โรยตัวลงมาถึงพื้น
สีหน้าหลินหยุนไร้ความรู้สึก
สายตามองไปยังท่านเฒ่ายันต์
ปล่อยเธอออกมา!
ไม่งั้น!
ตาย!
ท่านเฒ่ายันต์หัวเราะเยาะ แกก็คือหลินหยุนเหรอ?
แกที่เป็นคนฆ่าพี่น้องสองคนของลูกศิษย์ฉัน!
แล้วทำลายเนื้อตัวของลูกศิษย์ฉันใช่ไหม?
ไอ้เด็กเวร!
แกกล้าหาญชาญชัยมากนะ!
พูดพลางเขาก็โบกมือขึ้น ยื่นนิ้วมือทั้งห้าไปจบหลินหยุนไว้
พลังแรงที่ไร้เงาก็ม้วนตัวกวาดไปล้อมรอบหลินหยุนไว้ตรงกลาง
หลินหยุนส่งเสียงฮื่อใส่ จากนั้นก็ชกหมัดออกไปอย่างแรงหนึ่งที
โป้ง!
พลังหมัดที่รุนแรงมหาศาล
ก็กระแทกไปยังพลังแรงไร้เงาที่เข้ามาห่อหุ้มนั้นแตกละเอียดไปทันที
ท่านเฒ่ายันต์ถอยหลังโซซัดโซเซไปสองก้าว
นัยน์ตาก็แสดงความตื่นตกใจออกมาทันที
ยาทอง!
ทันใดนั้นเขาสามารถรับรู้ได้แล้ว
นี่คือพลังแรงของยาทอง!
ไอ้เด็กเปรต!
คิดไม่ถึงจริงๆเลย!
อายุแกแค่ยี่สิบต้นๆเท่านั้นเอง ถึงกับสำเร็จแดนยาทองแล้ว!
ฉันดูถูกแกไปหน่อย!
หลินหยุนพูดอย่างเย็นชาว่า ปล่อยเธอออกมา! ไม่งั้น ตาย!
ท่านเฒ่ายันต์หัวเราะเยาะแล้วพูดว่า หญิงคนนี้เป็นติ่งของฉันแล้ว ไอ้หนู แกคิดจะช่วยเธอ งั้นก็ต้องดูว่าแกมีความสามารถเช่นนั้นไหม!
รนหาที่ตาย!
เมื่อสิ้นเสียงหลินหยุนแล้ว
กระแสกลิ่นอายก็ถูกปลดปล่อยออกมาทันที
รังสีพิฆาตปรากฏขึ้น!
จากนั้นก็ชกหมัดออกไปอย่างแรงหนึ่งที
สีหน้าท่านเฒ่ายันต์เปลี่ยนสีทันที เงาร่างก็ลอยตัวขึ้น แล้วถอยหลังออกไป
หลินหยุนหายตัววับเข้ามาข้างกายของฉินเหมย
น้าฉินครับ ไม่เป็นไรใช่ไหม?
เสี่ยวหยุน นายกลับมาทำไมอีกล่ะ?
ตอนนี้ได้เห็นหลินหยุนแล้ว
ในใจของฉินเหมยก็รู้สึกตื้นตันเป็นอย่างมาก
แต่ว่ายังไงเธอก็ไม่อยากให้หลินหยุนปรากฏตัวออกมาในเวลานี้เลย
น้าฉินครับ!
ทุกอย่างมอบให้ผมก็แล้วกัน!
คนพวกนี้ ไม่สามารถทำอะไรท่าน และคนตระกูลฉินได้หรอก!
พวกเขาอยู่ในสายตาผมเป็นเพียงแค่มดตัวน้อยฝูงหนึ่งเท่านั้นเอง!
แล้วพยุงตัวฉินเหมยขึ้นมาจากพื้น
หลินหยุนกวาดสายตามองไปยังผู้อาวุโสผู้ใหญ่ของสำนักสุริยัน และยังมีคนของทูตวิญญาณที่หนึ่งแห่งวิหารผนึกวิญญาณพวกนั้น
สุดท้ายก็มาหยุดอยู่ตรงฝานฉิงที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก
ชี้ไปยังท่านเฒ่ายันต์นั้นแล้วพูดว่า แกเป็นคนพาเขามาใช่ไหม?
เมื่อเห็นหลินหยุนหันมาถามตัวเอง ฝานฉิงก็เปิดปากพูดด้วยสีหน้าเย้ยหยันว่า ไอ้เด็กเปรตหลินหยุน! แกฆ่าพี่น้องฉัน ทำลายเนื้อตัวฉัน! วันนี้อาจารย์ฉันจะต้องฆ่าแกเพื่อล้างแค้นอย่างแน่นอน!
หลินหยุนพูดอย่างเยือกเย็นว่า งั้นแกก็ไปตายก่อนเถอะ!
จากนั้นก็ยื่นมือออกไปจับ!
พลังแรงที่ไร้เงาก็ม้วนตัวออกไปจับตัวฝานฉิงไว้แน่นทันที!
ทันใดนั้นสีหน้าฝานฉิงขาวซีดราวกับกระดาษ ตะโกนพูดด้วยความหวาดกลัวว่า อาจารย์! อาจารย์ช่วยฉันด้วย! เขาจะฆ่าฉันแล้ว!
แก๊กๆ!
เนื้อตัวในร่างของฝานฉิงนี้เพิ่งจะฟื้นฟูมาได้ไม่นาน
ยังไม่ทันหลอมรวมกับจิตวิญญาณและยาทองได้สำเร็จเลย
จึงไม่สามารถที่จะแสดงพลังอิทธิฤทธิ์อะไรออกมาได้
นิ้วของหลินหยุนออกแรงเพียงเล็กน้อย เนื้อตัวของเขาที่เพิ่งจะหลอมขึ้นมาใหม่นั้นก็แตกละเอียดไปในชั่วพริบตา
รวมทั้งยาทองด้วย
ก็แตกละเอียดไปหมดเช่นกัน
เมื่อเห็นฝานฉิงดับสูญไปโดยสิ้นเชิงในชั่วพริบตาแล้ว ท่านเฒ่ายันต์ที่อยู่กลางอากาศก็บันดาลโทสะอย่างถึงที่สุด
หลินหยุน!
แกถึงกับฆ่าศิษย์รักของฉัน!
แกสมควรตาย!
ฉันจะให้แก รวมทั้งตระกูลฉินทั้งหมด ตายพร้อมกับลูกศิษย์ฉันด้วย!
พูดพลาง
เขาก็พลิกฝ่ามือขึ้น
ยันต์ฟ้าร้องเวหาจำนวนสามผืนก็ปรากฏขึ้นมา
ทันใดนั้น
ท้องฟ้าทั้งหมดก็ถูกเมฆดำปกคลุมไปทั่ว
แสงฟ้าแลบออกมาเป็นสายๆ
ยันต์ฟ้าร้องเวหาทั้งสามผืนก็ถูกเขาโยนออกมา
กลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัว ราวกับสามารถทำให้ฟ้าดินถล่มทลายได้ก็แผ่กระจายออกไปทั่ว
โป้ง!
โป้ง!
โป้ง!
หลังจากที่เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวสามครั้งผ่านไป
ฟ้าดินสะเทือน
สั่นไหวอย่างรุนแรง
พลังทำลายที่รุนแรงก็กวาดต้อนเข้ามาหาหลินหยุน
หลินหยุนขมวดคิ้วเล็กน้อย
จากนั้นก็ลอยตัวขึ้นกลางอากาศทันที
ท่าห้ามสิ่งวายชนม์ในสิบแปดท่าต้าเต๋า!
แสดงท่าห้ามสิ่งวายชนม์ออกมา
ฟ้าดินก็ดูราวกับว่าหยุดทุกอย่างไว้ในเสี้ยววินาทีนี้
พลิกฟ้าผ่าตะวันในสิบแปดท่าต้าเต๋า!
หลังจากที่สิ้นเสียงหลินหยุนลงแล้ว
พลังเทพที่สามารถดับดวงดาวได้ก็ระเบิดออกมาทันที
หลินหยุนก็เข้าไปอยู่ในแดนยาทองแล้ว
เมื่อเทียบกับพลังแรงที่เคยใช้ก่อนหน้านั้น ยังสูงกว่าไม่รู้อีกเท่าไหร่!
พลังแรงอันน่าสะพรึงกลัวราวกับระเบิดดวงดาวได้นั้น ก็ได้สกัดกั้นท่านเฒ่ายันต์ไว้ทั้งหมดแล้ว
พลังแรงของยันต์ฟ้าร้องเวหาทั้งสามผืนนั้น เพิ่งจะระเบิดออกมาก็ถูกม้วนเก็บเข้าไปจนหายสาบสูญไปหมดแล้ว
ปั้ง!
ท่านเฒ่ายันต์ไม่สามารถหลบหลีกไปไหนได้ ด้วยความที่ตื่นตกใจกลัว
ก็มีผ้ายันต์สีเหลืองปรากฏขึ้นมา แล้วกลายเป็นฉากกั้นหนาๆที่มองไม่เห็นมาปิดกั้นอยู่ตรงหน้าเขา
พลังแรงที่สามารถถล่มฟ้าทลายดินได้นั้นก็ปะทะกับฉากกั้นที่มองไม่เห็นนั้นทันที
ฉากกั้นนั้นก็แตกละเอียดไปในชั่วพริบตา
ท่านเฒ่ายันต์ก็ถูกกระแทกจนตัวลอยออกไปกว่าพันเมตร!
ร่างก็ตีลังกาพลิกไปมาอย่างต่อเนื่อง กระอักเลือดออกมาไม่หยุดหย่อน
ในที่สุดก็สามารถหยุดตั้งตัวไว้ได้
เมื่อเห็นฉากที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้แล้ว
ทุกคนต่างก็ตกใจอึ้งไปหมด
นี่เป็นพลังแรงที่น่าสะพรึงกลัวอะไร?
ท่านเฒ่ายันต์ถึงกับถูกหลินหยุนซัดจนกระอักเลือดถอยหลังไปแล้ว!
หลินหยุนทำไมถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้?
นี้หลินหยุน…….ทำไมถึงแข็งแกร่งจนน่ากลัวถึงขนาดนี้ได้……….
เขาเป็นเด็กหนุ่มที่อายุเพียงแค่ยี่สิบต้นๆคนหนึ่งจริงเหรอ?
คงไม่ใช่เป็นเฒ่าประหลาดที่กลับชาติมาเกิดใหม่นะ?
เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!
การกลับชาติมาเกิดใหม่เช่นนี้ ในความจริงแล้วไม่มีทางจะเกิดขึ้นได้ มีแต่ในตำนานเท่านั้นเอง
ถูกต้อง!
มีแต่ยอดฝีมือแดนจิตปฐมที่แท้จริง จึงจะทำได้!
ในโลกคุนชางของพวกเรายังไม่เคยปรากฏมียอดฝีมือแดนจิตปฐมที่แท้จริงเลย!
งั้นนี่ก็น่ากลัวเกินไปแล้ว!
ก่อนหน้านั้นเขายังไม่ได้อยู่แดนยาทองชัดๆ!
แต่ว่านี่ไม่เห็นเพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้นเอง!
เขาก็เข้าไปแดนยาทองแล้วเหรอ?
อีกอย่าง ต่อให้เขาสำเร็จจากแดนยาทอง ก็ไม่มีทางที่จะแข็งแกร่งได้ขนาดนี้หรอก!
นี่เป็นการสืบทอดของหลินหยุน!
จะต้องแข็งแกร่งถึงขั้นที่เหลือเชื่ออย่างแน่นอน!
ไม่เพียงแต่คนที่มุงดูพวกนั้นเท่านั้น
รวมทั้งคนของสำนักสุริยันและวิหารผนึกวิญญาณพวกนั้น ในสายตาต่างก็แสดงความรู้สึกที่เหลือเชื่อออกมา
หลินหยุนแข็งแกร่งเกินไปแล้ว
ผู้อาวุโสสำนักสุริยัน รวมทั้งทูตวิญญาณที่หนึ่งของวิหารผนึกวิญญาณ
ทั้งสองคนต่างมองตากันและกัน
จากนั้นก็ตะคอกเสียงแข็งว่า ไอ้หลินหยุน! ไปตายซะเถอะ! ลงมือพร้อมกันเลย!
พวกเขาก็รับรู้ได้อย่างลึกซึ้งแล้ว!
พลังฝึกฝนของหลินหยุนมีความแปลกประหลาดอย่างมาก!
อีกอย่างอิทธิฤทธิ์ที่หลินหยุนแสดงออกมานั้น ทำให้พวกเขาตื่นตกใจยิ่งนัก
เดิมทีพวกเขาเพียงแต่อยากฆ่าหลินหยุนเท่านั้น
แต่ตอนนี้พวกเขาไม่คิดเช่นนี้แล้ว!
พวกเขาต้องการจับหลินหยุนไว้ แล้วบีบบังคับให้หลินหยุนถ่ายทอดพลังยุทธ์ที่เขาฝึกฝนออกมา รวมทั้งอิทธิฤทธิ์แสนยิ่งใหญ่พวกนั้นด้วย
จึงจะเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า!
ทันใดนั้นคนของสำนักสุริยันสองคน รวมทั้งคนของวิหารผนึกวิญญาณสามคน ก็บุกเข้าไปร่วมลงมือกับหลินหยุนพร้อมกัน
ในบรรดาพวกเขานั้น ฝีมือที่อ่อนที่สุดก็อยู่แดนยาทองระดับสามทั้งนั้น
การลงมือจึงเป็นพลังแรงที่สามารถถล่มฟ้าทลายดินได้ทั้งนั้น
หลินหยุนลอยตัวขึ้นกลางอากาศ แล้วพูดเยาะเย้ยว่า
แสงหิ่งห้อยหรือจะกล้าแข่งกับแสงจันทร์?
รนหาที่ตาย!
เทพเซียนมาเพื่อหยุดสวรรค์!
เมื่อสิ้นเสียงของหลินหยุนแล้ว เงาร่างก็หายวับไปทันที
วินาทีต่อมา
ก็มีเงาร่างยักษ์ที่ค้ำยันฟ้าดินตัวหนึ่งปรากฏขึ้นมา
เงาร่างนั้นมือถือกระบี่ยักษ์ที่น่าสะพรึงกลัวด้ามหนึ่งไว้ในมือ
ต่อให้เป็นพลังเทพฟ้าดินที่ไหนเมื่ออยู่ต่อหน้ากระบี่ยักษ์ด้ามนี้ ก็ต้องอับแสงไฟไปทันที
กระบี่ยักษ์โบกสะบัดไปมา
ราวกับวงล้อยักษ์ดับโลก ที่บีบอัดลงมาจากฟากฟ้าที่ไร้พรมแดน
ลมปราณกระบี่ที่น่าสะพรึงกลัวก็ได้สังหารยอดฝีมือไปหลายคนในชั่วพริบตา
เมื่อผู้อาวุโสใหญ่สำนักสุริยันและทูตวิญญาณที่หนึ่งของวิหารผนึกวิญญาณเห็นดังนั้น ลงมือพลางก็ร้องด้วยเสียงตกใจไปด้วย
พลังแรงของแส้ขังวิญญาณก็ระเบิดขึ้นทันที ฟาดไปกลางอากาศจนเกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง
แต่ว่าก็ยังคงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการกวาดต้อนจากลมปราณกระบี่ที่สะท้านฟ้านั้นได้เลย
ปั้ง!
ในการปะทะกันครั้งนี้ มีเพียงผู้อาวุโสใหญ่สำนักสุริยันและทูตวิญญาณที่หนึ่งทั้งสองคนนี้เท่านั้นที่รอดชีวิตออกมาได้
แต่ทั้งสองคนต่างก็กระอักเลือดออกมาแล้วกระเด็นลอยออกไปกว่าพันเมตร
ในใจก็รู้สึกตื่นตระหนกราวกับคลื่นยักษ์โหมกระหน่ำ
