หลินซื่อเฉิงพูดว่า ได้! พวกคุณสองคนรีบไปจงโจวเลย พวกเราสามคนจะไปที่สำนักฉีเทียนด้วยกัน!
ไม่ว่ายังไงก็ตาม จะต้องไปช่วยแม่ของเสี่ยวหยุนแล้วยังมีเจ้าหนูฉินหลันคนนั้นกลับมาให้ได้!
หลังจากวางสายแล้ว ซูจื่อเหลียงและซูหนันต่างก็มองหน้ากันและกัน
ทั้งสองคนก็ไม่รีรอต่อไป รีบออกจากทะเลสาบเยว่หยาแล้วตรงไปยังจงโจวทันที
เพราะว่าสำนักฉีเทียมก็อยู่ที่จงโจวนั่นเอง
ส่วนในเวลานี้ ภายในสำนักฉีเทียน
หลังจากมู่หงที่จับตัวอีหลิงมาได้และเจียงยี่ที่จับตัวหวางซูเฟินและฉินหลันมาได้นั้น ต่างก็กลับมาถึงพร้อมกันพอดี
ทั้งสองคนต่างก็มองตาและกัน จากนั้นก็หัวเราะเสียงดังออกมาพร้อมกัน
มู่หงพูดว่า พี่เจียง สาวงามทั้งสองของพี่นี่ไม่เลวจริงๆเลยนะ!
เจียงยี่มองดูอีหลิงแล้วพูดว่า คนนี้ของน้องมู่ก็ไม่ใช่สาวงามเมืองด้วยเหรอ? ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้ยังมีที่ชื่อนิ่งโหย่วหรงอีกคน ก็ล้วนแต่เป็นของชั้นยอดทั้งนั้นเลย!
มู่หงหัวเราะแล้วพูดว่า ถูกต้องแล้ว!
พูดพลางก็มองไปยังหญิงสาวหลายคนที่พึ่งรับมาใหม่ แล้วพูดว่า มาเอาพวกเธอเข้าไป แล้วจัดเรียงลำดับไว้ให้ดี รอให้ฉันกับพี่เจียงได้ชื่นชมต่อไป!
หญิงสาวที่แต่งตัวด้วยชุดสาวใช้ในวังสองคนก็รีบตอบตกลง จากนั้นก็พาหญิงสาวทั้งสามคนออกไป
สำนักฉีเทียนไม่สนใจกฎเกณฑ์และเหตุผลที่ถูกกำหนดขึ้นมาเลย และได้รับความสนใจจากโลกบู๊และทางการรัฐบาลจีนทันที
ภายในไม่กี่วัน ก็มีคนในโลกบู๊จำนวนไม่น้อยที่เข้ามาหาท้ารบแล้ว
ทางการรัฐบาลจีนก็ได้ส่งเจียงร่อโจ๋เทพแห่งสงคราม รวมทั้งหน่วยรบเมคารุ่นที่สองของอเมริกาอีกด้วย
แต่ว่าทั้งหมดก็ถูกเจ้าสำนักทั้งสองของสำนักฉีเทียนทำลายจนหมดสิ้นภายในชั่วพริบตาเดียว
คราวนี้ไม่เพียงแต่ประเทศจีนเท่านั้น
ทั่วทั้งโลกก็ยังสั่นสะเทือนไปหมด!
ผู้คนส่วนใหญ่ต่างก็รู้สึกหวาดผวากันทั้งนั้น
ในเวลานี้เอง สาวชุดดำคนหนึ่งกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ในที่ที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง
ส่วนข้างหลังเธอนั้น ก็ยังคงมีชายชราคนที่เห็นหน้าไม่ชัดเจนคนหนึ่งยืนอยู่ตลอดเวลา
ผ่านไปสักพักหนึ่ง สาวชุดดำก็ได้สิ้นสุดการฝึกฝนบำเพ็ญแล้ว จึงลืมตาขึ้นมา
ชายชราก็รีบโค้งตัวลงแล้วพูดว่า ยินดีกับคุณหนูด้วย พลังฝึกฝนได้ยกระดับสูงขึ้นมากอีกครั้งหนึ่งแล้ว!
สาวชุดดำทำเสียงฮื่อใส่แล้วพูดว่า ยังอีกไกลเลย!
ชายชราพูดด้วยรอยยิ้มว่า การเข้าถึงแดนอย่างคุณหนูเช่นนี้ สามารถพูดได้ว่าเป็นความเร็วระดับขั้นเทพได้เลย!
สาวชุดดำพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า เลิกพูดเรื่องพวกนี้กันเถอะ ตอนนี้สถานการณ์ข้างนอกเป็นยังไงแล้ว? ทั้งสองคนของสำนักฉีเทียนเป็นยังไงบ้าง?
เมื่อได้ยินหญิงสาวถามเรื่องนี้แล้ว ชายชราก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที จึงรีบพูดว่า คุณหนูครับตอนนี้ดูเหมือนจะสรุปได้แน่ชัดทุกอย่างแล้ว!
ทั้งสองคนของสำนักฉีเทียนนั้น จะต้องมาจากโลกคุนชางอย่างแน่นอน!
พวกเขาเป็นผู้บำเพ็ญเซียนที่แท้จริงอย่างแน่นอน!
เป็นทายาทที่แท้จริงที่สืบทอดจากประตูเซียนโลกคุนชางเลย!
ส่วนโลกบู๊โบราณทางโน้น ค่ายกลสี่พิทักษ์เกิดการสั่นคลอนขึ้นจริงๆแล้ว!
คนของสำนักโม่เหมิงก็ได้ปรากฏตัวขึ้นแล้ว ตอนนี้กำลังช่วยเหลือโลกบู๊โบราณในการพยุงค่ายกลให้มั่นคงยิ่งขึ้น!
คุณหนูครับ ฉันคิดว่าตอนนี้พวกเราควรจะรีบกลับไปโลกบู๊โบราณทันทีเลย!
ขอเพียงแต่สามารถกำจัดคนของสำนักโม่เหมิงได้ จึงจะสามารถทำลายค่ายกลสี่พิทักษ์ให้แตกออกได้!
เมื่อไหร่ที่ค่ากลถูกทำลายไป ประตูเซียนก็เปิดออก! งั้นคุณหนูก็สามารถกลับสู่เข้าไปในประตูเซียนได้แล้ว!
พอถึงเวลานั้น ก็จะต้องได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมที่แท้จริงของสำนักเราได้เลย! พลังฝึกฝนก็จะพุ่งทะยานสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว!
หญิงชุดดำเมื่อได้ยินแล้ว แววตาก็ส่องประกายวาววับขึ้นมาทันที
หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพักใหญ่
หญิงชุดดำก็พูดว่า ได้! เรื่องนี้ก็เอาตามนี้ก็แล้วกัน!
แต่ว่า ตอนนี้คนคนนั้นเป็นยังไงบ้างแล้ว?
ชายชราก็ย่อมต้องรู้ดีว่าคนที่หญิงสาวถามถึงนั้นเป็นใคร จึงรีบตอบว่า หลังจากที่กลับมาจากอเมริกาแล้ว คนนั้นก็ได้แต่เก็บตัวอยู่ ได้ข่าวว่าได้รับบาดเจ็บไม่ใช่น้อยเลย!
หญิงชุดดำขมวดคิ้วแล้วพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า ได้รับบาดเจ็บเหรอ?
ชายชราพูดต่อไปว่า ประเทศจีนตอนนี้ ก็ได้ยกย่องเขาให้เป็นเหมือนกับปรมาจารย์เฉินในอดีตไปแล้ว!
ทุกๆที่ต่างก็ได้ปั้นรูปปั้นของเขาไว้ทั้งนั้น!
แต่ว่าเป็นเพราะสำนักฉีเทียนจู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นมา แล้วเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ อีกทั้งยังลักพาตัวหญิงสาวหน้าตาสะสวยจำนวนมากไปด้วย ตอนนี้ทำให้ผู้คนรู้สึกโกรธแค้นกันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว!
แต่ว่าหลินหยุนก็ยังไม่ปรากฏตัวออกมาขัดขวางเลย จึงทำให้มีคนจำนวนไม่น้อยที่เกิดความไม่พอใจ มิหนำซ้ำยังด่าสาปแช่งอีกด้วย!
พวกเขารู้สึกว่าหลินหยุนขี้ขลาดตาขาว เมื่อได้พบกับผู้บำเพ็ญเซียนตัวจริงแล้วก็ตกใจกลัวแล้ว!
สาวชุดดำได้ยินก็หัวเราะขึ้นมาทันที อ๋อเหรอ? คิดไม่ถึงว่าจะก้าวไปถึงขั้นนี้ได้!
นี่มันก็น่าสนุกดีนะ!
มีสองคนนี้อยู่ แต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่ใช่คิดเสมอหรือว่าตัวเองแน่มาก?
ไม่ใช่คิดเสมอหรือว่าไม่เคยแยแสแม้แต่ฟ้าดินเลย?
คราวนี้ ฉันก็อยากจะดูว่า เขายังมีความสามารถอะไรที่จะปกป้องภาพลักษณ์จอมปลอมของเขานั้นเอาไว้ได้!
ไปเถอะ! ไปเขาคุนชางกัน!
พูดจบ
สาวชุดดำก็รีบลุกขึ้นมา
เงาร่างก็หายวับไปจากที่เดิม พร้อมกับชายชราคนนั้น
เขาคุนชานในโลกบู๊โบราณ
เป็นเพราะว่าเจ้าสำนักคุนชางตกต่ำลง ทำให้ไม่สามารถเฝ้าปกป้องตราประทับค่ายกลสี่พิทักษ์ไว้ได้
เกิดการเปลี่ยนแปลงกะทันหันที่คาดไม่ถึงขึ้นมา ทำให้พวกเขาต่างก็ตกอยู่ในสภาพหวาดผวา
ในขณะนี้เอง คนของสำนักโม่เหมินก็ปรากฏตัวขึ้นมาแล้ว!
อีกทั้งยังเล่าเรื่องสาเหตุการเกิดที่แท้จริงให้ฟังอีกด้วย
ความจริงแล้วพวกเขาต่างก็เป็นผู้ตั้งมั่นรักษาตราประทับสกัดกั้นประตูเซียนทั้งนั้น!
จึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมต้องมีตระกูลผู้ตั้งมั่นรักษาอยู่ด้วย
ความจริงแล้ว ที่พวกเขาตั้งมั่นรักษานั้นก็คือค่ายกลที่มีตราประทับสกัดกั้นประตูเซียนนั่นเอง
เวลาผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว แม้แต่พวกเขาเองก็ไม่รู้ความลับนี้เลย
โชคดีที่คนของสำนักโม่เหมินมาได้ทันเวลา
ไม่เช่นนั้นแล้วจะต้องเกิดเรื่องใหญ่โตขึ้นอย่างแน่นอน
โม่เฉินแวบตัวเข้ามา ก็รีบเดินเข้าไปนั่งขัดสมาธิลงทันที แล้วพูดว่า ฉันได้แจ้งให้ประธานาธิบดีจีนรู้เรื่องแล้ว ขอเพียงให้หลินหยุนออกจากการเก็บตัวเมื่อไร ก็จะให้เขารีบมาที่นี่ทันทีเลย!
ตอนนี้พวกเราก็ได้แต่ต้องพยุงค่ายกลนี้ให้มั่นคงต่อไปก่อน! เพื่อรอให้หลินหยุนออกมาจากการเก็บตัวโดยเร็วที่สุด!
ชายชราตระกูลหวางที่เหลือคนหนึ่งได้ยินแล้ว ก็พูดด้วยความเย้ยหยันทันทีว่า คุณโม่เฉิน ระหว่างที่คุณจากไปสองวันนั้น พวกเราก็ได้คิดปรึกษากันอย่างถี่ถ้วนแล้ว!
พวกเรารู้สึกว่า ไม่จำเป็นที่จะต้องประทับตราสกัดกั้นประตูเซียนไว้อีกต่อไปแล้ว!
ให้คนที่อยู่ในประตูเซียนนั้นออกมาจะไม่ดีกว่าเหรอ?
ประตูเซียนเปิดออก ผู้บำเพ็ญเซียนที่อยู่ข้างในก็ออกมา พวกเราก็มีโอกาสที่ดีไม่ใช่เหรอ?
ได้บรรลุความเป็นเซียนต้าเต๋าได้เลยนะ!
หรือว่าคุณโม่เฉินไม่อยากได้เหรอ?
โม่เฉินขมวดคิ้ว
นี่เป็นการแสดงความคิดเห็นของคนเขาคุนชางครั้งที่สองแล้ว
โม่เฉินพูดย่างเคร่งขรึมว่า ท่านผู้อาวุโสหวางพูดเช่นนี้ก็ไม่ถูกแล้ว!
คุณได้เห็นแค่ความแข็งแกร่งของผู้บำเพ็ญเซียนเท่านั้น!
แต่กลับไม่รู้ความร้ายกาจที่ซ่อนอยู่ภายในเลย!
เมื่อไหร่ที่คนในประตูเซียนจำนวนมากออกมาได้ แล้วทำลายกฎเกณฑ์ระเบียบของโลกใบนี้ได้ซึ่งก็ยังเป็นเรื่องเล็ก!
แต่ว่าพวกเขายึดเอาพละกำลังเป็นเรื่องสำคัญ เห็นชีวิตคนเป็นเช่นผักปลาอย่างที่ฉันเคยพูดมาก่อนหน้านั้นแล้ว!
นี่ก็ยังไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุด!
เรื่องสำคัญที่สุดก็คือ เวลาที่ผู้บำเพ็ญเซียนแต่ละคนฝึกฝนบำเพ็ญเซียน ทุกคนต่างก็ต้องการชี่ทิพย์จากฟ้าดินเป็นจำนวนมาก!
บนโลกในปัจจุบันนี้ อย่าว่าแต่จะสามารถสนับสนุนความต้องการของพวกผู้บำเพ็ญเซียนได้จำนวนเท่าไรเลย แม้แต่ผู้ฝึกฝนยาทองหลายสิบคน ก็ล้วนแต่เป็นความหายนะที่รุนแรงที่สุดได้แล้ว!
ดังนั้น เรื่องนี้อย่าได้พูดขึ้นอีกจะเป็นการดีที่สุดแล้ว!
เมื่อได้ยินคำพูดของโม่เฉินแล้ว ทุกคนก็ไม่พูดอะไรต่อไปอีก
ต่างก็ก้มหน้าลง
แต่ว่าในใจจะยอมรับหรือไม่นั้น ก็ไม่มีใครรู้ได้
ในเวลาเดียวกันนี้เอง ท่านหงก็เดินเข้าไปในห้องทำงานของประธานาธิบดีจีนอย่างรีบเร่ง ท่านประธานาธิบดีครับ แย่แล้ว เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!
ประธานาธิบดีรีบถามว่า มีอะไรเหรอ?
ท่านหงพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า คนทั้งสองของสำนักฉีเทียนนั้นได้ก่อเรื่องขึ้นอีกแล้ว! พวกเขาจับตัวแม่ของหลินหยุนและฉินหลันไป!
ประธานาธิบดีตกใจตาค้าง อะไรนะ?
ท่านหงรีบพูดว่า ไม่เพียงแต่เท่านั้น ปู่ของหลินหยุน และยังมีลูกศิษย์อีกสองคน ก็ได้ตามไปที่สำนักฉีเทียนเพื่อตามเอาคนกลับคืนมาแล้ว! พวกเราต้องคิดวางแผนการอะไรเพื่อหาทางช่วยเหลือหรือเปล่าครับ?
ประธานาธิบดีพูดอย่างจนหนทางว่า ในมือของพวกเราไม่มีไพ่ที่จะให้เล่นอีกแล้ว..
