เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ – ตอนที่ 591-592

ตอนที่ 591-592

บทที่ 591 อีหลิง ทําไมเธอถึงอยู่ที่นี่

ทําไมเขาถึงยังกังวลกับเรื่องอื่นๆอีก? เขาต้องดูแลตัวเองนะ

ทําไมโง่จัง?

สิ่งสําคัญสําหรับเขาคือการจัดการกับฉันชวนนั้นสําคัญจริงเหรอ

 ไม่เป็นไร ฉันไม่ตายหรอกเจียนอี้เงินกล่าวขณะที่เอียงหน้า รอยยิ้มที่ไม่แยแสยังคงอยู่บนใบหน้าเขา

แต่ยังไงก็ตาม หากคนของเขามาไม่ทันเวลา อย่างน้อยเขาคงปางตายแล้ว

การแก้แค้นสําคัญขนาดนั้นหรือไม่? มันสําคัญกว่าชีวิตเขาเหรอ? เขากําลังคิดอะไรบ้าๆอยู่?

นอกจากนี้ ถ้าเขาตาย เขาจะแก้แค้นได้ยังไง?

เจี่ยนอี้เฉินและฉินหยฝานถูกนําตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อทําการตรวจร่างกาย

เจี่ยนอี้เฉินมีบาดแผลมากมายตามร่างกาย

เนื่องจากเพศต่างกัน พวกเขาจึงถูกพาไปคนละวอร์ด

ไม่นานหลังจากที่เจี้ยนอี้เฉินมาถึงโรงพยาบาล เขาก็เห็นเจี้ยนอีหลิง

เขาไม่ได้แจ้งเจี่ยนอีหลิงและคนอื่นๆในตระกูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วเธอมาที่นี่ทําไม?

 อีหลิง…เธอมาที่นี่ทําไม่ทันทีที่เขาเห็นเจี่ยนอีหลิงใบหน้าเขาก็เปลี่ยนไป

เขาเยือกเย็นไม่ใส่ใจเมื่อเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้ลักพาตัว แต่ทว่าจะเป็นเรื่องตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง เมื่อเขาเผชิญหน้ากับเจียนอีหลิง

เมื่อเจียนอีหลิงเห็นเจี่ยนอี้เฉิน เขาก็ได้ถอดวกและลบแต่งหน้าแล้ว ตอนนี้เขาสวมชุดคนไข้ เธอสามารถบอกได้ในพริบตาว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส

เจียนอีหลิงไม่ได้พูดอะไร แต่ทว่าท่าทางที่ไร้อารมณ์ของเธอนั้นทําให้เจี่ยนอี้เฉินกังวลมากขึ้นกว่าเดิมด้วยเหตุผลบางประการ

 อีหลิง…ฉัน…ฉันล้มลงโดยไม่ได้ตั้งใจ เจียนอี้เฉินกล่าว เขาพยายามที่จะกัดฟันโกหกออกมา

เมื่อได้ยินแบบนี้ เจียนอีหลิงก็จ้องเขม็งมาที่เขา

อา…ดูเหมือนว่าคําพูดเขาจะไม่น่าเชื่อถือเลย…

ยังมีตํารวจอยู่ข้างนอก เห็นได้ชัดว่าสิ่งต่างๆ ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น

 ฉันสบายดี ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน อย่าโกรธนะ… มองมาที่ฉันสิ ไม่มีอะไรผิดปกติเลย 

จากนั้นเจียนอี้เฉินก็ดึงแขนเสื้อของเจียนอีหลิงเบาๆราวกับว่าเขากําลังพยายามออดอ้อน

ในตอนนี้เอง แพทย์ก็ได้เดินเข้ามาพร้อมกับภาพเอ็กซ์เรย์

 กระดูกร้าวสองจุดและเนื้อเยื่อฉีกขาดหลายจุด 

เมื่อได้ยินดังนั้นเจียนอีหลิงก็หันกลับมามองเจียนอี้เฉินอีกครั้ง

เจียนอี้เฉินก้มหน้าลง

อา…ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บจริงๆ

จากนั้นหมอก็ส่งฟิล์มเอกซเรย์ให้เจียนอีหลิง แพทย์อธิบายสถานการณ์ให้เธอฟังอย่างละเอียด

ยิ่งเขาฟังการสนทนามากเท่าไหร่ มโนธรรมของเขาก็ยิ่งติเตียน

จากนั้นเจียนอหลิงก็ได้หารือเกี่ยวกับแผนการรักษาเจียนอี้เฉินกับแพทย์ มีกระดูกร้าวเล็กน้อยรอบๆซี่โครง หลังจากหารือกันแล้ว ก็ตัดสินใจนําการรักษาแบบดั้งเดิมมาใช้ ในกรณีนี้ไม่ต้องผ่าตัด

แต่ถึงอย่างนั้น เจี่ยนอี้เฉินก็ต้องใช้เวลานานกว่าจะดีขึ้น

จากนั้นหัวหน้าทีมหร่วนก็เข้ามาในวอร์ด

ทันทีที่เจี่ยนอี้เฉินเห็นหัวหน้าทีมหร่วน เขาก็เริ่มส่งสัญญาณด้วยสายตา เขาต้องการให้หัวหน้าทีมหร่วนออกไป

แต่ทว่า หัวหน้าทีมหร่วนเดินตรงไปที่เจียนอีหลิง

 เราได้ตรวจสอบทุกคนในตระกูลฉินแล้ว ไม่พบสิ่งใดที่น่าสงสัย  หัวหน้าทีมหร่วนกล่าวกับเจียนอหลิง

 ส่งสําเนาคําพูดของพวกเขามาให้ฉัน  เจี่ยนอีหลิงกล่าว

 ตกลง 

เจียนอี้เฉินมองด้วยความประหลาดใจ

เขาเข้าใจการสื่อสารระหว่างเจียนอีหลิงกับหมอ เพราะเจี่ยนอีหลิงเป็นนักศึกษาแพทย์ อีกทั้งเธอยังมีศาสตราจารย์ที่ปรึกษาที่มีชื่อเสียงอีกด้วย

แต่ทําไมหัวหน้าทีมหร่วนถึงพูดถึงเรื่องเขากับน้องสาวล่ะ?

ทําไมถึงต้องแจ้งรายละเอียดของคดีกับเจียนอีหลิง?

ก่อนหน้านี้เจี้ยนอี้เฉันคิดที่จะซ่อนเรื่องนี้จากน้องสาว แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้น้องสาวเขาจะทราบสถานการณ์ทั้งหมดแล้ว อันที่จริง ดูเหมือนเธอจะรู้จักหัวหน้าทีมหร่วนค่อนข้างดีอีกด้วย

เจี่ยนอี้เฉินรู้สึกเหมือนเป็นเด็กที่ทําอะไรผิด เขาไม่กล้าส่งเสียงเมื่ออยู่ข้างพวกเขา

ผ่านไปครู่หนึ่งหัวหน้าทีมหร่วนก็หันกลับมาถามเจี่ยนอี้เฉินให้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ขณะที่เขาอยู่ตรงหน้าเจี้ยนอีหลิง เจียนอี้เฉินดูเหมือนจะอายมาก

แต่ถึงกระนั้น หัวหน้าทีมหร่วนก็กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า  มิสเตอร์เฉินโปรดร่วมมือกับเรา 

 พอที่จะ.. 

เจียนอี้เฉินหันมองไปที่เจียนอีหลิง ไม่ใช่ว่าเขาไม่เต็มใจที่จะให้ความร่วมมือ แต่เขาไม่ต้องการเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้าน้องสาว ว่าเขาโดนซ้อมหนักมาก…

บทที่ 592 ฉันรู้ว่าฉันทําอะไรผิด

 แม้ว่านายจะหลีกเลี่ยงเธอในตอนนี้ได้ เธอก็จะยังคงรู้เรื่องนี้ในภายหลัง  หัวหน้าทีมหร่วนบอกกับเจี่ยนอี้เฉินค่อนข้างชัดเจน

เจียนอีหลิงเป็นที่ปรึกษาและผู้ตรวจสอบทางนิติเวชของทีม

ดังนั้นเธอจึงมีสิทธิทราบเรื่องราวคดีนี้ อันที่จริงเธอเป็นสมาชิกคนสําคัญของทีมสืบสวนของพวกเขา

ด้วยเหตุนี้ เจียนอี้เฉินจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องอธิบายอย่างเชื่อฟังว่าเขาถูกพวกกลุ่มลักพาตัวทุบตีอย่างรุนแรงได้ยังไง

ภาพพจน์ความเป็นพี่ของเขา…สูญหายไปโดยสิ้นเชิง

หลังจากหัวหน้าทีมหร่วนออกไป เจียนอีหลิงก็ทาครีมตามรอยฟกช้ําและรอยกรีดตามร่างกายของเจียนอี้เฉิน

ในบรรดาพี่น้องในตระกูลเจี่ยน เจี่ยนอี้เฉินมีโครงร่างที่ค่อนข้างเล็ก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ร่างกายเขาถูกเปรียบเทียบกับของพี่ชายเขา ในทางตรงกันข้าม เจี่ยนอี้เหิงนั้น มีกล้ามเนื้อและมีความกระฉับกระเฉงเหลือเกิน

ถ้าคนที่ถูกลักพาตัวในวันนี้คือเจี่ยนอี้เหิง พวกลักพาตัวจะต้องตกอยู่ในสภาพเลวร้ายอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ ผิวของของเจี่ยนอี้เฉินนั้นแบบบางและละเอียดอ่อนกว่าผู้ชายทั่วไป ทําให้บาดแผลบนผิวหนังเขาดูน่าตกใจมากขึ้น

 น้องสาว… เจ็บ…เจ็บ…เบามือหน่อย… 

เจียนอีหลิงไม่อ่อนโยนเลยขณะที่เธอทาครีมไปบนบาดแผลของเจียนอี้เฉิน

นี่ทําให้เจียนอี้เฉินโหยหวนด้วยความเจ็บปวด

แต่ไม่ว่ายังไง เจี่ยนอีหลิงก็ไม่ส่งเสียง เธอยังคงทาครีมต่อไปในแบบเดียวกัน

ดูเหมือนว่าเขารู้สึกถึงความรู้สึกเจ็บปวดด้วยเหรอ?

แล้วทําไมเขาถึงไม่ร้องขออ้อนวอนเมื่อตอนที่เขาถูกทุบตี?

 อีหลิง ฉันรู้ว่าฉันทําผิด…อย่าอารมณ์เสียเลยนะ 

เจี่ยนอี้เฉินขอร้องเจี่ยนอีหลิงขอให้เธอให้อภัย

เขาพยายามขอเธอให้อภัย

 ยังกล้าทําแบบนี้อีกไหม 

เจียนอีหลิงไม่พอใจที่เจียนอี้เฉินไม่ได้ดูแลร่างกายตัวเอง

สีหน้าของเจียนอีหลิงนั้นจริงจัง แม้ว่าเสียงเธอจะเบา แต่เธอก็น่ากลัวมาก

 ไม่อย่างแน่นอน ฉันสัญญาว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก เจียนอี้เฉินตอบอย่างรวดเร็ว เขาสร้างความมั่นใจให้กับเจี่ยนอีหลิง

เจี่ยนอีหลิงมองดูเขาอีกครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็ทาครีมลงบนบาดแผลด้วยความอ่อนโยนมากขึ้น

ฉินหยูผ่านมาหาเจียนอี้เฉิน

เธอมีอาการบาดเจ็บที่เบากว่าเจียนอี้เฉินมาก เป็นผลให้เธอได้รับการตรวจร่างกายเพียงช่วงสั้นๆ ทันทีที่แพทย์แจ้งว่าเธอไม่เป็นไร เธอก็ออกจากวอร์ดเพื่อมาเยี่ยมเจียนอี้เฉิน

ทันทีที่เธอหยุดที่ประตูห้องของของเจี่ยนอี้เฉิน เธอก็เห็นเจี่ยนอีหลิงและเจียนอี้เฉิน

ทั้งสองยิ้มและพูดคุยกัน ดูเหมือนว่าพวกเขารู้จักกันค่อนข้างดี

เฉินหยูฝานหยุดชะงัก

พวกเขาไม่ได้ใกล้ชิดกันเกินไปหน่อยเหรอ? พวกเขารู้จักกันดีแค่ไหน?

นอกจากนี้ วิธีที่เขามองเจียนอีหลิง…มันช่างนุ่มนวลและอ่อนโยน…

ด้วยเหตุนี้ฉินหยฝานจึงอดไม่ได้ที่จะคิดถึงสถานการณ์นี้มากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม

ขณะที่ฉินหยฝานยืนอยู่ที่ประตู เธอก็รู้สึกอยากจะหันหลังเดินจากไป

แต่อย่างไรก็ตามเมื่อนึกขึ้นได้ เธอก็รู้สึกว่าควรขอบคุณเจี้ยนอี้เฉินอีกครั้ง เธอไม่ควรลืมสิ่งที่เขาทําเพื่อเธอ เพราะว่าเธอไม่มีความสุข

ดังนั้นเธอจึงหยุดที่ประตูชั่วขณะหนึ่ง จากนั้น เธอตัดสินใจเปิดประตูและเข้าไปในวอร์ด

 ฉันมาที่นี่เพื่อขอบคุณ ฉินหยฝานกล่าว

เมื่อเธอเห็นบาดแผลบนร่างกายของเจียนอี้เฉิน ความเจ็บปวดนั้นก็สามารถรู้สึกได้เข้าไปในหัวใจเธอ

 ด้วยความยินดี เจียนอี้เฉินกล่าวพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า แต่ทว่ารอยยิ้มนั้นดูไม่ปกติด้วยอาการบาดเจ็บที่กระจัดกระจายไปทั่วร่างกาย

 ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้สิ่งที่นายต้องการ ฉินหยฝานกล่าว

 ขอบคุณ  เจียนอี้เฉินตอบ

 ฉันมีอีกหนึ่งคําถามที่จะถามนาย   ได้โปรดถามมาเลย   ถ้านายต้องการให้ฉันจัดการกับฉันชวน นายก็ควรปล่อยให้ฉันเข้าใจสถานการณ์ผิด ให้ฉันถือว่าฉันชวนลักพาตัวฉันในสถานการณ์นั้น แน่นอนว่าฉันจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยนายจัดการกับฉันชวน   เฮอะ  เจียนอี้เฉินหัวเราะ เขาหยุดก่อนจะพูดอีกครั้งว่า  บาง ที่ฉันอาจไม่อยากทําแบบนั้น หรือบางที่ฉันไม่ต้องการให้เธอถูกครอบงําด้วยการแก้แค้นและความเกลียดชัง ในสถานการณ์นั้น การอยู่ในสภาพแบบนี้นั้นไม่น่าเป็นไปได้ที่เธอจะเอาชนะเขาได้ แต่จิตใจของเธอจะถูกฝังไป ด้วยความเกลียดชัง 

ฉันหยุฝานเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้น สายตาเธอจ้องไปที่เจี่ยนอีหลิงอยู่ชั่วขณะ

เธอต้องการถามเจียนอีหลิงว่าทําไมถึงมาอยู่ที่นี่

แต่ทว่าความถือตัวไม่อนุญาตให้เธอทําเช่นนั้น เธอไม่ต้องการไต่สวนเรื่องนี้มากเกินไป

หลังจากเดินออกจากห้อง ฉินหยฝานก็พลันรู้สึกโกรธมาก

แต่ทว่าเธอไม่รู้ว่าทําไมถึงโกรธ หลายสิ่งหลายอย่างอาจส่งผลต่อความโกรธของเธอ

 

เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ

เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ

Status: Ongoing

เดิมที เจี่ยนอีหลิง (简一凌) เป็นตัวละครประกอบที่มีชะตากรรมเป็นแนวหน้ากล้าตาย แต่ทว่าเมื่อตอนนี้เธอมีความทรงจำจากเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เจี่ยนอีหลิง ซึ่งเป็นผู้อ่านได้ย้ายเข้ามามีตัวตนในนิยาย จึงได้เปลี่ยนแปลงตนเองไปเป็นผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง ไม่เพียงแต่เจี่ยนอีหลิงจะไม่สนใจในตัวเอกชาย แต่เธอยังคงทำให้ผู้คนรอบกายเธอตกตะลึง สับสน งงงัน

ตามต้นฉบับแล้ว พี่ชายทั้งหลายต่างพากันเกลียดเธอ แต่ตอนนี้ทุกคนล้วนพากันปกป้องเธออย่างเอาเป็นเอาตาย

“อี้หลิงตกใจง่าย อย่าทำให้เธอกลัว”

“อี้หลิงไม่เคยไปที่ไกลๆ อย่าหลอกเธอ”

“อี้หลิงมีร่างกายอ่อนแอ ห้ามรังแกเธอ”

คนอื่นๆ ต่างต้องการร่ำร้องไม่อยากเชื่อ มั่นใจเหรอว่าเธอน่ะน่ารักและถูกรังแกได้ง่ายๆ ใครกล้ารังแกเธอกัน ในขณะที่พวกเขาล้วนคิดว่าเพียงแค่บรรดาพี่ชายตระกูลเจี่ยนก็เพียงพอแล้วที่จะจัดการทุกสิ่งทุกอย่าง แต่นั่นก็ยังมีคนอื่นที่คอยเติมส่วนที่เหลือ

นายท่านเชิ่ง “อี้หลิงเป็นคนเปราะบางมาก อย่าทำให้เธอโกรธ ถ้าคุณทำให้เธอโกรธ ผมจะหั่นคุณออกเป็นชิ้นๆและทำเป็นน้ำซุป”

คนอื่นๆ “นายท่านเชิ่ง ผมคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติกับดวงตาคุณ ผมแนะนำให้คุณไปหาจักษุแพทย์”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads แทงบอลออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน