จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – บทที่ 674 ฉันไปตามอาจารย์มา

บทที่ 674 ฉันไปตามอาจารย์มา

หลินหยุนและโจวชิงเหอก็เดินจากไป ไอ้อ้วนหวางก็รีบเดินตามออกไปด้วย

“เจ้าโจว นายดูสิเรื่องวุ่นวายพวกนี้ เป็นความผิดของฉันคนเดียวเลย นายอย่าโกรธเลยนะ!” ไอ้อ้วนหวางพูดด้วยสีหน้าละอายใจ

โจวชิงเหอทำตาเขม็งใส่ “แกดูสิว่าทำอะไรงามหน้าลงไป!”

“ถ้ารู้แต่แรกว่าตระกูลนิ่งถึงกับไร้มารยาทอย่างนี้ ฉันจะไม่ไปขอให้หมอเทพหลินมาเด็ดขาดเลย”

“หมอเทพหลิน คราวนี้ทำให้ท่านต้องทนลำบากใจแล้ว มันเป็นความผิดของผมเอง”

หลินหยุนพูดอย่างเรียบๆว่า “ไม่เป็นไรหรอก ผู้อำนวยการโจวไม่จำเป็นต้องโทษตัวเองเลย พวกเขายังต้องกลับมาหาผมอีก”

มองดูหลินหยุนที่มีความเชื่อมั่นถึงเพียงนี้ ในใจของโจวชิงเหอก็รู้สึกนึกสงสัย คำพูด ของคนตระกูลนิ่งที่พูดจาน่าเกลียดขนาดนั้น เป็นไปได้อย่างไรที่จะกลับมาหาหลินหยุนอีก?

นอกเสียจากว่า โรคของนายท่านนิ่ง มีแต่หลินหยุนเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถรักษาให้หายได้

“พวกเรากลับกันเถอะ!” หลินหยินพูดจบ ก็เดินนำหน้าไปก่อน

“ไอ้อ้วนหวางมองดูเงาร่างของหลินหยุน สีหน้าแสดงความสงสัยออกมา หันหลังกลับเข้าไปในบ้านตระกูลนิ่งอีกครั้ง

ภายในห้องนั้น นิ่งเฟิ่งเซียนพูดว่า “เชิญหมอเทพหลิ่วช่วยรักษาอาการป่วยของพ่อผมด้วยครับ!”

นิ่งโหย่วฉายพูดด้วยสีหน้าเชื่อมั่นตัวเองว่า “พ่อครับ พ่อวางใจเถอะ เมื่อหมอเทพหลิ่วลงมือแล้ว จะต้องสามารถรักษาโรคของคุณปู่ให้หายได้แน่นอนเลย!”

นิ่งเฟิ่งเซียนไม่พูดอะไร ความเชื่อมั่นในใจของนิ่งเฟิ่งเซียนที่มีต่อหมอเทพหลิ่วคนนี้ก็ยังไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์เสียทีเดียว

แต่ว่า นิ่งโหย่วฉายเทิดทูนบูชาถึงเพียงนี้ อีกทั้งฝ่ายนั้นก็ยังเป็นคนของตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีนอีกด้วย คิดดูแล้วก็น่าจะมีความสามารถอยู่บ้าง

หลิ่วหยวนเดินเข้าไป ตรวจดูอาการของนายท่านนิ่ง แล้วถามถึงอาการป่วยทั่วไปของ นายท่านนิ่งบางอย่าง

สุดท้ายแล้ว หลิ่วหยวนก็วินิจฉัยโรคออกมาว่า “นี่ก็คือโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง”

“นี่เป็นหนึ่งในห้าโรคร้ายที่รักษาไม่ได้ของโลกในปัจจุบันนี้ รักษาให้หายขาดไม่ได้ แต่ว่า ฉันสามารถหาวิธีช่วยยื้อชีวิตของนายท่านนิ่งให้ยืนยาวที่สุดได้” หลิ่วหยวนพูด

“ก็เหมือนกับนักวิทยาศาสตร์คนแรกของโลกที่ชื่อว่าโห้จินก่อนหน้านี้ เขาก็ป่วยเป็นโรค กล้ามเนื้ออ่อนแรงเหมือนกัน ตั้งแต่อายุเพียงแค่ยี่สิบสามปีเท่านั้นเอง แต่ก็สามารถที่จะมีอายุยืนยาวจนถึงเจ็ดสิบหกปี จึงได้ลาจากโลกนี้ไป”

นิ่งโหย่วหรงพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “แต่ว่า คุณปู่ของฉันไม่ได้สูญเสียความสามารถในการเดินเหินไปทั้งหมดเสียทีเดียว ในบางครั้ง เขาก็เหมือนคนปกติทั่วไปเช่นกัน”

“นี่เป็นอาการที่แตกต่างไปจากอาการของโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง”

หลิ่วหยวนพูดว่า “เขาเพิ่งจะเป็นอาการเริ่มต้นเท่านั้น อยู่ในช่วงระยะเริ่มแรกของโรค ดังนั้นในบางครั้งก็ยังสามารถเดินเหินได้เหมือนคนปกติทั่วไปได้”

“ถ้าหากอาการโรคถึงระยะท้ายแล้ว โดยทั่วไปก็มักจะสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวจนหมดเลย”

นิ่งโหย่วฉายถามว่า “หมอเทพหลิ่ว ความหมายของคุณก็คือ โรคนี้แม้แต่คุณก็ยังรักษาไม่ได้เลยใช่ไหม?”

หลิ่วหยวนพยักหน้า “โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเป็นโจทย์ที่แก้ได้ยากมาก ด้วยความรู้ทางการแพทย์ของฉัน ทำได้เพียงแค่ชะลออาการเอาไว้เท่านั้น ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้”

“อย่างนี้นี่เอง!” นิ่งโหย่วฉายสีหน้าผิดหวังมาก

เสียงของนิ่งโหย่วหรงก็ดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง “แต่ว่าเมื่อกี้หมอเทพหลินคนนั้นได้วินิจฉัยโรคออกมาแล้วว่า ไม่ใช่โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง อีกทั้งเขายังมีวิธีรักษาโรคของคุณปู่ให้หายขาดได้ด้วย”

“อะไรนะ! นี่เป็นไปได้ยังไง!” นิ่งโหย่วฉายตะโกนพูดด้วยความตกใจ เมื่อกี้เขาเป็นคนที่เพิ่งไล่หลินหยุนออกไปด้วยตัวเอง ถ้าหากหลินหยุนสามารถรักษาโรคของนายท่านนิ่งให้หายขาดได้จริงๆละก็ งั้นเขาก็จะกลายเป็นคนบาปไปแล้วสิ

หลิ่วหยวนส่งเสียงฮื่อแล้วพูดว่า “พูดจาเหลวไหลทั้งเพ! นอกจากโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงแล้ว ยังจะมีโรคอะไรที่มีอาการอย่างนี้ได้ล่ะ!”

“เจ้าเด็กนั่นเป็นแค่นักต้มตุ๋นหลอกลวงเท่านั้นเอง ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าฉันมาทันเวลาแล้วละก็ พวกคุณไม่เพียงแต่ถูกเขาหลอก แล้วยังจะทำร้ายนายท่านนิ่งอีกด้วย”

นิ่งโหย่วฉายรีบตะโกนพูดเสริมขึ้นทันทีว่า “หมอเทพหลิ่วพูดถูกแล้ว เขาก็คือนักต้มตุ๋นคนหนึ่ง หมอเทพที่ไหนจะมีอายุน้อยขนาดนี้? เขาไม่มีทางที่จะรักษาอาการป่วยของปู่ได้หรอก พี่ พี่ก็อย่าหลงเชื่อคารมถูกเขาหลอกเลย”

นิ่งโหย่วหรงไม่พูดอะไร สีหน้านิ่งเฟิ่งเซียนก็นิ่งเฉย

หลินหยุนจะเป็นนักต้มตุ๋นหรือไม่นั้น พวกเขาไม่สามารถรู้ได้ แต่ว่า ในเมื่อไล่หลินหยุนไปแล้ว ตอนนี้อาการป่วยของนายท่านนิ่งก็ไม่มีใครสามารถรักษาให้หายได้ นี่ต่างหากที่เป็นเรื่องจริง

นิ่งโหย่วฉายดูเหมือนจะเข้าใจประเด็นนี้แล้ว ก้มหน้าลงด้วยความหดหู่เล็กน้อย

หมอเทพหลิ่วก็รู้สึกชักเสียหน้าเช่นกัน เพราะตอนที่ไล่หลินหยุนออกไปนั้น เขาก็มีส่วนร่วมด้วย

เมื่อกี้เพิ่งจะรับประกันอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าตัวเองสามารถรักษาโรคของนายท่านนิ่งได้แน่นอน แต่ตอนนี้กลับรักษาไม่ได้แล้ว นี่ไม่ใช่เป็นการตบหน้าตัวเองเหรอ?

“เจ้าบ้านนิ่ง คุณหนูนิ่ง อย่าเพิ่งหมดกำลังใจไปเลย ถึงแม้ฉันจะรักษาโรคของนายท่านนิ่งไม่ได้ก็จริง แต่ว่าถ้าหากอาจารย์ของฉันลงมาจากเขาแล้ว รับรองได้ว่าสามารถรักษาโรคของนายท่านนิ่งให้หายขาดได้แน่นอน” หลิ่วหยวนพูด

นิ่งโหย่วฉายพูดด้วยความดีใจว่า “คุณยังมีอาจารย์อีก! วิชาการแพทย์ของคุณร้ายกาจขนาดนี้แล้ว งั้นอาจารย์ของคุณก็ต้องยิ่งร้ายกาจกว่านี้แน่นอนเลย!”

หลิ่วหยวนยิ้มอย่างภูมิใจ “ถ้าอาจารย์ของฉันออกโรงเมื่อไหร่ จนถึงทุกวันนี้ ยังไม่มีโรคอะไรที่เขาไม่สามารถรักษาให้หายได้เลย”

“เพียงแต่ว่า อาจารย์ของฉันก็ไม่ได้ลงจากเขามานานแล้ว ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะสามารถเชิญให้เขาออกมาได้หรือเปล่า!”

นิ่งโหย่วฉายพูดอย่างร้อนใจว่า “หมอเทพหลิ่วครับ ยังไงก็แล้วแต่ ขอเพียงแต่ให้คุณสามารถเชิญอาจารย์ออกมาได้ละก็ ด้านค่าใช้จ่ายต้องการเท่าไหร่ คุณพูดมาได้เต็มที่เลย!”

ดูเหมือนจะรู้สึกว่าคำพูดของนิ่งโหย่วฉายไม่ค่อยมีน้ำหนักเท่าไหร่นัก นิ่งเฟิ่งเซียนก็จึงเอ่ยปากพูดว่า “หมอเทพหลิ่ว ในเมื่ออาจารย์ของท่านมีความสามารถในการรักษาทุกโรคให้หายขาดได้ งั้นก็ต้องขอรบกวนท่านไม่ว่ายังไงก็ตามจะต้องเชิญอาจารย์ของท่านมาให้ได้!”

“สำหรับค่าตอบแทนนั้น ขอเพียงให้อาจารย์หลิ่วเอ่ยปากพูดมา ต่อให้ต้องการทรัพย์สมบัติทุกอย่างที่มีอยู่ของตระกูลนิ่งเรา คนแซ่นิ่งคนนี้จะไม่ขอปฏิเสธเลย”

หลิ่วหยวนพูดว่า “นิ่งเฟิ่งเซียนก็พูดเกินไปแล้ว ฉันจะไปเชิญอาจารย์ของฉันลงจากเขาแต่ว่าจะสามารถเชิญมาได้หรือไม่นั้น ก็คงต้องดูอารมณ์ของอาจารย์ฉันแล้วล่ะ”

“รบกวนหมอเทพหลิ่วแล้ว!” นิ่งเฟิ่งเซียนยกมือคารวะ

ณ มณฑลจงโจว หลังจากที่หลินหยุนอำลาโจวชิงเหอแล้ว ก็กลับไปยังบริษัทของหลินโร่สุ่ย

หลินโร่สุ่ยรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “เร็วขนาดนี้เชียว! แค่วันเดียวก็กลับมาแล้วเหรอ?”

หลินหยุนพยักหน้าอย่างเรียบเฉย “อึ่ม”

หลินโร่สุ่ยพูดว่า “งั้นพวกเราก็ออกเดินทางไปเมืองซ่างเจียงกันเถอะ!”

“ได้”

หลินหยุนและหลินโร่สุ่ยก็ไปเมืองซ่างเจียง เพื่อเตรียมตัวไปร่วมงานเลี้ยงยอดอัจฉริยะที่กำลังจะเริ่มขึ้น

ส่วนตระกูลนิ่งแห่งเมืองหลวงทางนี้ หลิ่วหยวนก็ไปเชิญอาจารย์ของเขาลงมาจากเขา

ภายในลานบ้านของตระกูลนิ่ง พวกนิ่งเฟิ่งเซียนและอาจารย์หลิวต่างก็ห้อมล้อมชายชราคนหนึ่ง ที่มีลักษณะราวกับเทพเซียนก็ไม่ปาน มุ่งหน้าไปยังห้องพักของนายท่านนิ่ง

“เจ้าบ้านนิ่งครับ ฐานะตำแหน่งทางสังคมของอาจารย์ฉันในวงการตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีนทั้งหมดนับว่าสูงส่งมากทีเดียว คราวนี้ที่เขายอมลงมาจากเขา แม้แต่ฉันก็ยังนึกไม่ถึงเลย เป็นความโชคดีของนายท่านนิ่งจริงๆ” หลิ่วหยวนพูดด้วยสีหน้าตื้นตันใจ

ตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีน สำหรับคนธรรมดาทั่วไปแล้ว ย่อมหมายถึงเป็นตัวแทนของวิชาการแพทย์สูงส่งที่สุดแล้ว ส่วนชายชราคนนี้ถึงกับมีตำแหน่งสูงส่งในตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีนเช่นนี้ จะเห็นได้ว่าวิชาการแพทย์ของชายชราคนนี้จะล้ำเลิศถึงขั้นไหนกันแล้ว

นิ่งเฟิ่งเซียนโค้งตัวลงคำนับ “ไม่ทราบว่าท่านผู้เฒ่ามีนามว่าอะไรครับ?”

ชายชราพูดอย่างเรียบๆว่า “ฉันชื่อกู่หมิงซาน!”

“สวัสดีครับ ท่านกู่!” นิ่งเฟิ่งเซียนทักทายด้วยความนอบน้อม

นิ่งโหย่วฉายยืนอยู่ข้างหลัง อยากจะพูดอะไร แต่ไม่สามารถที่จะพูดแทรกได้เลย ในใจร้อนรนเหมือนมดที่วิ่งอยู่ในกระทะร้อน

ภายในห้องนั้น นายท่านนิ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็นด้วยสีหน้าท่าทางสดใส กำลังตากแดดอยู่ข้างริมหน้าต่างโดยมีนิ่งโหย่วหรงเข็นรถให้

นิ่งเฟิ่งเซียนเดินเข้าไปหา โค้งตัวลงคำนับ “คุณพ่อครับ หมอเทพหลิ่วได้เชิญอาจารย์ของเขามาแล้วครับ!”

สำหรับข่าวคราวที่หลิ่วหยวนมารักษาอาการป่วยของนายท่านนิ่งนั้น นิ่งเฟิ่งเซียนก็ได้บอกนายท่านนิ่งแล้ว เพื่อเป็นการให้กำลังใจนายท่านนิ่งอีกทางหนึ่ง เขาจะได้ไม่รู้สึกท้อแท้สิ้นหวัง

อย่างน้อย ในช่วงเวลาที่ผ่านมาก็ได้เชิญหมอชื่อดังมาไม่น้อยแล้ว แต่ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย

ถึงแม้ยังไม่มั่นใจว่าอาจารย์ของหลิ่วหยวนจะสามารถรักษาโรคของนายท่านนิ่งได้หรือไม่ก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ทำให้นายท่านนิ่งมีความหวังขึ้นมาได้บ้าง

นายท่านนิ่งหันหน้ามา กวาดสายตามองทุกคน แล้วพูดว่า “โรคของฉันหมอจำนวนมากต่างก็บอกว่าไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ แล้วจะไปรบกวนท่านหมอเทพกู่อีกทำไมกันล่ะ?”

ดูไปแล้วเหมือนว่า นายท่านนิ่งก็ไม่ได้ตั้งความหวังอะไรมากกับโรคของตัวเองเท่าไรนัก

“นายท่านครับ แม้แต่มดตัวเล็กๆก็ยังรักชีวิตตัวเองเลย ท่านคิดสิ้นหวังหมดกำลังใจได้ยังไงกันล่ะ?” กู่หมิงซานพูดด้วยรอยยิ้ม

“ฉันก็ไม่ได้ลงจากเขามานานหลายปีแล้ว แต่ว่า เมื่อได้ยินว่าเป็นโรคนี้ จึงได้ตัดสินใจที่จะลงจากเขาอีกครั้งหนึ่ง”

“ฉันก็อยากลองดูว่า ในช่วงเวลาปั้นปลายชีวิตของฉัน จะสามารถเอาชนะโรคที่รักษาไม่หายนี้ได้หรือไม่”

นายท่านนิ่งพยักหน้า ใบหน้าเริ่มมีความหวังขึ้นมาบ้าง “ได้ งั้นฉันจะให้ความร่วมมือกับคุณเป็นอย่างดี”

วิชาการแพทย์ของกู่หมิงซานช่างร้ายกาจจริงๆ อีกทั้งนายท่านนิ่งก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี หลังจากที่ได้สอบถามอาการของโรคแล้ว กู่หมิงซานก็ได้สรุปผลการวินิจฉัยออกมา

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

Status: Ongoing

มหากษัตริย์ชางฉองหลินหยุนที่ปราบปรามสามโลกไถ่บาปไม่สำเร็จ เกิดใหม่กลับสู่โลกมนุษย์เป็นเขยแต่งเข้าบ้าน ชาติปางก่อน ได้เมียที่สวยเซ็กซี่ดูเป็นผู้ใหญ่กลับครอบครองไม่ได้ ชาตินี้ หลินหยุนจะทำยังไง……ชาติก่อน เขาเป็นคนไร้ความสามารถที่ใครๆต่างดูถูก ชาตินี้ เขาเป็นหมอเทพหลินในวงการแพทย์ ตาทิพย์หลินในวงการของโบราณ อาจารย์หลินในวงการฮวงจุ้ย และหลินชางฉองในวงการบู๊ เมื่อเขากลับมาสู่เทวโลกอีกครั้ง พบว่าเทวโลกมีการเปลี่ยนแปลง หลายคนที่กำลังไถ่บาปรวมตัวกัน พวกเขาจะทำได้ดั่งใจหวังหรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads แทงบอลออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน