ประธานจอมหื่นสุดซ่า – ตอนที่ 258

ตอนที่ 258

บทที่ 258 แต่งงานกับข้าได้ไหม

ซือฉี ยังคงเผยสีหน้าตกใจอยู่ จากนั้นดวงตาก็ค่อยๆเผยสายตาสงบนิ่งลง : “เชิญท่านหญิงเปลี่ยนเสื้อเพคะ”

“ฉันต้องการพบหัวหน้าตระกูลของพวกเธอ!”

ตอนที่ฉินอีหลินก้าวเท้าจะเดินไป ซือฉี ก็เร่งฝีเท้าเดินเข้ามาเบื้องหน้า

ฉินอีหลินถึงกับตกใจค้าง เพราะในตอนนี้เธอแทบขยับตัวไม่ได้เลย

หรือว่านี้จะเป็นการจี้จุดในตำนาน?

“เปลี่ยนเสื้อให้กับท่านหญิง”

ซือฉี ยังคงเผยสีหน้าไร้อารมณ์ แต่สาวใช้ที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นกลับรีบลุกขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับฉินอีหลินอย่างกระวนกระวาย

หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เธอก็ถูกลากไปนั่งเบื้องหน้าแท่นแต่งหน้า จากนั้นก็ถูกแต่งหน้าอย่างประณีต

“คุณชายมีฉายาเลื่องลื่อว่าเป็นคนอ่อนโยนดั่งหยก แถมยังมีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาด้วย ที่สำคัญปราดเปรื่องทั้งเรียนวิชาการและการต่อสู้ หม่อมฉันมิได้บังอาจพูดเกินจริง ท่านเองน่าจะทราบ”

ซือฉี ยืนอยู่ข้างหลังฉินอีหลิน พร้อมมองดูเธอถูกเหล่าสาวใช้แต่งหน้าทำผมด้วยท่าทางเบิกบานใจ ทั้งยังเล่าจุดเด่นของ ซือเซี่ย ให้กับเธออย่าอารมณ์ดีด้วย

แต่ฉินอีหลินกลับหัวเราะประชดในใจ หากเป็นคนอ่อนโยนดั่งหยกจะลักพาตัวและบีบบังคับให้แต่งงานด้วยหรอ?

ไม่รู้เลยจริงๆ หากผู้ชายคนนั้นรู้ว่าเธอไม่เพียงเคยแต่งงานแล้ว ยังมีลูกสองคนด้วย เขาจะมีสีหน้ายังไงกัน

“คิ้วทาให้เข้มกว่านี้หน่อย ปัดแก้มมากกว่านี้ด้วย”

ซือฉี ยิ้มแย้ม พร้อมแสดงความคิดเห็นต่อเหล่าสาวใช้ จากนั้นสถานการณ์ก็ดำเนินตลอดทั้งเช้า

ฉินอีหลินถูกเหล่าสาวใช้พยุงออกไปในสภาวะที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

จากนั้นก็มีเสียงร้องว่า “ถึงฤกษ์ยามดีแล้ว” เธอเหมือนกับหมาตัวหนึ่งที่ถูกคน “จูง” เดินออกจากห้องรับแขก

เมื่อฉินอีหลินเดินมาถึงเบื้องหน้าจากการมองผ่านทะลุผ้าคลุมหัวสีแดงก็หยุดฝีเท้าลง แต่เธอยังคงไม่สามารถพูดจาได้ นี่คงเป็นการจี้จุดเส้นเสียงในตำนาน….

อีกอย่างเธอยังไม่สามารถขัดขืนได้ด้วย ทุกครั้งที่เธออยากเปิดผ้าคลุมหัวออก เธอก็จะถูก ซือฉี เข้ามา “หยิก” เพื่อห้ามปรามตลอด ซึ่งทุกครั้งที่หยิกเธอรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งตัว

“พิธีเสร็จสิ้น!”

จากนั้นนั้นฉินอีหลินก็ถูก ซือฉี ไปส่งที่ห้องไม่รู้จักหนึ่ง โดยพาเธอมานอนอยู่บนเตียง

ราวกับกลัวเธอโวยวาย ซือฉี เลยจี้จุดเธออีกครั้ง : “ท่านหญิงพักผ่อนก่อนเถอะค่ะ พวกเราจะรออยู่ข้างนอก”

หลังจากที่ ซือฉี พูดจบก็ทำความเคารพอีกครั้ง แล้วโบกมือสั่งให้สาวใช้ออกไปเฝ้านอกประตูห้อง โดยไม่สนใจเลยว่าฉินอีหลินได้ยินหรือเปล่า

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ตอนที่ฉินอีหลินรู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัวนั้น เส้นที่ถูกจี้จุดก็คลายตัวอัตโนมัติ

เธอกัดริมฝีปากอย่างแน่น และรีบดึงผ้าคลุมหัวออก แล้ววิ่งกระโจนออกไป แต่น่าเสียดายประตูถูกล็อกจากข้างนอกแล้ว

“เปิดประตู! พวกเธอเปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้!”

ฉินอีหลินตบบนประตูไม้อย่างบ้าคลั่ง เธอไม่สามารถจินตนาการได้ว่าในตอนนี้ลี่โม่อวี่กำลังพบเจอความลำบากอะไรบ้าง คนเหล่านั้นจ้างตำรวจเฝ้าขังมาสร้างความเดือดร้อนให้กับเขาหรือเปล่า? และนักโทษคนอื่นกลั่นแกล้งเขาบ้างไหม? ด้วยนิสัยของลี่โม่อวี่แล้ว เขาไม่มีทางยอมก้มหัวแน่ เช่นนั้นจะถูกรุมทำร้ายหรือเปล่า?

ทุกความคิดได้บีบคั้นให้ฉินอีหลินใกล้เป็นบ้า แต่เธอกลับถูกขังอยู่ในถ้ำเก่าแก่แบบนี้!

ไอ้ถ้ำบ้าเอ้ย!

“ท่านหญิง อย่ารีบร้อน เดียวคุณชายมาก็จะเปิดประตูเองเพคะ”

เสียงที่ยังคงอ่อนโยนของ ซือฉี ดังขึ้นอีกครั้ง แต่กลับทำให้ฉินอีหลินโมโหจนด่าทอ

“ท่านหญิงบ้าอะไรของพวกเธอ! ฉันแค่ต้องการเจอกับหัวหน้าตระกูลของพวกแกเท่านั้น!”

ถึงแม้ตระกูลฉินปฏิบัติต่อฉินอีหลินไม่ค่อยดีมากนัก แต่ก็ไม่เมินเฉยต่อการอบรมสั่งสอน ด้วยเหตุนี้ไม่ว่าอย่างไร เธอเลยไม่พูดคำหยาบคายออกมา แต่ในตอนนี้เธอรู้สึกโมโหมาก เลยเผลอพูดหยาบคายแบบนี้ออกมา

แต่ข้างนอกยังคงไร้เสียง

“เปิดประตู!”

“พวกเธอเปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้”

“ฉันต้องการพบหัวหน้าตระกูลของพวกเธอ!”

ไม่ว่าฉินอีหลินจะตะโกนยังไง ข้างนอกก็ยังคงไม่มีเสียงตอบรับ จนทำให้เธอแอบเข้าใจผิดว่า ซือฉี จากไปตั้งนานแล้ว

ไม่นานท้องฟ้าก็มืดมิดอย่างไม่รู้ตัว ฉินอีหลินไม่ได้กินข้าวตลอดทั้งวันเลย ในห้องแม้แต่น้ำดื่มยังไม่มีเลย ซึ่งทำให้เธอสูญเสียพละกำลังในการต่อกรเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ไม่ว่าเธอจะรู้สึกรีบร้อนขนาดไหน รู้สึกโมโหขนาดไหน แต่ในตอนนี้ทำได้เพียงนั่งกอดหัวเข่าอยู่บนเตียงอย่างไรก็เรี่ยวแรง

“ช่วยเอาน้ำมาให้ฉันดื่มหน่อย….”

“ท่านชาย”

“ท่านชาย”

ซือเซี่ย สวมชุดเจ้าบ่าวสีแดงใหม่ แต่กลับไม่มีสีหน้ามีความสุขเหมือนเจ้าบ่าวป้ายแดงเลย ถ้าหากไม่ใช่คุณท่านบีบบังคับ เขาคงไม่แต่งงานแน่

เขามองดู ซือฉี ปลดกุญแจและเปิดประตูออก จากนั้นเขาก็โบกมือสั่งให้คนเฝ้าประตูถอนตัวออกไป

ช่างน่าขำจริงๆ คนที่มีรูปหน้าตาและชาติตระกูลที่ดีอย่างเขา เจ้าสาวของเขาจะต้องขังและไม่ยอมให้กินอาหารถึงจะไม่ขัดขืน

ฉินอีหลินได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากข้างนอกตั้งนานแล้ว

หลังจากที่ ซือเซี่ย เปิดประตู เธอก็รีบดึงเครื่องประดับบนหัวออกมา แล้วขว้างโจมตีคนนอกประตู

เพียงเปิดประตู ซือเซี่ย ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เลยถอยหลังเพื่อหลบจากการโจมตี พร้อมกับยื่นมือฟันที่มือด้านซ้ายของฉินอีหลินที่กำปิ่นปักผมไว้ ปิ่นปักผมร่วงตกลงพื้นทันที ส่วนฉินอีหลินถูกฝ่ามือสกัดกั้นไว้

ฉินอีหลินรู้สึกเจ็บหน้าอกมาก พร้อมกับรีบเดินถอยหลังอย่างไม่มั่นคงไม่กี่ก้าว แต่ไม่ทันระวังเหยียบเข้ากับกระโปรง เลยเสียหลักล้มลงพิงบนเตียง

แต่ไม่รอเธอลุกขึ้นก่อน ซือเซี่ย ก็รีบเดินเข้ามานอนทับบนตัวเธอ ทำให้เธอไม่สามารถขยับเขยื้อนได้

“ชายหญิงไม่จูบกัน!”

ซือเซี่ย กระตุกคิ้วเล็กน้อย โดยที่ไม่แสดงการกระทำอะไร

ตอนที่ฉินอีหลินเจอกับเขาครั้งก่อน เขาสวมหน้ากากสีเงิน แต่ตอนนี้เป็นใบหน้าที่แท้จริงของเขา

คิ้วของ ซือเซี่ย ค่อนข้างบางมาก แต่มีรูปทรงที่โดดเด่น ดวงตาก็ไม่ได้เย็นชาเหมือนกับลี่โม่อวี่ แต่เต็มไปด้วย….อืม ความประชดประชัน ส่วนริมฝีปากของเขาซีดมากเหมือนกับขาดเลือดเลย

“ฉันบอกให้คุณปล่อยฉัน!”

ฉินอีหลินยกเท้าขึ้นจะถีบเขา แต่ชุดไม่เอื้ออำนวย

“นอกจากเจ้าจะทำตัวดี”

ซือเซี่ย ยิ้มมุมปากเล็กน้อย ฉินอีหลินไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า ตอนที่เขายิ้มดูดีมาก

“ได้ คุณก็ปล่อยฉันสิ”

ฉินอีหลินพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

แต่ ซือเซี่ย เพิ่งปล่อยเธอแปบเดียว ฉินอีหลินรีบลุกขึ้น พร้อมฟาดมีดไปที่ ซือเซี่ย อย่างรวดเร็ว

ถึงแม้ ซือเซี่ย คิดไม่ถึงว่าเธอจะย้อนทำร้าย แต่เขาก็ยังคงจับข้อมือของฉินอีหลินได้อย่างสบาย ขณะเดียวกันก็จี้จุดเธออย่างรวดเร็วด้วย : “เธอไม่รักษาคำพูด” เขาขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ

เมื่อฉินอีหลินได้ยินแบบนี้ก็รู้สึกโมโห แม้แต่งานแต่งงานเขาก็บีบบังคับ แล้วตอนนี้เขากลับอารมณ์โต้เถียงเรื่องเธอไม่รักษาคำพูดอีกหรอ

“ซือเซี่ย ฉันขอเตือนคุณเลยนะว่า สิ่งที่พวกคุณทำคือการกักขังหน่วงเหนี่ยว! การลักพาตัว! ซึ่งสิ่งผิดกฎหมาย!และผิดกฎระเบียบสังคม!”

ตอนนี้เธอไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายได้เลย เมื่อนึกถึงสภาพตอนนี้ของตัวเอง เธอก็โกรธจนตัวสั่น : “นี่พวกคุณกำลังบังคับคนบริสุทธิ์เป็นนางบำเรออยู่นะ! เว้ย!”

หลังจากที่ฉินอีหลินเผลอพูดประโยค “บังคับคนบริสุทธิ์เป็นนางบำเรอ” ก็พบว่านี่ไม่เพียงกำลังตำหนิคนตระกูลซือ แล้วยังด่าทอถึงตัวเองด้วย นอกจากนี้ยังอุทานอย่างหยาบคายว่า “เว้ย” ด้วย

แต่ ซือเซี่ย กลับไม่สนใจคำพูดประชดประชันของฉินอีหลินเลย เขาเอาแต่ฟังฉินอีหลินอย่างเงียบๆ และเขาเพิ่งพบว่าผู้หญิงที่สวมชุดแต่งงานสีแดงฉานเบื้องหน้าของเขาสวยงามมากแค่ไหน

“แต่งงานกับข้าได้ไหม?”

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

Status: Ongoing

ยืนอยู่หน้าประตูบาร์ เธอไม่รู้จะทำอย่างไร ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่เธอเข้าบาร์ ตอนเช้าของวันนี้ มีข่าวซุบซิบบันเทิงดังไปทั้งเมือง คุณหนูตระกูลใหญ่ไปกับผู้ชายเมื่อคืน หน้าหนังสือพิมพ์ยังมีรูปภาพที่เธอถูกผู้ชายกอดเข้าโรงแรม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท