ประธานจอมหื่นสุดซ่า – ตอนที่ 133

ตอนที่ 133

บทที่ 133 กระสับกระส่ายอยู่ในใจ

ร้านอาหารอยู่ไม่ไกล นั่งรถไม่ถึงสิบนาที ทั้งสองก็มาถึงร้านอาหารแนวโบราณเรียบง่าย

ลี่โม่อวี่เปิดประตูรถให้ฉินอีหลิน จูงมือเธอเดินเข้าไปที่ห้องวีไอพี

“จุดเด่นของที่นี่คือเสิร์ฟอาหารค่อนข้างเร็ว” ลี่โม่อวี่คล้ายกับชื่นชอบร้านอาหารร้านนี้ แถมระหว่างเอ่ยอธิบายให้ฉินอีหลินฟัง ก็มีอาหารถูกเสิร์ฟมาแล้ว

ลี่โม่อวี่คีบอาหารใส่ชามของฉินอีหลิน “คุณลองชิมดู”

ฉินอีหลินไม่คุ้นชินกับความอ่อนโยนที่ลี่โม่อวี่มอบให้ เธอหัวเราะเบาๆบอก “คุณทานเถอะ ฉันคีบเองได้”

ลี่โม่อวี่ทำราวกับไม่ได้ยิน คีบอาหารอีกอย่างให้เธอ “มา คุณลองชิมอันนี้ดู”

ฉินอีหลินทำอะไรไม่ได้ เขาไม่ยอมฟัง งั้นก็ปล่อยเขาไป ตัวเองก็ก้มหน้าก้มตาเขี่ยข้าวใจชาม ไม่ง่ายกว่าจะกินเข้าไปแต่ละคำ แต่กลับยากที่จะกลืนลงไป

ฉินอีหลินไม่ได้รู้สึกหิว กินอะไรเข้าไปก็ไร้รสชาติ สุดท้ายจึงวางตะเกียบ บอกด้วยท่าทีรู้สึกผิด “ลี่โม่อวี่ ฉันทานไม่ลงจริงๆ ในใจฉันมันกระสับกระส่ายไปหมด คุณทานไปเถอะ”

ตั้งแต่ต้น ลี่โม่อวี่ทำเพียงช่วยคีบอาหารให้ฉินอีหลิน ตัวเองกลับไม่ได้ทานอะไรเลย

ตอนนี้ได้ยินที่ฉินอีหลินบอก เขาจึงวางตะเกียบลง ใบหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาเล็กน้อย เขาบอกอย่างจริงจัง “อีหลิน ผมรู้ว่าคุณกังวลความปลอดภัยของลูก อารมณ์ไม่ดีจะทานไม่ลงผมก็เข้าใจ แต่คุณจะทำตามใจตัวเองไม่ได้ จะหาลูกเจอเมื่อไหร่ก็ยังไม่รู้ เป็นแบบนี้ต่อไปไม่นานสุขภาพของคุณจะแย่เอา”

ฉินอีหลินไม่คิดว่าเธอไม่ทานสักคาบจะเป็นอะไรไป เธอเทน้ำใส่แก้วให้ตัวเอง ไม่ว่าจะพูดยังไงเธอก็ไม่อยากทานแล้ว

ลี่โม่อวี่ยังคงพูดต่อไป ทว่าถูกโทรศัพท์ขัดขึ้นมา เขาไม่มองกดรับสาย ปลายสายเห้อห้าวบอกว่าเตรียมข้อมูลเรียบร้อยแล้ว ให้ส่งไปที่ไหน

ลี่โม่อวี่มีรอยยิ้มล้อเลียนปรากฏบนใบหน้า บอกอย่างหยอกล้อ “เห้อห้าว ทำไมธุระเสร็จเร็วจังเลย แบบนี้ไม่ใช่นิสัยของนายเลยนะ”

ด้านปลายสาย เห้อห้าวรู้สึกกระอักกระอ่วน จากคำพูดแล้ว เขาก็รู้ในทันทีว่าลี่โม่อวี่รับรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องวีไอพี ไม่คิดว่าจะเขาจะหยอกล้อตัวเองตรงๆแบบนี้

แต่ฟังจากน้ำเสียงของลี่โม่อวี่ แล้ว เขาก็ไม่ได้โทษตัวเอง

เห้อห้าวลอบถอนหายใจเบาๆ พอนึกถึงท่าทางเร่าร้อนของชิวหันเยียนก่อนหน้านี้ เขารู้สึกแทบอ่อนระทวย แม้จะรู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ยา แต่ใจของเขาก็ยังคงรู้สึกดี

ทว่าเห้อห้าวไม่ได้ตอบรับ เขาหัวเราะออกมาเสียงเบา ไม่ได้ใส่ใจกับคำถามนั้น เอ่ยถามต่อ “คุณลี่ งั้นให้ผมส่งไปให้ตอนนี้เลยไหมครับ”

“ได้” ลี่โม่อวี่ก็ไม่ได้กล่าวต่อ ถ้าหากไม่มีเรื่องนี้แล้ว เชื่อว่าลี่โม่อวี่เองคงอยากจะเห็นสองคนนี้อีกครั้ง

สายตาของลี่โม่อวี่หยุดอยู่ที่ฉินอีหลิน เห็นว่าเธอกำลังจับจ้องตนเองอยู่ จึงยิ้มให้เธอค่อยตอบเห้อห้าว “นายทำอะไรเร็วหน่อย ถ้าไม่มีอะไรฉันจะวางแล้ว”

“คุณลี่….” แทนที่จะวางสาย เห้อห้าวกลับอึกๆอักๆ

“ทำไม” ไม่ได้ใส่ใจ เพียงแต่รู้สึกว่านิสัยท่าทางการพูดของเห้อห้าวช่วงนี้ดูเปลี่ยนไป มักจะลังเล อึกๆอักๆ

ฝั่งเห้อห้าวนั้นนิ่งไปไม่กี่วินาที ค่อยเอ่ยออกมา “คุณลี่ เมื่อสักครู่ผมเจอคนๆหนึ่งที่บาร์ คือว่า…..คือ…..”

“คืออะไร” ลี่โม่อวี่เอ่ยถามอย่างหมดความอดทน เจ้าเด็กนี่เอ่ยออกมายากขึ้นทุกวัน “มีอะไรก็พูดมา ถ้าคิดว่ามันยาก งั้นก็ไม่ต้องพูด”

“บอกว่าเป็นพ่อของคุณ” เห้อห้าวรีบพูดออกมา ค่อยพ่นลมหายใจยาวๆ แต่ก็ยังฟังการตอบโต้ของลี่โม่อวี่

แต่ลี่โม่อวี่ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไรออกมา หลังจากนิ่งไปสักพัก มุมปากจึงค่อยๆยกขึ้น คล้ายจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม

น้ำเสียงเรียบนิ่ง ไร้ซึ่งความรู้สึก พ่อหรอ

ลี่โม่อวี่ไม่ได้พูดมาก แต่เห็นได้ชัดว่าท่าทางที่มีต่อเห้อห้าวนั้นเริ่มไม่พอใจขึ้นเรื่อยๆ เขาเอ่ยถามเห้อห้าวตรงๆ “เห้อห้าว นายอยู่เคียงข้างฉันมานานขนาดนี้ คนอื่นบอกอะไรนายก็เชื่อหรอ”

เห้อห้าวไม่ทันคิดว่าลี่โม่อวี่จะถามตัวเองแบบนี้ เดิมเขาก็รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ไม่น่าเชื่อถือ ฝั่งลี่โม่อวี่ก็ไม่แสดงอารมณ์ใดๆออกมาให้เห็น ตัวเองยังโดนตำหนิอีก

คิดย้อนถึงตัวเองในหลายวันมานี้ แรกเริ่มเป็นเพราะชิวหันเยียน อารมณ์จึงไม่สงบ พูดผิดพลาดไปก็ไม่น้อย

นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เห้อห้าวนิ่งไปชั่วอึดใจ ไม่นานจึงตอบกลับ “ผมทราบแล้วครับ” จากนั้นจึงรอให้ลี่โม่อวี่วางสาย

รอยยิ้มที่มุมปากของลี่โม่อวี่ยังคงอยู่ แต่ก็ไม่ได้แสดงความใส่ใจมากเท่าไหร่ เขายังคงคีบอาหารให้ฉินอีหลินต่อไป บอกอย่างอ่อนโยน “ทานเถอะ ทานเยอะๆ เดี๋ยวอีกสักพักเห้อห้าวก็ส่งข้อมูลของหลงซานมาให้แล้ว”

ฉินอีหลินพยักหน้า แต่ก็แปลกใจเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเห้อห้าวพูดอะไร ท่าทางของลี่โม่อวี่จึงเปลี่ยนไป เธอเอ่ยถามอย่างสงสัย “เมื่อสักครู่เห้อห้าวพูดอะไร ชิวหันเยียนหนีไปแล้วหรอ”

ลี่โม่อวี่ไม่ได้เงยหน้า ตบเบาๆลงที่มือของฉินอีหลิน ใบหน้ายังคงเรียบนิ่งพร้อมบอก “เปล่า เชื่อผม”

เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ฉินอีหลินก็ไม่ถามอะไรต่อ เธอแอบคิดอยู่ในใจ ถ้าชิวหันเยียนหายไปจริงๆ เธอไม่มีวันปล่อยเห้อห้าวไปแน่

ไม่นาน เห้อห้าวก็นำข้อมูลมาส่งให้

เมื่อเข้าเดินเข้าประตูมา ก็มีรอยยิ้มที่ดูกระอักกระอ่วน เขาค้อมศีรษะให้ทั้งสองคน จากนั้นวางเอกสารลงบนโต๊ะ “ข้อมูลของหลงซานอยู่ในนี้หมดแล้วครับ คุณลี่ครับ คุณตรวจดูก่อน”

สายตาของฉินอีหลินจับจ้องอยู่ที่เห้อห้าว ราวกับกำลังค้นหาอะไร

เห้อห้าวเองก็รู้ว่าเรื่องที่ตัวเองพึ่งก่อไปนั่น ทุกคนต่างก็รับรู้ เดิมเขาไม่ข้องแวะกับใคร จะมีเรื่องสำมะเลเทเมาก็ไม่ถือว่าแปลก แต่ครั้งนี้ เขารู้สึกขาดความมั่นใจอยู่บ้าง

ยังดีที่ฉินอีหลินไม่ได้เอ่ยถามอะไร

ลี่โม่อวี่ไม่ได้ตรวจดูเอกสาร เขาพยักหน้า “ไม่มีอะไรแล้วก็ออกไปเถอะ”

เห้อห้าวพยักหน้า แต่ก็ไม่ได้ขยับไปไหน ลี่โม่อวี่เงยหน้าขึ้นไปมองเขา ขมวดคิ้วไม่พอใจเล็กน้อย “มีอะไรอีกหรือเปล่า”

“คุณลี่…..” เห้อห้าวเรียก แล้วหยุดเพียงเท่านั้น

เขารู้ว่าลี่โม่อวี่เริ่มหมดความอดทนแล้ว ไม่พูดอะไร แล้วเปิดประตูห้องวีไอพี ชายวัยกลางคนจึงเดินเข้ามาในห้องตามมา

ฉินอีหลินตะลึงงัน ไม่รู้ว่าเห้อห้าวคิดจะทำอะไร เธอเหลือบมองลี่โม่อวี่ แต่กลับเห็นอีกฝ่ายนิ่งเยือกเย็นเป็นน้ำแข็ง ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ

ชายกลางคนเดินเข้ามา พินิจพิเคราะห์ลี่โม่อวี่ตั้งแต่หัวจรดเท้า เขาไม่หลบเลี่ยง มองสำรวจลี่โม่อวี่อยู่แบบนั้น

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

Status: Ongoing

ยืนอยู่หน้าประตูบาร์ เธอไม่รู้จะทำอย่างไร ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่เธอเข้าบาร์ ตอนเช้าของวันนี้ มีข่าวซุบซิบบันเทิงดังไปทั้งเมือง คุณหนูตระกูลใหญ่ไปกับผู้ชายเมื่อคืน หน้าหนังสือพิมพ์ยังมีรูปภาพที่เธอถูกผู้ชายกอดเข้าโรงแรม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท