ประธานจอมหื่นสุดซ่า – ตอนที่ 120

ตอนที่ 120

บทที่ 120 ความลำบากใจของเขา จะมีใครเข้าใจ

ฉินอีหลินไม่ทันได้หายใจก็ได้ยินข่าวราวกับสายฟ้าฟาดแบบนี้ เธอราวยืนนิ่งมองแม่ของตัวเอง

“แม่ แม่ว่ายังไงนะ”

ฉินอีหลินยิ้มราวเป็นสุข ดวงตาบอกไม่ถูกถึงความอ่อนแอ เธอใช้สายตาอ้อนวอนมองไปยังอานหน้าที่อยู่ห่างออกไป ไม่คาดหวังให้เธอพูดประโยกนั้นที่ราวกับฉีกหัวใจเธอให้แตกสลายได้

“เด็กๆ…….”

อานหน้าปากสั่นจนพูดไม่ออก เธอไม่มีทางให้อภัยตัวเองได้ ยอมให้เด็กๆถูกจับตัวไปทั้งๆที่อยู่กับเธอได้ยังไง

ตอนนั้นได้แต่มองเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองถูกพาตัวไป วันนี้หลายทั้งสองของเธอก็มาถูกจับตัวไปซ้ำรอยเดิมอีกครั้ง เล็บคมของอานหน้าข่วนเข้าที่เนื้ออย่างโหดร้าย เพราะเล็บที่แหลมคมทำให้แทงเข้าไปในฝ่ามือ แต่เธอกลับไม่รับรู้ความเจ็บปวดใดๆ เธอรู้สึกผิดต่อลูกสาวของเธอ รู้สึกผิดต่อเด็กทั้งสองที่เชื่อใจเธอ

“เด็กๆถูกจับตัวไป ฉันไม่รู้ว่าเป็นใคร”

ฉินอีหลินผลักนักข่าวข้างๆราวกับคนบ้า เธอพุ่งตัวเข้าไปหาแม่ของเธอ “เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ เมื่อกี้เด็กๆยังดีๆอยู่เลย ทำไมถึงได้….”

พูดมาถึงตรงนี้ ฉินอีหลินก็ไม่เอ่ยอะไรออกมาอีก เธอได้แต่อ้าแล้วหุบปากอยู่อย่างนั้น ไม่สามารถออกเสียงอะไรได้อีก

“เดิมฉันกำลังดูเด็กๆ แต่ไม่รู้ว่ามีชาวต่างชาติชุดดำสองคนพุ่งเข้ามาจากไหน หนึ่งในนั้นตีฉันสลบไป พอฉันตื่นขึ้นมา เด็กๆก็ไม่เจอแล้ว”

ฉินอีหลินได้ยินว่า “ชาวต่างชาติ” สามคำนี้จึงซวนเซเล็กน้อย เธอยอมให้ถูกจับตัวธรรมดาทั่วไป เงินมารแค่ไหนเธอก็ให้ได้ แต่ทำไมต้องเป็นชาวต่างชาติ

อ้ายหลุนเห็นว่าร่างกายฉินอีหลินอ่อนแอ หัวใจเจ็บปวด เขากำลังจะยื่นมือไปประคอง แต่เมื่อเขายื่นมือออกไปกลางอากาศ ลี่โม่อวี่ก็กอดฉินอีหลินเอาไว้ในอ้อมแขนแล้ว

“อีหลิน วางใจเถอะ ลูกต้องไม่เป็นอะไร คุณเชื่อผมนะ ลูกของเราจะต้องไม่เป็นอะไร”

ลี่โม่อวี่ปลอบโยนฉินอีหลินที่ตอนนี้ใบหน้าซีดเซียว แม้ว่าในใจเขาสับสน แต่เขาเป็นผู้ชาย ต้องปกป้องผู้หญิงที่รักและลูกของเขา

อ้ายหลุนยื่นมือไปแตะได้เพียงปลายเสื้อของฉินอีหลิน มือพลันชะงัก เขายืนมองสองคนที่กอดกันอยู่ตรงหน้า เกิดภาพว่าเขาคือความเข้าใจผิดขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด

นักข่าวพวกนั้นก็ไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมา แม้ว่าพวกเขากล้ามาสัมภาษณ์ที่นี่ แต่เพราะเรื่องเหล่านั้นไม่ได้แตะเส้นตายของคนเหล่านี้

พวกเขาส่วนใหญ่ก็เป็นพ่อเป็นแม่แล้ว แน่นอนว่าต้องเข้าใจถึงความสำคัญของลูกต่อพ่อแม่ หากตอนนี้ใครกล้าเขียนข่าวเรื่องลูกหายตัวไป พวกเขาเชื่อว่า คนโง่คนนั้นคงไม่มีโอกาสได้เห็นพระอาทิตย์ของวันพรุ่งนี้ในเมืองกั่งซื่อแล้ว

“เสี่ยวเซวียน เกิดอะไรขึ้น หมิงเจ๋อกับจิ่นเซวียนอยู่ดีๆทำไมถึงโดนจับตัวไปได้”

อ้ายหลุนกระพริบตา พลันมีสติกลับมา ยังดีที่เขาอยู่ในวงการการแสดงมานาน เขารู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาแสดงออกถึงความรู้สึกในใจ ถอยมือกลับอย่างไร้ตำหนิ เขาหันไปหาหลงอี้เซวียน เอ่ยถามทันที อีกทั้งปิดบังความอึดอัด

หลงอี้เซวียนได้ยิว “ชาวต่างชาติ” สามคำนี้ก็ตกใจ เวลานี้เพราะพักผ่อนไม่เพียงพอทำให้ใบหน้าย่ำแย่ลงไปเท่าตัว เมื่อเขาได้ยินคำถามของอ้ายหลุนหัวคิ้วก็ขมวดเข้า ต่อมาบอกใบ้ให้ชายหนุ่มผมทองไม่ต้องพูดอีก

ตอนนี้พวกเขากำลังวุ่นวาย ต้องเข้าใจต้นสายปลายเหตุ และเรื่องนี้ก็ไม่สามารถให้นักข่าวรับรู้ได้

เขามองไปยังแม่ที่กำลังเสียสติอย่างสับสน ชาวต่างชาติ หลงอี้เซวียนนึกถึงแก๊ง k ขึ้นมา เขาไม่กล้าคิด ถ้าเป็นคนพวกนั้นจริงๆ หมิงเจ๋อและจิ่นเซวียนเด็กทั้งสองจะต้องทุกข์ทรมานขนาดไหน

คิดมาถึงตรงนี้ หลงอี้เซวียนจึงรีบยกโทรศัพท์ต่อสายหาหลงเซี่ยวเทียนที่กลับอังกฤษตั้งนานแล้ว

“มีอะไร”

หลงเซี่ยวเทียนรู้ว่าลูกชายมีเรื่องถึงได้โทรหาตัวเอง ดังนั้นเมื่อรับโทรศัพท์จึงไม่พูดมาก

“พ่อครับ”

หลงอี้เซวียนกุมขมับ เดินไปในมุมที่ไม่มีคน ปรับเสียงทุ้มต่ำ

“เด็กทั้งสองถูกจับตัวไป”

“แกว่าอะไรนะ”

แน่นอนว่าหลงอี้เซวียนเข้าใจที่คนปลายสายเสียการควบคุม เขาเดินไปมาอย่างกระสับกระส่าย เอ่ยต่อ “แม่บอกว่าเป็นชาวต่างชาติสองคนตีเธอสลบ แล้วพาเด็กๆไป ผมสงสัยว่าเป็น K”

“ฉันรู้แล้ว ฉันจะให้คนสืบเดี๋ยวนี้ รอการติดต่อทางโทรศัพท์ดีๆ”

หลงเซี่ยวเทียนเป็นคนที่เด็ดเดี่ยวอยู่เสมอ บวกกับเป็นเรื่องของหลานชายและหลานสาวของเขา เขาจึงรีบสั่งการให้คนสืบหาเบาะแส

“อีหลิน ลูกๆจะต้องไม่เป็นอะไร”

ลี่โม่อวี่ยื่นมือไปลูบหลังฉินอีหลิน แต่เขาพบว่าหญิงสาวในอ้อมแขนนั้นตัวสั่นไม่หยุด คล้ายกับไม่ได้ยินที่เขาพูด

คิ้วขมวดขึ้น เขากำลังจะปลอบต่อแต่พบว่าหลงอี้เซวียนบอให้เขาไปหา

“คุณมีอำนาจในทางนี้มากแค่ไหน ช่วยได้ไหม ยังไงผมก็พึ่งเข้ามา ยังแตะต้องอะไรได้ไม่มาก”

หลงอี้เซวียนเลิกคิ้วถามชายหนุ่มตรงหน้า ถ้าหากเป็นไปได้ เขาไม่อยากร่วมมือกับผู้ชายคนนี้

“นั่นเป็นลูกของผม ไม่ได้ช่วยคุณ”

ลี่โม่อวี่ได้ฟังคำพูดของหลงอี้เซวียน ดวงตาเข้มขึ้น แต่เขารู้ว่าตอนนี้มิใช่เวลามาทะเลาะกัน จึงเอ่ยต่อ “ผมจะส่งคนไปสืบหาอีกแรง กล้าแตะลูกผม ต้องได้ชดใช้”

อ้ายหลุนไม่รู้ว่าสองคนนั้นแอบคุยความลับอะไรกัน เขามองพวกเขาพูดคุยโต้ตอบ ในใจนั้นเศร้าเสียใจ ที่แท้ก็เป็นส่วนเกินคนหนึ่งนี่เอง

ยิ้มอย่างทุกข์ระทม เขาพบว่าอานหน้ายังคงร้องไห้อย่างเจ็บปวด จึงเข้าไปปลอบ “จะต้องหาเด็กๆเจอแน่ คุณป้าอย่าโทษตัวเอง นี่เป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้”

“อืม”

อานหน้าเป็นคนที่เห็นโลกมาเยอะ ไม่นานเธอก็เก็บอารมณ์ได้ ยิ้มอย่างเข้มแข็งให้อ้ายหลุน ต่อมาจึงบอก “ฉันไม่เป็นไร เธอไปดูอีหลินเถอะ”

เอ่ยจบ ไม่รอให้อ้ายหลุนตอบ เธอก็หมุนตัวเข้าห้องไป แต่แผ่นหลังนั้นเป็นความอ้างว้างยากที่จะบอกได้

“ฉิน”

อ้ายหลุนเม้มปากแน่น สีหน้าสับสนมองฉินอีหลินที่นั่งเหม่อกอดตัวเอง ไม่รู้ว่าจะเอ่ยอะไรออกมา

เขามองทุกคนที่กำลังยุ่งเพื่อตามหาเด็กๆ แต่เขากลับช่วยอะไรไม่ได้เลยสักนิด ทำได้เพียงยืนว้าวุ่นอยู่ตรงนี้

ความรู้สึกแบบนี้ทำให้เขาเหมือนเป็นคนนอก ไม่เคยเข้ามาอยู่ในชีวิตของฉินอีหลินได้เลย อ้ายหลุนยิ้มฝืน แต่กลับเอ่อล้นไปด้วยความขมขื่น

ความลำบากใจของเขา จะมีใครเข้าใจ

พยายามยิ้มสดใสออกมา เดินเข้าไปลูบหลังฉินอีหลินเบาๆ “อย่าเป็นแบบนี้เลย เด็กๆยังรอคุณไปช่วยอยู่นะ ถ้าคุณเป็นอะไรไป เด็กทั้งสองจะพึ่งอะไรได้ล่ะ”

ฉินอีหลันได้ฟังดังนั้น ดวงตาเธอก็เปล่งประกาย

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

Status: Ongoing

ยืนอยู่หน้าประตูบาร์ เธอไม่รู้จะทำอย่างไร ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่เธอเข้าบาร์ ตอนเช้าของวันนี้ มีข่าวซุบซิบบันเทิงดังไปทั้งเมือง คุณหนูตระกูลใหญ่ไปกับผู้ชายเมื่อคืน หน้าหนังสือพิมพ์ยังมีรูปภาพที่เธอถูกผู้ชายกอดเข้าโรงแรม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท