เมียหวานของประธานเย็นชา – บทที่1000 เกือบจะเกิดเรื่องแล้ว!

บทที่1000 เกือบจะเกิดเรื่องแล้ว!

นางแบบบนเวทีเดินพลุกพล่านไปมา แต่ละคนมีเวลาสั้นๆแค่สิบกว่าวินาที จะสร้างความประทับใจให้ผู้คนมันยากมาก

เสื้อผ้าชุดที่สองของหลวนจื่อก็ทำให้คนตะลึงในความสวยเหมือนกัน!

เสื้อผ้าที่แตกต่างกับก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง ยิ่งสวยและสุภาพกว่าเดิม

ทุกครั้ง หลวนจื่อล้วนสามารถสื่อแนวความคิดทางศิลปะของเสื้อผ้าที่อยากจะสื่อออกมา ได้ส่งผ่านไปถึงในใจของทุกคนอย่างชัดเจน

นางแบบมีอยู่มากมาย แต่มีแค่หลวนจื่อเท่านั้นที่สามารถเข้าไปอยู่ในใจของทุกคน

ถึงแม้ไอรีนที่เป็นคนนางแบบเปิดงานและปิดงานของวันนี้ ถึงเธอจะทำได้ไม่เลวจริงๆ แต่เมื่อเทียบกับหลวนจื่อแล้วก็ยังค่อนข้างแย่กว่า

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ แฟชั่นโชว์ของวันนี้ก็ค่อยๆเข้าสู่ช่วงท้ายแล้ว

เสียงดนตรีก็ค่อยๆเปลี่ยนมาผ่อนคลายลง

“น่าจะเหลือแค่ชุดสุดท้ายแล้วมั้ง” เวินเที๋ยนเที๋ยนนึกย้อนถึงคำพูดของหลวนจื่อในก่อนหน้านี้แล้วพูด

เพิ่งพูดจบ หลวนจื่อก็เดินออกมาจริงๆด้วย!

นั่นเป็นเดรสยาวแฮนด์เมดทั้งชุดเลยนะ!

บนเดรสเกาะอกประดับด้วยเพชรที่ราคาสูงลิ่วและแวววาวระยิบระยิบ

พอเดินออกมาปุ๊บ ก็ดึงดูดสายตาทุกคนเลย พอมองอย่างละเอียด ไม่นึกเลยว่าหลวนจื่อจะไม่แต่งหน้า!

ผมดกดำม้วนเล็กน้อยและทิ้งตัวอยู่ข้างหลัง บนใบหน้าไม่ได้แต่งอะไรเลย แต่กลับสวยสะพรั่ง

เธอก้าวฝีเท้าเดินออกมา ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ทำให้คนตะลึงพรึงเพริดมาก

เห็นใบหน้าที่จัดหนักจัดเต็มจนชิน นาทีนี้ ตอนที่ทุกคนเห็นหลวนจื่อ ในหัวก็มีดอกลิลลี่สีขาวที่สวยงามผุดขึ้นมา

นำมาแชทช์กับเดรสยาวฟ้าคราม ยิ่งสวยสะพรั่งเข้าไปใหญ่!

“หรือนี่ก็คือมหัศจรรย์แห่งพลังตะวันออก?” ในหมู่คน มีคนเปิดปากพูดเสียงเบา

สามารถร่วมงานแฟชั่นโชว์แบบนี้ ฐานะจะต้องไม่ธรรมดาแน่นอน รู้อยู่แล้วว่าอยู่ในสถานที่แบบนี้ เปิดปากพูดมันเสียมารยาทเกินไป แต่เขาก็ยังอดพูดไม่ได้อยู่ดี

ไม่เพียงแค่เขาเท่านั้น หลังจากเขาพูดจบ มีคนไม่น้อยต่างก็พยักหน้า

“ลึกลับ ช่างงดงามจริงๆ!”

“เสน่ห์ของเดรสตัวนั้น ถูกเธอเผยออกมาหมดเลย!”

“ดีไซน์เนอร์ไปหาคนมาจากไหนเนี่ย ช่างเพอร์เฟคจริงๆเลย!”

คนพวกนั้นพูดคุยหารือกันฉอดๆๆ

ใครจะรักจะชังก็ช่าง หลวนจื่อก็ไม่ใส่ใจ เธอเดินมาที่หน้าเวที หยุดลงมาเล็กน้อย จากนั้นก็ได้หันหลังจากไป

มาถึงตอนนี้ โชว์ทั้งหมดเป็นอันจบสิ้น

นาทีนี้ทุกคนยังจมปลักอยู่ในภาพเมื่อสักครู่จนไม่อาจถอนตัว

นาทีนี้ เสียงดนตรีเปลี่ยน เหล่านางแบบได้กลับมาบนเวทีอีกครั้ง

ดีไซน์เนอร์ก็เดินตามมาติดๆ

ใบหน้าของหลุยส์ประดับด้วยรอยยิ้มที่พึงพอใจ

ตอนที่เซ็นต์สัญญากับหลวนจื่อ เป็นการตัดสินใจที่เขาทำถูกต้องที่สุดจริงๆ!

ตอนที่แฟชั่นโชว์ยังไม่จบ ก็มีคนไม่น้อยมาสอบถามชุดทั้งหลายที่หลวนจื่อใส่แล้ว!

การเปลี่ยนแปลงของหลวนจื่อทำให้คนรู้สึกเซอร์ไพรส์มาก ราวกับหนอนได้กลายเป็นผีเสื้อยังไงอย่างงั้น

เขาเงยหน้าขึ้น ตัดสินใจอยู่ลับๆว่าต่อไปจะต้องร่วมงานกับหลวนจื่ออีก

ก่อนหน้านี้เขาพลาดนางแบบคนนี้ไป ต่อไปจะพลาดไม่ได้อีก

เหล่านางแบบขึ้นเวทีพร้อมกัน แต่สายตาของทุกคนต่างก็จดจ่ออยู่ที่หลวนจื่อ

นาทีนี้บนตัวเธอยังใส่ชุดสีขาวของเมื่อครู่อยู่

ถึงแม้ไม่ได้แต่งหน้าอีกเช่นเคย แต่เมื่อเทียบกับนางแบบที่อยู่รอบๆแล้ว กลับเหมือนวัตถุที่เปล่งแสง ทำให้คนอดไล่ล่าไม่ได้

สายตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็หล่นอยู่ที่บนตัวเธอเช่นกัน อีกทั้งยังยิ้มให้กับหลวนจื่อ พร้อมหยิบมือถือออกมา เตรียมถ่ายรูปให้หลวนจื่อใบนึง

ถึงแม้หมินอันเกอไม่สามารถมาในงาน แต่เธอสามารถถ่ายรูปส่งไปให้เขาดูได้

รอบๆมีเสียงวิพากวิจารณ์หลวนจื่อยิ่งอยู่ยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ

แทบจะทุกคนที่กำลังวิพากวิจารณ์หลวนจื่อกลับมาจุดสูงสุดอีกครั้ง

ยิ่งมีคนไม่น้อยกล่าวว่านี่เป็นการกลับมาของราชินี

ได้ยินคำพูดเหล่านี้ ไอรีนที่เดินอยู่ข้างๆกลับมีสีหน้าดูแย่สุดขีด แม้แต่รอยยิ้มที่เป็นมารยาทก็แทบจะรักษาต่อไปไม่ได้แล้ว

ราชินี?

พูดเหลวไหล!

ราชินีบนเวทีเดินแบบคือเธอแท้ๆ!

หลวนจื่อใหญ่มาจากไหน?

แฟชั่นโชว์นี้เป็นตัวหลักของเธอแท้ๆ ไม่นึกเลยว่าจะถูกหลวนจื่อแย่งรัศมีไป!

ให้อภัยไม่ได้!

เธอมาที่ข้างหลังของหลวนจื่ออย่างเงียบๆ จู่ๆได้ยื่นมือใช้แรงไปผลักเธอ!

หลังจากจบแฟชั่นโชว์ชุดนี้ หลวนจื่อก็รู้สึกโล่งอกอย่างไม่รู้ตัวเลย

กำลังคิดอยู่ว่าหลังจากจบกิจกรรมปิดงานแล้ว เธอก็จะจากไปและโทรหาโดว์โดว์โดยเร็ว

เมื่อครู่มัวแต่ยุ่งกับงานอยู่ ไม่ได้ติดต่อโดว์โดว์ทันท่วงที ไม่รู้ว่าเธอจะร้องไห้หรือเปล่า

สาวตัวน้อยคนนั้นเป็นตัวตลกชัดๆ

แต่เวลานี้ จู่ๆได้มีคนผลักเธอทีนึง!

หลวนจื่อไม่ทันตั้งตัว ได้ล้มไปข้างหน้าทั้งคน!

เธอใส่รองเท้าส้นสูง ผ่านไปชั่วแว๊บเดียวก็ล้มลงไปอย่างควบคุมไม่ได้ เธอได้ล้มลงมาจากบนเวทีเดินแบบ!

เวทีเดินแบบที่จัดขึ้นในวันนี้สูงมาก สูงประมาณหนึ่งเมตร ถ้าล้มลงไปแบบนี้ บวกกับใส่รองเท้าส้นสูง กระดูกข้อเท้าของเธออาจจะหักได้!

สำหรับนางแบบแล้ว ขาทั้งสองข้างก็เปรียบเสมือนชีวิตของเธอเลย!

แต่ว่า ร่างกายของเธอไม่สามารถคว้าจับสิ่งของอะไรได้เลยด้วยซ้ำ ได้แต่ทนดูตัวเองล้มลงไป……

หลวนจื่อหัวเราะอย่างขมขื่นทีนึงโดยที่ไม่รู้ตัว

พยายามมานานขนาดนี้ วันนี้อุตส่าห์มีความหวังกลับมายืนจุดสูงสุดอีกครั้ง ถ้าล้มลงไปแล้วข้อเท้าหัก จะต้องถูกบีบให้พักผ่อนอีกแน่นอน

ถึงเวลา แฟชั่นโชว์ของแบรนด์มากมายจะไม่จ้างเธออีกแน่เลย

ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ทุกอย่างก็ต้องเริ่มต้นใหม่หมด

อาจจะเพราะตัวเองห่างหายจากงานเดินแบบไปนานเลยไม่มีการป้องกันตัว เห็นได้ชัดว่าที่ผลักเธอเมื่อครู่คือมือคู่นึง

คนที่ยืนอยู่ข้างกายเธอก็มีแค่ไม่กี่คน แทบจะสามารถเดาได้เลยว่าคือใคร

หลวนจื่อหลับตาลงอย่างยอมรับชะตากรรม และรอการมาเยือนของความเจ็บปวด

โพ่ง——

แต่ว่าต่อมา กลับไม่มีความเจ็บปวดที่คาดการณ์เอาไว้เลย กลับกันได้หล่นเข้าไปในอ้อมกอดที่อบอุ่น

หลสนจื่อลืมตาขึ้นมาด้วยความตกตะลึง ใบหน้าที่คุ้นเคยที่สุดปรากฎอยู่ตรงหน้า

“หมิน หมินอันเกอ……”

มือทั้งสองข้างของหมินอันเกออุ้มเธอไว้ ใบหน้าที่แต่ไหนแต่ไรอ่อนโยนและประดับด้วยรอยยิ้มที่แจ่มใส นาทีนี้กลับเคร่งขรึมสุดขีด

เขาขมวดคิ้ว และเม้มริมฝีปากบางไว้แน่น บนตัวยังใส่ชุดลำลองและหมวกไว้ใบนึง สีหน้าดูแล้วค่อนข้างอิดโรย หน้าตาเหมือนเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางตะลอนๆ

ไม่เหมือนมาหลังจากได้เตรียมตัวแล้ว เหมือนมาจากกองถ่ายอย่างเร่งรีบมากกว่า

และนาทีนี้ แววตาของเขามีความโกรธตลบอบอวลอยู่ อีกทั้งยังยิ่งอยู่ยิ่งมากขึ้นด้วย

หลวนจื่อรีบยืนทรงตัวนิ่ง แต่ก็ยังค่อนข้างดึงสติกลับมาไม่ได้อยู่ดี

“หมินอันเกอ คุณมาอยู่ได้ยังไงคะ?”

หมินอันเกอก้มหน้ามองหลวนจื่อ สำรวจเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างละเอียดรอบนึง หลังจากแน่ใจแล้วว่าเธอไม่ได้รับบาดเจ็บ ในที่สุดถึงวางใจ

“ทำไมไม่บอกผมว่าวันนี้จะเดินแบบ?”

พอเปิดปากก็เค้นถามด้วยเสียงตึงเครียดจริงๆด้วย

หลวนจื่ออึ้ง จากนั้นได้หลบหลีกสายตาเขา พร้อมทั้งยกมุมปากขึ้นและฝืนเผยรอยยิ้มออกมา

“คุณถ่ายละครอยู่ไม่ใช่เหรอ? ฉันกลัวกระทบงานของคุณค่ะ”

แต่สีหน้าของหมินอันเกอยิ่งดูแย่ขึ้นไปอีก

“คุณรู้ทั้งรู้ว่า……”

เขาพูดถึงกลางคัน จู่ๆกลับหยุดลงมา ไม่ได้พูดต่ออีก

หลวนจื่อยิ้มและแสร้งทำเป็นไม่แคร์

“อีกอย่างถึงคุณไม่อยู่ ฉันก็เดินแบบอย่างสำเร็จลุล่วงไปได้ดี ไม่ใช่เหรอคะ?”

“สำเร็จลุล่วงไปได้ดี?” หมินอันเกอย้อนถาม

เมื่อครู่เขาเห็นชัดเจนว่าหลวนจื่อถูกคนผลัก และล้มลงมาจากเวทีเดินแบบโดยตรงเชียวนะ!

ถ้าไม่ใช่ตัวเองพยายามพุ่งออกมาอุ้มเธอเอาไว้อย่างเต็มที่ มีความเป็นไปได้สูงที่ตอนนี้หลวนจื่อก็ต้องเข้าพยาบาล!

นึกถึงเธอ ในใจเขาก็ได้ลุกเป็นไฟอีกครั้ง

เงยหน้ามองไปทางผู้คนทั้งหลายที่อยู่บนเวทีเดินแบบ

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน