่ตรงหน้าหลี่ชิเย่นั้น เห็นเงาราชันซื่อตี้แวบหนึ่ง พลันถอยกลับไปยังด้านหลังของประตูมิติในทันที เมื่อเขาถอยหลังกลับไปสายฟ้าแวบๆ บนท้องฟ้าก็หายไปทันที
………………………………………….
