จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – บทที่ 458 ความโกรธของหลินหยุน

บทที่ 458 ความโกรธของหลินหยุน

“หยุดก่อน! ”

โม่หยู่ตะโกนขึ้นด้วยเสียงแหลมและเศร้าสลด แล้วก็ไปยืนบังอยู่เบื้องหน้าฉินหลันอีกครั้ง และจ้องมองไปที่ชายในชุดคลุมสีดำด้วยสีหน้าท่าทางที่ตัดขาดไมตรี

“หากนายยังกล้าที่จะแตะต้องเธอ ฉันก็จะตายต่อหน้านายเดี๋ยวนี้! ”

“ฉันพูดจริงทำจริง ไม่เชื่อนายสามารถลองดูได้”

ฉินหลันซาบซึ้งใจอย่างมาก และพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่เจ็บปวดใจ: “โม่หยู่ ห้ามเด็ดขาด! และอย่าได้มายุ่งเกี่ยวกับฉันอีกเลย คุณรีบไปซะเถอะ! ”

โม่หยู่มองไปที่ฉินหลัน ยิ้มเล็กน้อย: “วางใจได้ ฉันยังมีประโยชน์สำหรับเขาอยู่ เขาไม่มีทางที่จะยอมให้ฉันตายหรอก! ”

“นายคิดให้ดีนะว่า คนธรรมดาคนหนึ่งสำคัญ หรือว่าสืบทอดสำนักเหยอูสำคัญกว่า! เพียงแค่นายยอมปล่อยตัวเธอ ฉันรับรองว่าเธอจะไม่เปิดเผยเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้ออกไปแม้แต่น้อย! ” โม่หยู่พูดด้วยท่าทางที่เด็ดขาด ไม่เหลือช่องว่างสำหรับการเจรจา

ชายในชุดคลุมสีดำมองไปที่โม่หยู่ ในที่สุดก็หยุดลงมือทำร้ายฉินหลันแล้ว

“คุณทำให้ฉันโกรธสำเร็จแล้ว”

“คุณจะต้องเสียใจภายหลังกับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวันนี้”

พูดจบ ไม่ทันรอให้โม่หยู่พูดตอบ ก็จับตัวโม่หยู่ขึ้น แล้วก็ออกไปจากห้อง

“โม่หยู่! ”

ฉินหลันไล่ตามไปไม่กี่ก้าว ประตูห้องก็เกิดเสียงดังปัง ปิดลงอย่างอัตโนมัติ และกักตัวเธอเอาไว้ด้านในอีกครั้ง

ห้องก็ตกอยู่ในความมืดอย่างฉับพลัน โม่หยู่ถูกนำตัวไป ก็เหลือแค่ฉินหลันอย่างโดดเดี่ยวเพียง ลำพังคนเดียว

หวาดกลัว กระวนกระวาย โดดเดี่ยว เหน็บหนาวซึ่งอารมณ์ด้านลบแต่ละอย่าง เหมือนกับปีศาจร้ายมหึมาตนหนึ่ง ที่ได้กลืนฉินหลันเข้าไปในทันที

ฉินหลันนั้นเป็นเพียงแค่คนธรรมดาทั่วไป ต่อให้จะเข้มแข็งขนาดไหน ก็ไม่เคยประสบพบเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ ร่างกายสั่นไหวไปทั้งตัว โอบกอดตัวเอง แล้วก็ขดตัวอยู่ที่มุมผนังของห้อง

หลินหยุนกับซูจื่อเหลียงได้พบกับค่ายกองกำลังทหารที่อยู่ด้านล่างของภูเขาแล้ว ภายในเต็นท์ได้พบกับคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่ได้หลับนอนมาเป็นเวลาหลายวันหลายคืน รวมถึงเจียงซ่างหมิง

“หลินหยุน ในที่สุดนายก็มาแล้ว! ” หลินตงหัวเบาใจลงได้บ้างแล้ว

หวางซูเฟินรีบสอบถามขึ้นว่า: “หลินหยุน ตกลงว่าในมือของนายมีสิ่งของอะไรกันแน่? พวกคนบนภูเขานั้นชี้ชัดบอกให้นายนำสิ่งของไปแลกตัวฉินหลัน ซึ่งไม่สนว่าสิ่งของนั้นจะมีความล้ำค่ามากเท่าไหร่ นายรีบนำไปให้พวกเขาเถอะ ความสูญเสียทั้งหมดฉันจะชดเชยให้นายเอง! ”

ที่หวางซูเฟินพูดว่าจะชดเชยนั้น เป็นเพียงการใช้เงินเพื่อมาชดเชย เธอกลับไม่รู้ว่า สิ่งของในมือของหลินหยุนนั้น ไม่สามารถที่จะนำเงินทองมาเทียบเป็นมูลค่าได้

แต่ว่า ถ้าเพื่อช่วยเหลือฉินหลันแล้ว หลินหยุนเองก็เต็มใจยอมที่จะนำออกมาให้

แต่การที่เป็นถึงมหากษัตริย์ชางฉองผู้ยิ่งใหญ่ จะยอมให้ผู้ใดมาข่มขู่ได้อย่างไรกัน?

อีกทั้ง เป็นเพียงแค่สำนักแห่งหนึ่งในโลกบู๊เท่านั้น ยังไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะมาข่มขู่หลินหยุน

“พวกท่านอย่าได้กังวลใจไป ตอนนี้ฉันจะไปช่วยเหลือนำตัวพี่ฉินหลับกลับมา”

ขณะที่พูด หลินหยุนก็ได้เตรียมตัวที่จะขึ้นไปบนภูเขา

เจียงซ่างหมิงรีบตะโกนขึ้นว่า: “คุณหลินหยุน พวกคนบนภูเขานั้นโหดร้ายอย่างมาก และต่างก็มีวิชาบู๊ติดตัว คุณขึ้นไปเพียงคนเดียวค่อนข้างจะอันตราย ยังไงรอจนถึงพรุ่งนี้เช้า ข้าจะให้หัวหน้ากลุ่มหวางพาคุณขึ้นไป! ”

“ไม่ต้องหรอก หนึ่งชั่วโมงหลังจากนี้พวกคุณจัดส่งคนขึ้นไปบนภูเขาเพื่อเก็บทำความเรียบร้อยสถานที่ก็พอแล้ว”

หลินหยุนพูดจบ ก็ไม่ได้รอช้า แล้วก็พาซูจื่อเหลียงขึ้นไปบนภูเขาทันที

ความเร็วของเขานั้นรวดเร็วถึงขีดสุด หนึ่งก้าวสิบเมตร ซูจื่อเหลียงใช้กำลังอย่างเต็มที่ถึงจะสามารถติดตามอยู่ด้านหลังได้

แม้ว่าหลินหยุนจะมีสีหน้าเฉยชา แต่ซูจื่อเหลียงที่อยู่ข้างกายเขากลับรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่อึดอัดอย่างมากที่สุด

ตอนนี้ซูจื่อเหลียงเป็นปรมาจารย์ผู้แข็งแกร่งในระดับขั้นแดนพรสวรรค์แล้ว มีพลังความสามารถที่แข็งแกร่งเหนือกว่าฉิวเชียนซาเล็กน้อย ต่อให้เป็นแบบนี้ ลมหายใจในตัวของหลินหยุนก็ยังคงทำให้เขารู้สึกอัดอั้นตันใจ

นั่นแสดงว่า หลินหยุนในขณะนี้ ก็เหมือนกับถังดินปืนที่เต็มเปี่ยม เพียงแค่จุดประกายไฟ ก็จะ ลุกไหม้ระเบิดทันที

ซูจื่อเหลียงคาดเดาไว้ไม่มีผิด หลินหยุนในตอนนี้เป็นไปได้ที่จะเร่งฝีเท้าเดินให้รวดเร็วขึ้นได้ทุกเมื่อ

ในชาติที่แล้ว ฉินหลันคือความเสียใจที่ตามติดตัวเขามาตลอดชีวิต ช่วงเวลาแปดร้อยปีเต็ม ต่อให้เป็นถึงมหากษัตริย์ชางฉองแล้ว ในทุกครั้งที่คิดถึงฉินหลัน ก็ยังคงทำให้เขาเจ็บปวดทรมานมาก

ยังดี ยังดีที่ว่าฟ้าได้ประทานโอกาสให้เขาอีกครั้งหนึ่ง

ถ้าหากครั้งนี้เขายังไม่สามารถปกป้องฉินหลันเอาไว้ได้ ต่อให้หลินหยุนจะถล่มทำลายภูเขาลมปีศาจ ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร?

เวลานี้ หลินหยุนโกรธแค้น รังเกียจตนเองอย่างมากที่มีความเมตตาเกินไป

ก็เป็นเพราะที่นี่คือประเทศจีน เป็นถิ่นที่ให้กำเนิดและเลี้ยงดูเขา ดังนั้นเขาจึงมีความยำเกรง

ไม่อย่างนั้นถ้าหากจัดการสังหารพวกนักบู๊เหล่านั้นไปก่อนหน้านี้แล้ว ฉินหลันก็คงจะไม่ต้องตกอยู่ในอันตราย

ตลอดทาง หลินหยุนได้แอบสาบานอยู่ในใจ ต่อไปนี้จะไม่มีทางให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก

ซูจื่อเหลียงที่ติดตามอยู่ด้านหลัง ยิ่งจะตามไม่ค่อยทันฝีเท้าของหลินหยุนแล้ว เขาพบว่าในป่าที่เต็มไปด้วยหนาม ความเร็วของหลินหยุนจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ ซูจื่อเหลียงยังได้พบเห็นปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาด

เส้นทางที่หลินหยุนเดินผ่าน พืชพรรณไม้ภายในบริเวณสามเมตรได้เหี่ยวเฉาทั้งหมด

“คิดถึงความเป็นและความตาย! ”

ซูจื่อเหลียงสีหน้าท่าทางเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

ภูเขาลูกนี้มีชื่อว่าลมปีศาจ ก็เป็นเพราะภูเขาลูกนี้มีเสียงลมโบกพัดคำรามที่แปลกประหลาดตลอดทั้งปี พวกชาวบ้านจึงคิดว่าในภูเขามีปีศาจร้าย ดังนั้นจึงตั้งชื่อให้ว่าภูเขาลมปีศาจ

แต่ว่า นั่นเป็นเพียงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นตามลักษณะภูมิประเทศทางธรรมชาติ โดยที่บูรพาจารย์รุ่นที่หนึ่งแห่งสำนักสวนอินได้บังเอิญเดินทางมาถึงที่นี่ แล้วได้รับฟังลมปีศาจจนบรรลุขั้นสูงสุด

ครั้นแล้ว จึงได้ก่อตั้งสำนักขึ้นที่นี่ ชื่อว่าสำนักสวนอิน

แต่ว่า ในปีนั้นบูรพาจารย์รุ่นที่หนึ่งยังคงบำเพ็ญฝึกฝนอย่างไม่จริงจัง เพราะไม่มีพื้นฐานอะไร ดังนั้น ภูมิหลังพื้นฐานวิชาการบำเพ็ญฝึกฝนของสำนักสวนอินจึงไม่แข็งแกร่งมากนัก

จากนั้นต่อมาก็ไม่เคยมีปรากฏยอดเซียนที่มีพรสวรรค์ซึ่งเป็นที่รู้จักโด่งดังเลย ด้วยเหตุนี้สำนักสวนอินจึงไม่ค่อยมีชื่อเสียงในโลกบู๊สักเท่าไหร่

เจ้าสำนักสวนอินรุ่นปัจจุบันนี้ มีความมักใหญ่ใฝ่สูงไม่น้อย เปิดรับลูกศิษย์มากมาย ขยายพัฒนาสำนักให้ใหญ่โต เพียงแค่รากฐานของกระดูกในร่างกายมีความแข็งแกร่งกว่าคนธรรมดาทั่วไปเล็กน้อย เขาก็ไม่ปฏิเสธที่จะรับเข้ามาเป็นลูกศิษย์

สำนักสวนอินจึงมีพัฒนาการรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก

แต่ว่า ลูกศิษย์มากเกินไป ก็จะมีทั้งดีและไม่ดี ดังนั้นชื่อเสียงของสำนักสวนอิน ตกต่ำดำดิ่ง อย่างมาก

มีคนจำนวนไม่น้อยที่บำเพ็ญฝึกฝนไม่กี่ปี ก็ถือว่าตนเองแน่มีวิชาบู๊ติดตัว ลงจากภูเขาไปก่อเรื่องสร้างความวุ่นวาย

ทางการของจีนก็ได้ทำการตักเตือนไปยังสำนักสวนอินแล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่ว่าเจ้าสำนัก สวนอินกลับไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้เท่าไหร่นัก

ส่วนพวกลูกศิษย์ที่แม้ว่าจะไปก่อเรื่องสร้างความวุ่นวายนั้น ก็เพียงแค่รังแกคนอื่นบ้างเล็กน้อยไม่ถึงกับไปทำเรื่องร้ายถึงขนาดที่ฆ่าคนจุดไฟเผาบ้านเรือน ชั่วร้ายใหญ่โตอะไรมากมาย

ดังนั้น ทางการของจีนจึงไม่ได้ตัดสินใจที่จะกำจัดสำนักสวนอินเสียที

หลายปีมานี้ สำนักสวนอินมีพัฒนาการรุ่งเรืองอย่างมาก การเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดก็คือตำหนักซานเหมิน

เดิมทีตำหนักซานเหมินเป็นเพียงแค่บ้านไม้หลังใหญ่ ตอนนี้ได้กลายเป็นตำหนักที่เทียบเท่าได้กับพระราชวังต้องห้าม เลยทีเดียว

หากคิดที่จะสร้างตำหนักที่หรูหรางดงามแห่งหนึ่ง ในภูเขาใหญ่แห่งนี้ จะยากลำบากแค่ไหนเพียงแค่คิดก็รับรู้ได้แล้ว

แต่ว่า นี่ก็สะดวกต่อหลินหยุนในการค้นหาเป็นอย่างมาก

หลินหยุนเร่งฝีเท้ารวดเร็วตลอดทาง เห็นเพียงแค่เศษเงาร่างของเขาเท่านั้น ไม่นาน ก็ปรากฏตัวอยู่หน้าตำหนักแล้ว

บังเอิญพอดี มีลูกศิษย์สองคนของสำนักสวนอินกำลังเดินกอดคอกันออกมา

ลูกศิษย์คนหนึ่งพูดกระซิบขึ้นด้วยสีหน้าท่าทางเจ้าเล่ห์ว่า: “ศิษย์พี่ใหญ่ไปหาผู้หญิงสองคนนั้นแล้ว คาดว่าเขาคงจะอดทนไม่ไหวแล้ว”

อีกคนหนึ่งก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และพูดว่า: “รอให้ศิษย์พี่ใหญ่ออกมา ก็ถึงคราวของพวกเราแล้ว พูดตามจริง ผู้หญิงสองคนนั้นสวยงามมากจริง ๆ ถ้าหากเจ้าสำนักไม่ได้สั่งไว้ว่าห้ามแตะต้อง ข้าเองก็คงจะอดทนไม่ไหวไปตั้งนานแล้ว”

“ข้าเองก็คงเป็นเช่นนั้นเหมือนกัน! ตลอดชีวิตของข้านี้เป็นครั้งแรกที่เห็นผู้หญิงที่สวยงามขนาดนี้”

ทั้งสองคนกำลังพุดคุยกันในเรื่องลามกหยาบคาย อยู่ดี ๆ ก็ตัวสั่นขึ้นมาอย่างกะทันหัน

“น่าแปลกจริง ทำไมรู้สึกว่ามีลมปีศาจพัดผ่าน หนาวเย็นจนทำให้ข้าถึงกับตัวสั่นเลย” ลูกศิษย์คนหนึ่งเงยหน้าขึ้นแล้วสอดส่องไปบริเวณโดยรอบด้วยความประหลาดใจ

“เมื่อครู่ที่พวกนายพูดถึงผู้หญิงสองคนนั้นอยู่ที่ไหน? ” เสียงของหลินหยุนก็ดังขึ้นอย่างเฉยชาราวกับไม่มีอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์แม้แต่น้อย หนาวเย็นยะเยือก

“นายเป็นใครกัน! ”

มองเห็นหลินหยุนที่เหมือนว่าปรากฏตัวขึ้นในอากาศต่อหน้าของตนเอง ลูกศิษย์สำนักสวนอินทั้งสองคนตกใจจนแทบที่จะล้มลง แล้วก็ตะโกนใส่อย่างเย็นชา

“นายไม่รู้หรือไงว่าอาจจะทำให้คนตกใจจนตายได้! ”

หลินหยุนทราบดีว่าทั้งสองคนนี้ยังไม่ได้ตั้งสติกลับคืนมา แต่ว่าเขาไม่มีความอดทนที่จะรอต่อไปได้อีกแล้ว

เพียงยกมือขึ้น ลูกศิษย์คนหนึ่งในนั้นก็ถูกตัวหัวขาดแยกออกจากตัว ตายคาที่อย่างน่าเวทนา

เด็กหนุ่มอีกคนหนึ่งอ้าปากค้าง คิดที่จะตะโกนแต่ก็ไม่กล้า อยากที่จะส่งเสียงร้องแต่ก็ไม่กล้า มองไปที่หลินหยุนด้วยความหวาดกลัวเป็นอย่างมาก

“พาข้าไปหาผู้หญิงที่พวกนายจับคุมขังเอาไว้ ข้าจะไว้ชีวิตของนาย” น้ำเสียงที่เย็นยะเยือกของ หลินหยุนได้ดังขึ้นอีกครั้ง

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

Status: Ongoing

มหากษัตริย์ชางฉองหลินหยุนที่ปราบปรามสามโลกไถ่บาปไม่สำเร็จ เกิดใหม่กลับสู่โลกมนุษย์เป็นเขยแต่งเข้าบ้าน ชาติปางก่อน ได้เมียที่สวยเซ็กซี่ดูเป็นผู้ใหญ่กลับครอบครองไม่ได้ ชาตินี้ หลินหยุนจะทำยังไง……ชาติก่อน เขาเป็นคนไร้ความสามารถที่ใครๆต่างดูถูก ชาตินี้ เขาเป็นหมอเทพหลินในวงการแพทย์ ตาทิพย์หลินในวงการของโบราณ อาจารย์หลินในวงการฮวงจุ้ย และหลินชางฉองในวงการบู๊ เมื่อเขากลับมาสู่เทวโลกอีกครั้ง พบว่าเทวโลกมีการเปลี่ยนแปลง หลายคนที่กำลังไถ่บาปรวมตัวกัน พวกเขาจะทำได้ดั่งใจหวังหรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads แทงบอลออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน